อ่านแล้วเล่า

บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1

70-5 บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1

เรื่อง บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ
ตอน คุณชิโอริโกะกับเหล่าลูกค้าผู้แปลกประหลาด

ผู้แต่ง เอน มิคามิ
ผู้แปล พลอยทับทิม ทับทิมทอง
สำนักพิมพ์ อนิแม็กบุ๊คส์
ราคา 290 บาท

โกระ ไดสึเกะ คือชายหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งที่อดีตเคยเป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือมาก
แต่วันหนึ่ง .. ในวันที่เขาแอบเข้าไปหาหนังสืออ่านในห้องหนังสือต้องห้ามของยาย
และถูกจับได้ .. เขาถูกยายตีอย่างแรงในทันทีที่จับได้ .. และยังถูกดุซ้ำอีก
โดยที่ยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำผิดอะไรมากไปกว่าการผิดคำสั่งของยาย
ความกลัวและความตกใจที่เกิดขึ้นทั้งหมด มีผลกระทบต่อจิตใจของเขา
นับจากนั้น เขากลายเป็นคนที่กลัวตัวหนังสือที่เรียงกันเป็นพืด
กลัวการอ่านหนังสือที่มีตัวหนังสือเยอะๆ และกลายเป็นคนที่ไม่ถูกโรคกับหนังสือตลอดมา
การที่คนเราอ่านหนังสือไม่ได้ .. หรืออ่านได้แต่จำกัดได้เพียงบางประเภทเท่านั้น
จะทำให้ชีวิตแตกต่างจากการเป็นตัวเราคนเดิมที่ยังอ่านหนังสือได้ขนาดไหนนะ?

โกระ ไดสึเกะ ในวัยมัธยม ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งในร้านหนังสือเก่าบิเบลีย
เขาสนใจเธอ แต่ก็รับรู้ได้ว่าโลกของเขาและโลกของเธอมันช่างแตกต่างกันอย่างสุดกู่

เมื่อโกระ ไดสึเกะ เติบโตจนถึงวัยจบมหาวิทยาลัย
เขาได้ค้นพบอีกครั้งว่า หนังสือเล่มที่เขาเคยเปิดอ่าน และเป็นความหลังฝังใจครั้งนั้น
คือหนังสือในชุดรวมผลงานของโซเซกิ โดยเล่มที่เขาเปิดอ่านคือเล่มที่ชื่อว่า จากนั้น
ระหว่างที่เขากับแม่กำลังช่วยกันจัดการหนังสืออันเป็นสมบัติที่หลงเหลืออยู่ของยาย
เขากับแม่ได้ค้นพบว่า หนังสือเล่มนั้นมีลายเซ็นลึกลับเป็นนามของผู้เขียนอยู่
เขียนอย่างชัดเจนว่ามอบให้คนคนหนึ่งที่ไม่ใช่ยายของเขา ..
หนังสือเล่มนั้นเป็นหนังสือที่มาจากร้านหนังสือเก่าบิเบลีย .. เมื่อเนิ่นนานมาแล้วนั่นเอง

71-4 บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1

ชิโนคาวะ ชิโอริโกะ คือชื่อของหญิงสาวคนนั้น
เธอเป็นเจ้าของร้านบิเบลียที่รับช่วงต่อมาจากพ่อที่เพิ่งเสียไป ..
ในเวลาไล่เลี่ยกับการจากไปของยายของไดสึเกะ

ชิโอริโกะ เป็นหญิงสาวที่ขี้อาย มนุษย์สัมพันธ์เข้าขั้นแย่
แต่ถ้าเป็นเรื่องหนังสือ เธอพูดได้ไม่หยุด
เธอมีความรู้เกี่ยวกับหนังสือมากมาย
และเธอมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ..
‘หนังสือเก่าไม่ได้มีคุณค่าแค่ที่เนื้อหา แต่หนังสือเองก็มีเรื่องราวของมัน’
และนั่นคือเสน่ห์ของหนังสือสำหรับเธอ ..

ชิโอริโกะได้ใช้ความช่างสังเกต และความรู้ที่เธอมีอยู่
ช่วยไดสึเกะไขปริศนาเกี่ยวกับหนังสือลึกลับในบ้านเล่มนั้นได้สำเร็จ
ความประทับใจเกิดขึ้นทำให้ชิโอริโกะชักชวนไดสึเกะ
ผู้เกลียดกลัวตัวหนังสือให้มาทำงานที่ร้านของเธอจนได้

ในท้ายบทที่หนึ่ง ไดสึเกะก็กลายร่างเป็นพนักงานแห่งร้านหนังสือเก่าบิเบลีย
เป็นพนักงานที่มีความสามารถในการอ่านหนังสือน้อยที่สุด
และมีความรู้เกี่ยวกับหนังสือน้อยเช่นกัน ..
แต่เขาก็มีความสุขในการทำงานท่ามกลางกองหนังสือพะเนินเทินทึกนั้น

นั่นคือปฐมบทของหนังสือเล่มนี้
หนังสือเล่มนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ตอน
แต่ละตอนถูกแบ่งออกเป็นต่างเรื่องราวกันไป
โดยมีตัวละครหลักคือชิโนคาวะ ชิโอริโกะ เจ้าของร้านบิเบลียยุคปัจจุบัน,
ชิโนคาวะ อายากะ สาวน้อยวัยมัธยมผู้เป็นน้องสาวของเจ้าของร้านหนังสือ
และโกระ ไดสึเกะ
 ชายหนุ่มผู้กลัวหนังสือ
ทั้งหมดจะช่วยกันไขปริศนาเกี่ยวกับหนังสือ (ที่ไม่มีฉากฆาตกรรม) ในตอนต่อๆ ไป

71-2 บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1

ในตอนที่สอง ชิดะ ลูกค้าขาประจำของร้านได้นำหนังสือหายากมาขายให้
และก็ได้ฝากให้ชิโอริโกะช่วยตามหาหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกขโมยไปด้วย
หนังสือเล่มที่ว่านั้นคือ เก็บฟาง/เซนต์แอนเดอร์สัน ของโคยามะ คิโยชิ
ฉบับพิมพ์ครั้งแรก โดยสำนักพิมพ์ชินโจบุงโกะ
(หนังสือที่อยู่ในแต่ละตอนน่าจะเป็นหนังสือที่มีอยู่จริง ..
น่าเสียดายที่เราไม่รู้จักสักเล่ม ..
น่าจะมีหนังสือแบบนี้โดยนักเขียนไทยบ้างเนอะ ^^)

การตามหาหนังสือเล่มนี้ .. เราเดาออกด้วย .. ฮูเร่ ๕๕๕
แต่เป็นการเดาออกอย่างกะปริบกะปรอยค่ะ
แต่ในรายละเอียดแล้ว ชิโอริโกะยังคงเป็นหญิงสาวที่น่าทึ่ง และน่าทึ่งมาขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าเจ้าของร้านหนังสือสาวแสนสวยคนนี้น่ารัก
เป็นความน่ารักที่ไม่ได้มาจากความสวย แต่มาจากนิสัย
แม้จะติดอ่างเวลาพูดกับคนที่ไม่คุ้นเคย
หรือแม้แต่คุ้นเคยขนาดทำงานด้วยกันนานๆ แล้วก็ยังติดอ่างอยู่ดี
ยกเว้นแต่เพียงกรณีเดียว คือกรณีที่คุยเรื่องเกี่ยวกับหนังสือ
ความอ่อนด้อยทางมนุษยสัมพันธ์นี้ต่างหาก ที่ทำให้เธอน่ารัก
ส่วนพระเอกของเรา แม้จะเป็นคนที่ดูจะไม่ได้เรื่องเท่าไร
แต่การที่เขากำลังแอบชอบคุณเจ้านายอยู่ ก็ทำให้เขาน่ารักด้วยเหมือนกัน
เป็นหนังสือที่อ่านแล้วได้อมยิ้มๆ จิ้นเบาๆ พอชุ่มชื่นหัวใจ
ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ จะพากันชอบหนังสือเล่มนี้เป็นเสียงเดียวกัน

71-3 บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1

ตอนที่สาม เป็นตอนของหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกเก็บมานานหลายสิบปี
แล้ววันหนึ่ง เจ้าของก็ตัดสินใจขาย ..
มันไม่ใช่หนังสือที่มีราคาค่างวดอะไร ไม่ใช่หนังสือหายาก
แต่ทันทีที่เขากลับออกไปจากร้านบิเบลีย ภรรยาของเขาก็โทรศัพท์มาหาไดสึเกะ
และสอบถามถึงหนังสือเล่มนั้น และสามีของเธอ ..
หนังสือเล่มเดียว สามารถบอกเล่าประวัติของเจ้าของหนังสือถึงอดีตอันทึมเทา
และปริศนาบางอย่างที่เกี่ยวกับหนังสือและเจ้าของหนังสือ ..
กำลังจะถูกไขโดยชิโอริโกะอีกครั้ง

71-1 บิเบลีย บันทึกไขปริศนาแห่งร้านหนังสือ 1

ในตอนสุดท้ายของเล่ม เป็นเรื่องราวของนักเขียนแปลกประหลาด
ผู้ใช้หนังสือเป็นจดหมายลาตายของตนเอง
หนังสือเล่มนั้นถูกเขียนมาตั้งแต่ตอนที่เขาเพิ่งอายุ 27 ปี
แถมนักเขียนคนนี้ยังผ่านการฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้ง!
หนังสือเล่มที่ว่านี้มีอายุกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้ว
มันเป็นสมบัติตกทอดมาในตระกูลของชิโอริโกะ
มันเป็นหนังสือที่ผิดพลาดทางการพิมพ์เพียงเล่มเดียวที่มีลายเซ็นของนักเขียนด้วย!

ชิโอริโกะลงทุนนำหนังสือเล่มนี้ออกมาจากตู้เซฟของเธอ
และตั้งใจใช้มันเป็นเหยื่อล่อ .. เพื่อจับผู้ร้ายบางคนในคดีของตอนนี้!!

ตอนสุดท้ายนี้สนุกมาก คือนอกจากจะมีตอนของตัวเองแล้ว
มันยังสรุปรวมเหตุการณ์ในเล่มให้จบลงอย่างสมบูรณ์ ลงตัว
เป็นตอนที่พีคที่สุด
อ่านแล้วความรู้สึกที่เคยชอบเฉยๆ กลายเป็นชอบมากแบบพุ่งพรวดเลยค่ะ

บิเบลียฯ เป็นหนังสือที่มีกลิ่นอายของคนรักหนังสือกรุ่นกระจาย
เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อคนรักหนังสือโดยแท้
คนรักหนังสือหลายคน จดจำวลีหรือประโยคในหนังสือได้ยาวๆ ท่องจำขึ้นใจ
ซึ่งคงเกิดจากความประทับใจสุดๆ รวมถึงอาจเคยอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่นับเที่ยว
คนแบบเดียวกัน ที่เข้าใจกัน .. เข้าใจพฤติกรรมของคนที่รักหนังสือ
และความสุขที่ได้สัมผัส ได้ดมกลิ่น ได้หยิบอ่าน และได้รู้เรื่องราวของมัน
ได้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงประวัติศาสตร์ของหนังสือแต่ละเล่ม ..
ตั้งแต่ตอนที่มันเริ่มก่อร่างเป็นต้นฉบับ
ตราบจนถูกตีพิมพ์จากหลายสำนักพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หนังสือทุกเล่มมีเรื่องราวเป็นของมันเอง .. ที่ล้วนน่าทึ่งสำหรับคนที่รักมัน

ทั้งหมดที่กล่าวมา .. เกิดขึ้นในบิเบลียฯ ค่ะ ^^

ปล. ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องนะคะ แต่ .. กุริกับกุระช่างเป็นหนังสือที่ดังมากในญี่ปุ่นจริงๆ
อ่านหนังสือแปลญี่ปุ่น 2 – 3 เล่มช่วงนี้ เอ่ยถึงหนังสือเล่มนี้เกือบทุกเรื่อง!

Comments are closed.