อ่านแล้วเล่า

ร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงสุดท้าย

เรื่อง ร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงสุดท้าย
ผู้แต่ง กิตติศักดิ์ คงคา
สำนักพิมพ์ 13357
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168296059

ร้านหนังสือ 24 ชั่วโมง เป็นร้านหนังสือพิเศษ
ที่หากเราก้าวเข้าไปในร้านหนังสือใดๆ ในขณะที่เหลือเวลาในชีวิตอีกเพียง 24 ชั่วโมง
ร้านหนังสือแห่งนั้น จะกลายเป็นร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงในทันที
ที่ร้านหนังสือแปลกประหลาดแห่งนั้น คุณจะได้รับพร 1 ข้อ
ที่จะอธิษฐานของสิ่งใดก็ได้ .. เป็นอย่างสุดท้ายในชีวิต
ที่บางคนจะใช้เพื่อขอในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยมีเลยตลอดชีวิต
หรือขอเพื่อกลับไปแก้ไขปมในใจที่ติดค้างมาจากในอดีต ฯลฯ

อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า
หากเป็นเรา .. เมื่อเปิดประตูเข้าไปพบกับความจริงที่ว่า
เวลาในชีวิตของเราเหลืออีกเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ..
เราจะต้องการสิ่งใด?

เรื่องราวในเล่มนี้แบ่งออกเป็นเรื่องสั้นๆ
แบ่งชื่อตอนด้วยชื่อของร้านหนังสืออิสระ .. ที่หลายร้านเราเคยไปเยี่ยมเยือน
บางตอน ผู้เขียนใช้ร้านเหล่านั้นเป็นฉากหลัง
และอีกบางตอน ผู้เขียนหยิบคอนเซ็ปต์ของร้านมา

หลังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 15 ตอน
แต่แบ่งออกเป็นเรื่องราวเฉกเช่นเรื่องสั้นของตัวละครราว 4 ชุด
ตัวละครชุดหนึ่ง ได้ครองครองบทตอนที่กล่าวถึงร้านหนังสือมากกว่าหนึ่งแห่ง
และหลายครั้งที่เราแอบคิดว่าตัวละครในแต่ละชุด ทับซ้อนกันอยู่
ตัวละครหลักในแต่ละตอน มีความคลึงกัน ไม่ว่าในส่วนใดส่วนหนึ่ง
คล้ายจนในตอนเริ่มอ่านแต่ละบท เราคิดว่าเป็นคนเดียวกันด้วยซ้ำ
เมื่ออ่านต่อมาเรื่อยๆ จึงคิดว่าไม่ใช่

เราว่าความรักภายในครอบครัวในเล่มนี้ออกจะดูแปลกๆ
รักลูก จึงไม่ยอมให้ตัวเองมีตัวตนอยู่ในโลกของลูก
รักลูกสาว จึงพรากสามีของเขาจากไกลออกไปสุดหล้าฟ้าเขียว
รักลูกชาย จึงไม่ให้ลูกชายได้เห็นหน้า หรือรู้จักเราไปตลอดกาล ฯลฯ
มีเรื่องราวคล้ายๆ กับแบบนี้ในทุกตอน ซึ่งมันเป็นตรรกะที่แปลกมาก
อ่านแล้วไม่เข้าใจ ไม่อินกับการกระทำของตัวละครเลย
แต่เราว่า ท้ายที่สุด ผู้เขียนก็มีบทสรุปสำหรับเหตุการณ์เหล่านี้อยู่รางๆ

มีอีกข้อหนึ่งที่เราติดใจ
การขอพรในช่วง 24 ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตของตน
แต่สิ่งนั้นเป็นจริงได้เพียงในโนสำนึกของตัวเอง
มันจะมีประโยชน์อะไร?
มันจะต่างอะไรกับการที่เรานอนนึกเอาเองอยู่กับบ้าน
เป็นพรวิเศษ ที่เหมือนไม่ได้ให้อะไรแก่เราเลย

อันที่จริง ผู้เขียนก็มีคำตอบให้กับตอนสรุปจบของเรื่องอยู่แล้วนะ
เพียงแต่ว่า ก่อนจะเดินทางมาจนถึงบทสรุป
มันทำให้เรารู้สึกว่า ตัวละครไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เขาทำอยู่เลย .. งั้นหรือ?
ถ้าเกิดขึ้นกับคนอื่น เราคิดอย่างหนึ่ง
แต่พอมันเกิดขึ้นกับตัวเอง เราคิดอีกอย่างหนึ่ง?

ลองนึกต่อเล่นๆ ไปอีกนิดว่า
ถ้าสิ่งที่คนคนนั้นขอ เป็นบาป
เช่น อยากให้คนที่เกลียดตาย
แล้วเขาก็ตายไปในมโนของคนขอ
สิ่งนี้จะบาปไหม จะเป็นบาปติดตัวไปก่อนตายไหม?
เทียบเท่ามโนกรรมไหม?

เราว่าเล่มนี้น่าสนใจ พล็อตดี
แต่วิธีเล่า และวิธีจบเล่มยังขาดความคมกระชากใจ
เนื้อหาของเล่มยังนำพาเราขึ้นไปได้ไม่สุด
และตอนที่มันปล่อยเราตกลงมาในตอนจบ
แรงโน้นถ่วงของเล่มก็ยังค้างคา ให้เราล่องลอย ครึ่งๆ กลางๆ
แรงกระทำที่ทำกับความรู้สึก ยังเพียงแผ่วๆ
ตอนที่อ่าน เราอยากได้มากกว่านี้ ขยี้กว่านี้ อะไรประมาณนั้น

ต้องบอกก่อนว่า เราอาจจะชอบอ่านนิยายแนวดราม่าหนักๆ
ทำให้รสชาติของเล่มนี้เข้มไม่พอสำหรับเรา
เทียบกับเจ้าลูกสาววัยรุ่น ที่อ่านเล่มนี้แล้วชอบ
และลูกก็คิดว่าเราน่าจะชอบด้วย >,<
ซึ่งก็ถูกต้อง เราชอบหนังสือเล่มนี้ ชอบหลายๆ อย่างในหนังสือเล่มนี้
ดีใจที่ได้อ่าน และอยากให้ทุกคนได้ลองอ่าน
ได้ลองรู้สึกกับหนังสือเล่มนี้ด้วยตัวเอง
และการได้อ่านถึงร้านหนังสือต่างๆ ที่เราเคยไปเยือน
ก็เป็นความความรู้สึกที่ดีค่ะ 🙂

Comments are closed.