103-2 1984

เรื่อง 1984
ผู้แต่ง จอร์จ ออร์เวลล์
ผู้แปล รัศมี เผ่าเหลืองทอง, อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์
สำนักพิมพ์ สมมติ
ราคา 300 บาท

ว่ากันว่า 1984 เป็นต้นกำเนิดรายการบิ๊กบราเธอร์
และว่ากันว่า เดอะเซอร์เคิล มีความคล้ายคลึงกับหนังสือเล่มนี้ .. แต่ร่วมสมัยขึ้น
แต่สำหรับเรา 1984 มีความดาร์กมากกว่า
การใช้คำและรูปประโยคทรงพลังมากกว่ามาก
ปลุกเร้าความคิดและความรู้สึก .. ห่างชั้นกับเดอะ เซอร์เคิลหลายช่วงตัว
อย่างชนิดที่ไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกัน

1984 เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ แม้ว่าจะค่อนข้างหนา
แต่ขนาดเล่มก็ทำให้ราคา 300 บาทดูแพงเกินไปอยู่ดี
แต่เมื่อเปิดอ่านจึงได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วมันผ่านการเย็บกี่อย่างแน่นหนา
ไม่ว่าจะเปิดอ่านจนเยินอย่างไร หน้ากระดาษก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหลุด
เพียงแค่นี้ ยังไม่ต้องนับเนื้อหาหรือคุณค่าทางวรรณกรรมใด
มันก็ทำให้เราประทับใจได้ตลอดการอ่าน

103-1 1984

คำนำย่อหน้าแรกจี๊ดใจมาก
โดยเฉพาะเมื่ออ่านหลังจากที่เราเพิ่งจะอ่านเดอะเซอร์เคิลจบ

103-10 1984

เมื่อเริ่มต้นด้วยการอ่านประวัติของผู้เขียนโดยละเอียด
และคิดเปรียบเทียบกับสิ่งที่เคยอ่านพบใน แอนิมอลฟาร์ม
และกรั่นกรองใจความต่างๆ จากในเล่มนี้
ทำให้เราพอจะเห็นภาพระบบการเมืองอันเลวร้าย
ที่เฉพาะเจาะจงไปยังความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นกรรมาชนและนักปกครอง
ในยุคหลังการล่าอาณานิคมได้อย่างรางๆ

103-8 1984

1984 กล่าวถึงโลกสมมติแห่งหนึ่งในยุคอนาคต (ของตอนที่เพิ่งตีพิมพ์ครั้งแรก)
เป็นสังคมซึ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงไปอย่างสุดกู่
และในขณะนี้ สังคมที่ว่าถูกเรียกว่า โอชันเนีย
ถูกปกครองด้วยพรรคที่มีหัวหน้าคือพี่เบิ้ม (Big Brother)
มีสมาชิกพรรคที่แบ่งชนชั้นออกเป็นชั้นในและชั้นนอก
มีชนชั้นกรรมาชีพเป็นชนชั้นสุดท้าย
โดยที่ทั้งเรื่องไม่ได้เปิดเผยตัวตนของพี่เบิ้มเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่ความมีอยู่อย่างเป็นนามธรรมของเขา
ก็ทำให้ผู้คนในสังคมทั้งปวงไม่กล้าออกนอกลู่นอกรอยแม้แต่ความคิด

พรรคสามารถบิดเบือนข่าวและข้อมูลต่างๆ ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างเบ็ดเสร็จสมบูรณ์
และมันเปลี่ยนแปลงไปทุกวันตามสถานการณ์รายวัน
ข้อมูลเก่าที่ผิดพลาดถูกทำลายทิ้งได้ทุกเมื่อ
พร้อมกับที่ข้อมูลใหม่ล่าสุดถูกนำเสนอทดแทนทันควัน
ไม่มีอะไรแน่นอนแม้แต่ประวัติชีวิตของเราเอง

103-3 1984

ชนชั้นกรรมาชีพจะถูกวางเส้นทางชีวิตให้เคลื่อนไปตามทางที่กำหนด
เกิด เติบโตตามมีตามเกิด ทำงานใช้แรงงานตั้งแต่เด็ก
มีครอบครัวตั้งแต่อายุน้อย
ตีนถีบปากกัดเพื่อผลิตลูกหลานออกมาเป็นชนชั้นกรรมาชีพเช่นกัน
มีปัญหาครอบครัว อดอยาก วนเวียนอยู่แต่กับปัญหาเรื่องปากท้อง
ไม่มีความรู้ และไร้ปากเสียงที่จะต่อต้านข้อบังคับที่ไม่เป็นธรรมใดๆ
ไม่รู้สึกด้วยซ้ำว่ามันไม่เป็นธรรม

103-7 1984

ในสังคมแห่งนี้ ได้มีการบัญญัติภาษาใหม่
ซึ่งสั้น กระชับ ลดทอนความหลากหลายทางภาษา
ทั้งคำซ้ำ คำตรงกันข้าม คำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน
จะถูกทำลายทิ้งทั้งหมด หลงเหลือไว้แต่คำเพียงคำเดียวเพื่อแทนทุกคำ
เมื่อภาษาแคบลง ความคิดย่อมแคบลง
ประชากรในประเทศมีความคิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
มีตำรวจความคิด เพื่อตรวจจับผู้ที่มีความคิดแปลกปลอมเป็นอื่น

103-4 1984

วินสตัน เป็นหนึ่งในฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในกระทรวงแห่งความจริง
โดยหน้าที่ วินสตันมีโอกาสได้รับข้อเท็จจริงอันแหว่งวิ่น
หากนั่นก็ดีกว่าการได้รับข้อมูลทางประวัติศาสตร์ปลอมๆ
ทั้งที่เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกพรรค
แต่เขาเองกลับเป็นผู้ที่มีความคิดผิดประหลาด
จากสิ่งที่เขานำเสนอไปอย่างที่สุด
สิ่งที่เขาเป็น ถูกเรียกกันว่าอาชญากรความคิด
แน่นอน มันถูกเก็บเงียบงันอยู่ภายใน .. รอการค้นพบ
และมันอาจเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเขา

103-6 1984

การคิดขัดแย้งกับพี่เบิ้มเป็นความผิดใหญ่หลวง
และแม้แต่ความรักก็เป็นความผิดใหญ่หลวงเช่นกัน
เสน่ห์ของเรื่องนี้อย่างหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงก็คือ
คำบรรยายความรักที่ต่างฝ่ายต่างรัก
แต่ไม่อาจแสดงออกให้ใครก็ตามเห็น
เพราะมันจะชักนำไปสู่การระเหยหาย .. ความตาย
การลักลอบพบกันกลางฝูงชน
ท่ามกลางกล้องและสายตานับร้อยนับพัน
การนัดพบกันโดยทำไม่ได้แม้แต่มองหน้ากัน พูดจากัน
ไม่มีความเป็นส่วนตัวแม้แต่ในบ้านของตัวเอง

103-5 1984

ความสมเหตุสมผล และความน่าเชื่อถือ
ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง 1984 ดูลดน้อยถอยลงไปมาก
เมื่อเราหยิบมาอ่านใน พ.ศ. นี้

แต่ก็พอจะจินตนาการได้ว่า ความน่ากลัว และความทรงพลังของพี่เบิ้ม
ในยุคที่นิยายเรื่องนี้ถือกำเนิด และในยุคต่อๆ มา
จะน่ากลัว และจุดกระแสฮือฮาสักเพียงไหน

แต่ถึงอย่างนั้น ลักษณะเฉพาะบางอย่างของสังคมมนุษย์
ที่แม้ไม่ได้แปรเปลี่ยนไปตามเส้นทางตาม 1984
แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ด้วยว่าความเป็นมนุษย์เป็นลักษณะเฉพาะ
ทั้งการเอาตัวรอด ทั้งการแสดงออกในฐานะผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่า
และในฐานะผู้ต่ำต้อยกว่าที่อยู่ภายใต้อำนาจของใครก็ตาม
ทั้งความเห็นแก่ตัว และอารมณ์ด้านลบอย่างอื่นๆ
ล้วนแต่มีส่วนขับเคลื่อนให้สังคมในปัจจุบัน
ก้าวไปคล้ายคลึงบางเสี้ยวส่วนของสังคมโอชันเนียใน 1984 ได้ทั้งนั้น

103-9 1984

ดีใจที่ได้อ่านมันจนจบค่ะ แม้เป็นครั้งแรก
แต่คิดว่าทุกๆ การอ่านซ้ำ เราจะแตกแขนงความคิดใหม่ๆ ออกไปอีกได้ไม่รู้จบ

Comments are closed.