อ่านแล้วเล่า

ลำเนาลม

08 ลำเนาลม

เรื่อง ลำเนาลม
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ
(สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์)
ราคา 325 บาท
(พิมพ์ครั้งที่ 4 เมื่อปีพ.ศ. 2547)

กิ่งฉัตร เปรียบชีวิตของตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้ว่า …
เป็นเสมือนว่าวที่ลอยกินลมอยู่บนท้องฟ้า
แต่ละคน ก็มีว่าวชีวิตของตัวเองที่จะต้องชักเชิดควบคุมกันเอง
ในขณะที่ผู้คนแวดล้อม และสถานการณ์ต่างๆ คือแรงลมที่พัดพา
บางครั้งลมแรง บางครั้งลมอ่อน ให้ผู้ที่ถือสายป่านต้องคอยชักเชิดว่าวของตัวให้ยังลอยลมอยู่ได้
ลำเนาลมเรื่องนี้จะพัดพาว่าวของแต่ละคนให้ลอยได้สวยงามหรือไม่ .. อย่างไร ไปติดตามกันค่ะ

เราอ่านนิยายเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ลำเนาลมยังลงตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารสกุลไทย
ตอนนั้นอ่านได้แค่อาทิตย์ละตอนเดียว แถมต้องรออีกตั้ง 1 อาทิตย์ ถึงจะได้อ่านตอนต่อไป
เลยไม่รู้สึกอะไรเท่าไร
แต่พอลำเนาลมจบรวมเล่มออกมา .. โอ้แม่เจ้า!! อะไรมันจะหนาขนาดนี้เนี่ยะ
จำได้ว่าตอนออกใหม่ๆ ลำเนาลมเป็นนิยายของกิ่งฉัตรที่หนาที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว
(แม้ว่าตอนนี้จะถูกเพียงใจที่ผูกพันแซงหน้าไปแล้วก็ตาม)

หลังเหตุการณ์วันนั้นจนมาถึงวันนี้ ลำเนาลมถูกหยิบมาอ่านน้อยมาก
แม้ว่าตอนออกรวมเล่มมาใหม่ๆ เราจะหยิบมาอ่านบ่อยหน่อย
แต่พอมายุคหลังๆ หยิบนิยายกิ่งฉัตรมาอ่านเล่นทีไร เป็นต้องนึกถึงเล่มอื่นก่อนเล่มนี้ทุกที

สาเหตุหนึ่ง คงเป็นเพราะความหนา และพกยากด้วยแหละ
แต่สาเหตุหลักจริงๆ คือ ลำเนาลมไม่เหมือนนิยายเรื่องอื่นของกิ่งฉัตร
เพราะเป็นไพรัชนิยาย ที่เรื่องราวหลักๆ เกิดที่ปารีส
(จริงๆ แสงดาวฝั่งทะเลก็เป็นไพรัชนิยาย แต่เรากลับรักเรื่องนั้นมากๆ)
ลำเนาลมไม่เชิงเป็นนิยายท่องเที่ยวเสียอย่างเดียว
แต่เน้นหนักไปถึงชีวิตนักเรียนนอกเน้นๆ มากกว่าแสงดาวฝั่งทะเลมาก
เล่าถึงความสัมพันธ์กันในหมู่คนไทย ซึ่งออกแนวดราม่าหนักอกไม่น้อย
นั่นทำให้ลำเนาลมซีเรียสเกินกว่าจะหยิบมาอ่านเล่นเพื่อการผ่อนคลาย

จิลลา สาวน้อยช่างฝัน อารมณ์อ่อนไหวและอ่อนต่อโลก
โกรธง่ายหายเร็ว และไม่คิดอะไรมาก
ชเล นักศึกษาปริญญาโทมาดคุณครูสุดเฮี้ยบ
ตรง แรง ละเอียด จุกจิก จนบางครั้งดูเหมือนคนไม่มีน้ำใจ
เจ้าระเบียบ รักความถูกต้อง  และวางตัวเป็นพี่เลี้ยงของจิลลาเสมอๆ

การใช้ชีวิตในต่างแดน
เป็นแรงกดดันอย่างหนึ่งที่จะทำให้คนเราหันด้านที่เป็นตัวตนที่แท้จริงออกมาเร็วขึ้น
เพื่อนที่น่าจะมีพื้นที่ส่วนตัวระหว่างกันเหมือนเพื่อนที่คบกันในเมืองไทย
กลายเป็นคนที่ต้องอยู่ด้วยกันตลอด ข้อเสีย ข้อขัดใจไม่ถูกใจต่างๆ
เลยเหมือนจะถูกขยายให้เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าความเป็นจริง

รูมเมทสองคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว
และเริ่มเห็นความแตกต่างนั้นชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ต่างๆ แทรกเข้ามา
รอยร้าวที่ค่อยๆ เกิดขึ้นทีละนิด ถูกขยายกว้างขึ้นเพราะผู้ชายคนหนึ่ง .. กันตยศ

อีกสองชีวิตที่ค่อนข้างจะเป็นปัจจัยสำคัญของเรื่องก็คือ ..
สองลูกพี่ลูกน้อง โก้ คมกฤช กับ กัน กันตยศ
นายโก้ ที่เปิดตัวมาเป็นนายไม่ได้เรื่อง รักสนุก ชอบสบาย
ปากมาก ขี้โอ่ ชอบเป็นจุดสนใจของกลุ่ม
ภายนอกทำตัวดูดี มีเสน่ห์ที่ใครๆ มักไม่โกรธ
จึงทำให้เขามีนิสัยชอบเอาเปรียบคนรอบตัวโดยที่บางทีเจ้าตัวเองก็ไม่ทันคิด
ส่วนนายกัน ผู้มีศักดิ์เป็นน้อง เปิดตัวด้วยมาดผู้ชายสุภาพ น่ารักมีเสน่ห์
พื้นฐานเดิมเป็นลูกคนเล็กของบ้านที่ประสบความสำเร็จกันทั้งครอบครัว
ในขณะที่กันตยศเป็นคนที่ด้อยที่สุดในบ้าน เป็นตัวไม่ได้เรื่องของพ่อ
ในทันทีที่เขาได้มาเรียนเมืองนอก จึงเหมือนนกน้อยในกรงทอง
ที่จู่ๆ ก็ถูกปล่อยให้ได้รับอิสรภาพ
นกที่ใช้ชีวิตนอกกรงไม่เป็น แถมยังลำพองตัว
จะโทษสถานการณ์หรือครอบครัวก็ได้ทั้งนั้น
ที่ท้ายที่สุด ชีวิตที่อ่อนหัดของคนสองคนก็โคจรมาพบกัน
และท้ายที่สุด ต่างฝ่ายก็ต่างพากันจับมือกันร่วงไม่เป็นท่า
และเช่นเคย โชคร้ายตกเป็นของฝ่ายหญิง และโชคดีเป็นของฝ่ายชายอย่างไม่ยุติธรรม

การทำความผิดในนิยายของกิ่งฉัตรหลายเรื่องมักจะเริ่มต้นจากความเห็นแก่ตัวเล็กๆ น้อยๆ
คนทำมักจะคิดปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นอะไรหรอก
จากนั้นมันจะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นตามความเคยชิน
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที ความไม่เป็นไรนั้น ก็กลายเป็น “เป็นไร” จนเกินแก้
ลำเนาลมก็เช่นกัน
ความสัมพันธ์ของกันตยศและจิลลา เริ่มต้นด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
จิลลาผู้มีนิสัยโหยหาความรัก และต้องการการยอมรักอยู่ลึกๆ
หญิงสาวเปิดเผย เอาอกเอาใจ ทุ่มเท เป็นแม่บุญทุ่ม
เริ่มจากทุ่มเททีละเล็กละน้อย
และกันตยศก็เป็นฝ่ายรับแบบเกรงใจทีละเล็กละน้อยเช่นกัน ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นเคยชิน
จนวันหนึ่ง วันที่มาถึงทางที่จะต้องเลือก
ความเห็นแก่ตัวเล็กๆ น้อยๆ ก็บอกให้เขาโกหกอีกนิด เพื่อไม่ให้ความเคยชินนั้นสูญหายไป
กว่าจะรู้สึกตัวอีกที คนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ก็กลายเป็นคนเลวไปเสียแล้ว

จะว่าไป เราก็อ่านเรื่องราวการอยู่ก่อนแต่งของนักเรียนไทยในต่างแดนมาสองเรื่องติด
ตัวละครหนึ่งในท้ายๆ เรื่องค่าของหัวใจ ก็เสียคนเพราะหลงผิดในความรักมาคนหนึ่งแล้ว
พอมาเจอจิลลาซ้ำสองในเหตุการณ์แทบจะเหมือนกันเป๊ะ
ทำเอาแหยงๆ ถึงอนาคตลูกสาวตัวเองไปไม่น้อย
เพราะทั้งตัวละครในค่าของหัวใจ หรือจิลลา ต่างก็เป็นเด็กดี มาจากครอบครัวดี
ได้รับการสั่งสอนดีๆ กันมาแล้วทั้งนั้น แต่ก็ยังพลาดได้ น่ากลัวจริงๆ

ถ้าจิลลากับกันตยศเป็นคู่จูงมือกันร่วง
ชเลกับศวัส กลับเป็นคู่ที่จูงกันรุ่ง
จากคนที่เป็นแค่คนไทยในต่างเมือง คบหากันเป็นกลุ่มใหญ่
จะเจอกันก็เฉพาะตอนนัดสังสรรค์คนไทยตามโอกาส
แต่เมื่อมีโอกาสได้พบกันบ่อยขึ้น ต่างฝ่ายต่างหันด้านต่างๆ เข้าหากัน
กลับพบว่า ทั้งสองคนมีมุมดีๆ ที่คิดเห็นตรงกันอยู่ไม่น้อยทีเดียว

เมื่ออ่านจากต้นเรื่องมาจนถึงท้ายเรื่อง .. จะว่าไป ลำเนาลมก็สนุกดีเหมือนกัน
การกลับมาอ่านอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้อ่านมาเป็นสิบปี
แบบจำรายละเอียดอะไรแทบไม่ได้นั้น ทำให้ไม่ต่างกับการอ่านใหม่สักเท่าไร
แถมเป็นการอ่านใหม่แบบมีอคติลึกๆ ด้วย เพราะตอนเด็กๆ ไม่ค่อยชอบเรื่องนี้
เริ่มจำได้ถึงสาเหตุของการไม่ชอบคลับคล้ายคลับคลาว่า
ไม่ชอบผลที่เกิดขึ้นกับนางเอก (จิลลา)

การอ่านลำเนาลมอีกครั้งในอายุที่มากขึ้น เข้าใจโลกมาขึ้น และอินน้อยลง
ได้มองเห็นภาพกว้างขึ้นว่า ผลที่เกิดขึ้นกับจิลลานั้น ก็เป็นแค่ทางชีวิตที่เกิดขึ้นได้
ไม่ได้แย่ ไม่ได้วาดภาพว่ามันเลวร้ายเหมือนตอนที่อ่านตอนเด็กๆ
ลำเนาลมในวันนี้ (สำหรับเรา)
จึงเป็นนิยายที่สนุก มีข้อคิด ทำให้เราได้เห็นวิถีชีวิตของนักเรียนไทยในต่างแดน
ที่สำคัญ .. แม้จะเล่มหนา
แต่ความเลวลงเลวลงของตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องก็ชวนติดตามให้ตะลุมบอนอ่าน
อยากรู้เหมือนกันจะจะเลวกันไปได้ถึงขนาดไหน และจะได้รับกรรมอย่างไร
เผลอแป๊บเดียว นิยายเล่มหนาก็ใช้เวลาอ่านได้ไม่นานเท่าที่คิด
เข้าขั้นคนอ่านโรคจิตกับเค้าเหมือนกันนะนี่ (ฮา)

ปล. และอย่างที่ควรจะเป็น เมื่ออ่านลำเนาลมจบ เห็นทีจะต้องหยิบในเรือนใจมาอ่านต่อตามแผน
รู้ว่าต่อกัน แต่จำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าทั้งคมกฤต และกันตยศใน “ในเรือนใจ” เป็นอย่างไรกันบ้าง
แล้วจะรีบตะลุยให้จบเร็วๆ เหมือนเล่มนี้นะคะ อยากเม้าท์เต็มแก่แล้ว ^^

Comments are closed.