อ่านแล้วเล่า

ค่ำคืน คนเหงา เราและแมว

เรื่อง ค่ำคืน คนเหงา เราและแมว
ผู้แต่ง ดูเรียน สุเคงาวะ
ผู้แปล ฉัตรขวัญ อดิศัย
สำนักพิมพ์ บิบลิ
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786168293140

เคยมีใครสักคนไหม .. บอกว่าเรากำลังอยู่ผิดที่
ที่ที่เราเคยวาดหวัง ที่ที่เราทำพลาด หลุดมือไป
และที่นั้น ที่เราได้รับโอกาสอีกครั้ง ..
ทว่าความใฝ่ฝันอันยาวนานนั้น
มันเป็นความต้องการที่แท้จริงของเราจริงหรือ
มันคือตัวตนของเราจริงหรือ

ค่ำคืน คนเหงา เราและแมว บอกเล่าเรื่องราวในยุคฟองสบู่
เล่าเรื่องผ่านสายตาของ ยามาซากิ เซตะ เรียกย่อๆ ว่ายามะจัง
ชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่ทำหน้าที่รับเขียนบทรายโทรทัศน์ประเภทควิซโชว์
เขาเป็นนักเขียนบทฝึกหัด ที่กำลังมาถึงจุดวิกฤตในชีวิต
งานที่เคยทำได้ดีในช่วงแรก เริ่มเดินทางมาถึงช่วงตีบตัน
และยังหาทางออกของชีวิตไม่พบ

ในช่วงเวลานั้นเอง ที่เขาได้มาพบกับร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
คารินกะ เป็นร้านเหล้าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในย่านชินจูกุ
ร้านมีบรรยากาศคล้ายๆ สภากาแฟบ้านเรา
มีลูกค้าขาประจำมานั่งเม้าท์มอยเรื่องสัพเพเหระ
และมีกิจกรรมพิเศษที่รู้กันเฉพาะขาประจำ คือการพนันแมว 

เขากลายเป็นลูกค้าขาประจำของร้านเล็กๆ แคบๆ
ที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรร้านนี้ไปนับตั้งแต่นั้น
แล้วเรื่องราวของตัวเขา .. ยามะจัง
เรื่องราวของพนักงานสาวในร้าน
ที่รับหน้าที่ทั้งทำและเสิร์ฟอาหาร .. ยูเมะจัง
และเรื่องราวของผู้คนต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

เราอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างไม่คาดหวัง
เพราะรู้สึกเฉยๆ กับ โดรายากิ ขนมนี้ทำด้วยใจ
ที่เป็นผลงานของนักเขียนคนเดียวกัน
แต่ระหว่างอ่าน เรากลับรู้สึกว่า
หนังสือเล่มนี้เชื่อมโยงกับเราได้มากกว่าโดรายากิฯ
มันค่อยๆ สร้างความประทับใจ
จากที่เฉยๆ เป็นก็โอเค แล้วกลายเป็นชอบมากในตอนหนึ่งของเรื่อง

มันสวยงาม เงียบงัน
อยู่ๆ เรื่องของมนุษย์เงินเดือน ก็กลายเป็นเรื่องรักโรแมนติก
แล้วก็กลับกลายเป็นอย่างอื่นไปอีก ..

เราชอบบทกวีแมว ชอบจนอยากจะลองเขียนขึ้นมาบ้าง
ติดอยู่ที่เราไม่เคยนั่งสังเกตแมวจรแถวบ้านเลย
มันเริ่มเกิดความสงสัยว่าเจ้าแมวพวกนี้
เดินทะลุสวนบ้านเรา จากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
เพื่อไปยังที่แห่งหนใดกันบ้าง ..
พวกมันมีชีวิตอยู่ยังไงกันบ้าง ..

หนังสือได้แอบซ่อนความลับเล็กๆ ของเจ้าพวกแมวเหล่านี้
กับยูเมะจัง เอาไว้อย่างน่าสนใจ
มันไม่ใช่ความลับลึกลับ แต่ก็ดึงดูดความสนใจได้ไม่น้อย

หนังสือมีความเป็นปรัชญา
เราชอบที่ตัวละครซึ่งเป็นผู้เขียนบทละครเกมโชว์ต๊อกต๋อย
ได้บรรลุถึงความรู้สึกที่ว่า
เราอาจจะคิดคำถามเพื่อคนดูจำนวนมหาศาลที่อยู่ทางบ้าน
แต่แท้ที่จริงแล้ว มันคือการส่งสารแบบหนึ่งต่อหนึ่ง
เป็นคำถามจากผู้คิดคำถาม ถึงผู้ดูที่อยู่ทางบ้านคนนั้นคนเดียว
การอ่านหนังสือก็ด้วย การที่ผู้เขียนเขียนหนังสือให้คนจำนวนมากอ่าน
แท้ที่จริงแล้ว มันคือบทสนทนาระหว่างผู้เขียน
กับคนคนหนึ่งที่กำลังอ่านหนังสือเล่มนั้นอยู่ เพียงเท่านั้น
เป็นการส่งถ้อยคำจากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่ง เพียงเท่านั้น

หนังสือเล่มนี้มีแมวประกอบอยู่เกือบตลอดเรื่องจริงๆ
ไม่ใช่หนังสือที่เอาแมวมาเป็นจุดขาย
แล้วเล่าเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับแมว
เราว่าแมวเป็นสัดส่วนที่ลงตัว
ที่ช่วยผสานเรื่องราวชีวิตคนเมืองที่เป็นมนุษย์เงินเดือน
เข้ากับเรื่องราวความรักคลุมเครือ
และแทรกปรัชญาชวนคิดเอาไว้แบบไม่หนักหน่วง
เป็นเรื่องที่สร้างสมดุลของสามสิ่งที่ว่านี้
อย่างลงตัว พอเหมาะพอดี

อีกอย่างหนึ่งที่เราชอบในหนังสือเรื่องนี้ก็คือ
การเรียกชื่อตัวละครในร้านแห่งนี้ด้วยฉายา
เราชอบที่ผู้เขียนให้ความสำคัญกับตัวละครแวดล้อม
แม้พวกเขาจะมีบทบาทกันเพียงคนละนิดคนละหน่อย
แต่แท้ที่จริงแล้ว เขาเป็นถึงลูกค้าประจำของร้าน
ที่ยืนระยะเวลายาวนานหลายปี
ถ้าเป็นร้านจริงๆ คนพวกนี้ก็เหมือนกับเป็นเครือญาติด้วยซ้ำ

เราชอบความสมจริงนี้
และคิดว่ามีหลายคนชอบและเขื่อเช่นกัน
จนถึงกับผู้เขียนต้องออกตัวไว้ท้ายเล่ม ว่าเป็นเรื่องแต่ง

สำนวนแปลดีนะ
เราว่าสำนวนแปลมีส่วนให้หนังสือเล่มนี้อ่านสนุกและไหลลื่น
เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ดี

ค่ำคืน คนเหงา เราและแมว เป็นหนังสือที่หลายคนบอกว่าเหงา
แต่ส่วนตัว เราว่ามันไม่เหงานะ
มันถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก และตัวตนของคนได้ดีจังเลย
มันเหมาะกับคนที่กำลังค้นหาตัวเอง
เปล่าหรอก เราอาจจะไม่ได้ค้นพบตัวเองในหนังสือเล่มนี้หรอก
แต่เราน่าจะได้รับคำปลอบประโลมบางอย่าง
ทั้งจากบทบรรยาย บทสนทนา และบทกวีแมวๆ
ลองอ่านดู และขอให้ชอบมันเหมือนที่เราชอบนะคะ 🙂

Comments are closed.