เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัยผู้แต่ง คริส เบเคอร์ และ ผาสุก พงษ์ไพจิตรสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740212652 ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือประวัติศาสตร์ไทยแต่มันคือหนังสือประวัติศาสตร์เศรษฐศาสตร์ การเมือง และการปกครองของไทยซึ่งถูกเขียนขึ้นจากผู้เขียนคู่สามีภรรยานักวิชาการสองคนโดยสามี คริส เบเคอร์ เป็นชาวอังกฤษ และภรรยา ผาสุก พงษ์ไพจิตร ชาวไทยการเขียนหนักสือเล่มนี้ครั้งแรกถูกเขียนขึ้นเป็นภาษาอังกฤษเพื่อใช้เป็นตำราเรียนให้กับมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในเวลาต่อมา ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องของคำว่าชาติไทย – ในนิยามต่างๆ มาตั้งแต่ครั้งอดีต ก่อนที่ไทยจะรวมเป็นประเทศเมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ชาติไทย คือเริ่มต้นเล่าอย่างจริงจังในสมัยอยุธยาถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นการเล่าอย่างสรุปรวม ไปอย่างเร็วๆและเล่าทั้งเรื่องประวัติศาสตร์ ภูมิประเทศ และรูปแบบการปกครอง หลายข้อมูลจากในเล่มนี้เป็นข้อมูลที่เราไม่เคยอ่านเจอมาก่อนทั้งๆ ที่ช่วงนี้ก็อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ติดต่อกันมาหลายเล่มอาจเป็นข้อมูลจากหนังสือเล่มที่เรายังไม่เคยอ่านหรืออาจเป็นข้อมูลจากบันทึกชาวต่างชาติ เป็นมุมมองจากชนชาติอื่นที่ได้บันทึกไว้หลายตอน เป็นการสรุปผลผ่านวิจารณญาณของผู้เขียน ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย เล่าประวัติศาสตร์ไทยและภูมิภาคใกล้เคียงตั้งแต่ครั้งเริ่มตั้งชุมชนริมแม่น้ำ ก่อนสมัยสุโขทัย .. อย่างคร่าวๆในช่วงนี้ผู้เขียนไม่ได้เล่าเรียงไทม์ไลน์ เล่าย้อนไปย้อนมาน่าเข้าใจผิดมีการตีความในแบบที่เราไม่คุ้นเคย แปลกๆ ดี การเล่าถึงประวัติศาสตร์ไทยในช่วงต้น ผู้เขียนเล่าไปอย่างเร็วๆอาจเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงในยุคก่อนเกิดขึ้นช้าต่อเมื่อคืบหน้ามาในยุคที่่ใกล้เคียงกับปัจจุบัน รายละเอียดก็เพิ่มมากขึ้นประวัติศาสตร์ไทยในช่วง 200 ปีล่าสุดนี้ถูกเล่าถึงอย่างเข้มข้น สำหรับเรา เรามองว่า ประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัย เป็นหนังสือประวัติศาสร์ที่สรุปมาแล้วผ่านการวิเคราะห์ตีความจากผู้เขียนมาแล้วไม่ได้เป็นข้อมูลดิบ หรือเป็นบันทึกโดยตรงจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หนังสือที่ใช้อ้างอิง ก็ไม่ใช่หลักฐานบันทึกดั้งเดิมเป็นเพียงหนังสือที่ถูกผู้เขียนยุคหลังๆ วิเคราะห์และเขียนขึ้นเช่นกัน[…]

เรื่อง ปราบพยศ ผู้แต่ง ศรีบูรพา สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า ราคา 135 บาท ความรู้สึกแรกพบเมื่อเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้คือ .. ตัวหนังสือตัวโตดีมาก เหมาะกับสายตาของคน (ที่เริ่มจะ) แก่ อย่างข้าพเจ้าจริงๆ 🙂 เป็นเพราะ “ข้างหลังภาพ” แท้ๆ เทียว ที่ทำให้เราคาดหวังกับ “ปราบพยศ” มากไปหน่อย อันที่จริงแล้ว ปราบพยศเป็นนวนิยายที่ค่อนข้างร่วมสมัย (ในสมัยนั้น) มีความล้ำหน้า ก๋ากั่นของนางเอก ซึ่งคงจะนับว่าเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดน่าดูในสมัยนั้น (แต่ในสมัยนี้ถือว่าเด็กๆ ไปเลย) เรื่องของเรื่องก็คือ นางเอกผู้มีชื่อว่า “ยวนใจ” มีความสวยงามเย้ายวนใจสมชื่อ เธอเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มเกือบทั้งพระนคร นางก็เลยเล่นตัวเสียให้สมกับความสวยนั้น ฝ่ายพระเอก นายกมล ดุสิตสมิตรของเราซึ่งได้จากพระนครไปอยู่ทางใต้เสียนาน พอกลับมาได้พบ และได้ยินกิตติศัพท์ของแม่ยวนใจเข้า ก็เลยสนใจ และอยากจะลองดี เรื่องราวของการ “ปราบพยศ” จึงได้เกิดขึ้น แผนการครั้งนี้ของนายดุสิตสมิตร เริ่มต้นด้วยการเข้าไปสมัครงานในตำแหน่งต่ำต้อยของบริษัทนางเอก[…]

หลังจากที่ลุ้นๆ ว่าจะว่างหรือเปล่า ในที่สุดก็ได้ไปงานหนังสือรอบที่สองเสียทีค่ะ หนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่างบหมด (ฮา) เราจึงถือโอกาสไปเก็บตกบูธที่เดินข้ามๆ ไปตอนมีถุงเต็มสองมือ ใช้เวลามากๆ เงินน้อยๆ ละเลียดคุ้ยอยู่ตามบูธร้านหนังสือเก่าค่ะ เงินน้อย คอยจังหวะฟลุ๊ค .. ซึ่งบางทีคุ้มค่ามาก ได้เจอหนังสือที่เล็งไว้ในราคาครึ่งเดียว กิจกรรมแบบนี้ทำได้ตอนมีเวลาเยอะๆ (และเงินน้อยๆ) เท่านั้น (อิอิ) สิ่งที่ทำให้ต้องกลับมางานหนังสืออีกครั้งให้ได้ คือสิ่งนี้ค่ะ .. สองนิทรรศการที่จัดร่วมกันในธีมนิทรรศการโลกคือนิยาย และนิทรรศการข้าพเจ้าได้เห็นมา ของศรีบูรพา (ข้างหลังภาพทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้ 555)   สูจิบัตรงานทั้งสองส่วนค่ะ ผลงานส่วนหนึ่งของกุหลาบ สายประดิษฐ์ หรือศรีบูรพาค่ะ นอกจากในส่วนที่จัดนิทรรศการแล้ว ระหว่างเดินในงานเรายังเห็นที่บูธต่างๆ อีกเยอะค่ะ แต่ละเล่มจากแต่ละบูธ ราคาไม่เท่ากันด้วย ต้องเดินดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อ ธีมนิทรรศการโลกคือนิยาย อีกส่วนของนิทรรศการ “ข้าพเจ้าได้เห็นมา” ของศรีบูรพาค่ะ ชนิด สายประดิษฐ์ คู่ชีวิตของกุหลาบ สายประดิษฐ์ค่ะ เคยฟังเพลงอาลัย (เพลงเก่าที่เคยถูกนำกลับมาใช้ประกอบภาพยตร์เรื่องไอ้ฟัก ร้องใหม่โดยมาช่า)[…]

เรื่อง ข้างหลังภาพ ผู้แต่ง ศรีบูรพา สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า ราคา 95 บาท หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ของเราแต่แรกหรอกค่ะ เล่มของเราหายสาบสูญไปแล้ว เล่มนี้ไปซื้อของเก่ามือสองมาเนียน ;P ข้างหลังภาพ เป็นอีกหนึ่งหนังสือที่เริ่มต้นด้วยความน่าเบื่อ (น้อยกว่าเวลาหน่อยนึง) ถูกบังคับอ่านเพราะเป็นหนังสือนอกเวลาเหมือนกัน แถมยังหลงรักหลังมันหลังอ่านจบเหมือนกันด้วย!! เล่มนี้โชคดีกว่าหน่อยนึงค่ะ ตรงที่ในช่วงที่ครูให้อ่าน .. ห้องสมุดโรงเรียนจัดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้พอดี เป็นเวอร์ชั่นของพี่หนุ่ย อำพล กับนาถยา แดงบุหงา แต่ขอบอก หนังก็เนิบนาบน่าเบื่อ และใช้ภาษาโบราณพอกัน โชคดีที่มันจบภายในสองชั่วโมง และนั่นก็เปลี่ยนความรู้สึกของเราที่มีต่อหนังสือเล่มนี้ทันที (อันที่จริงแล้วก็จำไม่ได้เหมือนกันว่า ตกลงแล้วอ่านจบก่อนหรือดูหนังจบก่อนกันแน่) ผ่านเวลาล่วงเลยมาหลายปี หยิบข้างหลังภาพมาอ่านอีกครั้ง ระหว่างอ่านหนนี้ ไม่นึกอิ่มเอมเหมือนที่เคยเป็น วันเวลาเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน อ่านแล้วก็ค้านความรู้สึกจนต้องคอยบอกตัวเองว่า .. อ่านอย่างเป็นวรรณกรรมเถิด อย่าอ่านด้วยคำตัดสิน อย่าเอาค่านิยมยุคนี้ไปตัดสินคนยุคก่อนเลย ก็ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าถามว่า แล้วรักหนังสือเล่มนี้น้อยลงหรือ ก็คงต้องตอบว่าเปล่าเลย ในการอ่านครั้งนี้ เรายังรักในความเฉลียวฉลาดของคุณหญิงกีรติ[…]