อ่านแล้วเล่า

แตกสลาย

เรื่อง แตกสลาย
ผู้แต่ง มินะโตะ คะนะเอะ
ผู้แปล ธนพล ศักดิ์สมุทรานันท์
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161841782

ไม่รู้ทำไม เรารู้สึกกลัวหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่หน้าแรกๆ
แม้ว่ามันจะเริ่มต้นคล้ายการปลอบประโลมเด็กหญิงที่กำลังจมอยู่ในความทุกข์
แต่มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนคำปลอบอันหลอกลวงของปีศาจ
ที่มีความร้ายกาจซ่อนอยู่ระหว่างบรรทัด
ในตอนที่เริ่มอ่าน เราเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ไม่ไว้ใจในตัวอักษรของผู้เขียน
ลุ้นตลอดเวลาว่า คุณผู้เขียนจะพลิกชะตาชีวิตเด็กหญิงคนนี้ลงบนบรรทัดไหน
เป็นการอ่านจดหมายปลอบ ที่ไม่ได้ช่วยฮีลใจเอาเสียเลย
เหมือนกำลังดูหนังผีตุ้งแช่ .. ที่ไม่รู้ว่าผีจะแฮ่! ออกมาตอนไหน

เป็นอีกครั้งที่ตัวละครเริ่มต้นที่ชั้น ป.4
อะกิโกะ เป็นเด็กหญิงที่พ่อป่วยร่างกาย และกำลังจะเสียชีวิตในอีกไม่นาน
ในขณะที่แม่ป่วยใจ มีชีวิตที่สลับกันระหว่างโหมดมนุษย์ กับโหมดตุ๊กตา
โดยที่มีโหมดนั่งเฉยๆ ไม่รับรู้อะไรยาวนานกว่าแบบไม่มีกำหนด
หลังจากพ่อจากไป เธอจึงต้องดูแลทุกอย่างในชีวิตด้วยตัวเอง

การเล่าเรื่องผ่านตัวละครหนึ่ง ตั้งแต่เล็กจนโต
ผู้เขียนทำให้เราเชื่อได้ จากสำนวนการเขียนที่เปลี่ยนไป
เรื่องที่เล่าผ่านหนูน้อย ป.4 ค่อยๆ เติบโตขึ้นเป็น ป.5 ป.6 ม.1 ม.2 ..
นอกจากภาษาที่เปลี่ยนไป
ทั้งความเชื่อ และทัศนคติของตัวละครก็พัฒนาขึ้นอย่างสมจริงด้วย

เรื่องเริ่มต้นด้วยจดหมายฉบับหนึ่ง
เป็นจดหมายจากอะกิโกะในวัย 30 เขียนถึงอะกิโกะที่อยู่ในวัย 10 ขวบ
จดหมายกลายเป็นเสมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
ช่วยให้เธอผ่านชีวิตที่ยากลำบากนี้ไปในแต่ละวัน
เรื่องราวในบทต่อๆ มา ถูกเล่าในรูปแบบของจดหมายเช่นกัน
เป็นจดหมายที่อะกิโกะในวัย 10 ขวบ
เขียนจดหมายตอบจดหมายปริศนาฉบับแรกฉบับเดียวนั้น
เรื่องที่เล่าในแต่ละวัน จึงก้าวกระโดดตามจังหวะเวลาที่ห่างกันของจดหมายแต่ละฉบับ

ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี จากประถมถึงมัธยมต้น
เกิดเรื่องร้ายและดีสลับกันไปในชีวิตของอะกิโกะ
เป็นการสลับที่ผู้เขียนไม่ปล่อยให้เธอมีความสุขอยู่ได้นาน
มันมักเกิดเรื่องแย่ๆ ให้เธอต้องข้ามผ่านโดยลำพังอยู่บ่อยๆ

ผู้เขียนสร้างตัวละครที่ฉลาดพอ
อะกิโกะวางตัวอย่างชาญฉลาด เมื่อถูกกลั่นแกล้งในห้องเรียน
แต่ถึงอย่างนั้น การกลั่นแกล้งก็มีการไต่ระดับที่มากขึ้นไปอีก
หากตัวละครไม่ฉลาดพอ
เราอาจนำความเครียดที่เกิจากการอ่านไปลงที่ตัวละคร
แต่เมื่อเธอทำดีอย่างที่สุดแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นเหตุการณ์เลวร้ายนั้น
คนอ่านจึงได้แต่แบกรับความกดดัน ที่ถูกทับถมร่วมไปกับตัวละครด้วย
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วมือเท้าจิกไปหมด
หายใจหอบถี่และรู้สึกเหนื่อย
เป็นหนังสือที่สร้างความเครียดให้กับคนอ่าน
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วเหนื่อยจนต้องร้องขอชีวิต

นอกจากฉลาด อะกิโกะยังเป็นตัวละครที่เข้มแข็งมาก
เธอเข้มแข็งอย่างน่านับถือ
แต่ไม่ว่าอย่างไร คนเราก็ต้องมีลิมิต ..

ทีแรก เราเข้าใจไปว่านี่เป็นเรื่องของเด็กหญิงคนเดียว
แต่เมื่ออ่านมาจนถึงตอนหนึ่ง
เรื่องก็ปรากฏตัวละครสำคัญเพิ่มขึ้นอีก ทีละคน
ทุกคนมีความพังในแบบของตัวเอง
นี่คือเรื่องราวของคนพังๆ ที่มาอยู่รวมกัน
ช่วยเหลือและโอบอุ้มกัน

ตอนที่อ่าน เราดูดซับความรู้สึกแย่ๆ ของตัวละครเอาไว้กับตัว
แม้แต่ตอนที่ผู้เขียนไม่ได้เขียนเล่าเอาไว้ให้ชัดเจน เราก็รู้สึก
แม้ว่าตลอดทั้งเรื่องจะมีกราฟอารมณ์ขึ้นลงอยู่บ้าง
แต่ทั้งหมดคือความหดหู่ต่อเนื่อง ยาวนาน
แม้กระทั่งในตอนจบ แสงแห่งความหวังก็ยังถูกพรางรางเลือน
จวบจนหน้าสุดท้าย ก็ยังไม่มีความโล่งใจที่อ่านจบเลย
เป็นหนังสือแห่งความมืดมนโดยแท้

Comments are closed.