เรื่อง อำมหิตไม่เงียบ The Silence of the Lambs ผู้แต่ง โธมัส แฮร์ริส ผู้แปล อนุตรา มหาเดชน์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161829414 แคลร์ลิซ สตาร์ลิง เรียนจบ (น่าจะ) เป็นโรงเรียนตำรวจ มาด้วยคะแนนดีเยี่ยม เธอได้รับปริญญาเอก 2 สาขา คือ จิตวิทยา และอาชญวิทยา และยังมุ่งมั่นอยากทำงานต่อในแผนกพฤติกรรมศาสตร์ ของ FBI และตอนนี้ เธอกำลังเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดของ FBI ผลการฝึกหัดของเธอในช่วงนี้ก็ดีเยี่ยมเช่นกัน เรื่องเปิดฉากในตอนที่ แคลร์ลิซ สตาร์ลิง ถูกเรียกตัวจากสนามฝึกเร่งด่วน ให้ไปพบหัวหน้าที่แผนกพฤติกรรมศาสตร์ เขามอบหมายภารกิจหนึ่งให้เธอ ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องทั่วๆ ไป คือให้เธอนำแบบทดสอบพฤติกรรม ที่กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักโทษที่เป็นฆาตกรต่อเนื่อง เพื่อทำการวิจัยอะไรบางอย่าง มีนักโทษคนหนึ่ง ที่ทางการต้องการข้อมูลอย่างมาก แต่เขาไม่ยอมกรอกแบบสำรวจนั้น ฮันนิบาล เลกเตอร์ จิตแพทย์ ที่กลายเป็นโรคจิตเสียเอง[…]

เรื่อง สัญญาณเตือนตาย 5 ผู้แต่ง โจวเฮ่าฮุย ผู้แปล littleell สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161839017 งือ .. ร้องไห้ให้กับตอนจบค่ะ แม้ไม่ถูกใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็เสียน้ำตาให้กับตอนจบของเขาอยู่ดี T—-T ถึงไม่ถูกใจ แต่นี่ก็เป็นนิยายสืบสวนจีนเล่มแรก เป็นประสบการณ์ใหม่ รสชาติใหม่ ที่แตกต่างออกไปจากไทย ญี่ปุ่น และเกาหลี ให้ความรู้สึกย้อนวัยไปยังสมัยที่ดูภาพยนตร์เจ้าพ่อฮ่องกง แก๊งมาเฟียยกพวกตีกันสมัยก่อน บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ อะไรแบบนั้น อ่านแล้วก็คิดถึง มีฉากตราตรึงเป็นภาพจำหลายฉาก โดยเฉพาะฉากงานเลี้ยงปลามังกร ผู้เขียนบอกเป้าหมายของตัวละคร แล้วพาตัวละครเดินไปจบที่ทางตัน เราคิดตามตัวละครทุกอย่าง หาวิธีไปต่อไม่ได้เลย แต่สุดท้าย ตัวละครก็ทำได้ และทำได้สุดยอดมากจริงๆ ฟอร์มยักษ์ อลังการ สมศักดิ์ศรีมาเฟีย ช่วงกลางเล่ม การหักมุมเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครช่างกระชากใจ ตอนที่รู้คือช็อกมาก คือประเด็นคล้ายๆ กับแบบนี้เราเคยคิดไว้ก่อนแล้วนะ แต่ไม่คิดเลยว่าผู้เขียนจะใช้วิธีนี้ เพราะดำเนินเรื่องเนิ่นนานจนเราลืมประเด็นนั้นไปแล้ว จังหวะการเล่าเรื่องสุดยอดสุดๆ เราชอบความขัดแย้ง[…]

เรื่อง สัญญาณเตือนตาย 4 ผู้แต่ง โจวเฮ่าฮุย ผู้แปล ภวิษย์พร สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161838430 เล่มที่สี่ของชุด สัญญาณเตือนตาย เล่มนี้ ผู้เขียนเล่าเรื่องตัดสลับระหว่างสองฉาก คือฉากในคุก กับฉากนอกคุก สำหรับฉากนอกคุก คือฉากของภาพยนตร์ฮ่องกงสมัยก่อน ยุค “ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” อะไรแบบนั้น มีการแก้แค้นของแก๊งมาเฟีย ฆ่าได้หยามไม่ได้ วิถีลูกผู้ชาย ฯลฯ อ่านสนุก เร้าใจ และสะใจดี ส่วนฉากในคุก ตอนแรกค่อนข้างราบเรียบ เราอยากรู้เหมือนกันว่า เมื่อพระเอก .. (ขอเรียกคนในคุกว่าเป็นพระเอกละกันนะคะ ^^) เมื่อพระเอกเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว เขาจะวางตัวอย่างไร เราชอบวิธีที่ผู้เขียนสร้างตัวตนให้พระเอกนะ เราได้เห็นเขาในรูปแบบได้หลากหลาย ได้จินตนาการไปถึงการใช้ชีวิตก่อนที่เขาจะติดคุก ในตอนที่เขาฝึกฝนเพื่อจะเป็นในสิ่งที่เป็น เขาคงจะต้องมีหลายบุคลิก หลายบทบาท เพื่อกลมกลืนไปกับสถานการณ์ต่างๆ และชีวิตในคุก ก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ที่เขาแสดงออกมาให้เราเห็น แม้ว่าในช่วงแรก ชีวิตในคุกจะราบเรียบ และมีตัวละครชุดใหม่มาให้เราต้องจำชื่อกันอีก แต่พอเรื่องดำเนินมาจนถึงตอนจบเล่ม มันก็เริ่มตื่นเต้นและสนุก[…]

เรื่อง สัญญาณเตือนตาย 3 ผู้แต่ง โจวเฮ่าฮุย ผู้แปล ภวิษย์พร สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161837389 มาถึงเล่มที่สามในชุด สัญญาณเตือนตาย แล้ว พล็อตในตอนนี้มันสุดยอดไปเลย ตอนที่ผู้เขียนพาเราย้อนลึกไปยังข้อมูลคดีฆาตกรรมฆ่าหั่นศพในอดีต ตอนที่ผู้เขียนเฉลยปมทีละเปลาะ ช่วงนั้นเป็นตอนที่วางไม่ลง และหายใจไม่ทั่วท้องเลย เรื่องนี้ แทบจะไม่มีตัวละครที่ไร้ประโยชน์เลย ผู้เขียนเชื่อมโยงตัวละครทุกตัวเอาไว้อย่างแยบยล ขึ้นอยู่กับว่าจะดึงมาใช้ตอนไหนเท่านั้น ในบางตอนของเล่ม ผู้เขียนใส่ความโรแมนติกแบบหวานปนขม ขณะเดียวกัน เราก็อดเศร้าอยู่ลึกๆ สำหรับตอนจบที่มองไม่เห็นตอนจบของความโรแมนติกนี้ ในช่วงท้ายเล่ม ผู้เขียนก็ขมวดปมลุ้นระทึกสุดๆ ช่วงนี้หนังสือไม่ได้เล่าถึงคดีฆาตกรรมแล้ว แต่เล่าถึงสภาพจิตใจของตัวละคร ที่ผูกโยงมาจากเหตุการณ์เบื้องลึกเบื้องหลังเมื่อ 18 ปีก่อน ผู้เขียนค่อยๆ คลี่คลายแต่ละปมที่ค้างคาออกมา ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างปม สร้างเงื่อนไขซับซ้อนเพิ่มขึ้นใหม่ ขึ้นในใจตัวละครมากขึ้นไปอีก .. สนุกมากกกก ค่ะ ^^

เรื่อง สัญญาณเตือนตาย 2 ผู้แต่ง โจวเฮ่าฮุย ผู้แปล ภวิษย์พร สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161837198 แม้ยูเมนิดิสจะตายลงไปแล้ว .. แต่ยูเมนิดิสยังไม่ตาย .. เรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องนาม ยูเมนิดิส ที่ย้อนกลับมาก่อเหตุฆาตกรรมซ้ำจากเมื่อ 18 ปีก่อน นี่คือเล่ม 2 ของหนังสือในชุดนี้ เรื่องนี้ต้องอ่านต่อเนื่องมาตั้งแต่เล่มแรก อ่านแยกไม่ได้เลย คดีแรกของเล่มนี้ เริ่มต้นด้วยคดีที่มีผลต่อจิตใจโดยตรงของยูเมนิดิส เป็นคดีที่ไม่ใหญ่ ถ้ามองผ่านสายตาของคนที่อ่านเล่ม 1 มาแล้ว นี่เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ของสังคม แต่กลับเป็นคดีที่มีช่องโหว่ ให้เข้าถึงตัวเขาให้ง่ายขึ้น เปิดหลักฐานพยานมากขึ้นอย่างไม่จำเป็น และมันก็แสดงให้คนอ่านเห็นความหวั่นไหวในใจของเขา ฝ่ายตำรวจ เมื่อเปลี่ยนหัวหน้าทีมสืบสวน ตำรวจก็พลิกมาเป็นฝ่ายรุก และคดีก็ดูจะค่อยๆ เดินหน้าให้เห็น เวลานี้ ยูเมนิดิสไม่ได้มีคู่ตู่สู้เพียงคนเดียวอีกแล้วด้วย เขายังมีความแค้นจากอาหัว ผู้จงรักภักดีต่อประธานเติ้ง แห่งหลงอวี่กรุ๊ป และความแค้นจากหานเฮ่า ที่ถูกทำให้ตกต่ำหมดอำนาจ ในเล่มที่ 2 นี้ พอตัวตนของยูเมนิดิสถูกเปิดเผย[…]

เรื่อง สัญญาณเตือนตาย 1 ผู้แต่ง โจวเฮ่าฮุย ผู้แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161835910 เริ่มต้นบทนำด้วยจดหมายของฆาตกรโด่งดังเมื่อ 18 ปีก่อน เขาเขียนจดหมายท้าทายตำรวจที่เคยทำคดีนี้ เนื้อหาในจดหมาย ยั่วยุ ปลุกปั่น และเรียกร้อง เขาบอกว่าเขาเฝ้ารอเวลานี้มาถึง 18 ปี และเขากำลังจะกลับมาแล้ว แล้วฝ่ายผู้รับจดหมายเล่า จะรับคำท้าในการสืบคดีครั้งนี้หรือไม่ .. นั่นคือฉากเปิดเรื่องที่ไม่ต่างจากพล็อตนิยมเท่าไรนัก แต่หลังจากนั้นอีกเพียงไม่กี่หน้า ผู้เขียนก็หักมุมเราเป็นครั้งแรก! ทีมสืบสวนพิเศษถูกตั้งขึ้นมาเพื่อติดตามคดีนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงการย้อนไปหาต้นตอของคดีที่ยังค้างคาปิดไม่ลงในอดีต 18 ปีก่อน กับเล่มแรก เป็นการอ่านที่ค่อนข้างอึดอัดสำหรับเรา เพราะระยะห่างต่างชั้นระหว่างฆาตกรนามยูเมนิดิส กับทีมตำรวจพิเศษคณะนี้ ทิ้งช่วงห่างจากไกลกันเป็นกิโลฯ ตำรวจวิ่งตามผู้ร้ายอยู่หลายก้าว รอคอยเพียงข้อมูลที่ถูกหย่อนป้อน แทบจะไม่มีการสืบคดีหาข้อมูลเพิ่มเองเลย ภายในก็มัวแต่ระแวงกันเอง กั๊กกันเอง ไม่มีความร่วมมือร่วมใจใดๆ ขนาดรวมตัวเทพของวงการตำรวจมาขนาดนั้น (ผู้เขียนบอก เพราะตอนอ่าน เราก็รู้สึกว่าแต่ละคนเก่งกันแค่ช่วงเปิดตัว หลังจากนั้นก็วิ่งตามหลังฆาตกรอย่างที่บอก) แต่พล็อตก็อยู่ส่วนพล็อต ในส่วนของวิธีเล่าและการดำเนินเรื่องของผู้เขียนนั้น แตกต่างออกไป[…]

เรื่อง โปรดฟังให้จบ ผู้แต่ง มินะโตะ คะนะเอะ ผู้แปล หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161833695 มาจิดะ เคสุเกะ เป็นนักกีฬากรีฑาของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง เขามีสถิติที่ดี และยังสามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปได้อีก แม้อนาคตของเขาจะไม่ได้สดใสจนมองเห็นได้ชัด แต่ถ้าใช้ความพยายาม เขาต้องคว้ามันมาได้แน่ๆ เคสุเกะหันกลับมาตั้งใจเรียน เพื่อที่จะเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย ที่มีชื่อเสียงในด้านชมรมกรีฑา เขาอยากจะเป็นนักวิ่ง อยากจะเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันระดับประเทศ เคสุเกะมีเพื่อนร่วมชมรมคนหนึ่ง ยามากิชิ เรียวตะ คือแรงบันดาลใจในการวิ่งของเขา เรียวตะเป็นคนที่มีทั้งพรสวรรค์และความมุ่งมั่นล้นเหลือ แม้แต่การเข้าเรียนโรงเรียนมัธยปลาย เซไคกักคุอิน ก็มีแรงกระตุ้นมาจากเรียวตะด้วยเช่นกัน และในวันประกาศผล ทั้งสองคนก็สามารถสอบเข้าโรงเรียนเซไคกักคุอินได้ แต่ .. เหตุการณ์มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิดไปทุกอย่างหรอก .. สิ่งที่พยายามมาทั้งหมด กลับหลุดมือไป ทั้งที่ความตั้งใจก็สำเร็จ และผ่านพ้นไปด้วยดี หากความฝัน ก็ยังล่มสลายลงอยู่ดี ในความเคว้างคว้างที่ไม่รู้จะจัดวางตัวเองลงตรงไหน ในโรงเรียนที่ตัวเองอยากเข้า แต่ไม่ได้ทำอย่างที่อยากทำแล้ว จู่ๆ ก็มีสิ่งใหม่ผ่านเข้ามาในชีวิต มิยาโมโตะ มาซายะ เป็นเพื่อนอีกคน ที่เดินเข้ามาหาเคสุเกะ[…]

เรื่อง หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ ผู้แต่ง เซวิน แกเบรียล ผู้แปล อภิญญา ธโนปจัย สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161834401 หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ เป็นตัวอย่างของหนังสือที่เราจะเบื่อมันในตอนต้น แต่จะรักมันมากที่สุดในตอนจบ นี่เป็นคำตอบว่า ทำไมเราจึงควรอ่านหนังสือให้จบเล่ม แทนการเลิกอ่านไปกลางคัน แล้วบอกว่าไม่ชอบมัน หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องของ เอ. เจ. ฟิกรี้ ชายไม่หนุ่มเจ้าของร้านหนังสือ ที่สูญเสียภรรยาไป (ตอนเริ่มต้นของมัน ชวนให้เราคิดถึง อูเว อยู่หน่อยๆ) ทีแรกนึกภาพไปว่านี่คือเรื่องราวใสๆ ที่เล่าเรื่องชายหนุ่มผู้หลงรักหนังสือ แต่ผิดถนัด เล่มนี้เปิดเรื่องขึ้นด้วย การเดินทางของเซลส์ขายหนังสือสาว เอมิเลีย โลแมน ที่เดินทางมาขายหนังสือให้กับร้านเล็กๆ ร้านเดียวบนเกาะอลิซ เธอมาที่ร้านนี้เป็นครั้งแรก เป็นการรับช่วงต่อจากเพื่อนร่วมงานที่จากไป เจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้อารมณ์บูดตลอดเวลา เขามีปัญหาชีวิต และยังจัดการกับมันได้ไม่ลงตัว ใช่แล้ว .. เขานี่แหละ เอ. เจ. ฟิกรี้ เจ้าของเรื่องราวทั้งหมดในเล่มนี้ เรื่องในช่วงแรกนี้น่าเบื่อมากกกกกก ไม่มีหลักให้ยึดเกาะ ว่าทำไมเราต้องทนอ่านเรื่องของชายซึมกะทือ กับวิธีเล่าแปลกๆ[…]

เรื่อง แล้วเราจะได้พบกันอีก ณ ห้องสมุดปารีส ผู้แต่ง เจเน็ต สเกสเลียน ชาร์ลส์ ผู้แปล นรา สุภัคโรจน์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161851668 แล้วเราจะได้พบกันอีก ณ ห้องสมุดปารีส เล่าเรื่องของเหล่าผู้คนที่ทำงานในห้องสมุดอเมริกัน ในปารีส ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เนื้อเรื่องในเล่ม ถูกเล่าสลับกันไปมา ระหว่างเรื่องราวในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 คือราวๆ ปี ค.ศ. 1939 ก่อนที่สงครามจะคืบคลานเข้ามาในฝรั่งเศส จวบจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1945 ในห้วงเวลาที่สงครามจบลง เรื่องราวในส่วนนี้ถูกเล่าผ่านน้ำเสียงของโอดีล หญิงสาวผู้รักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ อีกส่วนหนึ่ง หนังสือได้ตัดสลับมายังเรื่องราวในอีกประมาณ 40 ปีต่อมา คือปี ค.ศ. 1983 ที่เมืองฟรอยด์ รัฐมอนแทนา อเมริกา หนังสือส่วนที่สอง ถูกเล่าผ่านสายตาของเด็กหญิงวัยรุ่นอีกคนหนึ่ง ที่ชื่อว่าลิลลี่ ตอนที่เรื่องเริ่มต้น โอดีลกำลังเตรียมตัวเพื่อจะไปสมัครงานเป็นบรรณารักษ์[…]

เรื่อง เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่นผู้แต่ง คาวางุจิ โทชิคาซึผู้แปล ฉัตรขวัญ อดิศัยสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161825898 หนังสือเล่มบางๆ อ่านง่ายๆเนื้อเรื่องเบาสบาย อบอุ่น ถูกแบ่งออกเป็น 4 เรื่องย่อยๆเรื่องราวของคู่รัก สามีภรรยา พี่น้อง และแม่ลูกเชื่อมโยงสอดประสานทุกพล็อตเข้ากันกันลงตัว น่ารัก ซาบซึ้งแม้จะเดาเรื่องได้ง่าย แต่ก็ยังอ่านสนุก เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ถ้อยคำที่เป็นดังคาถาพาให้เราย้อนเวลากลับไปสัมผัสอดีตอีกครั้งได้รู้สึกถึงห้วงอารมณ์ที่หลงลืม หรือเผลอทำผิดไปแม้จะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วแต่บางสิ่งที่ค้างคาในจิตใจ กลับได้คลี่คลาย ปลอบประโลม เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น เป็นหนังสือที่โด่งดังมาสักพักแล้วแต่เรายังรีรออยู่นานกว่าจะอ่านเพราะเคยอ่านรีวิวที่ถูกแบ่งออกเป็นสองกระแส มีทั้งชอบ ไม่ชอบแต่เมื่อได้มาลองอ่านเอง เราพบว่า มันดีกว่าที่คิดนะเป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งเลยเพระาฉะนั้น อย่าเพิ่งปิดใจนะคะ ลองหยิบมาอ่าน (อย่างไม่คาดหวัง) กันก่อน แล้วมาตัดสินกันค่ะว่า ชอบหรือไม่ชอบ 🙂 สิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากหนังสือเล่มนี้ คือข้อเตือนใจที่ว่าเราทุกคนมีเหตุผลของเราเสมอหากเพียงแต่ว่าเราจะยอมฟังเหตุผลของคนอื่นบ้างเรื่องอาจจะไม่เศร้าเท่านี้