อ่านแล้วเล่า

สะพานอธิษฐาน

DSCN1882

เรื่อง สะพานอธิษฐาน
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ
(สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์)
ราคา 185 บาท
(พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2550)

 

เป็นอีกหนึ่ง (น้อย) เล่ม ของหนังสือกิ่งฉัตร ที่เราเพิ่งอ่านไปแค่รอบเดียว
(ส่วนมากจะอ่านซ้ำกันเป็นสิบๆ รอบอ่ะนะ)
ไม่แปลกที่การอ่านทวนในครั้งนี้ จะมีค่าเทียบเท่ากับการอ่านหนแรกน่ะแหละ
ดีไปอีกแบบ เพราะอรรถรสในการอ่านรอบแรก
เรามักจะเก็บรายละเอียดได้มากกว่าการอ่านทวนรอบที่ 10 up (อยู่แล้วอ่ะนะ ;P)

สะพานอธิษฐาน เป็นนิยายไทยอีกเรื่อง (ที่เริ่มชักจะถี่) ที่หนึ่งในตัวเอกไม่ใช่คนไทย
และเรื่องก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่เมืองไทยด้วย
หนนี้ กิ่งฉัตรเลือกใช้เมืองโรแมนติคอย่างอิตาลี
เป็นฉากสำคัญให้นักเรียนศิลปะอย่างนิสราได้ออกมาเล่าเรื่องราวความรักของเธอให้คนอ่านฟัง

สะพานอธิฐาน เป็นเรื่องหวานๆ ฉากสวยๆ แบบที่นางเอกแอบหลงรักเพื่อนร่วมบ้านมานาน
เฝ้าทนดูหนุ่มน้อยชวนฝันคนนั้นเปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ นับไม่ถ้วน
กิ่งฉัตรบรรยายการแอบรักของนิสราได้เห็นภาพ
จนเรานึกย้อนวัยตัวเองกลับไปสมัยที่ยังเคยแอบรักกับเค้าอยู่บ้าง
อ่านแล้วหัวใจก็ไหวระริกตาม อินอีกแล้ว 555

นิสราหอบความเป็นคนมีน้ำใจของคนไทยมาใช้ที่อิตาลี
ทำให้ในสายตาของเพื่อนๆ อเมริกันมองว่าเธอถูกเอาเปรียบ
แต่หญิงสาวกลับมองว่า สิ่งนั้นคือความอบอุ่น คือความผูกพันแบบไทยๆ
เธอดื้อทำในสิ่งที่เพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยอย่างเป็นสุข
เธอคอยช่วยออตโต้ ชายแก่ขี้หงุดหงิดเปิดร้านขายของที่ระลึก
แบบที่ไม่ได้ค่าจ้างตอบแทนอะไร ได้เพียงพื้นที่วางโปสการ์ดฝีมือตัวเองนิดๆ หน่อยๆ
กับความอบอุ่นในหัวใจของเด็กไทยในต่างแดน แบบที่พวกฝรั่งไม่ค่อยเข้าใจ

เมื่อเธอสนิทกับออตโต้พอสมควร เรื่องราวในอดีตของเขาจึงถูกถ่ายทอดออกมาให้คนอ่านได้รับรู้
ตาแก่หน้าบึ้งเจ้าของร้านขายของที่ระลึกคนนี้นั้น
ก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าของเรื่องราวการแอบรักกันและกัน
แถมคู่ของแก ยังเป็นคู่ที่ไม่สมหวังในรักอีกต่างหาก T——-T

นานๆ จะมีนิยายรักหวานๆ เพียวๆ แบบไม่ปนฆาตรกรรมซับซ้อนซ่อนเงื่อน
ให้ต้องสืบสวนหาความจริงใดๆ จากกิ่งฉัตรมาให้อ่านสักเรื่อง
กิ่งฉัตรเพิ่มความโรแมนติคของเรื่องด้วยการใส่ฉากงานคาร์นิวัล งานเลี้ยงสวมหน้ากากเข้ามา
ซึ่งฉากนั้นก็กลายเป็นจุดหักเหสำคัญอีกจุดนึงในเรื่องอีกด้วย
จากเหตุการณ์แอบรักข้างเดียว กลายเป็นต่างฝ่ายต่างก็แอบรักกัน แต่ก็ปากแข็งและขี้ขลาดกันทั้งคู่
เหตุการณ์ผิดฝาผิดตัวดำเนินไปจนถึงปลายเรื่องเพราะต่างคนต่างเก็บความลับในหัวใจ
กว่าจะตัดสินใจกันได้ ทุกอย่างก็สายเกินไป

ไม่แปลกที่ตอนท้ายเรื่อง นางเอกจะตัดสินใจหมั้นกับคนที่ครอบครัวคิดว่าเหมาะสม
แต่ที่แปลกคือ คู่หมั้นนางเอก เป็นพระเอกรับเชิญชื่อดังสิคะ!!

“ธนัท ธนัทดุล” ว่าที่พระเอกของสาระสะมา
ที่ยังไง๊ยังไงก็ไม่เข้าใจว่าจับพลัดจับผลูรอดจากลูกพี่ลูกน้องของสาระวารีกับสาระสะมา
มากลายเป็นนิสราไปได้ยังไง
แต่อย่างน้อยก็ยังอุ่นใจว่า ถ้ากิ่งฉัตรจับธนัทมาออกโรงอย่างนี้
แปลว่าถ้ายังมีแผนให้สาระสะมาอยู่บ้าง คนอ่านก็ยังมีหวัง >,<

จดโน๊ตไว้ให้ตัวเองอ่านกันลืมหน่อยนึง

นิยายเรื่องนี้เขียนในปี 2550 ในขณะที่มนต์จันทราเขียนในปี 2541
อันที่จริงมายาตวันซึ่งกินเวลาคาบเกี่ยวกับมนต์จันทรานั้น ถูกตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 2536 (หนักเข้าไปอีก!!)

นิยายเรื่องนี้เริ่มต้นในปี 2550 แต่ตอนจบเรื่อง
และมีบทของธนัทเข้ามาข้องเกี่ยว เป็นเวลาถัดจากเริ่มเรื่องไปอีก 5 ปี (ซึ่งก็ควรจะ 2555)
แต่ในเรื่องนี้อ้างถึงเหตุการณ์ที่ธนัท เคยได้พบสาระสะมาเมื่อ 2 – 3 ปีก่อนเป็นครั้งแรก
(ในฉากท่านผู้เฒ่า 28 ดีกรีนั่นแหละ)
นับเล่นๆ (สมมติมั่วๆ) ว่าแม้นิยายเรื่องนี้จะถูกเขียนขึ้นในปี 2550
แต่ในความเป็นจริงแล้วน่าจะเกิดเหตุขึ้นในปี 2539 – 2544

ในเรื่องสะพานอธิษฐานนี้ กิ่งฉัตรได้เพิ่มเติมรายละเอียดของฉากมอบไวน์ 28 ดีกรี
ให้ “ท่านผู้เฒ่า” ธนัท ธนัทดุลเพิ่มขึ้นอีกหน่อย
และได้รับรู้ตัวตนของธนัท (ว่าที่) พระเอกของสาระสะมาเพิ่มขึ้นอีกเยอะๆ
ยังคงหวังอยู่ลึกๆ ว่า โอกาสที่เราจะได้อ่านเรื่องราวของคู่นี้ยังพอมีอยู่บ้าง
ตราบใดที่ยังมีโอกาส ก็คงต้องหวังกันต่อไป ใช่มั๊ยคะ? ^^”

 

นึกว่าตัวเองจะแก่เกินอ่านนิยายโรแมนติคแล้ว
แต่พอไล่อ่าน “สะพานอธิษฐาน” มาจนถึงตอน (ใกล้) จบ
น้ำตาก็ไหลเป็นเผาเต่า นั่งสะอื้นฮักๆ อยู่คนเดียว
พล็อตเรื่องแอบรัก ยังคงโรแมนติคเสมอ ไม่ว่าเรื่องราวตอนจบจะเป็นอย่างไร
สำหรับใครที่เคยแอบรักแล้วอยากย้อนวันเวลาแห่งอดีตอีกครั้ง
แนะนำให้หยิบสะพานอธิษฐานมาลองอ่านดูสักครั้งนะคะ
ขอให้มีความสุข (เคล้าน้ำตา) ในการอ่านค่ะ ^^

 

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง : มนต์จันทรา

 

 

Comments are closed.