อ่านแล้วเล่า

หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ

เรื่อง To Read or Not Read. That Is My Question.
หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ
ผู้แต่ง Jimmy Liao
ผู้แปล วีรนาถ โชติพันธุ์
สำนักพิมพ์ abook
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786163272157

ทั้งๆ ที่ชอบหนังสือ แต่ไม่ค่อยประทับใจกับเล่มนี้เท่าไร
คุณจิมมี เลี่ยว ในเล่มนี้แตกต่างออกไปจากเล่มอื่นๆ
มันมีความเป็นมิตร มีอารมณ์ขันเสียดสีนิดๆ และมีเด็กเต็มไปหมด
มันพูดถึงหนังสือในหลากหลายแง่มุม
ไม่ได้ชี้นำไปในทางใดทางหนึ่ง

แต่นั่นก็ทำให้มันไม่สุด มันเรื่อยๆ ไม่โดนใจเราไปสักทาง

หากโลกนนี้ไม่มีหนังสือ เปิดเรื่องขึ้นด้วยตัวละครหนุ่มน้อยคนหนึ่ง
พูดกับเราว่า ร้านหนังสือแถวบ้านเขากำลังจะปิด
เขารู้ก่อนใครเพื่อนเลย เพราะร้านนั้นเป็นร้านของคุณพ่อของเขาเอง
ทุกวันนี้ คนไม่ค่อยซื้อหนังสือตามร้านเล็กๆ กันแล้ว
ซื้อออนไลน์ง่ายกว่า
แถมยิ่งไปกว่านั้น คนเรายุ่งขึ้น ไม่มีใครมีเวลาอ่านหนังสือกันแล้ว

เด็กชายคนนี้ก็เลยจัดเสวนา โดยชวนเพื่อนๆ ที่เคยมาซื้อหนังสือที่ร้าน
ให้มาร่วมออกความเห็นด้วยกันว่าทำไมคนถึงไม่อ่านหนังสือกันแล้ว
ปรากฏว่าเด็กๆ มากันครบ ทุกคนมาประชุมกัน
เด็กชายคนที่เป็นลูกเจ้าของร้านหนังสือที่กำลังจะปิดเล่าว่า
ทำไมร้านจึงจะปิด
และพ่อของเขา โศกเศร้าเพียงใดเมื่อตัดสินใจจะปิดร้าน

พ่อของเขาเป็นนักรวบรวมคำคม
หนังสือเล่มนี้จึงเต็มไปด้วยคำคมจากผู้ที่อ่านและเขียนหนังสือเต็มไปหมด
เด็กๆ ที่มาประชุม ออกความเห็นเกี่ยวกับคำคมพวกนั้นด้วย
นี่คือบรรยากาศของหนังสือโดยตลอดทั้งเล่ม

มีคำคมที่น่าสนใจอยู่หลายคำ
แต่ทิศทางคำคมโดยมากไม่ได้นำพาให้เรื่องราวเดินไปในเส้นเดียว
ไม่มีฉากจบที่วางแผนเอาไว้ชัดเจน
หนังสือเล่มนี้จึงไม่มีไคลแมกซ์
มันจบแบบจางๆ และไม่มีจุดพีค

เราชอบหนังสือเล่มนี้นะ แต่มันไม่สุด
ชอบประมาณกลางๆ ค่ะ

ปล. สิ่งที่สร้างความไม่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งค่ะ
เราเพิ่งเปิดอ่านเล่มนี้เป็นครั้งแรก แต่ไสกาวแย่มาก
หนังสือเกือบจะหลุดแยกออกมาเป็นแผ่นหลายครั้ง
ทั้งๆ ที่ไม่ได้เปิดหน้ากว้างมาก
มันทำให้เราเข็ด ถ้าจะหยิบมาอ่านในครั้งต่อไป
และก็น่าเสียดาย ถ้ามันจะถูกหยิบมาอ่านเพียงครั้งเดียว

Comments are closed.