อ่านแล้วเล่า

มีเพียงรัก

41 มีเพียงรัก

เรื่อง มีเพียงรัก
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ
(สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์)
ราคา 250 บาท
(พิมพ์ครั้งที่ 7 เมื่อปีพ.ศ. 2548)

ใครที่เปิดมีเพียงรักอ่านเป็นหนแรก
เชื่อได้เลยว่าจะต้องสะดุดตาถูกใจกับชื่อของนางเอกของเรื่องนี้
เจ้าขา เป็นชื่อเล่นที่ล้ำยุคสุดๆ ในยุคที่มีเพียงรักลงตีพิมพ์ครั้งแรก
แถมพกด้วยนิสัยมุ่งมั่นจนเอียงไปทางดื้อดึงแล้ว
ช่างส่งให้นางเอกเรื่องนี้น่ารักน่าหยิกดีจริงๆ

อีกหนึ่งชื่อที่เราเพิ่งจะมาสะดุดเอาตอนอ่านรอบนี้นี่เอง ก็คือ ..
ชื่อเล่นของพี่สะใภ้นางเอกที่ชื่อว่าเกวลี
พี่สะใภ้ของเจ้าขาในเรื่องนี้ มีชื่อเล่นที่คุ้นหูแฟนคลับกิ่งฉัตรสุดๆ
โดยเฉพาะแฟนคลับที่เพิ่งอ่านลีลาวดีเพลิงจบไปหมาดๆ
เพราะทั้งเกวลีในเรื่องนี้กับ ลิลินนางเอกจากลีลาวดีเพลิงต่างก็มีชื่อเล่นว่า “หนูลี” เหมือนกันเป๊ะ

นอกจากชื่อของตัวละครจะล้ำยุคในสมัยนั้นแล้ว พล็อตนิยายก็ล้ำยุคไม่แพ้กัน
มีเพียงรัก เป็นเรื่องราวของเด็กสาวเพิ่งเรียนจบ (มาไม่กี่ปี)
ตกงาน และขอที่บ้านเปิดกิจการนักสืบเป็นของตัวเอง

เจ้าขาเปิดบริษัทนักสืบขึ้นท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัวที่แสนจะอบอุ่น
เงื่อนไขของการเปิดสำนักงานครั้งนี้ก็คือ ..
ถ้าสำนักงานแห่งนี้ขาดทุนเมื่อไร เธอจะต้องปิดมัน
และกลับไปช่วยกิจการของครอบครัวที่ต่างจังหวัดแต่โดยดี
และอย่างที่ทุกคนคิด หลังจากที่เจ้าขาดื้อทำธุรกิจส่วนตัวนี้ได้ไม่นาน
แววเจ๊งก็มาเยือนตรงหน้าตามท้องเรื่อง
และก่อนที่ทุกอย่างจะเดินทางมาถึงจุดจบ เหตุการณ์ก็พลิกผัน
พรหมลิขิตส่งลูกค้าคนสำคัญมาเปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอ

ธีรดา และเจนรวี สองลูกค้าสุดแปลกประหลาดคู่หนึ่ง
ได้ว่าจ้างให้นักสืบสาวทำหน้าที่แม่สื่อจอมจัดฉาก
สร้างสถานการณ์ให้เจนรวีได้พบรักกับธนดล พี่ชายแสนฉลาดของธีรดา
โดยธีรดาเชื่อว่า การพบปะสุดเพอร์เฟ็คโดยบังเอิญ (ที่เจ้าขาจัดฉากขึ้น) 3 ครั้ง
จะสร้างความประทับใจ และนำไปสู่ความรักของเพื่อนสาวและพี่ชายของเธอ

ด้วยสถานทางการเงินบีบบังคับ เจ้าขาจึงจำใจยอมรับงานประหลาดๆ งานนี้
เพื่อต่อชีวิตให้สำนักงานของเธอ โดยที่ไม่รู้เลยว่า นี่จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไป

เรื่องราวของแม่สื่อแม่ชัก และตัวละครจอมป่วน และห่างไกลความพอดีแต่ละตัว
เรียงร้อยเรื่องราวของ “มีเพียงรัก” ได้สนุก ขบขัน ชวนหัวเราะได้ตลอดเรื่องจริงๆ

เมื่อรวมความเพอร์เฟ็คของพล็อตและตัวละครแล้ว
เราอดคิดไปเองไม่ได้ว่า กิ่งฉัตรสนุกจริงๆ ที่จะเขียนนิยายเรื่องนี้
เพราะทุกตัวอักษรของเรื่อง มีสำนวนส่วนขยายที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน
อ่านลื่น อ่านเพลินดีจริงๆ (ลักษณะอย่างนี้พบในนิยายบางเรื่องของกิ่งฉัตรเท่านั้น
แต่บางเรื่องก็ไม่มี อ่านไม่สนุกเอาซะเลย .. แปลกดีเหมือนกัน)

และสำหรับส่วนท้ายของเรื่อง ..
ไม่บ่อยนักหรอก ที่เราจะเสียน้ำตาให้กับนิยายของกิ่งฉัตร
ถ้าเป็นทมยันตี (ในทุกนามปากกา) ก็ว่าไปอย่าง
อันนั้นร้องไห้เป็นเผาเต่าเรื่องเว้นเรื่องกันเลยทีเดียว
แต่สำหรับนิยายของกิ่งฉัตร มีเพียงรักเป็นนิยายน้อยเรื่องที่ทำให้เราเสียน้ำตาตอนจบ
อ๊ะๆ ไม่ได้สปอยล์ว่าจบเศร้านะคะ .. แค่ซึ้งเท่านั้นเอง ^^

Comments are closed.