เรื่อง พวงเพชร ผู้แต่ง โอ เฮ็นรี ผู้แปล อาษา ขอจิตต์เมตต์ สำนักพิมพ์ บำรุงสาส์น ราคา (ปก) 35 บาท (แต่ซื้อมาในราคาหนังสือมือสอง 250 บาทถ้วน ^^) (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2511) รีวิวเล่มนี้มีสปอยล์นะคะ! หยิบเล่มนี้มาอ่านลัดคิวก่อนเล่มอื่นใดเลยค่ะ .. รวมเรื่องสั้นของ “โอ เฮ็นรี” ชุดพวงเพชร เหตุเพราะเพิ่งสั่งซื้อออนไลน์จากเฟสบุ๊คหนังสือมือสอง (ศศิบุ๊คค่ะ) พอหนังสือมาส่ง ก็ดี๊ด๊ารับลัดทุกคิว หยิบเล่มนี้มาอ่านก่อนเลย ^^ รวมเรื่องสั้นของโอ เฮ็นรี่ เป็นอีกหนึ่งในความทรงจำวัยเด็กของเราค่ะ เราเคยมีหนังสือเล่มนี้ (ปกอ่อนและพิมพ์ครั้งใหม่กว่านี้) แล้วมันก็หายไป เรื่องราวมันคงจะไม่เฮิร์ตเท่าไร ถ้าเรื่องสั้นเรื่องโปรดที่สุดจะอยู่ในหนังสือเล่มนั้น .. “ส่วนผสมที่สาม” เรื่องราวของสาวตกงานคนหนึ่ง มีเงินซื้อได้แค่เนื้อก้อนเดียว ตั้งใจจะนำกลับมาทำสตูว์ที่บ้าน แต่แล้วพบว่าในครัวของเธอไม่มีหัวหอมและมันฝรั่งเหลืออยู่เลย สตูว์จะเป็นยังไง[…]

เรื่อง ปราบพยศ ผู้แต่ง ศรีบูรพา สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า ราคา 135 บาท ความรู้สึกแรกพบเมื่อเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้คือ .. ตัวหนังสือตัวโตดีมาก เหมาะกับสายตาของคน (ที่เริ่มจะ) แก่ อย่างข้าพเจ้าจริงๆ 🙂 เป็นเพราะ “ข้างหลังภาพ” แท้ๆ เทียว ที่ทำให้เราคาดหวังกับ “ปราบพยศ” มากไปหน่อย อันที่จริงแล้ว ปราบพยศเป็นนวนิยายที่ค่อนข้างร่วมสมัย (ในสมัยนั้น) มีความล้ำหน้า ก๋ากั่นของนางเอก ซึ่งคงจะนับว่าเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดน่าดูในสมัยนั้น (แต่ในสมัยนี้ถือว่าเด็กๆ ไปเลย) เรื่องของเรื่องก็คือ นางเอกผู้มีชื่อว่า “ยวนใจ” มีความสวยงามเย้ายวนใจสมชื่อ เธอเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มเกือบทั้งพระนคร นางก็เลยเล่นตัวเสียให้สมกับความสวยนั้น ฝ่ายพระเอก นายกมล ดุสิตสมิตรของเราซึ่งได้จากพระนครไปอยู่ทางใต้เสียนาน พอกลับมาได้พบ และได้ยินกิตติศัพท์ของแม่ยวนใจเข้า ก็เลยสนใจ และอยากจะลองดี เรื่องราวของการ “ปราบพยศ” จึงได้เกิดขึ้น แผนการครั้งนี้ของนายดุสิตสมิตร เริ่มต้นด้วยการเข้าไปสมัครงานในตำแหน่งต่ำต้อยของบริษัทนางเอก[…]

เรื่อง ปลายรางมรณะ ผู้แต่ง อีริค โลแมกซ์ ผู้แปล คำเมือง สำนักพิมพ์ สันสกฤต ราคา 350 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2555) เสียความรู้สึกนิดหน่อยที่ได้รู้ตั้งแต่บทนำว่าผู้แปลมีอคติต่อชาวผิวขาว และเอาใจช่วยชาวญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วอย่างนี้จะแปลเรื่องราวที่คนผิวขาวถูกญี่ปุ่นกระทำราวเดรัจฉาน ในระหว่างสร้างสะพานและทางรถไฟออกมาได้อย่างเป็นธรรมหรือ? (จริงๆ ไม่น่าเกริ่นอย่างนี้นะ มันทำให้เราอคติต่อคนแปลตั้งแต่ต้นอ่ะ) แต่ก็ต้องติดตามอ่านข้างในกันอีกที .. สำหรับสำนวนการแปล บางประโยคสละสลวยใช้คำเพราะดีมาก แต่บางประโยคกสำนวนการเรียบเรียงประโยคแปลกๆ เหมือนแปลตรงๆ ทื่อๆ ไม่ได้เกลาอะไรเลย แต่ข้อเสียทั้งหมดทั้งมวลนี้ เมื่อเทียบกับเนื้อหาภายในเล่มอันเลอเลิศแล้ว ถือว่านี่เล็กน้อยมากค่ะ อีริค โลแมกซ์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากสงคราม เช่นเดียวกับภาพยนตร์และหนังสืออีกหลายๆ เล่ม หลายๆ เรื่อง ที่ถ่ายทอดให้พวกเราเหล่าพลเมืองผู้ใช้ชีวิต (ส่วนใหญ่) อย่างสงบสุขได้รับรู้ ระหว่างอ่านหนังสือเล่มนี้ ประสบการณ์การเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ที่กาญจนบุรี ได้หวนคืนสู่ความทรงจำของเราอีกครั้ง และเชื่อมโยงไปสู่หนังสือเรื่อง[…]

เรื่อง รัตติกาลยาตรา ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน ราคา 340 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2552) รัตติกาลยาตรา เป็นอีกเล่มที่ขาดหายไปในชุดธิโมส์ (แบบโยงอดีต) ที่เราไม่ได้รีวิวไว้ พออ่านเรื่องราวแบบผ่านๆ ของเรเวียร์ใน รุ้งในลมหนาวแล้ว ตัวตนของชายลึกลับคนนี้ก็โดดเด้งเข้าโดนใจของเราเลยทีเดียว ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า สงสัยเราจะพลาดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธิโมส์ไปเสียแล้ว ว่าแล้ว พองานหนังสือหนที่ผ่านมา รัตติกาลยาตราจึงได้ยาตราจากบูธของดวงตะวันมาตั้งอยู่ที่ชั้นหนังสือบ้านเราในบัดดล เรื่องราวของชายลึกลับผู้นี้ น่าสนใจสมกับที่ดั้นด้นหามาอ่านจริงๆ ซะด้วยสิคะ อัญมณีชิ้นหนึ่งซึ่งเป็นสมบัติของคนแห่งคุ้มผีเสื้อ ถูกเปลี่ยนมือเรื่อยมาก บางคราตกอยู่ในมือของคนในคุ้ม แต่บางคราก็มีเหตุให้ต้องพลัดพราก สูญหาย แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังกลับคืนมายังคุ้มผีเสื้อได้เรื่อยมา ตำนานแห่งอัญมณีอาถรรพ์นี้มีอยู่ว่า มันจักนำภัยมาสู่ผู้เป็นเจ้าของเสมอๆ นับตั้งแต่ “เรียว” ลูกชายของญีลาและคิม (ดวงตะวันทำท่าจะปูเรื่องต่ออีกยาวซะแล้วสิ) เชเชน นายบ้านคนสุดท้ายของคุ้มผีเสื้อเมื่อครั้งทำศึกกับโซรัง (ท่าทางจะมีศึกของสองกลุ่มชนนี้อีกหลายรอบแฮะ) นายแพทย์ญีลา (น่าจะเป็นชื่อซ้ำของหมอในยุคปัจจุบันอีกคน) หรือเตบีญา โจรสลัดแห่งเกาะกริด ฯลฯ[…]

เรื่อง when the writer loves the reader ผู้แต่ง ทรงกลด บางยี่ขัน เป็นหนังสือทำมือ ขายในงาน abook fair ปี 2555 ราคา 65 บาท เล่มสุดท้าย (ในบ้าน) ในนามทรงกลด บางยี่ขันค่ะ when the writer loves the reader หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือทำมือ (ที่หน้าตาไม่เหมือนหนังสือทำมือ) ทำขายในงาน a book day เมื่อปี 2555 ในงานเดียวกันนั้น ก้องได้ออกหนังสือไม่ทำมืออีกเล่มมีชื่อว่า “โปรดอ่านใต้แสงเทียน เพราะผมเขียนใต้แสงดาว” จริงๆ แล้ว ชื่อหนังสือข้างบนนั้นมีที่มาจากงานเขียนชิ้นบุกเบิกของก้อง ก่อนที่ “นายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา” จะถือกำเนิดเสียอีก เมื่อวันเวลาผ่านไป ก้องได้รวบรวมผลงานเหล่านั้นกลับมานำเสนออีกที[…]

เรื่อง ที่นี่ที่รัก ผู้แต่ง ทรงกลด บางยี่ขัน สำนักพิมพ์ abook ราคา 235 บาท ซื้อหนังสือเล่มนี้มาได้ 2 ปีแล้ว สารภาพกันโต้งๆ เลยว่าเพิ่งได้โอกาสหยิบมาอ่านเป็นรอบแรกค่ะ ดองอย่างดีเอาไว้ในตู้ กำลังได้ที่เลยเชียว -*- เปิดอ่านแล้วถึงได้รู้ว่า “ทางรถไฟสายดาวตก” ไม่ใช่เล่มแรกที่ก้องเขียนถึงญี่ปุ่น ใช่แล้วค่ะ “ที่รัก” ของก้อง อยู่ที่ฟุกุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่นนี่เอง .. ใครๆ ก็เล่าเรื่องการไปเที่ยวญี่ปุ่น ก้องเองก็ด้วย เล่มนี้เป็นเล่มแรกที่ก้องพูดถึงญี่ปุ่น (แต่เป็นเล่มที่สองที่เราอ่าน) ญี่ปุ่นเป็นเมืองที่เต็มที่ เวลาที่เขาทำอะไรเขาจะเต็มที่กับมัน ทำอาหาร ก็ใส่ใจลงไปให้สุด ทำสนามเบสบอล อันเป็นกีฬาสุดฮอตบ้านเขา ก็ช่างเป็นสนามที่เหมาะสมกับการทำกิจกรรมทุกอย่างเกี่ยวกับเบสบอล มีความสร้างสรรค์เท่าไร ใส่เต็มไปให้หมด สนามกีฬาจึงไม่เป็นแค่ที่เล่นกีฬา แต่เป็นลานความสุขของคนดูกีฬาด้วย มุมมองญี่ปุ่นแบบก้องๆ จึงอบอุ่น และสร้างสรรค์ เป็นการรวบรวมความอบอุ่นและสร้างสรรค์ของก้องและญี่ปุ่นผสมผสานกัน ให้ใครที่ไหนมาเล่า ก็ไม่มีทางเหมือนก้องจริงๆ ก้องยังคงเล่าเรื่องธรรมดาๆ[…]

เรื่อง สองเงาในเกาหลี ผู้แต่ง ทรงกลด บางยี่ขัน สำนักพิมพ์ abook ราคา 180 บาท สองเงาในเกาหลี .. อ่านเพลินตั้งแต่คำนำกันเลยทีเดียว!! อ่านทรงกลดติดต่อกันมาหลายเล่ม เล่มนี้ทรงกลดมาในมาดใหม่ค่ะ เขาไม่ได้เล่าเรื่องทั่วๆ ไป เป็นตอนๆ เหมือนอย่างเคย แต่กลายเป็นร้อยเรื่องราวทุกตอนให้เป็นเรื่องเดียว โรแมนติกมากกว่าที่เคยโรแมนติก เพราะในเล่มนี้เรามีตัวตนของหญิงสาวที่เขาเล่าถึงด้วย ถึงจะโรแมนติก และเกาหลี แต่ก็ไม่โหล เป็นโรแมนติกในแบบของก้อง ไม่ซ้ำใคร อย่างที่หลายคนรู้ (และเผื่อใครจะไม่รู้) สองเงาในเกาหลีเล่มนี้เป็นต้นกำเนิดของภาพยนตร์เรื่องกวน มึน โฮ อย่าคาดหวังนะคะ มันไม่ได้เหมือนกันเป๊ะๆ ผู้กำกับเคยบอกเราเอาไว้แล้วตั้งแต่แรกว่าหนังสือเล่มนี้เป็น (เพียง) แรงบันดาลใจเท่านั้นค่ะ เรื่องราวของนักท่องเที่ยวไทยสองคน ที่บังเอิญมาพบกันในเกสต์เฮ้าส์อบอุ่นแห่งหนึ่งในเกาหลี ทั้งสองคนมีแผนเที่ยวทับซ้อนกันโดยไม่ได้นัดหมาย แล้วจะชักช้าอยู่ใย เที่ยวด้วยกันประหยัดกว่าเห็นๆ .. เรื่องมันเริ่มต้นง่ายๆ เพียงแค่นี้แท้ๆ จุดเริ่มต้นพอเหมาะ ในองค์ประกอบอันเหมาะสม .. แล้วความโรแมนติกก็เกิดขึ้นได้เอง นี่คือเรื่องราวของสองเงาในเกาหลี[…]

เรื่อง นั่งฝั่งตะวันตื่น ยืนฝั่งตะวันตก ผู้แต่ง ทรงกลด บางยี่ขัน สำนักพิมพ์ abook ราคา 160 บาท ตัวหนังสือของก้อง ทรงกลด ยังคงอบอุ่น น่ารัก โรแมนติค (ไม่แพ้พี่ก้อง สหรัฐ แห่งวงนูโวเลยทีเดียว) สำนวนของเขามีชีวิต และขี้เล่น มันเรียกรอยยิ้ม และบางครั้งแถมเสียงหัวเราะ (เบาๆ ถ้าไม่ได้อยู่คนเดียว) มีหลายตอนที่รสชาติจัดจ้านไม่แพ้เล่มแรก แต่ก็มีบางตอนที่เริ่มจะจืดชืดลงไป ความแพรวพราวเจือจางลงนิดนึง เมื่อเทียบกับเล่มแรกที่ยิงประโยคเด็ดอย่างไม่หยุดหย่อน สำหรับเล่มนี้ นับว่าทรงกลดยังปราณี มีช่วงแวะพักหายใจกันบ้าง การอ่านในช่วงต้นๆ ของเล่ม มีความรู้สึกคล้ายกับอ่านเมื่อคุณตาคุณยายยังเด็กในสำนวนที่เฮ้วกว่า และเป็นช่วงเวลาที่เขยิบมาเป็นเมื่อคุณแม่ยังเด็กแทน ตอนโปรดของเราในเล่มนี้ มีชื่อตอนว่า “น้ำลายแตกฟอง” กับตอน “หนังสือเดินทาง” โดยเฉพาะตอนหลังนี้ อ่านแล้วชวนให้เราอยากแปลงกายเป็นหนังสือ และออกเดินทางไปกับเจ้าของที่เป็นแบ็คแพ็คเกอร์ดูบ้าง อีกเรื่องที่ลืมชื่นชมในเล่มแรก และอยากชื่นชมในเล่มนี้คือภาพประกอบ ทั้งนายเท้าซ้ายฯ และนั่งฝั่งฯ ล้วนแต่มีภาพประกอบที่สร้างสรรค์ไม่ซ้ำใคร การเล่าเรื่องไปเที่ยวเมืองจีนช่วงท้ายๆ[…]

เรื่อง นายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา ผู้แต่ง ก้อง คาร์ ไว (ทรงกลด บางยี่ขัน) สำนักพิมพ์ abook ราคา 160 บาท นายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา เป็นหนังสือเล่มเปิดตัวของของก้อง คาร์ไว หรือก้อง ทรงกลด บางยี่ขัน มันเป็นการเปิดตัวที่สวยงาม เพราะเมื่ออ่านตอนแรกจบ ทรงกลดก็ส่งเท้าซ้ายเข้าไปโชะที่หัวใจเราเป็นดอกแรก และส่งเท้าขวาตามมาไม่ห่างเข้าที่ต่อมอารมณ์ดีในสมอง ความเป็นตัวเขาชัดเจนมากในเล่มแรกนี้ และมันส่งผลให้ชื่อของก้อง ทรงกลดเป็นที่จดจำของเราตั้งแต่บัดนั้น ก้อง ทรงกลดกำลังสดใหม่ ลูกเล่น ลูกล่อ ลูกชนแพรวพราว (แพรวพราวกว่าเรื่องหลังๆ โดยเฉพาะเรื่องล่าสุดอย่างเห็นได้ชัด) ความคิดและอารมณ์บางอย่างก็เกิดขึ้นได้เฉพาะช่วงวัยจริงๆ (การเขียนไดอารี ทำให้เราได้เห็นตัวเองในวัยเยาว์กว่านี้ และนั่นทำให้เราแปลกใจในตัวตนของตัวเอง) ทรงกลดเล่าเรื่องทั่วๆ ไป ธรรมดาๆ ในมุมมองที่เก๋ไก๋ ยั่วคิด อ่านได้เพลิดเพลิน ตัวหนังสือของเขามีอารมณ์ขัน (แบบที่ไม่ใช่อ่านแล้วหัวเราะออกมาดังๆ นะ) มองโลกในแง่สุข เป็นความคิดแง่บวก[…]

เรื่อง ทางรถไฟสายดาวตก ผู้แต่ง ทรงกลด บางยี่ขัน สำนักพิมพ์ abook ราคา 245 บาท ทางรถไฟสายดาวตก เล่มนี้ ทรงกลดเล่าถึงการท่องเที่ยวโดยรถไฟแบบถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง รถไฟในญี่ปุ่นไม่ได้มีแต่รถไฟสายด่วน เร็วปรู๊ดปร๊าดทันใจวัยรุ่นแต่อย่างเดียว แต่ยังมีรถไฟเนิบๆ ที่ขายความช้า ขายความสุนทรีย์ระหว่างการเดินทางอยู่อีกหลายขบวน ไม่ใช่นั่งรถไฟไปเที่ยว แต่เป็นการเที่ยวบนรถไฟเลยต่างหาก ทางรถไฟสายดาวตก เล่มนี้ปลุกความอยากขึ้นรถไฟของเราขึ้นมาอีกครั้งค่ะ (อ่านทีก็อยากที แต่ยังหาโอกาสไปนั่งจริงๆ ไม่ได้สักที -*-) ตอน “เที่ยวเที่ยง” เป็นตอนที่เราชอบมากตอนหนึ่ง ทรงกลดเล่าวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยแบบญี่ปุ่น เมื่อการรถไฟประเทศญี่ปุ่นประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ การรถไฟทำการสร้างห้างสรรพสินค้าขึ้นครอบสถานีรถไฟ สนับสนุกกิจการทางการเกษตร เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และคนงานก็ขึ้นรถไฟมากขึ้น สินค้าทางการเกษตรที่สร้างขึ้น ถูกนำมาใช้เป็นจุดขายของสถานี และวิถีวิธีอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้คนในชุมชนรักรถไฟ เป็นตอนที่อ่านแล้วได้อารมณ์แบบบวกบวกดีจัง ภูเขาและทะเล เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนญี่ปุ่น รถไฟเกือบทุกสาย (ในเล่มนี้) ถูกออกแบบมาให้สัมพันธ์กับสองสิ่งนี้เสมอๆ พออ่านไปหลายๆ ตอนเข้า ความทรงจำก็ดึงเรากลับไปถึงตอนที่อ่านโต๊ะโตะจัง โรงเรียนของโต๊ะโตะก็มีกิจกรรมอาหารกลางวันที่เกี่ยวพันกับสองสิ่งนี้เช่นกัน[…]