อ่านแล้วเล่า

บ้านเล็กในทุ่งกว้าง

เรื่อง บ้านเล็กในทุ่งกว้าง
หนังสือชุดบ้านเล็ก เล่มที่ 2

ผู้แต่ง ลอร่า อิงกัลล์ส ไวล์เดอร์
ผู้แปล สุคนธรส
สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน
เลขมาตรฐานหนังสือ 9749804201

เล่มนี้ขอเล่าแบบติดสปอยล์นิดนึงนะคะ
เพราะอันที่จริงเรื่องราวก็ไม่ได้หวือหวาอะไร
ความสนุกอยู่ที่วิถีประจำวันของตัวละครนี่แหละ ..
ซึ่งเล่ายังไงก็คงไม่เท่าอ่านเองแน่ๆ ค่ะ 🙂

บ้านเล็กในทุ่งกว้าง เป็นเล่มที่ 2 ของหนังสือชุดบ้านเล็ก
เป็นตอนต่อของ บ้านเล็กในป่าใหญ่
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับครอบครัวอิงกัลล์ส
และบ้านของพวกเขายังไม่ทันเท่าไร
มาในเล่มนี้ พ่อก็ชวนครอบครัวให้อพยพย้ายบ้านกันเสียแล้ว
พ่อของลอร่าเป็นมนุษย์แบบที่รักความเงีบสงบ รักป่าและสัตว์ป่า
ต่อเมื่อรอบๆ บ้านของพวกเขาเริ่มพลุกพล่าน และเจริญขึ้นทุกที
ก็เป็นสาเหตุให้พ่อกับแม่ตัดสินใจย้ายบ้าน (ง่ายๆ อย่างนั้นเลย!?)

พวกเขาอพยพกันในฤดูหนาว
เพราะจะต้องนั่งเกวียนข้ามผ่านทะเลสาบซึ่งเป็นน้ำแข็ง
ซึ่งมันน่าทึ่งไม่น้อยที่ได้รู้ว่ามีการเดินทางแบบนี้อยู่ด้วย
เป็นการเดินทางที่เสี่ยงมาก
เพราะต้องเลือกวันเดินทางให้ข้ามผ่านไปก่อนที่น้ำแข็งจะละลายและแตกออก

พวกเขาเดินทางจากบ้านเดิมที่ตั้งอยู่ในมลรัฐวิสคอนซิน
อพยพไปทางตะวันตก ผ่านมลรัฐมินนิโซตา
มลรัฐไอโอวา และมลรัฐมิสซูรี และแคนซัส
ข้ามแม่น้ำมิสซูรีด้วยแพ (ซึ่งมีเกวียนอยู่บนแพอีกที)
ซึ่งการเดินทางธรรมดาๆ ของพวกเขา มันผาดโผนและน่าตื่นเต้นมากสำหรับเรา

อ่านแค่ช่วงแรกๆ ก็รู้สึกเลยว่าเล่มนี้สนุกจัง
ขอถอนคำพูดที่ผู้เขียนเขียนบรรยายเหตุการณ์อย่างเดียว ไม่เร้าอารมณ์เลย
เล่มนี้เจ๋งมากค่ะ สุดจริงๆ

หลังจากที่เล่มแรก ฮาร์ดคอร์ด้านการทำอาหารกันไป
เล่มนี้ ความหนักหน่วงมาอยู่ตรงที่ครอบครัวนี้ต้องสร้างบ้านกันเอง
หลังจากอพยพมาจนค้นพบดินแดนใหม่ที่ถูกใจ
(เมืองที่ใกล้ที่สุดคือเมืองอินดีเพนเดนซ์ ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่สิบไมล์)
แรงงานที่สร้างบ้านหลังใหม่กลางทุ่ง
คือพ่อของลอร่าผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวกับเพื่อนบ้านที่เพิ่งรู้จักอีกเพียงคนเดียว
พ่อต้องตัดซุง ตั้งเสาและเชื่อมต่อโครงสร้างส่วนต่างๆ ให้กลายเป็นบ้านในที่สุด
ไม่ทึ่งวันนี้แล้วจะไปทึ่งวันไหน!

มีประเด็นหนึ่งที่เราอ่านแล้วตะหงิดๆ ในใจค่ะ
หลังจากที่เราอ่านหนังสือที่เข้าข้างผ่าอินเดียนแดงมาแล้วหลายเล่ม
พอมาถึงในเล่มนี้อินเดียนแดงก็ได้รับบทผู้ร้ายบ้าง
มันเริ่มต้นคล้ายๆ สงครามล้างเผ่าพันธุ์อื่นๆ
คือสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ต่างวัฒนธรรมกัน ไม่เข้าใจกัน
ต่างฝ่ายต่างกลัวกันและกัน และเริ่มตั้งป้อมมองกันไปในทางร้าย
เมื่ออคติชี้นำ ทำอะไรก็ผิด
ผู้ที่ชนะในเวลาต่อมาคือผู้ที่มีกำลังและอาวุธที่เหนือกว่า

เรื่องเล่าในบ้านเล็กฯ เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของตัวแทนคนผิวขาว
เหตุการณ์ที่พวกเขาพบเจอก็เป็นเพียงความกระทบกระทั่งเดียว
ในอีกหลายรูปแบบ หลายเหตุการณ์ความขัดแย้งที่สุมไฟของความขัดแย้งนี้
แม้จะมีอินเดียนแดงที่ดีอยู่บ้าง
แต่ในสายตาคนผิวขาย อินเดียนแดงคือพวกที่ป่าเถื่อน และเป็นคนไม่ดีทั้งนั้น
อ่านเรื่องพวกนี้ทีไร จิตตกทุกทีค่ะ

ย่อหน้าสุดท้ายสปอยล์แรงนะคะ!!

แต่ที่แย่กว่านั้นคือช่วงสุดท้ายของเรื่อง
เรื่องราวภายในหนังสือเล่มนี้ บอกเล่าเหตุการณ์หนึ่งปีที่เกิดขึ้นในบ้านเล็กกลางทุ่ง
มันเป็นหนึ่งปีแห่งการก่อร่างสร้างตัว
แล้วก็ล่มสลายโดยพลันเมื่อจบเล่ม
คนอ่านเองยังรู้สึกโหวงๆ เลย
แล้วสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่อยู่ในเหตุการณ์นี้จะเศร้าและหดหู่ขนาดไหน
แต่ชีวิตก็เป็นวัฏจักร มีขึ้นมีลง
มีสร้าง มีล่มสลาย แล้วก็สร้างขึ้นมาใหม่อีก ..
แต่มันเหนื่อยใจจังเนอะ ..

 

Comments are closed.