อ่านแล้วเล่า

แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-2 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

เรื่อง แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ
ผู้แต่ง จเด็จ กำจรเดช
สำนักพิมพ์ ผจญภัย
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786167552149

ผ่าน อสรพิษ ไปได้เรื่องหนึ่ง เริ่มมีจิตฮึกเหิม ..
หยิบแดดเช้าฯ มาอ่านต่อในบัดดลค่ะ

การจิบกาแฟ เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง
กาแฟร้อน ควันลอยอ้อยอิ่ง เราไม่ได้เพียงแต่ดื่มกาแฟ
เราดื่มความหอมของมัน ดื่มความร้อนจัด
ดื่มความขมเข้มหรือหวานมันตามใจชอบ
ในเช้าช้าๆ ถ้าเพียงแต่มีบางเรื่องร้อนใจ
เช้าอาจไม่เป็นเช้า
แดดเช้า อาจจะร้อนเกินไปเสียแล้ว

07-1 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

แดดเช้าฯ มีวิธีเล่าเรื่องที่ผ่านกระบวนการคิดมาเป็นอย่างดี
เพราะอย่างนั้น .. คนอ่านก็ด้วยเช่นกัน
คำนำในเล่มไม่ได้บอกอะไร
เริ่มต้นแบบเบื่อๆ แต่จบลงอย่างมีพลัง เร้าระทึก

หยิบแดดเช้าฯ ขึ้นมาเริ่มต้นอ่านที่งานมือถือฯ อันสับสนวุ่นวาย
จบเรื่องแรกไปอย่างไม่รู้เรื่อง แต่สิ่งที่ได้คือจิ๊กซอว์แห่งขุมพลัง
มีพลังงานบางอย่างอัดแน่นภายใน
จนต้องขอย้อนกลับไปอ่าน ณ จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

สิ่งชำรุดของพระเจ้า
เป็นเรื่องสั้นที่เปิดตัวตนของหนังสือเล่มนี้ด้วยความรุนแรง
เต็มไปด้วยพลังอัดแน่น
เสียดแทงและเชือดเฉือน (เกินไป?)
หดหู่และบีบหัวใจอย่างจงใจ

ตัวละครทุกตัวในเรื่องไม่มีชื่อ
ตัวละครหลักสองตัว สลับกันใช้สรรพนาม ‘ผม’ ในการเล่าเรื่อง
ผนวกกับการเล่าเรื่องที่สลับไทม์ไลน์ไปมา
ทำให้ ‘สิ่งชำรุดของพระเจ้า’ กลายเป็นหนังสือที่ต้องตั้งใจอ่าน
อ่านผ่านๆ เพลินๆ ไม่ได้เลย มึนค่ะ ว่าตกลง ‘ผม’ ไหนกันแน่
เรื่องที่อ่านอยู่มันเป็นเรื่องของใครกันแน่

อสรพิษ เหมือนธารน้ำที่แทรกซึม สึกกร่อน
ในขณะที่แดดเช้าฯ ตีลงกลางแสกหน้าตรงๆ
สิ่งชำรุดของพระเจ้า สร้างความรู้สึกที่น้อยครั้งจะเกิดขึ้นกับเรา
อ่านไม่รู้เรื่อง แต่สนุกจนต้องอ่านซ้ำใหม่อีกรอบ .. เดี๋ยวนั้น

การอ่านรอบที่สองในที่เงียบๆ มีสมาธิสมบูรณ์
เรากลับพบว่า มันไม่ใช่เรื่องอ่านยาก
แค่เพียงให้เวลากับมันอย่างเต็มที่
อ่านให้จบเรื่องในรวดเดียว
และขบคิด หมกมุ่นอยู่กับมันอย่างเต็มอรรถรส

07-5 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

(ข้างล่างนี้สปอยล์ค่ะ อ่านจบเรื่องแรกแล้วมาคุยกัน)

พี่ชายของหมอมีตัวตนอยู่จริงไหม?
ฝาแฝดคู่นี้ (น่าจะ) ถูกผ่าแยกตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก
แล้วการที่พี่ชายมีโอกาสอยู่ดูโลกได้อีกแปดปี
หมายความว่าตอนที่ ‘หมอ’ เรียนจบหมอ ก็ไม่ควรมีพี่ชายอยู่บนโลกแล้ว
การที่พี่ชายไม่คุยกับใครเลย? เป็นนัยแฝงหรือเปล่า?
การผ่าตัด ได้รวมร่างกายที่สมบูรณ์เข้ากับสมองที่สมบูรณ์
หมายความว่าสิ่งที่เหลือ ต้องไม่สมบูรณ์ทั้งร่างกายและสมอง
ดังนั้น พี่ชายหมอ ไม่น่าจะมีหน้าตาเหมือนหมอทุกประการแบบในรูปถ่าย?
กลับมาที่คำถามเดิม ‘พี่ชายของหมอมีตัวตนอยู่จริงไหม?’
การที่พี่ชายกลับมา หมายถึงจิตใต้สำนึกของเขาเองหรือเปล่า?
เป็นพวกจิตเภท สองบุคลิก ประมาณนั้น?

อ่านจนจบ และงงอีกครั้ง
ตกลงใครมีพี่ชายฝาแฝดที่เคยตัวติดกันกันแน่
หรือจริงๆ แล้ว สองผมนี่แหละคือพี่น้องฝาแฝดกัน
แล้วต่างคนต่างเรียกอีกคนว่า ‘พี่ชาย’?
หรือความจริงแล้ว ผมทั้งสองคนนี้คือคนเดียวกัน
แล้วไทม์ไลน์มันเกิดยังไงกันฟระ
หรือจริงๆ แล้ว (อีกรอบ)
ฉากนั่งคุยที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ คือฉากมโนของ ‘ผม’ เพียงคนเดียว?

อ่านให้สนุก แล้วมาถกกันนะคะ ^^

จดโน้ตนิดนึงค่ะ แอบตีความสัญลักษณ์ขณะอ่าน
เราว่าบาร์โค้ดในดวงตาภรรยาของชายในเรื่อง
เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อว่า
มนุษย์เป็นสิ่งที่ถูกผลิตโดยพระเจ้า
เป็นเหมือนสินค้าโหลๆ ในโรงงานแห่งหนึ่งบนสวรรค์?

ขัดใจอีกนิด ในหน้า 44 ผู้เขียนกล่าวถึงทฤษฎีวิวัฒนาการ
จริงๆ แล้วชาร์ลส์ ดาวิน ไม่ได้กล่าวว่า
“การวิวัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงสรีระให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม”
หากหมายถึงการคัดเลือกโดยธรรมชาติต่างหาก
สิ่งมีชีวิตที่มีสรีระเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม
จะถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติให้มีชีวิตรอด
ในขณะที่ สิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่ ก็ ‘อ่อนแอก็แพ้ไป’ ก็สูญพันธุ์ไป
นี่ต่างหากคือทฤษฎีวิวัฒนาการ!

เรื่องสั้นที่สอง คล้ายว่าเริ่มต้นจากฝน
เริ่นต้นขึ้นอย่างใจร้ายและบีบหัวใจ
อ่านไปก็เตรียมตัวเตรียมใจไป รอรับกับโศกนาฏกรรมในตอนจบ
ไม่ว่าในตอนจบ มันจะเศร้าจริงหรือไม่ก็ตาม

07-7 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

ด้วยดวงตามืดบอดนั้น ฉันเห็น
เป็นเรื่องสั้น สั้นมากกกก
เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จบลงอย่างกินใจ
แต่นั่นแหละ .. ห้วน สั้น เกินไปสักหน่อย

อยากได้สักบทเรียนไหม
บางทีก็นึกถึงคุณยายวรนาถผู้คายตะขาบ
ส่งต่อประสบการณ์ชีวิต ..
ชีวิตบนไฮเวย์ ที่บางครั้งก็ไม่รู้ว่าแข่งอยู่กับอะไร
เป้าหมาย ความหวัง การต่อสู้ บางทีมันก็สะเปะสะปะ ไม่เกี่ยวกัน
มนุษย์เราหลงทางชีวิตอยู่เสมอ

07-6 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

แม่ทัพตายแล้ว
กลิ่นอายการเมืองข้นจัด
เป็นการเมืองในยุคที่นักศึกษาต่อสู้ต่ออำนาจรัฐ
ต่อสู้กับความยากจน
จเด็จผูกเรื่องเข้ากับเกมออนไลน์
และสังคมเส็งเคร็งในปัจจุบัน
ให้ความรู้สึกผะอืดผอม สะอิดสะเอียน
หลายคนอาจชอบเรื่องนี้ แต่เราไม่ชอบเอาซะเลยค่ะ

หนุมานเหยียบเมือง
ว่าด้วยศาสตร์งมงายแต่โบราณ
เปรียบกับวิทยาการสมัยใหม่ ..
ความสับสน ความเชื่อ ..
ความสับสนว่าแท้จริงแล้วมันเป็นปรากฏการณ์ทางจิต
หรือปาฏิหาริย์เหนือจริง เกี่ยวกับภูตผี เทวดา และคนทรง?
เราควรเชื่อว่าตัวเองบ้า สิ่งที่เราเห็นคือภาพหลอน .. หรือความจริง?

07-3 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

ผู้เขียนเสียดสีสังคมลักลั่นของมนุษย์
ทำนองเดียวกันกับที่หน่วยงานทางวิทยาศาตร์บ้านเรา
ทำพิธีไล่น้ำ หรือขอฝน อะไรทำนองนั้น?
อันนี้อ่านแล้วเฉยๆ อ่ะ

หวังว่ากิมาซ์จะไม่พลาดอีก
เล่าถึงสึนามิ และความเชื่อของชาวมอแกน
เส้นเรื่องเหมือนจะเป็นโศกนาฏกรรม
บรรยากาศ และการบรรยายเรื่องทำให้รู้สึกอย่างนั้น
นั่งอ่านไปเกร็งไปตลอดเรื่อง
แต่ผู้เขียนกลับจบมันลงแบบเปี่ยมกำลังใจ
แฮ่ ไม่เก็ต ไม่อิน ไม่รู้สึก เพราะมัวแต่เกร็ง!

นาฏกรรมแห่งไฟ
ชอบการผูกเรื่องในตอนนี้
ผนวกสถานการณ์รายรอบที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกัน
แต่กลับเชื่อมโยงกันอยู่ด้วยสายใยบางๆ
ความสัมพันธ์แบบมนุษย์ .. เด็ดดอกไม้สะเทือนไปทั้งอำเภอ

ชอบการผูกเรื่องแบบละครซ้อนความจริง
ตอนจบในเรื่อง ยังคงพัวพันออกมาถึงหลังละครจบ
หรือมนุษย์ คือสิ่งมีชีวิตที่มีกรรมร่วมกันมาตั้งแต่ต้นแล้ว?
ชอบเรื่องนี้ค่ะ

อย่าน้อยก็สัก 5 นาที
เรื่องสั้นที่สั้นมาก เล่นกับความขัดแย้ง
การเปรียบเทียบแบบสูงสุดต่ำสุด
เป็นนักมวยหมัดน็อค ไม่รู้เป็นแนวทดลองของนักเขียนหรือเปล่า
แต่เราว่ามันมาเร็วเคลมเร็วเกินไป
ถ้าขอเวลาบิ้วท์เพิ่มสักหน่อย น่าจะอินกว่านี้

มิติทับซ้อนในโลกซ่อนเร้น
เล่าเหตุการณ์นอกใจอันแสนสามัญในสังคมปัจจุบัน
ด้วยภาพและภาษาหลุดมิติ
วิธีเล่าเรื่องแบบซับซ้อนอะไรแบบนี้
น่าจะเป็นแนวถนัดของคุณนักเขียน

เรื่องสั้นของจเด็จ มักให้ความรู้สึกอึดอัดบ่อยครั้งที่อ่าน
เรื่องนี้ก็เช่นกัน

แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-10 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-11 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

ว่าด้วยความแตกต่างระหว่างเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์
ความขัดแย้งรุนแรงในภาคใต้ ความฝัน ความจริง ..
ผู้เขียนสลับไทม์ไลน์ เล่าเรื่องซ้ำๆ ย้ำๆ
โลกของความฝัน .. โลกแห่งความจริง?

07-4 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-8 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-9 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-12 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

ลำดับเหตุการณ์ก่อนหลัง ความย้ำคิด ย้ำเพ้อของตัวละคร
เนื้อหาวกวนเหมือนเรียงหน้าผิด .. แต่เข้าใจได้
การเล่าเรื่องแบบไทม์ไลน์ผกผัน ..
เป็นแนวถนัดของผู้เขียนแน่ๆ!!

07-13 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-14 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

ไปกินมื้อเช้าที่ดาวพลูโต
หน้าที่หนึ่งที่เรื่องสั้นในเล่มนี้ได้ทำก็คือ
ก่อให้เกิดการขบ ถก ..
โยนหินลงในน้ำ เพื่อให้สังคมเกิดวงกระเพื่อม
ของการพูดคุยถึงเรื่องที่เห็นอยู่ตำตา จนเราชาชิน

07-15 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

ทีแรกเราตีความมั่วๆ ว่าผู้เขียนเล่นเรื่องความสำเร็จของมนุษย์ ..
ณ ที่สูงเหนือคณานับ ..
บนยอดเขาสูงแห่งโปแลนด์ ดวงจันทร์ หรือดาวพลูโต
มันไม่ใช่นิยายไซไฟ
แต่ดาวพลูโตคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความสูงสุด
เป็นดินแดนลี้ลับ
เป็นสถานที่ซึ่งมนุษย์จะหลบหนีความพ่ายแพ้
หลบหนีความอ่อนแอ หลบหนีตัวเองพ้น?

07-18 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

แต่แล้ว ผู้เขียนก็มาพูดถึงมนุษย์เดินดินธรรมดา
ความ (เพ้อ) ฝัน? ความแปลกแยก .. พวกพ้องของความแปลกแยก?

07-16 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

07-17 แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ

การอ่านหนังสือสักเล่ม .. บางทีก็ไม่ต้องเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมด
เราเข้าใจมันได้แบบที่เราอยากเข้าใจ
ทำตนเป็นเสาสัญญาณรับรู้อารมณ์และความรู้สึก
ที่ผู้เขียนส่งผ่านมาตามเส้นอักษร
(ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตรงกับที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อหรือเปล่า?)
บางที .. การอ่านก็ต้องการเพียงแค่นั้น

Comments are closed.