อ่านแล้วเล่า

ของขวัญปีใหม่ฉบับพกพา

ใกล้วันปีใหม่ หลายๆ คนคงมองหาของขวัญปีใหม่สำหรับโอกาสนี้
หากน้อยคนที่จะมองหนังสือเป็นหนึ่งในตัวเลือก .. (น่าน้อยใจเนอะ)

สำหรับเรา หลายครั้งที่เราเลือกหนังสือเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ ค่ะ
เพราะเรารักหนังสือ .. เลยอยากจะให้คนอื่นๆ รักด้วย

แต่การจะหาหนังสือให้คนที่ .. อาจจะ .. ไม่อ่านหนังสือ
ก็เป็นโจทย์ที่ไม่ง่ายเหมือนกัน
หนังสือที่เหมาะที่จะทำหน้าที่นี้ จึงควรเป็นหนังสือที่เตะตาแต่อ่านง่าย
มีความน่ารัก .. พร้อมที่จะพบกับรักแรกพบจากผู้รับของขวัญ

หนังสือที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ สำหรับเรา เรามองว่าลำดับแรกน่าจะมีอบอุ่น
อ่านแล้วอุ่นๆ ในหัวใจ หรือชวนให้คิดถึงความอบอุ่นในวัยเยาว์ของผู้อ่าน
หนังสือเยาวชน และหนังสือครอบครัว มีคุณสมบัติแบบนั้นค่ะ
หนังสือที่ชวนให้เราย้อนคิดไปถึงคืนวันเก่าๆ อันแสนสุขในบ้านหลังแรก
อาจจะปนความทุกข์ ความเศร้าบ้าง แต่ก็เป็นสุขยามคิดถึง ..
อารมณ์มนุษย์มันซับซ้อนเนอะ ^^”

อีกแนวหนึ่งที่เหมาะก็คือ แนวคุยกับตัวเอง
อ่านแล้วเราได้ขบคิดถึงตะกอนความรู้สึกบางอย่างที่ตกค้างมานาน
นั่นล่ะ ใครๆ ก็ต้องมีน่า .. ปมด้อย ความลับ ความผิดพลาด ความฝันที่ยังไม่สำเร็จ ฯลฯ
หนังสือดีๆ สักเล่ม ที่ทำให้เราได้คิดถึงมัน .. ในแง่บวก ในแง่ที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น
หนังสือที่ชี้ให้เราเห็นอีกด้านของชีวิต
เราได้มองมันอีกครั้ง .. ในมุมมองที่เปลี่ยนไป

และด้วยโจทย์ที่ว่ามา ทำให้เราลองคัดหนังสือที่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญปีมาใหม่
คัดมาได้ 11 เล่มถ้วน ดังนี้ค่ะ ^^

00

เล่มแรก โลกหมุนรอบแมว ของปราย พันแสง
เล่มนี้คงความเป็นเล่มโปรดของเราพอสมควร
เพราะความน่ารัก ไม่เดียงสาของเจ้าหลง
และความผูกพันระหว่างคุณปราย คนไม่เลี้ยงแมว กับแมวหลงตัวแรก และตัวต่อๆ มา
เป็นหนังสือเล่มบางๆ ภาพประกอบเยอะๆ
แม้ไม่ชอบอ่าน ก็น่าที่จะเผลอใจเปิดอ่านจนจบค่ะ ^^

01

เล่มต่อมาที่น่ารักไม่แพ้กัน .. เรื่องเล่าของความรัก
เรื่องเล่าของความรัก เป็นหนังสือนิทานจากผู้หญิงช่างฝันค่ะ
เล่มนี้ก็บางอีกเช่นกัน และนอกจากภาพประกอบจะเยอะแล้ว
ระหว่างหน้ายังคั่นด้วยหน้าว่างสีหวาน เอาไว้ให้ผู้รับแอบจดบันทึกนิทานของตน
เป็นหนังสือที่ชวนให้ผู้รับได้หวนคิดถึงวัยเยาว์อันแสนสุขค่ะ

02

ยังอยู่ที่หนังสือแนวอุ่นๆ กันต่อ สองเงาในเกาหลี ค่ะ
เพราะปีใหม่อยู่ในฤดูหนาว ..
และความหนาวทำปฏิกริยาลงตัวพอดีกันกับความเหงา ความโรแมนติก
และความอบอุ่นของเรื่องราวในเล่ม เป็นหนังสือที่เหมาะจะอ่านในฤดูนี้ค่ะ ^^

03

เล่มต่อมา หนังสือเด็กสุดคลาสสิค .. โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง
เล่มนี้ได้รับการันตีความชอบมาจากนักอ่านถ้วนหน้า
เหมาะสำหรับผู้รับของขวัญทุกเพศทุกวัย
คำบรรยายเรียบง่ายไม่ซับซ้อน มีการแบ่งบทสั้นๆ ไม่ต้องอ่านติดต่อกันนานๆ
เนื้อหาน่ารัก จี้ต่อมจินตนาการ และลึกซึ้ง สะเทือนความคิด
พร้อมให้ผู้อ่านค้นคว้าความรู้สึกขณะอ่านได้แตกต่างกันไปตามช่วงวัย

04

อีกเล่มที่น่ารักไม่แพ้กัน (แม้จะโด่งดังไม่เท่ากัน) คือ ติสตู นักปลูกต้นไม้ ค่ะ
เล่มนี้เหมาะกับเด็กมากๆ (และเหมาะกับผู้ใหญ่ด้วย)
เพราะเป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยจินตนาการ และสอนวิธีคิดนอกกรอบให้เด็กๆ
และสำหรับผู้ใหญ่ที่ได้อ่าน เราก็จะได้อีกมุมมองหนึ่ง
ที่ทั้งเสียดสี ทั้งตีแผ่ความขี้โกงของผู้ใหญ่ที่หลงลืมหัวใจเด็ก
เป็นหนังสือที่ช่วยสะกิดใจผู้รับ ให้หวนคิดถึงความตั้งมั่นเมื่อยังเยาว์
ที่เราและใครหลายคนทำตกหล่นระหว่างเดินทางมาเป็นผู้ใหญ่ค่ะ

09

เพลงดวงดาว หนังสือที่เราเคยได้รับเป็นของขวัญมาเมื่อครั้งยังเด็ก
เป็นหนึ่งในหนังสือน้อยเล่มที่มี เฝ้าอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่มีเบื่อ
วันนี้อยากจะส่งต่อความรู้สึกนั้นค่ะ
แนะนำเป็นพิเศษสำหรับผู้รับที่เป็นเด็ก
เพราะของขวัญชิ้นนี้ จะกลายเป็นของรักอีกชิ้น เป็นความทรงจำวัยเด็กที่แสนดี
และเป็นเข็มทิศให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่หลงลืมหัวใจเด็กค่ะ

06

หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือที่เราเพิ่งจะได้ทำความรู้จักกันในปีนี้นี่เอง
เป็นความนุ่มนวลอ่อนหวานที่มีจังหวะจะโคน
แมวผู้มองเห็นกำแพงเป็นสะพาน เป็นหนังสือกลอนที่อ่านไม่ยาก
มีเนื้อเรื่อง มีที่มาที่ไป และไพเราะ สวยงาม .. ภาษาสวยมาก
ชีวิตคนไทยมีกลอน กวี คำคล้องจองต่างๆ อยู่ในหัวใจและในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
แมวผู้มองเห็นกำแพงเป็นสะพาน คือความสวยงามที่เข้าถึงได้ไม่ยากค่ะ

ปล. เราว่าถ้าผู้รับที่เป็นผู้ใหญ่อ่านให้เด็กๆ ในบ้านฟังแทนเพลงกล่อมเด็ก ..
ก็เป็นของขวัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในครอบครัว
เป็นความรื่นรมย์ที่น่ารักดีค่ะ

07

หนังสือเกี่ยวกับแม่ของคุณชมัยภรหลายเล่ม เป็นหนังสือที่เราชอบค่ะ
แต่ส่วนมากมักจะออกแนวหม่นๆ ไม่เหมาะสำหรับส่งเป็นของขวัญสักเท่าไร
มีเล่มนี้ค่ะ แม่ลูกปลูกต้นไม้ ที่มีหลากหลายอารมณ์แทรกอยู่
มีบรรยากาศอันเป็นธรรมดาของครอบครัว มีความอบอุ่น มีทะเลาะเบาะแว้ง
ขัดใจ น้อยใจ ห่วงหาอาทร และความคิดถึง
แม่ลูกปลูกต้นไม้ .. ชวนให้ผู้รับได้หวนคิดถึงความรู้สึกอันนั้นค่ะ

08

ถัดมาเป็นสองเล่มโปรดทุกสถานการณ์สำหรับเราค่ะ
ดังนั้น เมื่อจะมอบของขวัญปีใหม่ทั้งที ก็ไม่อาจมองข้ามสองเล่มนี้แน่ๆ ^^
นั่งฝั่งตะวันตื่น ยืนฝั่งตะวันตก และนายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา
หนังสือความเรียงจบในตอนที่เต็มไปด้วยความทรงจำและความคิดสร้างสรรค์
ผู้เขียนมีสำนวนที่เป็นเอกลักษณ์
และอ่านสนุกไปกับการจับคู่คำที่ต่างกันให้มาอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว
เป็นหนังสือที่มีดีทั้งเรื่องราวและวิธีนำเสนอค่ะ

05

เล่มสุดท้าย .. เล่มนี้ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยค่ะ 555
ตอนถ่ายภาพรวม ดันหยิบเล่มผิด เอามิมิคมาถ่าย (เบลอได้ขนาดนั้นนะคนเรา) ^^”
แต่จริงๆ ตั้งใจเลือกเล่มนี้ค่ะ .. โลกใหญ่ใบมด
(จริงๆ มิมิคก็เป็นหนังสือที่ดีนะคะ แต่ถ้าจะมอบให้คนที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือ
มิมิคอาจถูกดองเป็นของที่ระลึกเพียงอย่างเดียว .. ผิดคอนเซ็ปต์เราค่ะ ^^)

โลกใหญ่ใบมด เป็นหนังสือที่มีสรรพคุณเป็นวิทยาศาสตร์อ่อนๆ
แต่เป็นวิทยาศาสตร์ที่ย่อยง่าย และน่าสนใจ
พูดถึงสัตว์น้อยใหญ่รอบๆ ตัวเรา ในแง่มุมที่ละเอียดลออ สนุก แต่ไม่ใคร่จะมีใครเล่าถึง
เป็นของขวัญที่น่าอ่าน และอ่านไม่ยากเกินความตั้งใจค่ะ

10

ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างคร่าวๆ ของของขวัญที่เป็นหนังสือ (ในทรรศนะของเรา)
แต่หนังสือที่เหมาะเป็นของขวัญ ยังมีอีกมากมายหลายเล่มนับไม่ถ้วน
ขึ้นอยู่กับฝีมือการค้นหาและค้นพบ .. ของใครของมัน
ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความช่างสังเกต ความสนิทสนมรู้ใจกันระหว่างผู้ให้กับผู้รับ
ที่ต้องไปวัดฝีมือการเลือกของขวัญกันเองอีกระดับค่ะ

ขอให้มีความสุขในการให้ (หนังสือ) นะคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ^^

 

Comments are closed.