อ่านแล้วเล่า

รุ้งในลมหนาว

15 รุ้งในลมหนาว

เรื่อง รุ้งในลมหนาว
ผู้แต่ง ดวงตะวัน
สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน
ราคา 300 บาท
(พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2552)

ดวงตะวันเปิดเรื่องราวของญีลาด้วยฉากของธิโมส์ยุคปัจจุบัน
เมื่อปันต์วัตราลีได้ติดต่อขอซื้ออาคารหลังเก่าของอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งมาทำเป็นหอศิลป์
ในวันเปิดงาน นอกจากปันต์วัตราลีจะเดินทางมาเปิดงานด้วยแล้ว
เรเวียร์ ศิลปินหนุ่มผู้ลึกลับ ทายาทที่สืบทอดฝีมือด้านศิลปะมาจากคุ้มผีเสื้อจากโมเนต
ได้มาร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย
เรเวียร์มอบผลงานหลายชิ้นให้ และให้ยืมมาจัดแสดง
และหนึ่งในสิ่งของที่เรเวียร์ให้ขอยืมมานั้น คือรูปปั้นดินเผาโบราณรูปผู้หญิง
เป็นรูปปั้น ที่เพิ่งถูกค้นพบที่ถ้ำตีนเคเชรี
รูปปั้น ที่เกี่ยวโยงกับนิทานปรัมปรา เรื่องคนบ้าผู้เฝ้าถ้ำตีนเคเชรี
รูปปั้น ที่มีจารึกเอาไว้ที่ใต้ฐานว่า “จงเป็นของกูตูร์ชั่วนิรันดร”
และรุ้งในลมหนาว จะบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นที่มาของรูปปั้นประหลาดนี้

และอย่างที่น่าคาใจในเอลันตรานั่นแหละ
หลังจากที่ญีลารู้ความลับเรื่องเอลัน ชายาเชลยของอินทัตแล้ว
ญีลาก็ไม่มีบทบาทใดๆ ในเรื่องราวอันแสนจะวุ่นวายนั้นอีก
ปลีกวิเวกเดินทางไปรักษาคีราที่โมเนตา แล้วก็หายเงียบไปเลย เหมือนดวงตะวันจะลืมเล่า
และก็อย่างที่เป็นบ่อยๆ ดวงตะวันกั๊กเอาไว้เพื่อการนี้นั่นเอง
(บางทีก็กั๊กเกิ๊น กั๊กจนทำให้เอลันตราดูขาดๆ หายๆ และไม่สมบูรณ์ไปอย่างน่าเสียดาย)
ทีนี้เราจะได้รู้ทางฝั่งญีลาบ้างว่า การเดินทางไปโมเนตในครั้งนั้น เกิดอะไรขึ้นบ้าง!

ในระหว่างที่ญีลาเดินทางไปโมเนตานี้เอง
เขาได้พบกับขบวนม้าที่จะส่งตัวหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อไปเข้าพิธีระดาลัย
หญิงสาวทระนงองอาจ ผู้มีความทุกข์เศร้าในดวงตา
ฤาจะเป็นระดาลัยแห่งความเศร้า ที่นางได้เลือกแล้ว?

คิม บุตรสาวคนเดียวของคาวัล นายบ้านเคเชรี คนป่าผู้ลึกลับ คือชื่อของนางผู้นั้น
นางกำลังจะเดินทางไปเข้าพิธีระดาลัยกับวาโญ
นายบ้านโซรัง ชายแก่คราวพ่อที่มีเมียอยู่แล้วถึงสอง
วาโญเป็นน้องชายของพ่อของลิบง (เป็นอาของลิบงนั่นเอง -*-)
(ดูท่าแล้ว คนบ้านโซรังนี่ท่าจะครองบทผู้ร้ายตลอดภาคธิโมส์สินะ)

นอเพน เฮปาผู้ดูแลรักษาอาการไข้ของคาวัล บิดาของนางทำนายว่า
นางต้องเดินทางออกจากเคเชรี ออกจากบ้าน คาวัลจึงจะหายป่วย
อาการป่วยของพ่อที่เพียบหนักลงไปทุกวัน ทำให้คิมตัดสินใจยอมรับระดาลัยกับวาโญ
(นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่ดวงตะวันบีบบังคับให้คนอ่านคล้อยตามแบบที่ยากจะอิน
กับแค่อย่าอยู่บ้าน จะไปอยู่ไหนก็ได้ให้ไกลบ้าน
จำเป็นขนาดไหนกันเชียวที่จะต้องระดาลัยกับวาโญ
แม้ดวงตะวันจะอธิบายเอาไว้ในเรื่อง แต่อ้างอะไรก็ไม่เห็นจะน่าเห็นด้วยสักอย่างเลยสิน่า!)

และเพราะว่ารุ้งในลมหนาวเป็นเรื่องราวของญีลา เฮปาคนเก่ง
ดังนั้น เพียงดำเนินเรื่องไปไม่กี่บท นานาคนป่วยก็ดาหน้ากันเข้ามาเต็มเรื่อง
วาโญ คู่ระดาลัยของคิม จึงป่วยตลอดพิธีระดาลัยเลยทีเดียวเชียว
ค่ำวันนั้นเอง ญีลาถูกตามตัวให้มาช่วยรักษาอาการป่วยนั้น
วาโญถูกวางยาพิษ ด้วยพิษที่ร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่ง .. ยาพิษแห่งเคเชรี ที่ที่คิมจากมานั่นเอง!

ตามธรรมเนียมการฝังศพบ้านโซรังนั้น นอกจากนายบ้านโซรังผู้ตายที่จะถูกฝังแล้ว
ชีวิตที่เหลือนอกจากนั้นที่จะต้องสละและฝังลงไปด้วยคือร่างของผู้เป็นเมีย
ซึ่งในที่นี้ นอกจากแพสี เมียคนแรก และบูรีเมียคนที่สองแล้ว
คิม เมียคนล่าสุดที่เพิ่งจะผ่านพ้นพิธีระดาลัยมาได้ไม่นาน ก็จะต้องถูกฝังทั้งเป็นตามไปด้วย
ร่างของหญิงทั้งสามผู้ได้ชื่อว่าเป็นเมียของวาโญ ถูกจับใส่ลงในโลงไม้ในหลุม และกลบด้วยดิน
เยียร์ บุตรของวาโญกับแพสีเมียคนแรก
ชายผู้ที่กำลังจะก้าวขึ้นรับตำแหน่งนายบ้านโซรังคนต่อไป เป็นผู้ควบคุมการทำพิธีนี้

ในฐานะของคนเป็นเฮปา คนที่มีหน้าที่ช่วยชีวิตอันมีค่าของคนทุกคน .. ทั้งมิตรและศัตรู
ญีลายอมรับไม่ได้จริงๆ ที่จะให้ชีวิตทั้งสามชีวิตต้องจบลงทั้งๆ ที่ไม่มีเหตุอันควร
เขาตัดสินใจย้อนกลับมาที่หลุมศพอีกครั้งหลังพิธีศพ
และขุดหลุมทั้งสามหลุม เพื่อช่วยชีวิตเมียทั้งสามคนของวาโญ
ช่วย ก่อนจะถามตัวเองด้วยซ้ำว่าควรหรือไม่!
ผลแห่งการตัดสินใจในครั้งนั้น ญีลาช่วยชีวิตเมียสองคนแรกของวาโญไว้ไม่ทัน
นางทั้งสองตายเสียก่อนที่ญีลาจะขุดนางขึ้นมา
แต่คิมยังโชคดี ญีลาช่วยนางเอาไว้ได้ก่อนที่นางจะขาดใจตาย
และยังไม่ทันที่ญีลาจะทำการอันใดต่อ เยียร์กลับมาที่หลุมศพอีกครั้ง ..

ขบวนม้าจากโซรังไล่ล่าตามจับใครก็ตามที่บังอาจขุดหลุมศพทั้งสามขึ้นมา และหนีมาทางเคเชรี
ปะทะกับขบวนม้าอีกกลุ่มจากยอดเคเชรี .. ขบวนของเณรัณ ชาวเคเชรีผู้หลงรักคิม
และนั่นสร้างความไขว้เขว ระแวงแคลงใจขึ้นในหัวใจทั้งสองฝ่าย
ในตอนนั้นเอง ญีลาพาคิมขี่ม้าหลบหนีไปตามลำธาร
เพื่อมุ่งหน้าสู่ที่ที่จะไม่มีใครคาดคิดถึง ไม่ใช่เคเชรี และไม่ใช่โมเนตา
แต่เป็นป่าทึบที่เป็นรอยต่อระหว่างเคเชรีและโมเนตา .. ที่ถ้ำลึกลับตีนเคเชรีนี่เอง!

ระยะเวลาที่คิมหายตัวไป ที่โซรังเริ่มมีเหตุการณ์อาเพศ ร้ายแรง
ผู้คนที่แข็งแรง ต่างค่อยๆ เจ็บป่วยและล้มตายลงไป ทีละคน ทีละคน
เสียงร่ำลือค่อยๆ หนาหูยิ่งขึ้น คิม เมียของวาโญ ผู้ที่ควรตายตามสามีไปกลับไม่ตาย
ดังนั้นคนที่ไม่ควรตายจึงค่อยๆ ตายลงเพราะการผิดประเพณีในครั้งนี้
คิมคือต้นเหตุของปัญหาครั้งนี้จริงหรือ?

และแล้ว เมื่อญีลาเยียวยาคิมให้ดีขึ้น ในวันหนึ่งทั้งสองจึงเดินทางเข้าสู่ถ้ำเสือ สู่บ้านโซรัง
คิมต้องการจะติดต่อกับเณรัณ คนจากเคเชรีด้วยกัน
ติดต่ออย่างลับๆ เพื่อให้เณรัณพานางกลับเคเชรีอย่างเงียบเชียบ และปลอดภัย
การที่ญีลาและคิมปลอมตัวมาสืบข่าวเณรัณถึงบ้านโซรังนี้เอง
ทำให้เยียร์เดาเรื่องราวทั้งหมดได้ ซ้ำยังได้รู้ว่าญีลาเป็นน้องชายของปันต์เรทัต
เป็นครีราโมส์! เป็นพวกเดียวกันกับผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับบ้านโซรังตลอดมา!!
เยียร์ตัดสินใจออกตามล่าญีลาและคิมไปที่เคเชรี โดยไม่กลัวว่าเรื่องราวจะลุกลามบานปลาย

ระหว่างที่ญีลาและคิมเดินทางกลับเคเชรี ทั้งสองคนได้แวะพักที่กระท่อมไร้เจ้าของหลังหนึ่ง
(ไม่ยอมพักตรงชะง่อนผาที่พักประจำของคิม เพราะระยะนี้ไม่ควรไว้ใจใคร
แวะพักตรงนั้น อาจจะเจอคนเคเชรีบางคน
แต่ดันมาพักในกระท่อม ไม่ยักกลัวเจอเจ้าของกระท่อมอ่ะนะ)

หลังจากนั้นเพียงคืนเดียว ทั้งญีลาและคิมก็เดินทางถึงยอดเคเชรี .. บ้านของคิม
ทั้งสองคนเดินทางถึงที่นั่นกลางดึก คิมพบพ่อของเธอนอนป่วยอยู่เพียงคนเดียว
และหลังจากตรวจอาการ ญีลาก็ทำการรักษา
ระหว่างนั้นเอง เณรัณได้นำยามาจากนอเพน เฮปาคนเก่งประจำเคเชรี
สิ่งหนึ่งที่ผิดปกติก็คือ ปราชญ์ที่เก่งมากอย่างนอเพน
เหตุใดจึงให้ยาที่ตรงข้ามกับอาการของคาวัล
เหตุใดจึงรักษาอาการไข้ธรรมดาๆ ง่ายๆ เช่นนี้ไม่หาย
นี่คือคำถามที่ญีลาจะต้องค้นหาคำตอบ

เมื่อคิมมาถึงเคเชรี พร้อมด้วยอาการที่ค่อยๆ ดีขึ้นของคาวัล ผู้เป็นพ่อ
นั่นทำให้เสียงร่ำลือถึงความอาเพศของคิมค่อยๆ จางหายไปจากเคเชรี
แต่แล้ว คนเคเชรีที่แข็งแรงผู้หนึ่งกลับตายลงอย่างไร้สาเหตุ
ข่าวลือเรื่องลางร้ายจากคิมกำลังจะหนาหูขึ้นอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ เฮปาอย่างญีลาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขาตรวจพบว่าชายผู้นั้นถูกวางยาพิษ
ยาพิษจากโซรัง! มีใครบางคนต้องการป้ายสีคิม ใครคนนั้นไม่ต้องการให้คิมอยู่ที่นี่!!

แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ .. เมื่อข่าวลือหนาหู หลายเสียง โดยเฉพาะเสียงสำคัยอย่างนอเพน ..
ปราชญ์ประจำบ้านจึงได้แนะให้ส่งตัวคิมกลับคืนไปยังโซรัง .. กลับคืนไปตาย!
เพียงเพราะคิมเข้าพิธีระดาลัยกับคนบ้านโซรังแล้ว คิมเป็นสมบัติของโซรัง
เท่านั้นเอง ญีลาจึงกล่าวอ้าง และคิมก็รับสมอ้างนั้น ..
คิมตกเป็นสมบัติของเขาแล้ว คิมเป็นสมบัติของญีลา!!
และนั่นคือสิ่งที่ท้าทายทุกคน ถ้าคิมเป็นตัวนำพาหายนะมาสู่ผู้ครอบครองจริง
คิมจะต้องนำหายนะมาสู่ตัวเขาด้วย ฤาเขาจะต้องตาย?

ก่อนที่จะมีใครตัดสินใจทำอะไรนับจากนี้ ในค่ำวันนั้นเยียร์ก็ปรากฎกายขึ้นที่เคเชรี
มาเพื่อจะทำทุกวิถีทางที่จะนำพาคิมกลับไปยังโซรัง
มาเพื่อบอกความลับของญีลา บอกตัวตนของญีลา .. ตัวตนที่เป็นครีราโมส์ให้แก่คนป่าเคเชรีรู้!
หากคิมตกเป็นของญีลา เคเชรีจะตกเป็นของอลาสด้วยเช่นกัน!!
ความคลางแคลงใจที่เยียร์เป็นผู้ก่อ ทำให้คนเคเชรีอย่างคาวัลและคิมต้องตัดสินใจ
ยอมรับระดาลัยกับญีลา โดยมีครีราโมส์หนุนหลัง
หรือกลับไปตายที่โซรัง และนับจากนั้นโซรังอาจเป็นฝ่ายที่จะมายึดครองเคเชรีเสียเอง?
แล้วสำหรับคิมเล่า .. ญีลาทำเพื่อช่วยคนอย่างคนที่เป็นเฮปาพึงช่วย
หรือทำเพราะหัวใจรักของเขา?

หลังจากทิ้งระเบิดลงกลางความสัมพันธ์ระหว่างคิมและญีลาแล้ว
เยียร์ก็เข้าไปพักที่เรือนของเฮปานอเพน และนั่นเอง เรื่องราวทั้งหมดจากหลุดออกมาให้คนอ่านได้รู้
เยียร์อยู่เบื้องหลังอาเพศต่างๆ ที่เกิดจากคิม .. ฆ่าคน แล้วป้ายความผิดว่าเป็นเพราะคิม
ยิ่งกว่านั้น แท้ที่จริงแล้วนอเพนและเยียร์ร่วมมือกัน
ในเรือนหลังนี้ นอกจากนอเพนและเยียร์แล้ว ยังมีหญิงอีกนางหนึ่งซ่อนกายอยู่
นางหลบอยู่นานแล้ว นับตั้งแต่วาโญตาย ..
หญิงสาวที่ควรจะตายไปพร้อมพิธีศพของของวาโญ .. แพสีแม่ของเยียร์ นางยังมีชีวิตอยู่!
นอเพนและแพสีทำเพื่อเยียร์ ทำทุกอย่างเพื่อเยียร์จริงๆ
นอเพนปรุงยาชนิดหนึ่งให้แพสีกิน ยาที่จะทำให้คนมีลักษณะเหมือนตายชั่วขณะ
เพื่อสร้างฉากตบตาในพิธีศพของวาโญ
ก่อนที่นอเพนจะแก้ไข่ให้นางกลับฟื้นขึ้นมาใหม่อย่างเป็นปกติ

แท้ที่จริงแล้ว นอเพนเป็นคนัฆ .. ชนเผ่าซึ่งเชื่อกันว่าเป็นทายาทของกูตูร์
คนัฆซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของชนเผ่าอื่น รวมทั้งพ่อของแพสีด้วย
เมื่อแพสีตั้งท้องเยียร์ นางยอมรับระดาลัยกับวาโญ นายบ้านโซรัง
ทั้งนอเพนและแพสี อดทนอย่างเนิ่นนาน รอคอยให้ทุกอย่างถึงพร้อม ..
เพื่อเยียร์ ลูกชายคนเดียวของทั้งคู่!
แผนการทั้งหมด ค่อยๆ ถูกวางขึ้นและอดทนรอ ..

ในพิธีระดาลัย จะเป็นฉากจบของทุกคน
นอเพนตั้งใจใช้ยาชนิดเดียวกับที่ใช้กับแพสีอีกครั้ง .. ในปริมาณที่มากกว่า
เพื่อที่ครั้งนี้ ผู้ที่กินยาจะไม่ได้มีอาการเหมือนตาย แต่จะตายไปจริงๆ
เมื่อเฮปาวางยาเฮปา .. ไม่ต้องเดาว่าใครจะชนะ .. เนอะ ;P

ในพิธีระดาลัย การมอบของขวัญจากผู้ร่วมงานเป็นส่วนหนึ่งของพิธี
ทั้งเณรัณ และนอเพน ต่างตั้งใจวางยาให้แก่ญีลาและคิมทั้งคู่
เณรัณ ต้องการวางยาญีลา ในขณะที่นอเพนจงใจวางยาคิม
แต่ผิดแผน! ทั้งคิมและญีลาต่างกินทุกสิ่งเหมือนๆ กันเท่าๆ กัน
นอกจากคิมและญีลา เยียร์เป็นอีกหนึ่งคนที่โอหังกินเหล้าหมัก ของขวัญจากเณรัณด้วย
กินเพื่อโอ้อวด ยกตนข่มญีลา .. แต่ใครจะรู้ ..
ยาพิษจากเณรัณ มียาแก้ในขนมรีรายา ขนมที่เณรัณตั้งใจทำให้คิม แต่คิมป้อนให้ญีลาด้วย
มีเพียงเยียร์ที่รับยาพิษจากเหล้าหมัก โดยไม่ได้รับยาแก้จากขนมกลิ่นหอมนั้น
เหล้าหมักและขนมจากเณรัณ ไม่ทำให้ญีลาและคิมตาย
แต่ถึงกระนั้น ทั้งญีลาและคิมต่างก็ได้รับพิษบางอย่าง .. พิษจากถ้วยน้ำผึ้งของนอเพน!!

ในขณะที่นอเพนและแพสีกำลังจะยึดครองโซรังและเคเชรีมอบแด่มือของเยียร์นั่นเอง
ร่างของเยียร์ก็ฟุบลง และมีอาการไม่ต่างจากครั้งที่วาโญถูกวางยาพิษ
และแผนของนอเพนและแพสี ถูกตลบหลังด้วยสติปัญญาของญีลา

นิยายเรื่องนี้สำหรับเรา เราว่าถึงแม้พล็อตจะไม่น่าสนใจ ไม่ดึงดูดเท่าเอลันตรา
แต่ดวงตะวันกลับเล่าเรื่องรุ้งในลมหนาวได้สนุก และกระชับกว่าเอลันตราเยอะ
(นี่เห็นสาเหตุว่าทำไมอ่านจบในวันเดียว)
ก่อนจบ ดวงตะวันพาวกกลับไปหาต้นเรื่อง เรื่องราวของคนบ้าผู้เฝ้าถ้ำตีนเคเชรี ..

เณรัณ ชายผู้หลงรักคิม แต่ไม่เคยปกป้องคิมได้เลย
เขายอมพ่ายแพ้แก่ญีลา ยอมแพ้หัวใจของญีลา
แม้ไม่มีใครลงโทษเขา แต่เขาลงโทษตัวเองด้วยการขังตัวอยู่ในถ้ำตีนเคเชรี
เขาคือผู้ปั้นรูปปั้นโบราณอันนั้น รูปปั้นคิม .. “จงเป็นของกูตูร์ชั่วนิรันดร” ..

555 ตอนจบดวงตะวันกั๊กอะไรอีกแล้วสินะ
เพราะอ่านแล้วไม่เก็ต ไม่เข้าใจสิ่งที่จะสื่อเลย
ทำไมเณรัณต้องทำขนาดนั้นด้วย ตอนใกล้จบยังดูไม่เห็นจะเป็นคนบ้าตรงไหน
ก็คงต้องติดตามกันต่อไป .. เฮ้อ! -*-

Comments are closed.