อ่านแล้วเล่า

น้องเอ๋ย พี่เอ่ย ขอข้าวขอแกง

เรื่อง น้องเอ๋ย… พี่เอ่ย… ขอข้าวขอแกง
ผู้แต่ง ฝันเอ้อระเหย
สำนักพิมพ์ เป็นหนึ่ง
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168246900

เนื้อหาในเล่มนี้แน่นมาก
เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายในชีวิตหลากหลายของผู้คน
อันเเป็นชาวจีนแต้จิ๋ว และจีนอื่นๆ
ที่จากบ้านเกิดไกลโพ้นมาสร้างสังคมอยู่ในเมืองไทย
บ้างสุข บ้างทุกข์
แต่ทั้งหมดเริ่มต้นจากความยากลำบาก
ขับเคลื่อนไปด้วยความขยันขันแข็ง หนักเอาเบาสู้

ชาวจีน มีทั้งที่อยู่มานานและได้รับความสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง
ที่อยู่มานาน แต่ยังไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี
ที่อยู่มานาน แต่จมอยู่กับความลำบากยากเข็ญในอดีต
ที่เพิ่งมาใหม่ และยังมีความหวังที่จะกลับไปยังบ้านเกิด ฯลฯ
หนังสือเล่มนี้รวบรวมคนจีนและความเป็นจีนแต้จิ๋ว
ในยุคก่อร่างสร้างตน ช่วงต้นถึงกลางรัตนโกสินทร์
ผู้คนสีขาว สีเทา สีดำ ตามแต่ผู้เขียนจะปาดป้าย
โลดแล่นมากมายอยู่ในนิยายเล่มนี้

ย้อนอดีตไปเมื่อ 19 ปีก่อน
เกิดเหตุให้หลานสาวยายฟัก กับคุณหญิงฟัก ต้องสลับตัวกันตั้งแต่แรกเกิด
ทำให้ผกาย หลานสาวยายฟักขายข้าวแกง
ต้องกลายไปเป็นผกาย หลานสาวคุณหญิงฟัก นักพนันตัวเอ้
ขณะเดียวกัน แตงไทย หลานสาวคุณหญิงฟัก
ต้องกลายมาเป็นน้องสาวของแตงอ่อน แม่ค้าและนายหน้ามือหนึ่งแห่งพระนคร
และหลานสาวของยายฟักขายข้าวแกง
ผิดฝาผิดตัวกันมานานถึง 19 ปี
จวบจนกระทั่งมีคนสืบพบความเป็นจริง
ทั้งคู่จึงได้คืนกลับสู่ครอบครัวเดิมของตน

ผกายที่ได้รับการอบรมอยู่ในครอบครัวตระกูลดี
ได้กลับมาช่วยยายขายข้าวแกง
ในขณะที่แตงไทยตัวแสบ
ก็ได้กลับไปสู้รบปรบมือกับครอบครัวของคุณหญิงฟัก
สมน้ำสมเนื้อ สมควรคู่ต่อกันแล้ว

นี่คงเป็นสไตล์ของฝันเอ้อระเหย
ที่จะเปิดเรื่องตรงช่วงกลางไทม์ไลน์
ก่อนจะเล่าต่อไปข้างหน้า สลับกับย้อนกับไปข้างหลัง
แล้วให้คนอ่านจะเห็นภาพทั้งหมดเองว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร
เป็นวิธีเล่าที่น่าสนใจดี ทำให้คนอ่านได้เดาไปตลอดว่า
จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
แล้วต่อจากนี้จะเหตุการณ์จะเป็นยังไง
มีให้ลุ้นให้ติดตามไปตลอดทั้งสองทาง
คนเขียนเล่าเก่ง ไม่ทำให้คนอ่านงง
แล้วก็ปล่อยข้อมูลที่อยากให้มีผลต่อคนอ่านได้ตามใจ
เป็นการอ่านที่สนุกดี

ก่อนที่เหตุการณ์การสลับตัวจะถูกเปิดเผยได้ไม่นาน
ผกายมีโอกาสได้รู้จักกับอรุณ หรือเสี่ยอรุณ
ลูกชายคนเล็กของเจ้าของโรงสีใหญ่แห่งบางกอก
แรกรู้จัก ผกายเข้าใจว่าเขาเป็นเพียงหัวหน้ากุลีขนข้าวสาร
แต่เหตุการณ์กลับบานปลาย ทำให้ทั้งเธอและเขากลายเป็นข่าวฉาวโฉ่
แม้เหตุการณ์จะไม่ได้สรุปจบอะไร
แต่หลังจากนั้น เขาก็วนเวียนมากินข้าวแกงร้านยายฟักอยู่เป็นประจำ
ดูคล้ายๆ จะจีบ แต่ผกายก็ไม่เคยชัดเจนแก่ใจ
เป็นความสัมพันธ์ลุ่มๆ ดอนๆ ที่ยากจะอธิบาย

ครอบครัวอาเสี่ยอรุณนี้
ประกอบไปด้วยนายแม่ (ลิ้ม) ซึ่งเป็นยายของเขา
นายแม่เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัวที่ทุกคนให้ความเคารพ
มีสาลี่ แม่ของเขา ที่เลิกกับเกรียง สามีหลายใจ
ที่แทบจะไม่ได้ติดต่อกันจนอีกฝ่ายสิ้นลมหายใจ
ชัย พี่ชายผู้สุขุม และชอบเครื่องจักร
ชัยแต่งงานแล้วกับงามตา ซึ่งเคยเป็นเด็กในบ้านมาก่อน
ความสัมพันธ์ระหว่างคนคู่นี้ ก็เป็นความสัมพันธ์ที่น่าสนใจอีกคู่

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้
ในช่วงแรก ตัวหนังสือของฝันเอ้อระเหยยังคงเป็นตัวหนังสือขำขัน กุ๊กกิ๊ก
ทำให้เราอ่านไปอมยิ้มไปได้เช่นเคย
แต่ในเวลาต่อมา พล็อตก็ถูกขยายสเกล
แตะต้องหลายประเด็น เคลื่อนผ่านไปตามเส้นเรื่อง
ไม่ได้ลงลึก แต่ก็ไม่ได้เล่าเพียงผิวผ่าน
ให้ข้อมูลแบบที่กำลังอ่านสนุก และนึกภาพตามได้
(แต่เราก็อยากให้ลงลึกในบางประเด็นนะ)
เราชอบความสู้ชีวิตของตัวละคร
แล้วก็ชอบความเล่นใหญ่ของพล็อต
อยากจะคิดว่า แต่ละพล็อตที่อัดรวมกันอยู่ในเล่ม
สามารถแยกไปเป็นนิยายของตัวเองได้อีกหลายเรื่องด้วยซ้ำ

ในฐานะของคนที่ชอบอ่านนิยายพีเรียดยุคดั้งเดิม
จะมีบ้างที่ขัดใจกับค่านิยม หรือภาษาสมัยใหม่ ที่ผู้เขียนแฝงไว้ในเรื่อง
แต่เมื่อวางความคุ้นเคยเดิมๆ ลง และเปิดใจอ่าน
นี่ก็เป็นนิยายที่มีพล็อตดี และอ่านเพลินเรื่องหนึ่ง
ผู้เขียนทำการบ้านมาดี สอดแทรกวัฒนธรรมประเพณีจีนแต้จิ๋วโบราณเข้ามาเต็มปรี่
นอกจากนี้ ยังใส่ประเด็นการใช้ชีวิตร่วมกันของคู่สามีภรรยา
มีประเด็น การทำโรงสีในยุคแรกๆ
เล่าเรื่องการรวมตัวกันเป็นสมาคมจีน
รวมไปถึงการเอ่ยถึงอั้งยี่ในเรื่องด้วย

นอกจากเรื่องรักหวานแหวน
ฉากบู๊ ก็สนุก ตื่นเต้น ทำให้เราลุ้นระทึกได้
(แตงไทยอย่างเท่) 🙂 

เราให้คะแนนความซับซ้อน
และเซอร์ไพรส์ตัวละครตัวหนึ่งในตอนใกล้จบ
เสียดายที่ผู้เขียนเล่ารวบรัดเกินไปหน่อย
ถ้าถ่ายทอดออกมาด้วยจังหวะที่ลงตัว
น่าจะทำให้คนอ่านใจระทึก และทึ่งได้มากกว่านี้อีก 🙂

ปล. ขอบคุณคุณฝันเอ้อระเหย สำหรับหนังสือเล่มนี้นะคะ
ตอนอ่านก็รู้สึกถึงความตั้งใจ
ยิ่งพอมาเห็นหนังสืออ้างอิงท้ายเล่ม ยิ่งเห็นถึงความทุ่มเท
สุดยอดมากๆ ค่ะ ^^

Comments are closed.