เรื่อง ดาวหางเหนือทางรถไฟ ผู้แต่ง ทรงกลด บางยี่ขัน สำนักพิมพ์ abook ราคา 255 บาท เรารู้จักตัวหนังสือของทรงกลดมาระยะหนึ่งแล้ว (ระยะหนึ่งที่ว่านี้เป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ไม่น่าจะถึง 10 ปี) รู้จักทรงกลดครั้งแรก เพราะไปสะดุดชื่อหนังสือเล่มหนึ่งของเขา “นายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา” กับอีกเล่ม “นั่งฝั่งตะวันตื่น ยืนฝั่งตะวันตก” เนื้อหาภายในหนังสือทั้งสองเล่ม คมขำ เล่นคำไม่ต่างจากชื่อหนังสือ อ่านแล้วทำให้ความคิดมันพลุ่งพล่าน ลื่นปรู๊ดปร๊าดดีไม่น้อย ดังนั้น พอเห็นชื่อผู้เขียนหนังสือเล่มนี้มีนามว่า “ทรงกลด บางยี่ขัน” ก็เป็นอันตัดสินใจได้ว่า หนังสือเล่มนี้น่าจะอ่านสนุกแน่ๆ แต่จนแล้วจนรอด เราก็ยังไม่เคยอ่านมันเสียที หนังสือเล่มนี้วางแผงออกมาหลายปีดีดักเต็มทีแล้ว กว่าเราจะตัดสินใจซื้อ ก็ทำเอาหนังสือเกือบจะหมดสต็อค แล้วใช่ว่าซื้อแล้วจะเปิดออกอ่านเลย เรายังดองเปรี้ยวดองเค็มรถไฟสายนี้เอาไว้บนชั้นหนังสืออีกนานแสนนานกว่าจะหยิบมาอ่าน ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เดาเอาว่า .. ปัญหามันน่าจะเป็นเพราะ ก่อนหน้านี้ได้ไปอ่าน “นั่งรถไฟไปตู้เย็น” ของนิ้วกลมเข้า (มันเป็นภาพจำแบบคิดไปเองว่า หนังสือสองเล่มนี้มันดูคล้ายๆ กันเนอะ)[…]

เรื่อง เสราดารัล ผู้แต่ง กิ่งฉัตร สำนักพิมพ์ อรุณ (สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์) ราคา 215 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 10 เมื่อปีพ.ศ. 2548) เสราดารัล เป็นนิยายโรแมนติค (มากๆ) ที่เรารัก (มากๆ) เล่มหนึ่ง เรียกว่า สูสีคู่คี่ไปกับแสงดาวฝั่งทะเลเลย แต่ทั้งสองเรื่องนี้ อารมณ์ค่อนข้างต่างกันสุดกู่ เพราะแสงดาวฝั่งทะเลออกจะเป็นนิยายรสขม ดราม่าจัดๆ ในขณะที่เสราดารัลกลับหวานจัด หวานจนไม่น่าเชื่อว่า นิยายที่หวานจัดเรื่องนี้เป็นนิยายที่เล่าถึงปัญหาชนกลุ่มน้อยและสงครามกลางเมือง ตอนเด็กๆ ตอนที่ได้รู้จักกับเสราดารัลใหม่ๆ เรายังเป็นนักเรียนผูกคอซองอยู่เลย ยุคนั้น รักนิยายเรื่องนี้เอามากๆ ต้องหยิบมาอ่านทุกปี ปีละ 2 – 3 รอบเป็นอย่างต่ำ แต่พอเริ่มโต อายุเริ่มเยอะ (บวกกับจำเนื้อเรื่องได้ขึ้นใจ) กลับเลี่ยนเอียนเสราดารัลไปไม่น้อย ถ้านับจากตอนนั้นถึงวันนี้ ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าไม่ได้แตะเสราดารัลมากว่า 4 –[…]

เช้าวันนี้ออกเดินทางไปไบเทค บางนาแต่เช้าค่ะ ตั้งใจจะไปด้อมๆ มองๆ ที่งานหนังสืองานใหม่ดูเสียหน่อย ตั้งใจจะไปเที่ยวเผื่อใครหลายๆ คนด้วยค่ะ ไปดูหน้าตากันหน่อยว่าประมาณไหน งานนี้จัดเล็กๆ ค่ะ แค่โซน 101 – 102 เท่านั้น ต่อจากนั้นเป็นงานกล้องหมดเลย เริ่มวันนี้เป็นวันแรกเหมือนกัน พระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เสด็จฯ เปิดงาน (งานกล้อง) ด้วยค่ะ ส่วนโซนงานหนังสือค่อนข้างโล่งค่ะ คนละบรรยากาศกันกันที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์เลย เท่าที่เดินดูทั้งหมดแล้ว พอสรุปได้ว่างานนี้เน้นคัดหนังสือโละสต็อค กับสภาพไม่ค่อยดีเอามาลดกระหน่ำค่ะ มีค่ายดังๆ มาเหมือนกัน แต่ขนหนังสือมาพอเป็นพิธี ไม่จัดเต็มเท่าตอนงานหนังสือที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์ค่ะ ข้อดีคือ เราจะได้หนังสือถูก แต่อาจจะต้องคัดเลือกกันหน่อย เพราะถูกและดีมีน้อย ต้องใช้วิจารณญาณในการดูค่ะ (แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีของดี ตาดีได้ตาร้ายเสียค่ะ) เราเริ่มเดินงานนี้จากฝั่งริมขวาสุดของงาน (อยู่หน้างานหันหน้าเข้าประตูงานนะคะ) มีบริการนวด และขายของที่ไม่ใช่หนังสือปะปนจนทีแรกเกือบเซ็ง แต่พอเดินไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเข้าโหมดหนังสือเต็มๆ ค่ะ เริ่มจากนานมีบุ๊คกันก่อนละกัน ลดคล้ายกับงานเมื่อเดือนตุลาคมค่ะ แต่คนโล่งเลือกสบายกว่ากันเยอะ[…]

เรื่อง รอยพรหม ผู้แต่ง กิ่งฉัตร สำนักพิมพ์ อรุณ (สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์) ราคา 225 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 3 เมื่อปีพ.ศ. 2546) รอยพรหม เราชอบชื่อนี้นะ กิ่งฉัตรตั้งชื่อได้ดี สรุปใจความสำคัญของเรื่องเอาไว้ด้วยคำคำเดียว รอยซ้ำที่พระพรหมลิขิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำเดิม วนเวียนจากแม่ สู่ลูก เหตุการณ์ของสองเธอ ที่เกี่ยวพันกับผู้ชายสองคน .. สองคนเดียวกัน ว่าด้วยเรื่องของปมปัญหาชีวิต ยิ่งเป็นปมปัญหาในอดีตด้วยแล้ว คนเรามันมีทางเลือกอยู่สองทาง คือขุดหลุมฝังมันลงในผืนดิน แล้วพาชีวิตเดินหน้าต่อไป หรือย้อนกลับไปแก้ปมสงสัยนั้น สะสางมันให้กระจ่าง ก่อนตัดสินชะตาชีวิตต่อจากนั้น แบบไหนผิด แบบไหนถูก และถ้าเป็นคุณ คุณจะตัดสินใจเลือกทางใด? รอยพรหม เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีชื่อว่าทาร่า .. ธาราธร ทาร่าเป็นลูกครึ่งที่เติบโตในประเทศอเมริกา เป็นกำพร้าและอยู่กับยายเพียงสองคน การตายของแม่เป็นปริศนาดำมืดในใจ เป็นสิ่งหนึ่งที่ติดค้างความสงสัยในใจมาตลอด ดังนั้นเมื่อเธอมีโอกาสได้เดินทางกลับประเทศไทย เหตุการณ์ทุกอย่างจึงดูบังเอิญคล้ายกับเป็นลิขิตของพระพรหม[…]

หอศิลป์ตาดู (หอศิลป์ตาดูไทยยานยนตร์) จัดนิทรรศการ “สมุดบันทึกธรรมชาติ” (nature diaries) ชวนชมสมุดบันทึกของเหล่านักอนุรักษ์และผู้รักธรรมชาติค่ะ โดยเจ้าของบันทึกที่ถูกนำมาจัดแสดง มีทั้งหมด 7 ท่านค่ะ ได้แก่ นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ คุณธัญลักษณ์ สุนทรมัฏฐ์ คุณสมิทธิ์ สุติบุตร์ คุณกุลพัฒน์ ศรลัมภ์ ดร.เอกลักษณ์ คันศร คุณจอม ปัทมคันธิน คุณอายุวัต เจียรวัฒนานกนก เนื่องจากช่วงนี้ลูกสาวมีภารกิจรัดตัวค่ะ หาเวลาว่างได้ยากเย็นเหลือเกิน แม่ที่แสนดีอย่างเราจึงจำใจต้องหนีมาเที่ยวคนเดียว ;P เดี๋ยวจะเที่ยวเผื่อนะจ๊ะ เจ้าลูกสาว เราออกเดินทางจากบ้านแต่เช้า เดินทางมาถึงโชว์รูมมิตซูบิชิ ปากซอยสุขุทวิท 87 โชว์รูมที่ว่านี้อยู่ริมถนนเลยค่ะ หาไม่ยาก ถ้ามาจากอโศก เลยสถานีรถไฟฟ้า (BTS) อ่่อนนุช ไปไม่ไกลค่ะ (ติดกับโรงเรียนนานาชาติเวลลส์ ป้ายโรงเรียนสีเหลือง เห็นชัดเจนมาก) เดินเข้าไปในโชว์รูม ถามประชาสัมพันธ์ ได้ความว่าหอศิลป์ตาดูฯ อยู่ข้างบนค่ะ[…]

เรื่อง หนังสือชุดประสบการณ์ห้องเรียนธรรมชาติ ตอน นกเงือก .. นักปลูกป่า ผู้แต่ง กลุ่มควบกล้ำธรรมชาติ ราคา 160 บาท เป็นผลผลิตอีกหนึ่งเล่มจากครอบครัวควบกล้ำธรรมชาติค่ะ (ได้รับมาจากคุณพ่อน้องดลน้องแดนเช่นเดียวกัน ^^) หยิบมาอ่านต่อจากเล่มแรก อันที่จริงอ่านจบไปหลายวันแล้วค่ะ แต่เพิ่งมีโอกาสนำมาเล่าสู่กันฟัง หนังสือเล่มนี้ เด็กๆ กลุ่มเดิม เขยิบก้าวหน้าขึ้นจากการเฝ้าสังเกตแมลงปอชนิดต่างๆ เล่มนี้เด็กๆ มาชวนพวกเราไปดูนกกันค่ะ แถมนกชนิดนี้เป็นนกไม่ธรรมดาเสียด้วย เป็นนกยักษ์ตัวใหญ่ที่มีรูปร่างน่าตื่นตาตื่นใจ นกที่ว่านี้ก็คือเจ้านกเงือกนั่นเองค่ะ นกเงือกเป็นอีกหนึ่งดัชนีที่ชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ (เช่นเดียวกับแมลงปอเลย) เรื่องที่นกเงือก เป็นนกหายาก และพบในป่าที่อุดมสมบูรณ์นั้น คงเป็นเรื่องที่คนทั่วๆ ไปคงจะพอเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว และนั่นทำให้ความคาดหวังที่จะได้เห็นนกเงือกของคนบางคน (เช่นเรา) เลิกคิดที่จะได้พบเห็นนกเงือกตัวจริงเสียงจริงในธรรมชาติ แต่ในหนังสือเล่มนี้ เด็กๆ ธรรมดาๆ กลับสามารถพาเราเดินป่าเข้าไปดูนกเงือกตัวเป็นๆ ในธรรมชาติได้ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ นกเงือกในธรรมชาติ ไม่ได้อยู่ลึกลับในป่าดงดิบอย่างที่เข้าใจ แค่ป่าเขาใหญ่ ปางสีดา หรือแก่งกระจาน ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนักก็มีนกเงือกให้เราดู น้าเกรียงจุดไฟให้เราอีกแล้วค่ะ ^^[…]

เรื่อง หนังสือชุดประสบการณ์ห้องเรียนธรรมชาติ ตอน แมลงปอ .. ถึงหยดน้ำสุดท้าย ผู้แต่ง กลุ่มควบกล้ำธรรมชาติ ราคา 160 บาท หนังสือชุดประสบการณ์ห้องเรียนธรรมชาติ ตอน แมลงปอ..ถึงน้ำหยดสุดท้าย เป็นหนังสือเราที่ได้รับอภินันทนาการมาจากคุณแดนสรวง พ่อน้องดลน้องแดนค่ะ สารภาพว่าเคยเห็นหนังสือเล่มนี้เตะตาอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อสักที มาวันนี้มีโอกาสได้รับ และได้เปิดอ่าน อ่านแล้วออกจะเสียดายเวลาที่ผ่านมาไม่น้อยทีเดียวค่ะ น่าจะได้อ่านตั้งนานแล้วเชียว เมื่อได้หนังสือกลับมาวันแรก เจ้าลูกสาวยึดไปอ่านก่อนค่ะ (แต่ยังอ่านไม่จบเลย ช่วงนี้มีภารกิจรัดตัวค่ะ) ระหว่างนั้น แม่เลยฉกมาอ่านก่อน อ่านไปได้หน่อยเดียว รู้สึกเลยว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เหมาะกับเด็กๆ ค่ะ ไม่ใช่หนังสือที่เหมาะกับเด็กๆ แบบที่เป็นหนังสือคุณธรรมขึ้นหิ้งด้วย แต่เป็นหนังสือที่เด็กๆ อ่านสนุก ได้ความรู้ลึกซึ้ง แต่ไม่รู้สึกหนักสมอง แถมยังปลูกฝังให้เด็กๆ รักธรรมชาติได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วย เปิดเล่มมา น้าเกรียงเป็นคนนำเข้าเนื้อหาก่อน น้าเกรียงใช้ภาษาเข้าใจง่าย เหมือนพูดกับเด็กๆ (ถึงบอกว่าเหมาะกับเด็กๆ จริงๆ ค่ะ) เล่าเรื่องของธรรมชาติที่เกี่ยวพันโยงใยกันเป็นเครือข่ายการใช้ชีวิตของสิ่งมีชีวตในโลก เด็กๆ จะได้เรียนรู้เรื่องห่วงโซ่อาหารไปโดยไม่รู้ตัว หรือถ้าพ่อแม่เป็นคนอ่านหนังสือเล่มนี้เอง[…]

หลังจากที่มีนานาโปรแกรมประดังประเดเข้ามาเมื่อวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิฯ ที่ผ่านมา และเราเองก็โลภวางแผนสาม step รักพี่เสียดายน้อง เอาเข้าจริงๆ สุดท้ายก็ไปได้แค่ที่เดียว และหนึ่งในดวงใจที่เราเลือกก็คือ … เทศกาลดูนกประจำปี 2013 ณ สถานตากอากาศบางปู ที่นี้นี่เองงงง!!! ทีแรกนึกว่าจะพลาดเสียแล้วเชียวค่ะ เพราะมีแผนไปต่างจังหวัด แต่โชคดีที่แผนนั้นยกเลิกไป สุดท้ายเลยได้มาบางปู ไกลไปหน่อย มาเดินดูนกตอนเช้ามืดไม่ไหวจริงๆ กะจะมาฟังบรรยายเรื่องเส้นสายลีลาปักษา ของคุณ Takashi Taniguchi ศิลปินชาวญี่ปุ่น แต่ก็ไม่ทันอีก สุดท้ายเลยเริ่มจากการเดินดูบูธต่างๆ ลงทะเบียนกันก่อนค่ะ สมาคมฯ มาตั้งโต๊ะรับสมัครสมาชิกวารสารค่ะ หนังสือดีๆ 2 เล่มนี้แจกที่หน้างานค่ะ บูธของ siamensis ค่ะ มี facebook ด้วยนะ (ปกติเวลาเราเจอตัวอะไรประหลาดๆ ชอบไปโพสถามในกลุ่มนี้ค่ะ) ^^ กล้องลดราคากระหน่ำ (แต่ไม่รู้ส่องได้แค่ไหนนะคะ ต้องไปลองกันดู) มีกิจกรรมให้เด็กๆ ทำค่ะ ตุ๊กตานกบนโต๊ะนี้เตะตาอยู่หลายตัวทีเดียว[…]

เรื่อง คลื่นลวง ผู้แต่ง กิ่งฉัตร สำนักพิมพ์ อรุณ (สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์) ราคา 305 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2550) เมื่ออ่าน “ดั่งไฟใต้น้ำ” จบ อดไม่ได้ที่ติดหยิบ “คลื่นลวง” ออกมาอ่านต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุ จำได้แต่เพียงว่า เมื่อตอนที่อ่านคลื่นลวงเป็นครั้งแรกนั้น รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้ชวนให้คิดถึงดั่งไฟใต้น้ำยังไงไม่รู้ และเนื่องจากว่าคลื่นลวงเป็นนิยายเรื่องค่อนข้างใหม่ของกิ่งฉัตร ซึ่งสำหรับเรานั้น จำนวนรอบที่อ่านลดน้อยลงจากนิยายเรื่องแรกๆ (ของกิ่งฉัตร) มาก นิยายเรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะอ่านไปแค่รอบเดียว แล้วเก็บเงียบเลย จำอะไรเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ไม่ได้สักอย่าง มีแค่ความรู้สึกปลายๆ ติ่งเท่านั้นที่คิดว่าควรหยิบมันมาอ่านต่อจาก “ดั่งไฟใต้น้ำ” เป็นอย่างยิ่ง มาค่ะ มาตามอ่านไปด้วยกันดูสิว่า ทำไมเราถึงตัดสินใจอย่างนั้น จากคำนำ กิ่งฉัตรบอกเราว่า “คุณชัช” จากรอยพรหม เป็นอีกคนที่ผู้อ่านถามถึงเรื่อยๆ 555 อยากจะบอกว่า เราจำอะไรเกี่ยวกับรอยพรหมไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ[…]

บ่ายวันเสาร์นี้ เราตั้งใจหอบสังขาร (ตัวเองและลูกสาว) เข้ากรุงเพื่อการนี้เลยค่ะ เทศกาลละครกรุงเทพ 2013 ซึ่งอย่างที่เกริ่นกะทันหันกันเอาไว้แล้วว่า เทศกาลละครกรุงเทพปีนี้ ย้ายจากสวนสันติชัยปราการที่เคยจัดเป็นประจำมาทุกปี มาเป็นที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ แทน เรามาถึงสถานที่จัดงานใกล้เคียงกับเวลาเริ่มงานเลยค่ะ ประมาณบ่าย 3 นิดๆ บรรยากาศเริ่มคึกคัก (ไปด้วยทีมงาน) แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะไปสิงอยู่ ณ ที่ใดดี เดินเล่นรอการแสดงแรกของปีค่ะ เวที (ฟรี) ปีนี้ มีทั้งหมด 3 เวทีด้วยกันค่ะ ประกอบไปด้วยเวทีกลาง ซึ่งจะเริ่มงานตอน 6 โมงเย็น เวทีเด็ก เป็นเวที (ฟรี) เวทีเดียวที่อยู่ชั้น 5 ของอาคาร และเวทีที่ดูจะมีการเคลื่อนไหวเป็นเวทีแรกคือเวทีนี้ค่ะ … เวทีลานหญ้า (แม้ปีนี้จะไม่มีหญ้าก็ตาม ;P) การแสดงแรกของปี “คุณปู่ซู่ซ่ากับคุณย่าหน้าบึ้ง” จาก Male/Time เป็นละครใบ้ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์และตัวแสดงมากมาย เนื้อหาน่ารัก และเป็นการเปิดการแสดงเรียกแขกที่สวยงามค่ะ คาแร็กเตอร์ของคุณปู่และคุณย่าน่ารักมาก[…]