เรื่อง กาสักอังก์ฆาต ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296271 ย้อนหลังไปเมื่อราว 20 ปีก่อน ในวันที่ครบรอบ 10 ปี พฤษภาทมิฬ ผู้คนนับหมื่น ต่างออกมาชุมนุม จุดเทียนไว้อาลัยให้แก่ผู้ที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ประท้วงครั้งนั้น ผู้คนพากันเดินคราคร่ำไปบนถนนราชดำเนิน และถนนเส้นที่เชื่อมต่อกันเส้นอื่นๆ เต็มพื้นที่ไปหมด ตำรวจเกือบทั้งหมด ถูกวางกำลังป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ตามจุดสำคัญต่างๆ ทำให้แทบไม่เหลือตำรวจประจำโรงพักเลย ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ได้มีกลุ่มโจร 4 คน เข้าปล้นร้านทองที่อยู่ในบริเวณนั้น โจรทั้งหมดอำพรางใบหน้า ใช้อาวุธปลอมในการปล้น แล้วแยกย้ายหนีหายกันไปตามสถานที่ต่างๆ อันเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ทองทั้งหมดถูกขโมยไปร่วมพันบาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่าสามสิบล้านบาท (หากเทียบราคาทองในปัจจุบัน) ตำรวจไร้เบาะแสคนร้าย และเวลาล่วงผ่านมาจน 20 ปี ในตอนนี้ คดีกำลังจะหมดอายุความลงในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าแล้ว ตัวละครสำคัญในเล่ม ประกอบไปด้วยสองพี่น้องฝาแฝด หนึ่งคือทิวกร หรือศาสตราจารย์ ซินแคลร์ เป็นแพทย์ และมีอาชีพรองเป็นนักสืบ ในขณะที่อีกแฝดหนึ่ง คือรติพล[…]

เรื่อง คน 17 เมษา ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296264 คน 17 เมษา เป็นบันทึกการเดินทางของผู้เขียน ที่เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะย้อนรอยประวัติศาสตร์กลับไปเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน ในช่วงที่สงครามโลกครั้งที่สองเพิ่งจบลงได้ไม่นาน ในขณะที่หลายประเทศกำลังเร่งฟื้นฟูตนเองจากความบอบช้ำ ยังมีอีกบางประเทศ ที่ยังล้มลุกคลุกคลาน และถูกกระทำให้ตกต่ำลงไปยิ่งกว่าเดิม .. กัมพูชาเป็นหนึ่งในนั้น ห่างประเทศไทยออกไปไม่ไกล เรื่องราวโหดร้าย ไร้ความยุติธรรม และไม่ให้ค่าความเป็นมนุษย์ .. เกิดขึ้นที่นั่น หนังสือวางรากฐานให้คนอ่านตั้งแต่แรกเริ่มถือกำเนิดแผ่นดินกัมพูชา ในยุคสมัยที่เราชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอยู่ร่วมกัน ตั้งแต่ยังเป็นอาณาจักรฟูนัน เจนละ ขอม ฯลฯ ไล่เรียงมาถึงยุคที่รัตนโกสินทร์ของเราเริ่มก่อตั้ง เทียบกับกัมพูชา ที่กำลังตกอยู่ภายใต้อาณานิคมฝรั่งเศส อธิบายประวัติศาสตร์การคืบคลานเข้ามาของฝรั่งเศส รวมถึงความขัดแย้งต่างๆ ของฝรั่งเศส กับกัมพูชาและไทย เรื่องกรณีพิพาท ร.ศ.112 ที่เคยเข้าใจอย่างเบลอๆ ผ่านทวิภพ ของทมยันตี ผู้เขียนก็ได้อธิบายให้เราเห็นภาพโดยรวมได้โดยง่าย นอกจากนี้ ผู้เขียนยังให้ภาพประวัติศาสตร์สงครามโลกทั้งสองครั้ง ที่มีผลโยงใยมาถึงฝั่งเอเชีย สงครามโลก[…]

เรื่อง ลาลาอาศัยอยู่ในตู้ปลา ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296257 อย่าให้หน้าปกหลอกเราว่านี่เป็นเพียงวรรณกรรมเยาวชน ผลงานของคุณผู้เขียน ยังคงทำร้ายจิตใจของเราได้ไม่แผ่วเลยจริงๆ เล่มนี้หน่วงมาก พ้นจากคำนำอันดีงาม เนื้อเรื่องเฆี่ยนตีหัวใจคนเป็นแม่ไม่หยุด นี่มันบ้านอะไรกัน นี่มันครอบครัวอะไรกัน นี่มันคืออะไรกัน อะไรกันที่เด็กคนหนึ่งต้องมาเจอ!! อ่านไป ก็มีแต่คำว่า “อะไรวะ!!” อยู่เต็มหัว โหดร้ายมาก โหดร้ายเกินไปแล้ว ลาลาโตมากับพ่อที่เป็นปิตาธิปไตย และแม่ที่ไม่ได้รักเด็กเท่าไร ความรักของครอบครัวนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจยาก เราไม่รู้สึกว่าลาลาแปลกแยกตรงไหน สิ่งที่ผิดคือครอบครัว เป็นครอบครัว ที่ทำให้ลาลาเป็นแบบนี้ และเมื่อครอบครัวไม่อาจปกป้อง กลไกของลาลาจึงสร้างเกราะปกป้องตนเอง เขากลายเป็นลาลาในตู้ปลา เป็นลาลาที่มีความสุข .. กว่าที่เคยมี เราอยากให้แม่ของลาลาทุกคนบนโลกนี้ .. ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ .. จำไว้นะลาลา นายไม่ได้ผิดปรกติ นายแค่ไม่ได้ปรกติ แบบที่คนอื่นคาดหวังให้นายเป็น .. (หน้าที่ 129) ปล. เราขอบคุณสำนักพิมพ์ 13357 สำหรับหนังสือเล่มนี้ค่ะ[…]

เรื่อง ร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงสุดท้าย ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296059 ร้านหนังสือ 24 ชั่วโมง เป็นร้านหนังสือพิเศษ ที่หากเราก้าวเข้าไปในร้านหนังสือใดๆ ในขณะที่เหลือเวลาในชีวิตอีกเพียง 24 ชั่วโมง ร้านหนังสือแห่งนั้น จะกลายเป็นร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงในทันที ที่ร้านหนังสือแปลกประหลาดแห่งนั้น คุณจะได้รับพร 1 ข้อ ที่จะอธิษฐานของสิ่งใดก็ได้ .. เป็นอย่างสุดท้ายในชีวิต ที่บางคนจะใช้เพื่อขอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีเลยตลอดชีวิต หรือขอเพื่อกลับไปแก้ไขปมในใจที่ติดค้างมาจากในอดีต ฯลฯ อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า หากเป็นเรา .. เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบกับความจริงที่ว่า เวลาในชีวิตของเราเหลืออีกเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง .. เราจะต้องการสิ่งใด? เรื่องราวในเล่มนี้แบ่งออกเป็นเรื่องสั้นๆ แบ่งชื่อตอนด้วยชื่อของร้านหนังสืออิสระ .. ที่หลายร้านเราเคยไปเยี่ยมเยือน บางตอน ผู้เขียนใช้ร้านเหล่านั้นเป็นฉากหลัง และอีกบางตอน ผู้เขียนหยิบคอนเซ็ปต์ของร้านมา หลังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 15 ตอน[…]

เรื่อง หนึ่งนับวันนิรันดร ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296141 ความรู้สึกแรก หลังจากที่แอบเปิดคร่าวๆ คือ .. ชอบจัง เราชอบการที่ผู้เขียนเอาชื่อนิยายเก่าๆ ในดวงใจ (เรา) หลายเรื่อง มาตั้งเป็นชื่อในแต่ละบท ตื่นเต้นที่จะพลิกแต่ละหน้าไป แล้วลุ้นว่าจะมีเรื่องไหนถูกหยิบมาเล่าบ้าง ^^ แต่พอตั้งต้นอ่าน .. ผู้เขียนเปิดเรื่องแบบงงๆ ไม่รู้เนื้อรู้ใต้ แม้เรื่องจะดำเนินต่อกัน แต่รู้สึกถึงความไม่ต่อเนื่องบางอย่างในเนื้อเรื่อง มีอะไรบางอย่างผิดที่ผิดทางตงิดๆ พิศวงสงสัย และไม่รู้ว่ากำลังอ่านเรื่องราวแบบไหนอยู่ แต่แม้จะไม่รู้เรื่อง .. ไม่แน่ใจในเรื่องที่ดำเนินไปนัก แต่มันก็ดึงดูดให้อ่านต่อ ให้หาคำตอบ ว่านี่เรากำลังอ่านเรื่องราวแบบไหนกัน? จนเรื่องล่วงเข้าบทที่ 3 บทที่ 4 นั่นแหละ เราจึงเริ่มเข้าใจว่า อ้อ .. เขาตั้งใจดำเนินเรื่องแบบนี้จริงๆ ด้วย แล้วเราก็ค่อยๆ ติดตามว่าทำไมเรื่องราวทั้งหมดมันจึงเป็นแบบนี้ อ่านๆ หยุดๆ ค่อยเป็นค่อยไป อาจเพราะเนื้อเรื่องในช่วงต้นมันไม่ค่อยดึงดูดเท่าไร[…]

เรื่อง โมงยามแห่งความสิ้นยินดีผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา และ ณภัทร สัตยุตม์สำนักพิมพ์ 13357เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296165 โมงยามแห่งการสิ้นยินดี เป็นการเล่าเรื่องควบคู่กันไปในแต่ละบทระหว่าง (อดีต) ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า และนักจิตบำบัด มันเป็นเหมือนหนังสือคู่มือออกกำลังกาย แต่เล่มนี้คือคู่มือออกกำลังใจภายในเล่มจะมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน (กิตติศักดิ์ คงคา)สลับบทไปกับวิธีมองปัญหา วิธีจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นของผู้เขียนอีกคนผู้ซึ่งเป็นนักจิตบำบัด (ณภัทร สัตยุตม์)ภายในเล่ม มีแบบฝึกให้เราลองนำมาปรับใช้กับปัญหาของเราได้ฝึกใจ ซึ่งอาจรวมไปถึงการฝึกกายตั้งรับกับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตค่อยๆ เปลี่ยนระบบอัตโนมัติภายในร่างกายของเราที่เรามักจะเลือกใช้ เลือกปฏิบัติ เมื่อมีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นให้กลายเป็นการมองเป็นเหตุเป็นผล มองโลกผ่านความจริงเลิกโทษตัวเอง เลิกโทษคนอื่น เลิกโทษฟ้าดินแล้วมองมันอย่างที่มันเป็น อยู่กับมัน และค่อยๆ แก้ไขมันไปทีละเปลาะ หนังสือให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคซึมเศร้ารวมไปถึงแนวทางการบำบัดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมีการจัดการระบบความคิดตัวเองต่อเหตุการณ์ต่างๆหนังสือถ่ายทอดบททดสอบชีวิตที่ยากลำบากที่เกิดขึ้นจริงเป็นความหนักหน่วง ชวนท้อแท้หากเมื่ออ่านบทต่อมาจากผู้เขียนอีกคน หนังสือก็เปิดเผยมุมอบอุ่น เห็นความหวัง เมื่อเราค่อยๆ ไล่อ่านจากหน้าแรกไปจนถึงหน้าสุดท้ายส่วนที่เป็นความหนักหน่วงจะค่อยๆ ลงลง .. แม้จะไม่หายไปทั้งหมดแต่เราจะเริ่มมองเห็นมุมของความหวังที่จะอยู่ร่วมกับโลก และโรคและการหายจากโรค ตอนที่อ่าน เราลองนึกดูเล่นๆ ว่าถ้ามีจิตแพทย์ หรือนักจิตบำบัดประจำในแต่ละโรงเรียนถ้ามีเด็กนักเรียนทะเลาะกัน .. ก่อนการตัดสินทั้งหมดหากเด็กๆ ได้พบจิตแพทย์แทนการไต่สวน หรือตัดสินพวกเขาจะได้ฝึกจัดการความโกรธ รวมไปถึงความรู้สึกอื่นๆมาตั้งแต่วัยเริ่มต้นเข้าสังคมเราทุกคนอาจป่วยใจกันน้อยกว่านี้ .. ขอบคุณผู้เขียนทั้งสองคน[…]

เรื่อง เปิดหน้าต่อไป และอ่านต่อไปจนจบ ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296158 นี่คือหนังสือรวมเรื่องสั้น และเรื่องสั้นแทบทุกเรื่อง ผ่านการประกวดมาแล้ว เกือบทั้งหมดมีรางวัลการันตีด้วย ไม่ต้องถามถึงฝีไม้ลายมือ ทั้งในเรื่องของพล็อตและสำนวน ปกติแล้ว เรากับเรื่องสั้นมักไปด้วยกันไม่ค่อยดีเท่าไร แต่เรื่องสั้นรางวัลเหล่านี้กลับไม่ใช่เรื่องที่อ่านยาก ไม่ต้องปีนบันไดอ่าน ไม่ต้องตีความ เพียงเราใช้ใจสัมผัสใจ เปิดรับอารมณ์และความรู้สึกจากผู้เขียน หนังสือเล่มนี้ใช้วิธีอ่านแบบนั้นค่ะ ถ้าหนังสือเล่มก่อนหน้าให้แสงสีที่มืดมัว หนังสือเล่มนี้คือความสว่างไสว นอกจากนี้ เรายังเชื่อว่า หนังสือเล่มนี้ จะเป็นทั้งแรงบันดาลใจ และกำลังใจให้กับผู้ที่อยากเขียน พล็อต สำนวน รวมไปถึงวิธีการเล่าเรื่อง ที่ค่อยๆ ปล่อยข้อมูลออกมาตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม ทำงานกับอารมณ์ความรู้สึกได้ดีจริงๆ ค่ะ ปล. ขอบคุณสำนักพิมพ์ 13357 ที่ส่งเรื่องสั้นย่อยง่ายเล่มนี้มาให้ได้ทำความรู้จักนะคะ 🙂

เรื่อง อยากตายแต่ตายไม่ได้ เพราะศัตรูยังตายไม่หมดเลย ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา สำนักพิมพ์ 13357 เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296134 เรารู้สึกว่าหายใจยาก หายใจเข้าไม่เต็มปอด ตั้งแต่ตอนที่อ่านคำนำ ในยุคที่โรคซึมเศร้าอยู่ใกล้เราแค่เอื้อม เคยมีบางครั้งที่หวนนึกถึงตัวเองในอดีต ว่าเราเคยเฉียดผ่านมันบ้างไหม? ผู้เขียน (เคย) เป็นโรคซึมเศร้า หนังสือเล่มนี้น่าจะถือกำเนิดขึ้นในห้วงเวลานั้น คำนำบอกกับเราว่า มันถูกเขียนขึ้นด้วยความรู้สึกดำดิ่ง เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยพลังลบเข้มข้น ผู้เขียนใช้การเขียนเพื่อเป็นการเยียวยา ระบายทุกความคิดความรู้สึกในขณะนั้น อยากตายแต่ตายไม่ได้ เพราะศัตรูยังตายไม่หมดเลย ไม่ได้เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับทุกคน มันค่อนข้างเปราะบาง และยั่วยุบางความรู้สึกลึกล้ำภายใน มันมีพลังงานบางอย่าง เป็นหนังสือที่ทำให้เราหายใจได้ไม่ทั่วท้องเลยตลอดการอ่าน ยาต้านซึมเศร้า เป็นยาที่ทำให้คนกินไม่รู้สึกอะไรเลย มันกดความรู้สึกเศร้า แต่ก็กดความรู้สึกสุขไปด้วย เราเป็นพวกใช้ชีวิตด้วยความรู้สึก จินตนาการไม่ออกเลยว่า ถ้าเราไม่มีความรู้สึก .. จะรู้สึกยังไง แม้หนังสือจะต้อนรับเราด้วยความหนักหน่วงในช่วงแรกๆ แต่ในความเรียงบทหลังๆ เมื่อผู้เขียนเปลี่ยนมาเล่าเรื่องผ่านจินตนาการ เหตุการณ์หนักๆ เหมือนได้ถูกกลั่นกรองให้เบาลงในความรู้สึกคนอ่าน มันอ่านได้ง่ายขึ้น ไม่อึดอัดเหมือนในช่วงแรกๆ ภาษาที่ใช้เล่าถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี สละสลวย แต่ไม่ใช่ภาษาที่อ่านยาก แปลกดี ที่การเล่าเรื่องผ่านภาพในจินตนาการกลับทำให้เราเข้าใจได้มากกว่า[…]

เรื่อง จวบจนสิ้นแสงแดงดาวผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคาสำนักพิมพ์ 13357เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296066 จวบจนสิ้นแสงแดงดาว เล่าเรื่องระหว่างสองชายนายบ่าวโดยมีฉากหลังเป็นสงครามกลางเมืองกัมพูชาในยุคที่เขมรกำลังจะกลายเป็นเขมรแดงอเมริกาได้ถอนกำลังออกไปและคอมมิวนิสต์จากจีนกำลังย่างเยื้องเข้ามา เขมรแตกออกเป็นเสี่ยงๆเจ้าผู้ปกครองแต่เดิม .. เจ้านโรดมสีหนุลี้ภัยไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นอยู่ที่ฮ่องกงในขณะที่ภายในประเทศ เป็นการฟาดฟันกันระหว่างนายพลลอนนอลซึ่งก่อการรัฐประหารต่อเจ้านโรดมสีหนุขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มของพลพต กับเขียวสัมพันธ์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากคอมมิวนิสต์ คัดง้างอยู่อีกฝ่าย ท่ามกลางความแตกแยกใหญ่หลวงนี้รุธิระ ธีรวงศ์ ชายหนุ่มผู้มีเชื้อสายสืบทอดลงมาจากฝ่ายเจ้านโรดมฯแม้จะเจืองจาง หากก็ยังเกี่ยวพันกับราชวงศ์เขาจึงกลายเป็น “ฝ่ายหนึ่ง” ทั้งที่ไม่ต้องการเลือกฝ่ายด้วยนิสัยส่วนตัวรักสงบและรักที่จะใช้ชีวิตไปกับการอ่านหนังสือ .. มากเท่าที่จะอ่านได้เขามิได้อ่านด้วยตาตัวเอง ..เขาเป็นชายตาบอด .. ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังใหญ่และต้องการเพียงผู้ดูแลอีกหนึ่งคน เรื่องเริ่มต้นขึ้นในตอนที่ รุธิระกำลังประกาศรับสมัครผู้ดูแลคนใหม่และชายผู้ที่มีคุณสมบัติตรงกับที่ใจเขากำหนดไว้มากที่สุดคือหนุ่มน้อยนามอุทิศ นี่คือเรื่องราวของสองนายบ่าวนี่คือเรื่องราวของมิตรภาพ ความรัก และความไว้เนื้อเชื่อใจที่วันหนึ่ง สองคนจะต้องระหกระเหินไปในป่าเพื่อหลบลี้ภัยสงคราม ข้ามพรมแดนไทย – กัมพูชาหนึ่งชายตาบอด กับหนึ่งบ่าวที่แสนจะจงรักภักดี .. ผู้เขียนบอกเล่าเรื่องราวด้วยสำนวนเสนาะและรักษาสำนวนเช่นนี้ได้สม่ำเสมอตั้งแต่ต้นไปจนจบเสน่ห์ของหนังสือเรื่องนี้อยู่ที่การบรรยายฉากด้วยความรู้สึกและผัสสะของชายตาบอดการบรรยายเข้าถึงอารมณ์ของตัวละคร และถ่ายทอดให้เราดำดิ่งร่วมไปกับพวกเขา กดดัน กลัว กล้า สับสน ทุกข์ทน โกรธ เศร้า สงสาร ฯลฯโดยเฉพาะช่วงท้ายๆ มันช่างเต็มไปด้วยมวลอารมณ์ อดไม่ได้ที่จะต้องพูดซ้ำคำเดิมๆ ว่านี่เป็นอีกหนึ่งหนังสือดีในปีนี้สำหรับเราค่ะ 🙂