เธอ เขา เรา และร้านหนังสือ

เรื่อง เธอ เขา เรา และร้านหนังสือ
ผู้แต่ง สุพัตรา
ภาพประกอบ โลเล
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
(สนพ. ในเครืออมรินทร์)
ราคา 159 บาท
เราหัดซื้อหนังสือเองตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ
เงินค่าขนมแค่วันละไม่กี่บาท เก็บเล็กผสมน้อยให้ได้ครบ 10 บาทในหนึ่งอาทิตย์
เพื่อรอคอยวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แม่จะพาไปร้านหนังสือ
ร้านหนังสือร้านแรกที่อยู่ในความทรงจำ เป็นร้านหนังสือแบกะดินในจังหวัดที่ไม่ไกลกรุงเทพฯ นัก
ในร้านที่ว่านี้ จะมีกองขายหนังสือราคา 3 เล่ม 10 บาทอยู่มุมหนึ่ง
(ซึ่งส่วนมากเป็นหนังสือเล่มเล็กๆ บางๆ)
เราได้รู้จักนิกกับพิม, ชาร์ล็อต แมงมุมเพื่อนรัก, ฉันอยู่นี่ศัตรูที่รัก, ข้างหลังภาพ ฯลฯ ก็จากร้านหนังสือร้านนี้
เมื่อกาลเวลาผ่านไป และชีวิตเราได้เดินเข้าเดินออกร้านหนังสืออีกหลายร้าน
แต่ก็ยังคงหลงเสน่ห์ของหนังสือมือสองไม่เสื่อมคลาย
สายวันหนึ่งที่ร้านคิโนะฯ ปกหนังสือเล่มนี้ก็ดึงดูดสายตาเรา
อ่านชื่อแล้วก็ยิ่งโดนเข้าไปใหญ่ เพ้อฝันไปไกลว่าจะได้อ่านอะไรแบบที่คนรักหนังสือเหมือนกันจะเข้าใจกัน
อ่านคำโปรยปกหน้าปกหลังก็โอเค ภาพประกอบก็โอเค
ใช้เวลาไม่นานในการตัดสินใจ เราก็ได้หนังสือเล่มนั้นติดมือกลับบ้านมาจนได้
หลังจากซื้อมาแล้ว และเปิดอ่านดู พบว่า …
เราเป็นคนรักร้านหนังสือเพราะหนังสือ
ต่างมุมมองกับผู้เขียนหนังสือเล่มนี้นิดหน่อย (อันนี้อ่านจากคำนำ)
ผู้เขียนเจาะประเด็นไปที่ผู้คนในร้านหนังสือเสียมากกว่า
อ่านคำนำจบ ก็ตั้งคำถามแรกขำๆ เอาไว้ว่า “แล้วจะมีคนแบบเราในร้านหนังสือของผู้เขียนบ้างไหม?”
แล้วเราก็สะดุดคะมำหนที่สองค่ะ
เพราะคำโปรยไม่เกี่ยวกับคำนำ และคำนำก็ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาอีก -*-
อ่านจนจบถึงได้เข้าใจว่าผู้เขียนแบ่งหนังสือ (เล่มบางๆ) นี้ ออกเป็น 3 พาร์ท
คือ พาร์ทแรก บอกเล่ากระบวนการทำร้านหนังสือเอง ร้านเล็กๆ ในฝันของใครหลายคน
เล่าถึงความยากลำบากในการเปิดร้านหนังสือตามฝัน
ความผิดหวังที่เบื้องหลังความฝันมันมีรายละเอียดยิบย่อยชวนทลายฝัน
โดยส่วนตัวเราเอง ในทุกวันนี้ แม้เราจะหลงใหลในร้านหนังสือขนาดเล็ก
แต่เราก็มักที่จะเดินเลือกดูหนังสือในร้านใหญ่ๆ มากกว่า
(แต่ถ้าแถวบ้านมีร้านหนังสือเล็กๆ นั่นก็อีกอย่างนึงนะ คงไปขลุกเลยทีเดียวเชียว ^^)
แต่ถ้าอยู่ไกลๆ แบบต้องถ่อออกจากบ้านแล้วล่ะก็
ไหนๆ ก็ต้องไป ขอไปร้านเดียวใหญ่ๆ เดินดูให้ชุ่มปอดก็แล้วกัน อะไรประมาณนั้น
พาร์ทที่สอง ค่อยเริ่มสนุกขึ้นมาหน่อย
เพราะไปเล่าถึงนักฝันตัวเล็กๆ ที่ (คงจะ) เคยอยากเปิดร้านหนังสือมาก่อน
และในวันนี้ก็มีร้านหนังสือเป็นของตัวเอง หล่อเลี้ยงความฝันให้อยู่รอดในชีวิตจริง
มีทั้งร้านเล็กๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในมุมลึกลับต่างๆ และร้านใหญ่ๆ ค่ายดังๆ
แบบที่มีสำนักพิมพ์ มีฝ่ายจัดจำหน่ายกระจายหนังสือเป็นของตัวเอง
เนื้อหาในส่วนนี้ค่อยอ่านเพลินขึ้นมาหน่อย
โดยส่วนตัว เราชอบบทที่เขียนถึงร้านหนังสือเล็กๆ มากกว่าร้านใหญ่ๆ
ที่ชอบที่สุด เห็นจะเป็นบทที่พูดถึงร้านบุ๊คโทเปีย กับร้านช้าง
ตรงนี้ค่อยตรงกับที่หวังเอาไว้ตอนที่อ่านคำนำขึ้นมาหน่อย
ในช่วงนี้ เราได้เห็นที่มาที่ไปของแต่ละร้านหนังสือ โดยเฉพาะร้านดังๆ
ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไร มีความตั้งใจอย่างไร
ทำให้พออ่านแล้ว จึงพอจะมองภาพได้เข้าใจว่า
“อ๋อ .. เพราะอย่างนี้นี่เอง ร้านนี้ถึงจัดร้านแบบนี้” ทั้งๆ ที่เป็นร้านหนังสือเหมือนกัน
แต่ว่าแต่ละร้านก็ให้ความสำคัญกับสินค้าประกอบอื่นๆ ต่างกันออกไป
(ในส่วนนี้ แม้หนังสือเล่มนี้จะเพิ่งตีพิมพ์เป็นครั้งแรก
แต่เนื้อหาบางส่วนเราว่างค่อนข้างเก่านะ
ไม่แน่ใจว่าเป็นการรวบรวมผลงานจากนิตยสารอื่นๆ ที่เคยเขียนเอาไว้นานแล้วหรือเปล่า?)
พอมาถึงพาร์ทที่สาม พาร์ทนี้พูดถึงตัวตนของนักเขียนเลยค่ะ
ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่คงเส้นคงวาอีกเช่นกัน
อย่างบทที่พูดถึงนิ้วกลม เราว่าผู้เขียนเขาเขียนถึงในด้านทั่วๆ ไปนะ
คือเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้อยู่แล้ว อ่านเหมือนไม่อ่านอ่ะ
แต่พอเป็นเรื่องที่พูดถึงก้อง ทรงกลด อันนี้โอเค มีข้อมูล
คือพอดูรวมๆ แล้วเหมือนว่า ไม่รู้จะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ดีหรือไม่ดี
ชอบหรือไม่ชอบน่ะสิ บางส่วนก็โอเค แต่บางส่วนก็งั้นๆ เสียเหลือเกิน -*-
และอย่างที่บอกว่าหนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 พาร์ทนี่แหละ
แต่!! คำโปรยและคำนำ กลับไม่ครอบคลุมทั้งหมด ยกแค่บางส่วนมาพูด
คือถ้าเป็นคนปกติไม่อ่านคำนำ ก็คงไม่ติดใจงงสามตลบเหมือนเราอ่ะนะ
ช่วยไม่ได้ ดันไปงงเค้าเอง -*-
ทีหลังเราเลยต้องค่อยๆ อ่านไป ปรับทัศนคติระหว่างอ่านไปด้วยตลอด
เสียดายที่เลือกบทเปิดมาไม่เวิร์ก (ในความรู้สึกเรานะ)
ทำให้ความนิยมในใจตกฮวบฮาบตั้งแต่เริ่มอ่านทีเดียว
เป็นการอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับหนังสือแบบเครียดๆ (ในช่วงแรกๆ)
ไม่รื่นเริงบันเทิงลั้นลาอย่างที่คิดไว้แม้แต่น้อย
เราว่าหนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่คิดจะเปิดร้านหนังสือ
มากกว่าคนที่รักจะเดินดูหนังสือในร้านหนังสืออย่างเรา
เอ … แต่คิดอีกที บางทีถ้าคนอยากเปิดร้านหนังสือได้อ่าน
อาจจะพาลหายอยาก ดับฝันเอาเสียดื้อๆ ก็ได้!!
ถ้าพูดรวมๆ ทั้งเล่มก็คือ บางเรื่องก็เขียนได้ดี อ่านสนุก มีเกร็ดแปลกๆ ที่น่าสนใจ
แต่บางเรื่องก็ไม่สนุกเอาซะเลย เรื่องที่เล่าก็ไม่ได้บอกเบื้องลึกเบื้องหลังซับซ้อนอะไรมาก
คล้ายๆ ฟังเพื่อนสักคนบ่นให้ฟังมากกว่า
สรุปว่าผิดคาดนิดหน่อย ผิดหวังเบาๆ ความนิยมขณะอ่านขยับขึ้นขยับลงตามเรื่องที่อ่านนั่นแหละ
Comments are closed.