อ่านแล้วเล่า

คู่มือท่องกาแล็กซี ฉบับนักโบก

63-2 คู่มือท่องกาแล็กซี่ฉบับนักโบก

เรื่อง คู่มือท่องกาแล็กซี ฉบับนักโบก
ผู้แต่ง ดักลาส อดัมส์
ผู้แปล แทนไท ประเสริฐกุล
สำนักพิมพ์ เพิร์ล พับลิชชิ่ง
ราคา 246 บาท

เปิดตัวหนังจากคำนำสไตล์แทนไทด้วยความยั่วยวนชวนฮา
มั่นใจไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก่อนเลยว่าหนังสือเล่มนี้สนุกแน่
พลิกไปยังหน้าต่อจากคำนำ .. 
สำนวนในเล่มยังคงถูกเล่าด้วยความยียวน
ซึ่งผู้แปลยืนยันว่าเป็นการคงความยียวนมาจากผู้แต่งจริงๆ
(นับได้ว่า สนพ. เลือกคนแปลได้ถูกต้องมากๆ)

เรื่องราวเริ่มต้นบนโลกมนุษย์นี่แหละ
เมื่อวันหนึ่ง นายอาเธอร์ เด็นท์ เพิ่งรู้ตัวว่าบ้านของเขาถูกเวนคืน
และเขาจะต้องย้ายบ้านในวันนี้ทันทีทันใด
แน่นอนล่ะ ไม่มีใครยอมง่ายๆ เขาต้องสู้สุดชีวิต .. แต่ใครจะรู้ว่า ..
การต่อสู้ครั้งนั้นมันช่างไร้ค่า เพราะมันเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของทั้งสองฝ่าย
เพราะหลังจากนั้นอีกไม่นาน โลกกำลังจะแตก!

ในย่านที่นายอาเธอร์อาศัยอยู่นี้เอง เขามีเพื่อนคู่หูอยู่คนหนึ่งนามว่า ฟอร์ด พรีเฟ็ค
นายฟอร์ดผู้นี้ แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา ..
แน่นอน มันเป็นความลับ และถึงบอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อเขา
เขาพลัดหลงตกสำรวจอยู่ในโลกมนุษย์มาได้นาน 15 ปีแล้ว
และในทุกวัน เขายังพยายามมองหาหนทางในการเดินทางออกไปจากดาวโลกเสมอๆ

เหตุการณ์ปะเหมาะเคราะห์ร้าย โคจรมาเจอกันในวันพฤหัสฯ นี้เอง (ทำไมต้องพฤหัสฯ?)
ที่นายอาเธอร์จับพลัดจับผลูได้ออกเดินทางจากโลกไปพร้อมกับนายฟอร์ดเพื่อนเกลอ
พวกเขารอดชีวิตจากการระเบิดของดาวเคราะห์โลกได้อย่างหวุดหวิด ..
อันที่จริงแล้ว ฟอร์ดเองก็เป็นเด็กดาวแตกสาแหรกขาดมาก่อนเหมือนกัน
เมื่อเข้าคู่กันกับอาเธอร์ผู้ที่เพิ่งกลายเป็นคนดาวแตกเหมือนๆ กัน
ทั้งคู่ก็เลยจับคู่กันโบกท่องอวกาศไปพลางๆ ระหว่างไม่มีอะไรจะทำ
อืม .. นี่คือที่มาของท้องเรื่อง .. อ่ะนะ

63-1 คู่มือท่องกาแล็กซี่ฉบับนักโบก

คู่มือท่องกาแล็กซีฯ เล่มนี้ออกจะผิดไปจากภาพในหัวทีแรกของเรานิดหน่อย
จากที่คาดการณ์ว่า ในเล่มคงเป็นเรื่องราวของมนุษย์ยุคอวกาศคนหนึ่ง
ที่สะพานเป้ออกไปยืนโบกยานท่องอวกาศจากที่หนึ่งไปยังอีกที่เรื่อยๆ
แต่ในความเป็นจริง
หนังสือเล่มนี้กลับเล่าถึงการจับพลัดจับผลูของหนุ่มโชคช่วย
ที่บังเอิญหลุดออกจากโลกในเวลาที่โลกใกล้จะแตก
ไปด้วยความช่วยเหลือของมนุษย์ต่างดาวคนหนึ่ง
จากนั้นก็บังเอิญต้องเปลี่ยนยานโดยไม่ได้วางแผนไว้ก่อน แต่สถานการณ์ดันบังคับ
แล้วก็ล้วนไปยังที่ที่ตัวเองไม่มีความรู้ ไม่รู้จัก
แม้จะดูเรื่อยเปื่อย ทั้งจุดมุ่งหมายและเนื้อเรื่อง
แต่ทั้งหมดนั้นดันฮา .. เป็นฮาอารมณ์เสียดสี หลุดโลก คาดเดาไม่ได้

การโบกทั้งปวงเป็นเพียงเส้นนำเรื่องที่ผู้เขียนจะเล่าว่า
แท้จริงแล้ว โลกเป็นดาวเคราะห์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์ต่างดาวกลุ่มหนึ่ง
มันถูกสร้างขึ้นเพราะถูกว่าจ้างให้สร้าง โดยสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งบนโลกมนุษย์
สิ่งที่ชีวิตสุดฉลาดที่แกล้งโง่ และแกล้งทำเป็นอยู่ภายใต้อำนาจของมนุษย์มาโดยตลอด

ตัวละครหลักทั้งสี่ อันประกอบไปด้วยมนุษย์โลก อาเธอร์,
มนุษย์ต่างดาวที่ปลอมเป็นมนุษย์โลก ฟอร์ด,
สาวสวยมนุษย์โลกอีกคนที่บังเอิญมาเจอกันนอกโลก ทริลเลียน,
และแซพฟ็อด ประธานาธิบดีแห่งแกแล็กซีที่หมิ่นเหม่ในตำแหน่งของตนอย่างเหลือล้น
ทั้งหมดอยู่ในสถานการณ์ลงยานอวกาศลำเดียวกัน
หลังจากผจญภัยกันมาอย่างสุดติ่ง
ทั้งหมดก็รอดพ้นภยันตรายมาแบบเหลือเชื่อ และไม่ต้องมีเหตุผลรองรับ

สำนวนแปลไทยมาก และเป็นแทนไทมาก
ในฐานะแฟนหนังสือของแทนไทตัวยงเลยค่อนข้างจะชอบสำนวนนี้
เพราะมันกลมกลืน และก็คุ้นเคย
และสำหรับคนที่ไม่เคยอ่านหนังสือของแทนไทมากก่อน ถ้าลองได้อ่าน
เราว่ามันก็ไม่ยากที่จะติดใจสำนวนของเขา
มันบ้าบอหลุดโลก ประชดประชัน เสียดสี จิกกัด แม้จะไม่ได้ขำก๊ากไปทั้งเรื่อง
แต่ก็เป็นนิยายวิทยาศาสตร์ที่อ่านไปด้วยความบันเทิงโดยตลอด
บางมุกยียวนมาก และบางมุกก็ติงต๊องมาก
แต่ก็ฮาด้วย .. ฮาในความติงต๊องของมันนี่แหละ
บางมุกก็เสียดสีมนุษยชาติ และหลายมุกถึงขั้นจี๊ดใจ

มีบ้างบางช่วงที่กราฟความสนุกอยู่ในระดับเฉยๆ คือเนื้อเรื่องมันไม่ไปไหนไง
ทั้งเล่ม มีเนื้อหาโดยสรุปอยู่สั้นนิดเดียว ที่เหลือเป็นน้ำแห่งความบ้าบอล้วนๆ
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็พลิกหนังสือหนาๆ เล่มนี้
มาจนถึงหน้าสุดท้ายภายในเวลาไม่นานได้ยังไงไม่รู้
จะว่าชอบ ก็ไม่ได้ชอบมันมากอะไรนะ แต่ก็เป็นของแปลกที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกในชุดอันประกอบไปด้วยหนังสือห้าเล่ม
(และก็เหมือนจะไม่มีวันจบ เพราะผู้เขียนเขียนเล่ม 6 ไม่เสร็จ)
ซึ่งถูกแปลเป็นไทยด้วยสำนวนแทนไท ในนามของ สนพ.เพิร์ลไปแล้ว 3 เล่ม
และเป็นที่น่าเสียดายว่า สนพ. นี้ได้ปิดตัวลงไปแบบกะทันหัน
ทำให้เรามีโอกาศเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้ได้เพียง 2 เล่ม
แม้แต่เล่ม 3 ที่แปลเป็นไทยไปแล้วในชื่อว่า ..
ชีวิต จักรวาล และทุกสรรพสิ่ง ยังหาอ่านยากเลย
อย่าไปคาดหวังถึงอีก 2 เล่มที่เหลือ ที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ (ฉบับแปล) ออกมา
เอาเป็นว่า เราคงจะรีวิวหนังสือเล่มนี้ได้เพียงแค่ 2 เล่ม
ตราบจนกว่าจะเสาะหาเล่มที่ 3 มาได้ค่ะ ^^”

ปล. สนพ. นี้ล้มไปแล้ว และหนังสือข้าพเจ้าขาดไปประมาณ 20 หน้า
จะเอาไปเปลี่ยนได้ที่ไหนกัลล์ >,<

Comments are closed.