อ่านแล้วเล่า

จงกลกิ่งเทียน

95-1 จงกลกิ่งเทียน

เรื่อง จงกลกิ่งเทียน
ผู้แต่ง แก้วเก้า
สำนักพิมพ์ ทรีบีส์
(สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ)
ราคา 440 บาท

ไม้ผลัดส่งต่อนิยายผู้ชายเลวเรื่องหนึ่ง (มาลัยสามชาย) มาสู่นิยายผู้ชายเลวอีกเรื่องหนึ่ง
จากนายยศ พลาธร มาสู่นายอัพภันดร์ มัทวาวุธ
นายคนนี้ เห็นทีจะเลวกว่าคุณยศหลายขุมค่ะ
เรียกว่า (น่าจะ) เลวที่สุดในเหล่าพระเอกของแก้วเก้าแล้วก็ได้ (เรียกพระเอกได้มั๊ย?)

สารภาพว่ากว่าที่จะหยิบจงกลกิ่งเทียนมาอ่านซ้ำครั้งนี้
เราเกร็งๆ กล้าๆ กลัวๆ อยู่นาน
เพราะความรู้สึกขยะแขยงรังเกียจอีตาอัพภัณดร์ พระเอกของเรื่องนี้เข้าไส้
แม้จะจำรายละเอียดอะไรไม่ได้มาก แต่ความรู้สึกเกลียดอีตานี่ฝังลึกมาก .. (อินจริงๆ)

95-2 จงกลกิ่งเทียน

จงกลนั้นแปลว่าดอกบัว
จงกลกิ่งเทียน เป็นเรื่องราวของเทียนกันยา หญิงสาวผู้หนึ่งที่ถูกหลอกเสียรู้
จนทำให้ชีวิตต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย
แต่เธอกลับได้โอกาสพิเศษอย่างที่ไม่มีมนุษย์ผู้ใดเคยได้รับมาก่อน
เธอได้เกิดใหม่อีกครั้งในร่างของหญิงสาวที่มีนามว่า ‘บัวคำแก้ว’
และกลายเป็นบัวเทียนไปในที่สุด

เนื้อเรื่องรายละเอียดเยอะเหมือนเรื่องอื่นๆ ของอาจารย์วินิตาค่ะ
ขออนุญาตเล่าย่อๆ โดยอาจจะเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน
แต่จะพยายามไม่ให้เสียอรรถรสเช่นเคยค่ะ

เนื้อเรื่องเริ่มต้นในปีพุทธศักราช 2495 ในตอนต้นรัชกาลที่ 9 นี้เอง
บ้านสุจรรยา แถบพระโขนง ที่เรียกกันว่า ‘ตึกขาว’ นั้น
เป็นบ้านของสองพี่น้อง ก้อง .. โกมุท ผู้เจ็บป่วยกระเสาะกระแสะอยู่ตลอด
เขาจากไปด้วยวัยเพียงยี่สิบหกปี
ส่วนพี่สาว เทียน .. เทียนกันยา
เธอเป็นหญิงสาวผู้แห้งแล้ง จืดชืด และกำลังจะก้าวเข้าสู่สถานะคานทองอยู่รอมร่อ

ในวันที่บ้านสุจรรยากำลังมีงานศพของโกมุท
ชายผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมแสงเรืองรองส่องทางให้ชีวิตของเทียนกันยา
อัพภันดร์แนะนำตัวว่าเขาเป็นเพื่อนกับโกมุท น้องชายผู้ล่วงลับของเธอ
หลังจากแนะนำตัวให้รู้จักกันในวันแรกแล้ว
วันต่อๆ มา อัพภันดร์ก็ค่อยๆ แทรกซึมสร้างความสนิทสนมจนเป็นที่ยอมรับสำหรับหญิงสาว
นับจากนั้นอีกหกวัน อัพภันดร์เทียวมางานศพของโกมุทจนครบทุกวัน
เวลาเพียงเจ็ดวัน อัพภันดร์ก็ทำคะแนนให้กับสาวใหญ่อย่างเทียนกันยาไปเต็มหัวใจ
บ้านสุจรรยาเปิดรับเขาดุจญาติสนิททุกเมื่อนับตั้งแต่บัดนั้น

ในบ้านสุจรรยา ยังมีชายหนุ่มนักศึกษาแพทย์อีกคนหนึ่งที่ชื่อ ‘ศล’
ศลเป็นเด็กในบ้านที่บิดาของเทียนกันยาให้ความอุปการะเลี้ยงดู
และสนับสนุนให้เล่าเรียนหนังสือ เลี้ยงดูอย่างดีดุจบุตรบุญธรรม
ศลมีศักดิ์เป็นน้องบุญธรรมของทั้งโกมุทและเทียนกันยา
เมื่อโกมุทเสียชีวิตลง
ความสัมพันธ์ระหว่างศลและเทียนกันยาจึงเป็นดังสายใยบางๆ แห่งความเอื้ออาทร อ่อนโยน
แต่ทั้งหมดเป็นไปอย่างพี่สาวกับน้องชาย .. เว้นไว้แต่เพียงส่วนลึกในใจของคนทั้งคู่

ศล ไม่อาจเอื้อมที่จะคิดไปไกลกับคนที่อยู่ในฐานะบุตรสาวของผู้มีพระคุณ
และเทียนกันยาเองก็วางตัวดุจเป็นพี่สาวที่ดีตลอดมา
ความในใจ จึงยังคงเป็นความในใจเรื่อยมา และตลอดไปตราบจนสิ้นชีวิตของเธอ

อัพภันดร์ มองเห็นรายละเอียดในส่วนนี้
และเขาได้ทำการถ่างขยายความสัมพันธ์นี้ให้ห่างออกจากกันเรื่อยๆ
และแน่นอน ตัวเขาค่อยๆ แทรกเข้ามาเติมเต็มความอบอุ่นให้แก่เทียนกันยาทีละน้อย

ศลเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยไว้ใจอัพภันดร์
แต่ด้วยความที่เขาเรียนหนักเพราะใกล้จะสำเร็จแพทย์
จึงไม่ได้อยู่ดูแลและปกป้องเทียนกันยาได้เท่าที่ควร
นับวันเธอก็ยิ่งห่างเหินกับเขา และหลงเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อัพภันดร์โป้ปด
อัพภันดร์ค่อยๆ ใส่เชื้อแห่งความระแวงและไม่ไว้ใจเชื่อใจศลลงในสมองของเทียนกันยาทีละน้อย

ทองไพรำ (จากมาลัยสามชาย) เคยปอกลอกคุณยศเช่นไร
อัพภัณดร์ก็ใช้วิธีที่แทบไม่ต่างกันในการปอกลอกเทียนกันยา
อ่านสองเรื่องติดกันราวกับฉายหนังซ้ำในช่วงครึ่งเล่มแรก

ศลก็เสียแรงที่เป็นถึงนักศึกษาแพทย์
ฉลาดในการเรียนหนังสือ ฉลาดในการดูคน แต่ดั๊นไม่ฉลาดในการแก้ปัญหา
ไม่สามารถทำให้เทียนกันยาเห็นความเลวของอัพภัณดร์ได้ด้วยวิธีฉลาดๆ
ช่วงแรๆ เลยเป็นอะไรที่หงุดหงิดมาก โชคเข้าข้างคนผิดคนเลวตลอดๆ
คนดีก็โง่บ้าง ฉลาดแต่ก็ยังขาดความเฉลียวบ้าง ฯลฯ
เฮ้อ! .. ลุ้นเหนื่อยค่ะ

คนตรงที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้เท่ากับคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว
งัดข้อกันไม่กี่ครั้ง ศลก็กระเด็นออกนอกบ้านสุจรรยาไปได้ไม่ยาก
หมดเสี้ยนหนามผู้จงรักภักดีต่อเทียนกันยา เรียบร้อยโรงเรียนอัพภันดร์ไปเลย

คนดีกับคนเลว แตกต่างกันตรงที่ความยับยั้งชั่งใจ
ความคิดชั่ววูบเกิดขึ้นกับใครก็ได้
แต่การตัดสินใจลงมือกระทำความเลวโดยขาดสติต่างหากที่จะนำมาซึ่งความผิดครั้งต่อๆ ไป
ที่นับแต่จะถลำลึกเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ
แก้วเก้าได้ถ่ายทอดให้เราเห็นธรรมชาติของมนุษย์อย่างอัพภัณดร์
ที่เริ่มต้นจากความผิดเพียงเล็กน้อย
แต่ด้วยมุมมองแบบที่โทษคนทั้งโลกยกเว้นตนเอง
(ทั้งนี้ขึ้นกับการอบรมเลี้ยงดูของป้าละม่อมที่กรอกหูมาตั้งแต่เล็กด้วย)
ทั้งหมดนั้น นำมาซึ่งความผิดบาปอันใหญ่หลวงถึงขนาดกล้าที่จะฆ่ามนุษย์ด้วยกัน
จากศพแรก ไปยังศพที่สอง และศพต่อๆ ไป

บ้านสุจรรยาเปรียบเสมือนผลแอปเปิ้ลที่มีหนอนชอนไชขโมยกินเนื้อในผล
ทั้งหนอนเก่า หนอนใหม่ หนอนบ่อนไส้ ฯลฯ
ล้วนแล้วแต่นำความหายนะมาสู่เจ้าของบ้านทีละคน
ผู้อยู่อาศัย ทยอยกันล้มหายตายจากราวใบไม้ร่วง
โดยทั้งหมดนี้ ไม่ได้สะกิดความสงสัยแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องเลย
จนกระทั่งมาถึงผู้เป็นเจ้าของบ้านรายสุดท้าย .. เทียนกันยา

อย่างที่หลายคนประณาม นางเอกเรื่องนี้ค่ะ นางโง่จริงๆ
เรื่องปิดหูปิดตา ไม่ฟังคำบอกของคนรอบตัวนั้นไม่เท่าไร
เรื่องไม่รู้จักฉุกใจคิด ทั้งๆ ที่พิรุธก็ชัดเจน ก็ยังไม่เท่าไร
แต่เมื่อรู้ปัญหาเลาๆ พอจะเดาได้รำไร วิธีแก้ปัญหาก็ยังอุตส่าห์จะไม่ฉลาดอีก
เรียกว่าใครอ่านเรื่องนี้ครึ่งเล่มแรกได้โดยไม่หงุดหงิดนี่เรานับถือเลย ใจเย็นมากกกก
และด้วยความโง่ที่ว่านี้เอง มันจึงได้ตอบแทนเทียนกันยาด้วยความตาย
ซึ่งชีวิตจริงก็คงจะจบลงอย่างน่าสลดใจเพียงเท่านี้
แต่เมื่อเป็นนวนิยายของแก้วเก้า .. เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงตรงนี้ ..
มันยังเหลือเหตุการณ์อีกครึ่งเล่มให้เราอ่านกันต่อ

95-3 จงกลกิ่งเทียน

หลังความตายครั้งนั้น เทียนกันยาฟื้นขึ้นอีกครั้งในร่างของผู้หญิงอีกคน .. บัวคำแก้ว

เทียนกันยาในร่างบัวคำแก้ว ค่อยๆ เรียนรู้ในสิ่งที่บัวคำแก้วเป็น
เธอเป็นสาววัยอ่อนกว่าเทียนกันยาสิบกว่าปี
เป็นทายาทสายตรงของเจ้าเมืองเหนือ ตระกูล ณ เชียงคำ
เป็นสาวสวยหมดจด และเปรี้ยวจี๊ด ที่ใครๆ ต่างพากันเอาอกเอาใจจนเสียเด็ก
ปุบปับ เด็กสาวจอมวีนอย่างร้ายกาจ ก็กลับกลายมาเป็นหญิงสาวผู้เงียบเชียบเรียบร้อย
ซึ่งอ้างได้ด้วยเพียงสาเหตุเดียว ..
บัวคำแก้วคงกระทบกระเทือนในอุบัติเหตุรถยนตร์พลิกคว่ำ
และเหตุการณ์นั้นเกิดในคืนเดียวกันกับที่ ..
เทียนกันยาเองก็ประสบอุบัติเหตุให้ถึงแก่ชีวิตนั่นเอง

ออกจะไม่น่าเชื่ออยู่หน่อยๆ ในการที่เทียนกันยาผู้อ่อนแอและฉลาดน้อยคนนั้น
เพียงแค่เปลี่ยนร่างมาอยู่ในร่างของบัวคำแก้ว ก็ดูจะฉลาดทันคนขึ้นมาในบัดดล
หรือบางที ความเก่งกล้าสามารถ
อาจจะต้องแลกมาด้วยประสบการณ์ชีวิตชนิดเฉียดตายดูสักครั้ง?

เรื่องนี้ดูจะเป็นเรื่องที่สมจริงน้อยที่สุดในนามปากกาแก้วเก้า
แม้ว่านามปากกานี้จะเขียนเรื่องเหนือจริงมาโดยตลอด
แต่ก็เป็นความเหนือจริงที่มีเหตุผลมารองรับน่าเชื่อถือ
ผิดกับเรื่องนี้ที่ตะหงิดๆ ใจอยู่หลายจุด แม้กระทั่งในตอนจบ
วิญญาณของเจ้าย่า ก็ดูจะมีอำนาจเหนือวิญญาณทั่วๆ ไปจนเกินไป
มีอำนาจสั่งเป็นสั่งตาย สั่งให้ใครไปเกิดเมื่อไรก็ได้
เป็นอำนาจที่มาอย่างไม่สมเหตุสมผล ไม่มีที่มาที่ไปให้ชวนเชื่ออย่างเรื่องอื่นๆ

จงกลกิ่งเทียน เหมือนมีพล็อตนิยายสองเรื่องซ้อนทับกันอยู่
เรื่องของเทียนกันยาที่ได้มาอยู่ในร่างของบัวคำแก้วก็เรื่องหนึ่ง
และเรื่องความลึกลับของเจ้าบัวละวง เจ้าของคุ้มจองคำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ล้วนแต่เป็นความมหัศจรรย์ที่เทียนกันยาได้ประสบซ้อนกันถึงสองชั้นทีเดียว
กับชีวิตใหม่ที่เธอได้รับ
เธอควรจะใช้มันอยู่ไปอย่างสงบสุขตราบจนสิ้นอายุขัยอีกครั้ง
หรือควรกลับไปทวงสิทธิ์อันชอบธรรมของเทียนกันยาจากพวกคนเลวทั้งหลายดี?

95-1 จงกลกิ่งเทียน

กว่าที่พระเอกตัวจริงจะโผล่มามีบทบาทหลัก เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปเกินครึ่งเล่ม
(แล้วจะไม่ให้เรียกอัพภัณดร์ว่าพระเอกได้อย่างไร ซีนเด่นกว่าพระเอกเสียอีก)

ครึ่งหลังของเรื่องดำเนินไปด้วยความชื่นใจ
ชื่นใจในความดีของศล และความภูมิใจของบัวเทียนที่มีต่อเขา
ชื่นใจที่ได้เห็นคนดีๆ มีชีวิตไปในทางที่ดี
และคนเลวก็เริ่มตกต่ำลงไปเรื่อยๆ .. ด้วยการกระทำของตนเอง

นิยายเรื่องนี้ หลายคนบอกตรงกันค่ะว่าช่วงแรกๆ น่าเบื่อมาก
แต่ถ้าผ่านไปแล้ว ก็สนุกลืมวางเหมือนกันนะ อยากจะพลิกหน้าต่อไปเร็วๆ
อยากจะรู้จุดจบของขบวนการเหล่าร้าย (5 สี?) เร็วๆ
อ่านเอามันส์ก็สนุกดีค่ะ

Comments are closed.