อ่านแล้วเล่า

ลำนำจันทร์

DSCN1872

เรื่อง ลำนำจันทร์
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ
(สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์)
ราคา 175 บาท
(พิมพ์ครั้งที่ 5 เมื่อปีพ.ศ. 2548)

 

ลำนำจันทร์ เป็นอีกเรื่องที่กิ่งฉัตรนำเสนอชีวิตคนไทยที่ปากกัดตีนถีบเป็นพลเมืองชั้น 2 ในต่างประเทศ
หยิบเล่มนี้มาอ่านต่อจากมนต์จันทราด้วยไม่ใช่เหตุอื่นไกลอันใด
พิพัช คู่กัดของสาระวารีจากมนต์จันทรา
ได้เลื่อนบทจากมือขวาของพระเอกกลายมาเป็นพระเอกซะเองแล้วน่ะสิคะ
เมื่ออ่านนิยายเรื่องนี้ เราก็จะได้ตามไปดูความคืบหน้าของสาระวารี ษมา
และพิพัชต่อจากตอนที่แล้วกันหน่อย

ลำนำจันทร์ ถูกเขียนขึ้นหลังจากจบมนต์จันทราประมาณ 3 – 4 ปี
เนื้อเรื่องของลำนำจันทร์ ก็น่าจะผ่านเวลาในเรื่องมนต์จันทรามาในระยะเวลาใกล้เคียงกัน
(อาจจะน้อยกว่านั้นนิดหน่อย)
สาระวารีในวันนี้เลยกลายเป็นเจ้าแม่เกาะยานกเต็มตัว
ที่ตามติดษมามาฮันนีมูนที่เมืองแห่งกาสิโนแบบงอนๆ
พ่วงสาระสะมามาเที่ยวด้วยอีกคนให้คนอ่านชื่นใจ
และถึงแม้สาระวารีจะไม่ได้เป็นตัวเอกของเรื่อง
เธอก็ยังมีบทลับฝีปากกับพิพัชให้คนอ่านหายคิดถึงอยู่เกือบตลอดเรื่อง
และพิเศษสุดสำหรับแฟนคลับเหลืองลาย กิ่งฉัตรก็ยังอุตส่าห์เล่าถึงมันเอาไว้นิดนึงด้วย
เรียกว่า ระยะเวลา 4 ปีที่ห่างหายกันไป กิ่งฉัตรได้ส่งความคิดถึงของตัวละครต่างๆ ผ่านทางลำนำจันทร์
ถ้าจะบอกว่า ลำนำจันทร์ เป็นจดหมายจากเพื่อนเก่า ก็คงจะไม่ผิดอะไร

เมื่อษมาเจ้านายของพิพัชเป็นถึงเจ้าพ่อกาสิโนแห่งเกาะพระฮาม
ก็คงจะไม่แปลกอะไรที่เนื้อเรื่องของลำนำจันทร์จะเปิดเรื่องขึ้นที่กาสิโนแห่งหนึ่งในลาสเวกัส
(และเมื่อจุดแวะในทริปฮันนีมูนมีเมืองแห่งกาสิโนรวมอยู่ในแผนเที่ยวด้วย
สาระวารีจึงมีปากมีเสียงให้คนอ่านแก้คิดถึงเยอะหน่อย)

ในทริปนี้ พิพัชมีหน้าที่ตามหาเจ้ามือคุมโต๊ะที่ฝีมือดีสักคน
เพื่อชวนกลับไปช่วยบุกเบิกกาสิโนของษมาที่เกาะพระฮาม
เรื่องราวของลำนำจันทร์จึงเริ่มต้นขึ้น

ตัวละครของกิ่งฉัตรไม่เคยดีพร้อม หล่อ สวย รวย เนี้ยบ สมบูรณ์แบบ
ถึงแม้จะเป็นพระเอกนางเอกของเรื่องก็ตาม
พระเอกไม่ต้องเพอร์เฟ็ค นางเอกไม่ต้องสมบูรณ์แบบ
จับมาคู่กันแล้วก็กลายเป็นคู่ที่สมกันแบบกิ่งทองใบหยก
แต่พระนางของกิ่งฉัตร จะเป็นแค่จิ๊กซอว์ที่่ต่อกันลงตัวพอดิบพอดี
แต่ละคน มักมีปม มีความขาดอะไรบางอย่างเสมอๆ
และความขาดนั้น มักจะถูกเติมเต็มด้วยตัวละครอีกตัวที่เป็นคู่กัน
นี่คือความโรแมนติคแบบกิ่งฉัตร

บทบาทของพิพัชในเรื่องนี้ยังคงความฉลาด ห้าวหาญ จริงจังสมเป็นมือขวาเจ้าพ่อเหมือนเดิม
แต่ในเรื่องที่เขาเป็นพระเอกซะเองนี้ พิพัชมีความยียวน (กับนางเอกของเขา)
น้อยกว่ายียวนใส่นางเอกของเจ้านายในเรื่องมนต์จันทราอย่างเห็นได้ชัด (.. ซึ่งก็แน่ล่ะนะ ;P)
มีความนุ่มนวล เป็นผู้นำ มีอารมณ์ขัน มีรายละเอียดที่ผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะรักได้มากกว่าเรื่องที่แล้ว
อ่านไปสักพัก ก็อดโยงพิพัชเข้ากับสารวัตรหิรัณย์ไม่ได้ว่ามีอะไรบางอย่างคล้ายๆ กัน

ถ้าสันติ (จากฟ้ากระจ่างดาว) จะเป็นตัวอย่างของเด็กมีปัญหาในวัยประถม
ทินกร คือตัวอย่างของเด็กมีปัญหาในวัยรุ่น เป็นเด็กมีปัญหาในวัฒนธรรมต่างแดนซะด้วย
กิ่งฉัตรได้สอดแทรกวิธีการแก้ปัญหาเด็กมีปัญหาแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่ตรงจุด
ทั้งสารวัตรหิรัณย์ (จากฟ้ากระจ่างดาว) และพิพัชในเรื่องนี้ จึงมีลักษณะคล้ายกัน (ในความคิดของเรา)
คือเป็นผู้รู้ปัญหา เห็นปัญหามากกว่าคนใกล้ตัวของเด็ก
และเป็นตัวกลางค่อยๆ กระเทาะเปลือกของเด็กเข้าไปช่วยแก้ปัญหานั้น

และด้วยความที่ทินกรโตกว่าสันติ วิธีที่พิพัชใช้ก็ออกจะฮาร์ดคอร์มากกว่า (ในความรู้สึกของเรา)
คือตีเข้าไปตรงจุด ตรงแผลที่เจ็บปวด เพื่อให้ทินกรและดุจจันทร์มองเห็นปัญหา
ยอมรับ (ว่ามันเป็น) ปัญหา และร่วมกันแก้
สังคมเมืองนอก (ในวันนั้น) แม้จะเป็นครอบครัวที่รักใคร่กันดี
แต่จริงๆ แล้วสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนก็มีช่องว่าง มีความรักแต่ไม่เข้าใจกันซุกซ่อนอยู่
ยิ่งนานวัน ช่องว่างแห่งความไม่เข้าใจนั้นก็ยิ่งกว้างขึ้นเรื่อยๆ
กว่าจะรู้ตัว ปัญหาเล็กๆ ก็กลายเป็นปัญหาใหญ่เกินแก้ไปเสียแล้ว
(จะว่าไปก็ชักจะเหมือนสังคมเมืองของเราทุกวันนี้เข้าไปทุกที)

เด็กวัยรุ่น ก็มีความเป็นเด็กไม่ต่างจากเด็กเล็กๆ เท่าไรนัก
ผิดแต่เพียงเขารู้ตัวว่ากำลังจะเป็นผู้ใหญ่ และต้องละทิ้งบทบาทเด็กน้อยนั้นทิ้งไป
แต่ในหัวใจ ในสมอง ยังเต็มไปด้วยความสับสน ทำตัวไม่ถูก
อยากทำแบบเด็กๆ แต่อีกใจก็บอกว่าตัวเองโตแล้ว
ทินกรจึงต้องการแค่ใครสักคนเป็นที่ปรึกษา ซึ่งหาได้ยากเหลือเกินในสังคมของเขา
พิพัชเข้ามาถูกที่ถูกเวลา
ฉากที่ทินกรยอมเอ่ยปากบอกปัญหาของตัวเองให้กับพี่สาวคนโตฟัง
เป็นอีกฉากนึงที่เป็นจุดเด่นของเรื่อง (สำหรับเรา)
เป็นการเน้นย้ำอีกครั้งว่า คนทุกคนไม่มีอะไรเพอร์เฟ็ค ทุกคนมีส่วนขาด ส่วนเกิน
มนุษย์จึงต้องมีสังคม เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดซึ่งกันและกัน

กิ่งฉัตรเลือกที่จะเล่าประเด็นของพี่สาวน้องชายก่อน
ซึ่งเป็นประเด็นของผู้ปกครอง ที่เลี้ยงดูเด็กในปกครองแต่เพียงร่างกาย
แต่ไม่ได้เลี้ยงดูหัวใจของเด็กๆ ด้วย ซึ่งเรื่องราวก็เป็นอย่างที่เล่าไปแล้ว

จากนั้น กิ่งฉัตรก็ปิดเรื่องฉีกอารมณ์ด้วยปมที่โผล่แพลมๆ มาตั้งแต่ต้นเรื่องแล้ว …
ความแตกต่างของสองพี่น้อง
พี่สาว ซึ่งถูกเลี้ยงที่เมืองไทยจนโต กับน้องสาวที่อยู่ในสภาพแวดล้อมต่างเมือง
เปิดรับวัฒนธรรมแห่งอิสระเสรีของฝรั่งมาเต็มๆ
ต่างคนต่างมีปมภายในใจ เหมือนพี่น้องทุกคู่ในโลก
ต่างกันแต่เพียงว่า ปมภายในใจสองพี่น้องที่ห่างกันตั้งแต่เล็กๆ และเติบโตมาในวัฒนธรรมที่ต่างกัน
ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันมากมายกว่าพี่น้องปกติธรรมดาคู่อื่นๆ

อ่านเรื่องนี้ผ่านความหงุดหงิด ขบขัน ดราม่า น้ำตาซึม มาเรื่อยๆ จนถึงตอนสุดท้าย
ตอนจบ กิ่งฉัตรจบได้หวานสุดซึ้ง แม้จะเป็นฉากจบง่ายๆ พื้นๆ และเดาได้เลาๆ แล้ว
แต่พอถึงอ่านถึงตัวสุดท้าย ก็อดอมยิ้มน้ำตาคลอไม่ได้ … จะอินอะไรกันนักหนานี่ ชั้น!!

DSCN1844

เล่มที่ 2 ในรูปนี้ผ่านไปอย่างเป็นสุข และกำลังจะต่อเล่มที่ 3 หิมะกลางทะเลทรายทันที
(ป้องกันอารมณ์ขาดตอน ;P)
แล้วรอติดตามอ่านรีวิวกันนะคะ ด้วยความขอบคุณ ^^

หิมะกลางทะเลทราย

DSCN1874

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง : มนต์จันทรา หิมะกลางทะเลทราย รุ่งอรุณ

Comments are closed.