เรื่อง มนุษย์กาญ่า Homo Gaia ผู้เขียน สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ สำนักพิมพ์ Salt เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168266342 กาญ่า คือแม่พระธรณี ในตำนานกรีกโบราณ ถือกันว่าเป็นผู้สร้างโลก โดยคุณคุณเจมส์ เลิฟล็อก นักชีวเคมีชาวอังกฤษ เจ้าของทฤษฎีที่เล่าเรื่อง โฮโมกาญ่า ได้นำคำนี้มาใช้สำหรับอธิบายทฤษฎีของเขา เขาบอกว่า โฮโมกาญ่า หมายถึงเผ่าพันธุ์มนุษย์รุ่นถัดไป ที่พัฒนาไปจากโฮโมเซเปียนส์ ที่แปลว่ามนุษย์ผู้เป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดที่สุด กลายเป็นโฮโมกาญ่า คือ เผ่าพันธุ์ที่สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน มนุษย์กาญ่า เล่มนี้ ได้หยิบประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน มาร้อยเรียงอธิบายแนวคิดของโฮโมกาญ่า ด้วยรูปแบบที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และสนุก หลายเรื่องราว ชวนให้เราหวนคิดถึงสิ่งที่เคยอ่านหรือเคยฟังเมื่อยังเด็ก รวมถึงประสบการณ์ของตัวเราเอง ที่เคยมีความสุขได้ด้วยกลิ่นดอกไม้ กลิ่นดิน กลิ่นฝน มีนกมาร้องปลุกเป็นเสียงแรกตื่น ก่อนไปโรงเรียนในทุกเช้า มีความสุขกับการดูดาว ดูก้อนเมฆ เราชอบการนั่งรถไกลๆ แล้วได้มองต้นไม้ไหวโยนยามลมพัด ตลอดข้างทาง จินตนาการว่าต้นมะขามเทศริมทาง เป็นเงื้อมมือที่กำลังคว้าไขว่อะไรสักอย่าง[…]

เรื่อง ลาดิด หมายเลข 14 LADYS No.14 ผู้แต่ง ลาดิด (LADYS) ลาดิด 14 เรื่องเปิดขึ้นที่ร้านดอกไม้แห่งหนึ่ง .. ในวันวาเลนไทน์ ร้านดอกไม้แห่งนี้ ขายแต่เพียงดอกกุหลาบสีแดงเท่านั้น มีลูกค้าเดินเข้าร้านไม่ขาดสาย แน่นอนว่าทุกคนที่ตัดสินใจซื้อ พวกเธอซื้อดอกกุหลาบสีแดง แม้ว่าจะไม่มีคนที่จะนำไปให้ หญิงสาวคนแรก ที่ลังเลว่าจะซื้อดีไหม หญิงสาวอีกคนที่สวมแว่นตาดำ เพื่อปกป้องร่องรอยบวมช้ำของดวงตา หญิงวัยกลางคนที่ซื้อดอกไม้ไปให้สามีที่ล่วงลับ เมื่อทุกคนตัดสินใจเลือกดอกไม้ได้ เจ้าของร้านก็ได้บอกความพิเศษของดอกไม้ในร้านของตน มันเริ่มเรื่องเรียบๆ เรื่อยๆ มากเลย เราอดคิดไม่ได้ว่า สั้นขนาดนี้ จะเล่าอะไรได้นักหนา แต่ลาดิดก็คือลาดิด เรื่องสั้นเรื่องต่อมา เธอเล่าถึงหญิงสาวหนึ่งในสามคนที่ซื้อดอกกุหลาบที่ร้านนั้น เนื้อเรื่องสั้นมาก ฉากเพียงฉากเดียว คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถไฟฟ้า หลังจากที่เธอซื้อดอกไม้ และขึ้นรถไฟไปทำงาน สั้นเพียงเท่านั้น แต่เล่าได้น่าสนใจ คิดว่าผู้ใหญ่หลายคนคงมีห้วงเวลาแบบนั้น ห้วงเวลาที่หวนคิดถึงความหลัง คิดถึงตัวเองในตอนที่เด็กกว่านี้ หนึ่งเรื่องสั้นของหญิงสาวคนแรก จบไปด้วยความรู้สึกแบบนั้นค่ะ ตอนที่อ่านเรื่องของหญิงสาวคนที่สอง และคนที่สาม ก็ออกจะสะกิดใจนิดๆ[…]

เรื่อง Beau (Bella Beau) Is Non – Binary of Everything โบ และทุกสิ่งที่มิอาจแบ่งแยก ผู้แต่ง เลดี้ส์ เลดี้ (Lady’s Lady) การเฝ้ามองการเติบโตของมนุษย์ ผ่านสายตาของเทวทูต และเป็นมนุษย์ .. ที่สอนให้เทวทูต “รู้สึก” วิธีเล่าเรื่องไม่ร้อยเรียง บทสนทนาโดดเด่น ผลงานศิลปะที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่อง น่าสนใจ เป็นเรื่องสั้นขนาดยาว หรือเรื่องยาวขนาดสั้น .. เป็นแบบที่ผลงานลาดิดเคยเป็นนั่นแหละ มันไม่สรุป ไม่ตัดสิน แต่คุ้ยแคะแง่มุมความคิดให้แตกฉานออกไปตามอัธยาศัย จากความเพ้อ .. ฟุ้ง .. งานของลาดิดดึงเราให้กลับมาสงบอีกครั้ง ละมุนละไมไปตลอดการอ่าน แต่ตอนจบกลายเป็นอีกอารมณ์ .. ที่จับใจ ร้องห้ายยยย T—T

เรื่อง รถหนังสือเร่ของคนพเนจร ผู้แต่ง คริสโตเฟอร์ มอร์ลีย์ ผู้แปล ไอริสา ชั้นศิริ สำนักพิมพ์ ไลบรารี่ เฮ้าส์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168123102 เมื่อนักธุรกิจวัยใกล้จะ 50 ปี แอนดรูว์ แม็คกิลล์ กับน้องสาว เฮเลน แม็คกิลล์ ครูสอนพิเศษ วัยเกือบๆ จะ 40 ปี เริ่มเป็นโรคภูมิแพ้นิวยอร์ก และชีวิตเริ่มต้องการอากาศบริสุทธิ์ สองพี่น้องที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน จึงตัดสินใจย้ายจากเมืองมาสู่ชนบท พวกเขาทำไร่และเลี้ยงสัตว์ เป็นเกษจรกรมืออาชีพอย่างสงบสุข ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง .. พี่ชายของเฮเลนเกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นนักเขียนขึ้นมา หนำซ้ำ หนังสือของเขายังได้รับการตีพิมพ์ .. จากเล่มแรก สู่เล่มที่สอง .. และยังไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุด เขากลายเป็นนักเขียนชื่อดัง เป็นปราชญ์แห่งท้องทุ่ง เมื่องานเขียนของเขาประสบความสำเร็จ ภาระต่างๆ ภายในไร่จึงแทบจะตกเป็นของเฮเลนแต่เพียงผู้เดียว เธอไม่ถูกใจสิ่งนี้ เธอยึดมั่นในอาชีพเกษตรกร และต้องการให้พี่ชายเป็นเช่นเดียวกัน ในขณะที่อะไรๆ ยังไม่ดีขึ้น[…]

เรื่อง ร้านหนังสือเลขที่ 84 ถนนแชริงครอสส์ ผู้แต่ง เฮเลน แฮฟฟ์ ผู้แปล รังสิมา ตันสกุล และ ปราบดา หยุ่น สำนักพิมพ์ บุ๊คโมบี้ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168011041 มันต้องเริ่มจากการรับรู้ของเราก่อนว่า นี่ไม่ใช่เรื่องแต่ง เราเข้าใจว่าทั้งหมดนี้คือจดหมายโต้ตอบที่เกิดขึ้นจริง ระหว่างนักเขียนบทสาวชาวอเมริกัน เฮเลน แฮฟฟ์ กับเหล่าพนักงานขายจากร้านหนังสือมือสอง ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ร้านหนังสือเลขที่ 84 บนถนนแชริงครอสส์ แห่งนี้ มีชื่อว่า ร้านหนังสือมาร์คส์ แอนด์ โค. เฮเลนส่งจดหมายมาตามที่อยู่ร้านในครั้งแรก เพราะเห็นโฆษณาร้าน ที่ถูกพิมพ์ไว้ในหนังสือเล่มหนึ่ง ผู้ตอบจดหมายหลักจากฝั่งร้านหนังสือที่ลอนดอน คือชายวัย 39 นามว่า แฟรงค์ โดล เขาเป็นคนจริงจัง ตั้งใจ และแต่งงานแล้ว และเพราะหนังสือเล่มนี้ร้อยเรียงขึ้นมากจากจดหมายฉบับจริง มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเล่าเรื่อง ภาพลักษณ์ของตัวละครจึงเป็นเพียงภาพร่างจางๆ เราไม่รู้จักเฮเลนดีนัก .. ขณะเดียวกัน กับแฟรงค์ผู้เย็นชา[…]

เรื่อง แล้วเราจะได้พบกันอีก ณ ห้องสมุดปารีส ผู้แต่ง เจเน็ต สเกสเลียน ชาร์ลส์ ผู้แปล นรา สุภัคโรจน์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161851668 แล้วเราจะได้พบกันอีก ณ ห้องสมุดปารีส เล่าเรื่องของเหล่าผู้คนที่ทำงานในห้องสมุดอเมริกัน ในปารีส ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เนื้อเรื่องในเล่ม ถูกเล่าสลับกันไปมา ระหว่างเรื่องราวในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 คือราวๆ ปี ค.ศ. 1939 ก่อนที่สงครามจะคืบคลานเข้ามาในฝรั่งเศส จวบจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1945 ในห้วงเวลาที่สงครามจบลง เรื่องราวในส่วนนี้ถูกเล่าผ่านน้ำเสียงของโอดีล หญิงสาวผู้รักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ อีกส่วนหนึ่ง หนังสือได้ตัดสลับมายังเรื่องราวในอีกประมาณ 40 ปีต่อมา คือปี ค.ศ. 1983 ที่เมืองฟรอยด์ รัฐมอนแทนา อเมริกา หนังสือส่วนที่สอง ถูกเล่าผ่านสายตาของเด็กหญิงวัยรุ่นอีกคนหนึ่ง ที่ชื่อว่าลิลลี่ ตอนที่เรื่องเริ่มต้น โอดีลกำลังเตรียมตัวเพื่อจะไปสมัครงานเป็นบรรณารักษ์[…]

เรื่อง ร้านเครื่องเขียนสึบากิ (ยังคง) รับเขียนความรู้สึกของคนที่ไม่กล้าบอก ผู้แต่ง โอกาวะ อิโตะ ผู้แปล ฉัตรขวัญ อดิศัย สำนักพิมพ์ น้ำพุ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786162875847 ร้านเครื่องเขียนสึบากิ (ยังคง) รับเขียนความรู้สึกของคนที่ไม่กล้าบอก เป็นหนังสือที่มีเนื้อเรื่องต่อเนื่องมาจาก ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ เนื้อหาหลักๆ ในเล่มนี้ ให้ความสำคัญกับการอัพเดทชีวิตของป๊บโปะจัง ที่เพิ่งแต่งงานร่วมเป็นครอบครัวเดียวกันกับคุณมิตซึโร่ และคิวพีจัง เรื่องราวดำเนินไปช้าๆ จนเรารู้สึกว่ามันเนือยกว่าเล่มก่อน ความประทับใจที่เกิดขึ้นตอนที่อ่านเล่มแรก ลดน้อยลงไปในเล่มนี้ แต่สำหรับเนื้อหาของเล่ม ยังคงอยู่ในโทนอบอุ่นหัวใจ และให้คำสำคัญกับความเป็นครอบครัว ป๊บโปะจังค่อยๆ ทำความรู้จักกับคำว่าครอบครัว ทั้งครอบครัวที่มีกันสามคน อย่างคุณมิตซึโร่ คิวพีจัง และป๊ปโปะจังเอง แล้วยังรวมไปถึงครอบครัวใหญ่ของคุณมิตซึโร่ อย่างพ่อ แม่ พี่สาว และคุณปู่คุณย่า หนำซ้ำ ป๊ปโปะจังยังได้ทำความรู้จักกับ เนื้อแท้ของครอบครัวมากขึ้นไปอีก จากสมาชิกปริศนาอีกคนที่เธอเพิ่งรู้ว่ามี อ่านงานแปลญี่ปุ่นมาเยอะพอสมควร เพิ่งเคยรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า บางครั้ง คนญี่ปุ่นก็มีมุมที่ทำความเข้าใจได้ยากเหมือนกันนะ ความละเอียดอ่อน ความคิดเยอะ ความพิธีรีตอง[…]

เรื่อง หนังสือเล่มหนา กาลเวลา และผู้คน ผู้แต่ง มิซึโยะ คาคุตะ ผู้แปล อังสนา ธาดาประภากร สำนักพิมพ์ piccolo (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161853884 หนังสือเล่มบางๆ เล่มนี้ ถูกแบ่งออกเป็นเรื่องราวสั้นๆ 9 เรื่อง เล่าเรื่องของตัวละครที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่เชื่อมโยงตัวละครเหล่านี้ไว้ด้วยกัน คือเรื่องราวของผู้คน และหนังสือ ที่ก้าวข้ามผ่านกาลเวลา สมกับชื่อหนังสือ หนังสือเล่มหนา กาลเวลา และผู้คน เลยค่ะ เรื่องสั้นแต่ละเรื่องในเล่มนี้ สั้นมาก จนเหมือนแทบไม่มีพล็อตเป็นชิ้นเป็นอัน แค่เล่าเรื่อยๆ จบในตอน ไม่เกี่ยวเนื่องกัน แต่ถึงแม้จะบอกว่าดูเรื่อยๆ จนเหมือนไม่มีพล็อต แต่เรากลับคิดว่าผู้เขียนวางพล็อตเอาไว้แล้ว เรื่องสั้นในแต่ละตอนถูกวางแผนเอาไว้แล้วอย่างแยบยล ทั้งตอนเริ่ม ตอนเล่า และตอนจบ ไม่ใช่เรื่องราวที่อ่านไปอย่างเรื่อยเปื่อย แต่เป็นเรื่องที่ถูกปู ถูกตบ ให้จบอย่างเหมาะสม และมีผลต่อหัวใจ เราชอบตอนแรกเป็นพิเศษ และมันมีผลทำให้เราชอบเล่มนี้ไปทั้งเล่ม เล่มแรกเล่าถึงตอนที่ “ฉัน” อายุ 18[…]

เรื่อง ฉันจะไม่ลืมร้านหนังสือโมริซากิ ผู้แต่ง ยางิซาวะ ซาโตชิ ผู้แปล ธนัญ พลแสน (แอดมินเพจ ถุงกล้วยแขก) สำนักพิมพ์ บิบลิโอ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168293836 เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ เริ่มต้นขึ้นในช่วงฤดูร้อนคาบเกี่ยวกับต้นฤดูใบไม้ผลิ ที่ย่านจิมโบโจ ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ย่านนี้เป็นย่านที่รวมร้านขายหนังสือเก่าเอาไว้มากมายนับร้อยร้าน เป็นแหล่งขายหนังสือมือสองที่ใหญ่ที่สุดของโลก หนังสือเล่มนี้แบ่งเรื่องเล่าออกเป็นสองส่วน ที่จะเรียกว่าเชื่อมต่อกันเป็นเรื่องเดียวก็เรียกได้ แต่จะเรียกว่าแยกจากกันเด็ดขาดชัดเจน ก็ได้เช่นกัน โดยที่เรื่องหลังเว้นช่วงห่างจากการเขียนเรื่องแรกออกมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และมุ่งจุดสนใจไปยังตัวละครคนละคนกัน โดยส่วนตัว เราว่าเนื้อหาทั้งสองส่วนนี้แตกต่างกันไม่น้อยเลย เนื้อหาส่วนแรก มีชื่อว่า วันวาน ณ ร้านหนังสือโมริซากิ ร้านหนังสือโมริซากิ เป็นร้านหนังสือเก่าที่ตั้งอยู่ในย่านจิมโบโจดังกล่าว เจ้าของร้าน เป็นชายวัยน้า หัวยุ่ง เสื้อยับ ที่ชื่อว่าซาโตรุ เขาสืบทอดร้านแห่งนี้มาจากพ่อและตา ตัวละครที่เล่าเรื่องในหนังสือเล่มนี้คือหลานสาวของซาโตรุซัง เธอมีชื่อว่า ทาคาโกะจัง ทาคาโกะเพิ่งออกจากงานเพราะสุดจะทน ที่แฟนกำลังจะไปแต่งงานกับแฟนของแฟน (ที่เธอไม่เคยรู้ว่ามี) และทั้งหมดนี้ทำงานอยู่ที่เดียวกัน!! เธอหมดสภาพ หมดกำลังใจ เอาแต่นอนกับนอนตลอดเวลา จนกระทั่งวันหนึ่งที่ได้รับโทรศัพท์จากน้าซาโตรุ น้าชวนให้เธอมาช่วยดูแลร้านหนังสือกะเช้า ตอบแทนด้วยที่พักฟรี พร้อมสาธารณูปโภคครบครัน[…]

เรื่อง ภารกิจห้องสมุดของคนเกลียดการอ่าน ผู้แต่ง อาโอยามะ มามิ ผู้แปล ธนัญ พลแสน (แอดมินเพจ ถุงกล้วยแขก) สำนักพิมพ์ บิบลิโอ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168293706 เพราะไม่รู้ว่าจะเข้าร่วมกิจกรรมอะไรดี อาราซากะ โคจิ นักเรียนชาย ชั้น ม.5/6 เลยเลือกมั่วๆ มาได้เป็นกรรมการห้องสมุด ซึ่งในการประชุมกรรมการห้องสมุดครั้งแรก ครูคาวาอิให้ทุกคนแนะนำตัว และแนะนำหนังสือที่ชอบ พร้อมทั้งบอกเหตุผล โคจิ ตอบตามความจริงไปว่าเขาไม่มีหนังสือที่ชอบ อันที่จริงแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลยด้วยซ้ำ ครูจึงมอบหมายให้เขาทำวารสารห้องสมุด วารสารห้องสมุดของโรงเรียนนี้ เคยถูกจัดทำติดต่อกันมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป คนเข้าห้องสมุดน้อยลง วารสารห้องสมุด ก็ค่อยๆ ออกช้าลง และหายไปในที่สุด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อราว 10 ปีก่อน มาถึงวันนี้ คุณครูคาวาอิจึงอยากให้ห้องสมุด กลับมาออกวารสารห้องสมุดอีกครั้ง โดยเนื้อหาของวารสารห้องสมุดในครั้งนี้ จะมีส่วนเพิ่มเติม เป็นบทความแนะนำหนังสือโดยคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ อย่างโคจิคุงนี่เอง ภารกิจครั้งนี้ ฟังดูโหดร้ายสำหรับคนไม่ชอบอ่านหนังสืออย่างโคจิมากๆ ครูจึงส่งเด็กสาวที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน .. ฟุจิโอะ โฮตารุ[…]