เรื่อง กะไหล่ทอง ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ ราคา 350 บาท คำเตือน .. สปอยล์เนื้อหาช่วงแรกนะคะ อันที่จริงแล้ว กะไหล่ทอง เป็นชื่อหนังสือที่ตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องเขียนขึ้นมา เขาคนนั้นคือบุรินทร์ เจนนรา .. บัณฑิตหนุ่มผู้มีอนาคตอันสดใสรออยู่เมื่อ 25 ปีที่แล้ว บัณฑิตจบใหม่ในสาขารัฐศาสตร์ นักเขียนอิสระ หัวรุนแรง ถูกจับในข้อหาคอมมิวนิสต์ (คำนวณปนเดา คืออยู่ในยุคของจอมพล ป. พิบูลสงคราม พ.ศ. 2494-2495 เหตุการณ์ที่เกิดในช่วงนั้นคือกบฏแมนฮัตตัน, , กบฏสันติภาพ, สงครามเกาหลี ฯลฯ นักหนังสือพิมพ์และนักเขียนชื่อดังถูกจับในช่วงนั้นหลายคน และที่เรารู้จักกันดีคือ ศรีบูรพา .. กุหลาบ สายประดิษฐ์) การติดคุกเพียงครั้งเดียวซึ่งกินเวลาอยู่ 5 ปี เปลี่ยนแปลงชีวิตหนุ่มน้อยที่ช่างคิด ละเอียดอ่อน มีอุดมการณ์ กลายเป็นชายที่แข็งกร้าว ต่อต้านสังคม และอมทุกข์ เขาจมอยู่กับความผิดของตนเอง ความผิดหวัง[…]

เรื่อง มายา ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ ราคา 420 บาท ณ เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในอเมริกา .. ไกลโพ้นจากสายตาคนไทยในประเทศ นักเรียนไทยกลุ่มหนึ่งได้จับกลุ่มคบหาติดต่อช่วยเหลือกันเป็นสังคมเล็กๆ ที่นั่น มีพี่เสือ หรือ ดร.ภิทูร เป็นพี่ใหญ่ผู้มีอัธยาศัยดี ทำตัวเป็นหัวหน้าดูแลเอื้อเฟื้อเหล่านักเรียนไทยด้วยกัน แล้วเมืองเล็กๆ อันแสนจะเงียบเชียบนั้น ก็กลับมีสีสันสว่างไสว เมื่อหญิงสาวสวยเปี่ยมเสน่ห์คนหนึ่ง เดินทางมาเพิ่มเป็นสมาชิกนักเรียนไทยอีกคน .. นางสาวพิตะวัน สัจจามาตย์ สัจจามาตย์ เป็นนามสกุลเก่าแก่และมีชื่อเสียงอยู่มากในสังคมไทย พิตะวันอวดอ้างตนเป็นลูกสาวของคุณอินทนิล สัจจามาตย์ สาวใหญ่เจ้ายศ ที่ครองตัวเป็นโสด และยกตนเหนือพี่น้องทั้งปวง คุณอินทนิล ซื้อตะวันมาจากครอบครัวที่ขาดหัวหน้าครอบครัว ด้วยเงินเพียงน้อยนิด แม่ของตะวันกำลังจะแต่งงานใหม่ และเต็มใจจะยกตะวันให้กับใครสักคน คุณอินทนิล เป็นคนที่ไม่มีความแน่นอนทางอารมณ์ ยามอารมณ์ดี ก็ยกย่องพิตะวันเป็นอย่างดี แต่ยามร้าย เธอก็จิกหัวใช้ และว่าร้ายอย่างเจ็บแสบ พิตะวันเติบโตขึ้นมาอย่างขาดๆ เกินๆ ในสังคมอันหรูหรา[…]

เรื่อง พาเที่ยววันวานกับคุณยาย ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ ราคา 310 บาท พาเที่ยววันวานกับคุณยาย ไม่ใช่หนังสือนิยาย เป็นหนังสือกึ่งสารคดี เล่าถึงบรรพบุรุษในสายตระกูลของผู้เขียน ซึ่งเล่าร้อยเรียงมาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ลำดับมาจนถึงรัชสมัยปัจจุบัน ผู้เขียนได้สอดแทรกเกร็ดประวัติศาสตร์ต่างๆ ควบคู่ไปกับเหตุการณ์ในช่วงชีวิตของบรรพบุรุษของท่านด้วย เหตุเพราะเรื่องราวที่เล่าเป็นชีวประวัติของบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงๆ เรื่องที่เล่า (ช่วงต้นๆ) จึงเป็นเพียงบทบันทึกเท่านั้น ไม่มีคำที่ให้อารมณ์และความรู้สึกแบบนิยาย (เฉพาะช่วงที่ไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่น) แต่ถ้าเป็นช่วงที่เล่าถึงบรรยากาศบ้านเมือง ตรงนี้อ่านสนุกค่ะ เราได้เห็นความร่มรื่น สงบ ร่มเย็น ทั้งทางกายภาพและภายในจิตใจของคนโบราณ ชื่นใจกับความอุดมสมบูรณ์ของเมืองไทยสมัยก่อน ก่อนที่จะเข้าสู่ยุคทุนนิยม ชีวิตคนไทยมีความสุข เรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นคนในระดับขุนนาง หรือบริวารก็ตาม นับได้ว่าเป็น “เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก” ในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง บ้านเดิมของคุณแม่ของผู้เขียนนั้น แต่เดิมตั้งอยู่ที่คลองสาน ดังนั้น เรื่องราวในเล่มจึงปรากฏบรรยากาศของคลองสาน ในยุคปลายรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา ให้เราคอยนึกภาพตามไปด้วย (นึกถึงเรื่อง สองฝั่งคลอง เลยค่ะ ทั้งภาพบรรยากาศ และเส้นชีวิตมีกลิ่นอายของเรื่องจริงอยู่เยอะมาก)[…]

เรื่อง เพชรกลางไฟ ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 350 บาท เพชรกลางไฟ คือชีวิตของเจ้านายกลุ่มหนึ่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว หัวหน้าครอบครัวทรงเป็นเสด็จในกรมฯ พระองค์หนึ่ง ทรงมีหม่อมต่วนเป็นหม่อมใหญ่ มีโอรสหนึ่งพระองค์คือหม่อมเจ้าอรชุน กำลังทรงศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ และธิดาอีกสี่พระองค์ คือหม่อมเจ้าหญิงอลัมพุษา, หม่อมเจ้าหญิงติโลตตมา (ท่านหญิงกลาง), หม่อมเจ้าหญิงอทริกา (ท่านหญิงนิด), และหม่อมเจ้าหญิงอรุณวาสี (ท่านหญิงเล็ก) (พระนามไพเราะทุกพระองค์เลยเนอะ ^^) ทรงมีหม่อมเรี่ยม กับธิดาคือหม่อมเจ้าเมรา (ท่านหญิงเม) หม่อมพิณ ไม่มีหม่อมเจ้า ออกจากวังไปตั้งแต่สาวๆ และหม่อมสลวย หม่อมคนสุดท้อง มีโอรสคือ หม่อมเจ้าวิสสุกรรมซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศเช่นกัน และหม่อมเจ้าหญิงอุรวศี (ท่านหญิงหลง) พระธิดาองค์สุดท้อง หม่อมต่วนผู้เป็นหม่อมใหญ่นั้นอำนาจคับฟ้า แม้จะไม่ได้เป็นเจ้านายมาแต่แรก แต่ก็เป็นบุตรสาวเจ้าพระยาคนสำคัญ ตัวเธอเองจึงสำคัญไปด้วย เมื่อเสด็จในกรมฯ สิ้นพระชนม์  หม่อมสลวยและหม่อมเจ้าหญิงอุรวศี .. ซึ่งเคยอยู่ในเรือนปั้นหยาสีเขียวหม่นอันเป็นกรรมสิทธิ์อันชอบธรรม ก็เริ่มถูกกลั่นแกล้งซึ่งๆ[…]

เรื่อง มาลัยสามชาย ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 600 บาท (2 เล่มจบ) มาลัยสามชาย เป็นเรื่องราวของผู้หญิงผู้หนึ่งที่เกิดในยุคปลายของรัชกาลที่ 5 ลอออรเป็นหญิงสาวที่มีบั้นปลายชีวิตที่สวยงาม สุขสงบ พรั่งพร้อมไปด้วยลูกหลานอบอุ่น เป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อเลยว่า กว่าที่ชีวิตจะเดินทางมาถึงวันและวัยเช่นนี้ เธอต้องพานพบกับความทุกข์แสนสาหัสในชีวิตสมรสมาแล้วถึงสองครั้ง และเนื่องจากมาลัยสามชายเป็นเรื่องราวชีวิตทั้งชีวิตของลอออรแบบยาวๆ ไม่มีไคลแมกซ์สำคัญๆ ในตอนจบ เพราะฉะนั้น รีวิวของเราอาจจะเปิดเผยเนื้อเรื่องบางส่วนเป็นระยะๆ แต่จะพยายามไม่ให้เสียอรรถรสค่ะ ลอออรเกิดในปี พ.ศ. 2446 เธอกำพร้าแม่ตั้งแต่วัยสิบขวบ คุณป้าจรวยเป็นผู้รับตัวเธอเข้าไปถวายเสด็จในวัง ยศ พลาธร เป็นบุตรชายคนเล็กในหมู่พี่สาวทั้งสี่ อันได้แก่ .. ประยูร ประยอม ประดับ ประยงค์ ของเจ้าพระยาพลาธร และท่านผู้หญิงอุ่น ด้วยว่าเมื่อยังเด็ก ลอออรติดสอยห้อยตามคุณประยงค์ พี่สาวคนหนึ่งของยศมาตั้งแต่อยู่ในวัง ลอออรจึงมีโอกาสได้รู้จักกับยศตั้งแต่ครั้งที่เขายังเป็นนักเรียนโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ก่อนจะไปเรียนเมืองนอก[…]

เรื่อง ระหว่างดอกไม้กับต้นข้าว ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 90 บาท ระหว่างดอกไม้กับต้นข้าว เล่มนี้บางจึ๋งเดียวค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย เรื่องราวของอุณา (อู่) เด็กสาวจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยจากสมาชิกในครอบครัว เธอยังกลับมาเยี่ยมบ้านทุกเดือน และก็ได้เยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าที่ยักตั้งรกรากอยู่บ้านเดิม ไม่ได้ขยับขยายหายไปไกลอย่างเธอ วิถีชีวิตที่แตกต่างระหว่างอุณาและเพื่อน สร้างความน้อยเนื้อต่ำใจให้กับหญิงสาว แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายจากไปทำงานไกลถึงเมืองหลวง แต่เธอกลับไม่เคยรู้สึกพอใจกับสิ่งที่ไขว่คว้าหาอยู่เลย ติ๊ก พนมกร คือเด็กหนุ่มแห่งเมืองหลวงผู้มีหน้าตาคมคาย เจ้าของความรักง่อนแง่นที่ทั้งเธอและเขาต่างหลงรักกันเพียงแรกพบ จากความรัก ยิ่งกลายเป็นหลงใหลใฝ่ฝันถึงกันและกันเมื่อเวลาดำเนินไป แต่อุณายังไม่วายรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่ามันเป็นเพียงความหลงเพียงชั่ววูบ ความรักของอุณาเกิดจากความฝัน เป็นความฝันร่วมกันของทั้งเธอและพนมกร แต่ในความจริงนี่สิ ต่างฝ่ายต่างยังห่างไกลจากความฝันเหลือเกิน เป็นความห่างไกลที่ยังมองไม่เห็นทางให้เดินไปด้วยซ้ำ เมื่อถึงจุดหนึ่ง อุณาเดินมาถึงทางแยกของชีวิต ถึงเวลาที่เธอต้องตัดสินใจเสียที และระหวา่งดอกไม้กับต้นข้าว เธอควรจะเลือกสิ่งไหนกันแน่? ‘ดอกไม้นั้น ถึงสวยเพียงใดก็กินเข้าไปไม่ได้อย่างข้าว’ ระหว่างดอกไม้และต้นข้าว ถ่ายทอดค่านิยมบางประการของคนในเมืองหลวง การอยู่ก่อนแต่ง การคุมกำเนิดที่ผิดพลาด[…]

เรื่อง บูรพา ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ ราคา 475 บาท หยิบเล่มนี้มาอ่านต่อกับรัตนโกสินทร์ด้วยความโชคดีค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเนื้อหาของทั้งสองเรื่องนี้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย แต่ประวัติศาสตร์ของทั้งสองส่วนส่งทอด เชื่อมโยงต่อกันพอดิบพอดี รัตนโกสินทร์จบเรื่องลงในสมัยรัชกาลที่ 3 และบูรพาเริ่มต้นเรื่องในสมัยรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ชาวต่างชาติเข้ามามีบทบาทในราชสำนัก และมีบทบาทต่อสยามประเทศมากขึ้นอย่างเห็นได้ชาติ ผู้เขียนจับประเด็นนี้ สร้างตัวละครต่างชาติให้เป็นนางเอกเสียเลย การเล่าเรื่องแบ่งออกเป็นส่วนๆ ในส่วนแรกเริ่มต้นเรื่องด้วยจดหมายของอสนี วิชชุเสนา ณ อยุธยา ลูกหลานในตรุกูลวิชชุเสนาอันสืบเชื้อสายมาจากเจ้าชายสายฟ้า (หม่อมเจ้าวิชชุประภา) และแคธรีน เบอเนตต์ ลินลีย์ การเริ่มเรื่องทำได้สมจริงจนเกือบเผลอเข้าใจผิดว่านี่เป็นเรื่องจริง และบุคคลต่างๆ เป็นเรื่องจริง จนผู้เขียนต้องมีภาคผนวกอธิบายเอาไว้ท้ายเล่ม ว่าแท้ที่จริงแล้วไม่มีราชสกุลนี้ เป็นสายสกุลที่ถูกสมมติขึ้นมาทั้งหมดทุกคน ในบางส่วนต่อมา เป็นการเล่าเรื่องจากบันทึกของแคธรีน ด้วยความที่เธอชอบอ่านหนังสือ เธอจึงเริ่มต้นที่จะเขียนดูบ้าง และมันเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้ลูกหลานในตระกูลได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในบางส่วน เป็นการเล่าเรื่องในมุมมองของเจ้าชายสายฟ้า และผู้เขียนเอง ในการเล่าเรื่องเช่นนี้ ทำให้เรามองเห็นภาพทุกมุมที่เกิดขึ้น ได้เข้าใจความรู้สึกของบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่อง โดยเฉพาะแคธรีน หญิงสาวชาวต่างชาติที่มาใช้ชีวิตในสยามยุคพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศอังกฤษ[…]

เรื่อง รัตนโกสินทร์ ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ ราคา 400 บาท เชยมากเลยค่ะ หยิบรัตนโกสินทร์มาอ่านเพราะเข้าใจว่าเป็นเรื่องยุคเดียวกันกับสี่แผ่นดิน ที่ไหนได้ รัตนโกสินทร์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์เลยทีเดียวเชียว (ตรงกับรัชกาลที่ 1 – 3) รัตนโกสินทร์ เริ่มเรื่องด้วยวิถีชีวิตของฝ่ายชาย ผิดกับที่คุ้นเคยมาจากสี่แผ่นดิน หรือนิยายส่วนมากของว.วินิจฉัยกุล และทมยันตี (ที่เขียนแนวนี้เป็นส่วนมาก) เป็นยุคคั่นกลางระหว่างอยุธยาที่เราคุ้นเคย (ในหนังสือนิยาย เพราะนิยมเขียนกันบ่อย) กับยุครัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 5 ซึ่งก็คุ้นอีก (ในนิยายเช่นกัน อิอิ) รัตนโกสินทร์จึงเป็นเหมือนส่วนเก็บตกของนวนิยายยุคที่ขาดหายไป ภาษาที่ใช้เป็นภาษาเข้าใจง่ายมากๆ อะไรที่ไม่เคยได้ยิน ผู้เขียนก็ได้อธิบายเอาไว้อย่างละเอียดโดยไม่ขัดอรรถรส หรือขาดความต่อเนื่องของเนื้อเรื่องเลยแม้แต่น้อย เปิดเรื่องที่รุ่นพ่อกับแม่ของฟัก ซึ่งเป็นคนจีนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พ่อของฟักเป็นพ่อค้า ใครๆ เรียกกันว่าเจ้าสัวนายเตา มีแม่เป็นคนไทยเชื้อสายมอญชื่อแม่พลับ มีอารับราชการเป็นล่ามอยู่ในวังหลวง คือขุนพจนาพิจิตร และมีลุงพี่ชายของแม่รับราชการในหน่วยสอดแนม คือสมิงศรีไชย ฟักมีพี่สาวร่วมมารดาคนหนึ่งชื่อส้มจีน และมีน้องชายชื่อทั่ง ล่วงเข้าแผ่นดินที่สอง บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข ในรัชสมัยของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย[…]

เรื่อง จุดดับในดวงตะวัน ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 440 บาท เรื่องราวเล่าความหลังของชายหญิงนาม เสกสุธาและปัณณิกา คนสองคนที่มีช่วงชีวิตสุขและทุกข์เกี่ยวพัน พาดผ่าน ผูกพันกันยาวนาน ว.วินิจฉัยกุลเล่าเรื่องนี้แบบอดีตวัยเด็ก (ช่วงหลังสงครามโลก) สลับกับวัยชราในปัจจุบัน พระเอกนางเอกของอาจารย์วินิตา มักจะเป็นพระเอกนางเอกที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นพระเอกนางเอกตามสมัยนิยมเท่าไร มีความเป็นคนธรรมดาสามัญอยู่สูงมาก ชีวิตมนุษย์ มีความซับซ้อนมากกว่ารักกัน แต่งงานกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตอนที่เนื้อเรื่องดำเนินมาถึงการแต่งงานของพระเอกนางเอก เรื่องราวในหนังสือจึงเพิ่งดำเนินมาได้เพียงครึ่งเล่มเท่านั้น พระเอกนางเอกของว.วินิจฉัยกุล มีเกลียด มีรัก มีโลภ มีโกรธ และมีหลง ทำผิดได้ ตกอับได้ ทำร้ายคนอื่นก็ได้ เฉกเช่นมนุษย์สามัญอย่างเราๆ ที่เคยทำผิด บางคนก็เรียนรู้จากความผิดและกลับตัวได้ และบางคนก็ทำผิดแล้วผิดอีก เสกสุธา ทำให้เราคิดถึงคุณยศ จากมาลัยสามชาย (นิดเดียวค่ะ เลวน้อยกว่ากันเยอะ 555) ชีวิตวัยเด็กเป็นความทรงจำมีค่าของใครหลายๆ คน[…]

หลังจากที่ลุ้นๆ ว่าจะว่างหรือเปล่า ในที่สุดก็ได้ไปงานหนังสือรอบที่สองเสียทีค่ะ หนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่างบหมด (ฮา) เราจึงถือโอกาสไปเก็บตกบูธที่เดินข้ามๆ ไปตอนมีถุงเต็มสองมือ ใช้เวลามากๆ เงินน้อยๆ ละเลียดคุ้ยอยู่ตามบูธร้านหนังสือเก่าค่ะ เงินน้อย คอยจังหวะฟลุ๊ค .. ซึ่งบางทีคุ้มค่ามาก ได้เจอหนังสือที่เล็งไว้ในราคาครึ่งเดียว กิจกรรมแบบนี้ทำได้ตอนมีเวลาเยอะๆ (และเงินน้อยๆ) เท่านั้น (อิอิ) สิ่งที่ทำให้ต้องกลับมางานหนังสืออีกครั้งให้ได้ คือสิ่งนี้ค่ะ .. สองนิทรรศการที่จัดร่วมกันในธีมนิทรรศการโลกคือนิยาย และนิทรรศการข้าพเจ้าได้เห็นมา ของศรีบูรพา (ข้างหลังภาพทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้ 555)   สูจิบัตรงานทั้งสองส่วนค่ะ ผลงานส่วนหนึ่งของกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพาค่ะ นอกจากในส่วนที่จัดนิทรรศการแล้ว ระหว่างเดินในงานเรายังเห็นที่บูธต่างๆ อีกเยอะค่ะ แต่ละเล่มจากแต่ละบูธ ราคาไม่เท่ากันด้วย ต้องเดินดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ธีมนิทรรศการโลกคือนิยาย อีกส่วนของนิทรรศการ “ข้าพเจ้าได้เห็นมา” ของศรีบูรพาค่ะ ชนิด สายประดิษฐ์ คู่ชีวิตของกุหลาบ สายประดิษฐ์ค่ะ เคยฟังเพลงอาลัย (เพลงเก่าที่เคยถูกนำกลับมาใช้ประกอบภาพยตร์เรื่องไอ้ฟัก ร้องใหม่โดยมาช่า)[…]