อ่านแล้วเล่า

แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์

เรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับภาคีนกฟีนิกซ์
ผู้แต่ง เจ.เค. โรว์ลิ่ง
ผู้แปล สุมาลี
ภาพปกและภาพประกอบ อาชว์ อโพล่า
สำนักพิมพ์ นานมีบุ๊คส์
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786160447688

นอกจากจะเป็นเล่มที่หนาที่สุดแล้ว
เล่มนี้ยังเป็นเล่มที่มีเสียงเตือนระงมในตอนที่เราเริ่มอ่าน
มันเป็นเล่มที่บางคนไม่ชอบ และบางคนไม่อ่านซ้ำ
เราเลยไม่แน่ใจว่า มันเป็นเพราะหนังสือเอง
หรือเป็นที่เราเกร็งรอไปก่อนกันแน่
ที่ทำให้อัตราเร็วในการอ่านเล่มนี้เป็นไปอย่างเนิบนาบในช่วงต้น

ในช่วงต้นของเล่ม 5
เล่มนี้ .. ผู้อ่านคือผู้รองรับอารมณ์วีนของแฮร์รี่
เขากลายเป็นแฮร์รี่ผู้ขี้โมโห พลุ่งพล่าน หุนหันพลันแล่น
เป็นแฮร์รี่ในช่วงวัยรุ่น เป็นเด็กอายุ 15 ขวบ
เป็นวัยแห่งความสับสน ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ
เป็นวัยที่กำลังว้าวุ่นไปกับทุกอย่างรอบตัว
ในช่วงแรกของเล่ม เจ.เค.ถ่ายทอดความคิดอ่านของเด็กวัยนี้
ผสมกันไปกับความแฟนตาซีของโลกเวทมนต์อย่างกลมกลืน

นอกจากอารมณ์ของแฮร์รี่ในช่วงต้นที่จะทำให้เราอ่านเล่มนี้ได้ไม่ค่อยลื่นแล้ว
ตัวละครก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้อ่านช้าลง
ตอนอ่านเล่ม 4 เราก็คิดว่าผู้เขียนได้เปิดตัวตัวละครชุดใหญ่ไปแล้ว
มาเล่ม 5 เจ.เค. จัดหนักให้อีกชุดใหญ่ แนะนำตัวละครเป็นแผงเลย
แล้วเราก็ไม่แน่ใจว่า เราต้องจำชื่อทุกคนหรือเปล่า >,<
เราควรต้องโฟกัสตรงไหน

แต่ก็นั่นแหละ พอผ่านช่วงแรกมา เราอ่านมันได้เร็วขึ้น
คล้ายๆ กับเล่มอื่นที่ผ่านมา
คืออ่านช้าในช่วงปูเรื่อง และสนุกเข้มข้นในช่วงท้าย

น่าจะเป็นเพราะเล่มนี้มันหนา เนื้อเรื่องยาวและเข้มข้นอัดแน่นเต็มไปหมด
ทำให้มันผสมปนเปกันไประหว่างความชอบและไม่ชอบ
และการที่เราพอจะรู้คร่าวๆ ว่าเล่มนี้มันแย่ (สำหรับหลายๆ คน)
ก็ทำให้เราอ่านเล่มนี้ไปได้ด้วยความรู้สึกไม่แย่เท่าที่มันเป็น
เปิดใจอ่าน ยอมรับทุกความแย่ที่เกิดขึ้นกับแฮร์รี่
วางตัวเป็นคนนอก เอาอารมณ์ร่วมวางไว้ไกลๆ
เราอ่านเล่มนี้ด้วยอารมณ์ประมาณนั้นค่ะ

แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีบางอารมณ์เกิดขึ้นขณะอ่าน
มันมีช่วงที่เรารู้สึกสงสารทั้งดัดลีย์และแฮร์รี่
พวกเขาถูกฟูมฟักให้เกลียดกันและกัน
ดัดลีย์ถูกสปอยล์จนไม่รู้ถูกผิด
และแฮร์รี่ก็ถูกกดเอาไว้จนเกิดเป็นความรู้สึกเกลียด
เขาไม่ได้ถูกสอนให้เป็นครอบครัว
และมันก็น่าเศร้าใจต่อความสัมพันธ์แบบนี้

เราชอบตอนที่แฮร์รี่เรียนวิชาสกัดใจกับสเนป
เหมือนคนที่เกลียดกันสองคน ได้ลองเข้าไปในอดีต
เข้าไปในความทรงจำของกันและกัน
เปิดโอกาสให้พวกเขาได้รู้จักกันมากขึ้น ..
และอาจจะได้เข้าใจกัน?
โดยส่วนตัว เราอยากให้เจ.เค.ขยี้ตรงนี้ลงไปอีก
แอบคาดว่าอาจจะมีเพิ่มเติมในบรรดาเล่มที่เหลือ

ในแง่ของอารมณ์แล้ว มันมีความสมจริง
แฮร์รี่กำลังอยู่ในวัยรุ่น
และ .. เฮ้ยวัยรุ่น! แกก็แค่ยอมรับว่าแกเสียใจ
แกจะทำเป็นโกรธ โมโหโทโสหาพระแสงของ้าวอะไร
ส่วนดัมเบิลดอร์ก็สุขุม และปราดเปรื่อง
ประโยคของดัมเบิลดอร์ช่วงท้าย จับใจเราในหลายเล่ม
รวมทั้งในเล่มนี้ด้วย
มันเป็นบทสนทนาที่เกิดขึ้นจากผู้เขียนคนเดียว
แต่แตกต่างชัดเจนถึงบุคลิกและวัยวุฒิของตัวละคร
มีเรื่องในชมเจ.เค.อีกแล้วสินะ

แต่เรื่องที่ไม่ชมก็มีอยู่
เราไม่ค่อยอินกับการสูญเสียตัวละครสำคัญในภาคนี้
มันเกิดขึ้นรวดเร็ว และดูงงๆ
เราเคยชอบเขามากกว่านี้ในเล่มที่ 4
แต่กับเล่ม 5 ความรู้สึกที่มีต่อตัวละครกลายเป็นเฉยๆ
และนั่นอาจทำให้เราไม่เสียใจต่อการจากไปของเขาเท่าที่ควร
มันทำให้เราไม่ค่อยรู้สึกร่วมไปกับแฮร์รี่เท่าไร
บางทีอาจมีเหตุผลที่ผู้เขียนสร้างให้แฮร์รี่เป็นคนที่มุทะลุ ขี้โมโห
โกรธผิดที่ผิดทางไปหมด
อาจมากกว่าความเป็นวัยรุ่นทั่วไป
เพราะเชื่อว่า ต่อให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเฮอร์ไมโอนี่ รอน หรือแม้แต่เนวิลล์
เราเชื่อว่าพวกเขาก็จะไม่โมโหจนไม่ฟังเหตุผลแบบแฮร์รี่

และเราก็เชื่ออีกว่า เจ.เค.จะมีคำตอบให้กับความรู้สึกเหล่านี้ ..
ในเล่มต่อๆ ไป
ไปค่ะ ไปเล่มต่อไปด้วยกัน 🙂

Comments are closed.