อ่านแล้วเล่า

ต้นธาร วิถีมอญ

เรื่อง ต้นธาร วิถีมอญ
ผู้แต่ง องค์ บรรจุน
สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์
เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744752185

ต้นธาร วิถีมอญ เป็นบทความที่ชวนให้เรานึกถึง เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก
ผู้เขียนความทรงจำดีมาก
เล่าเรื่องราวเก่าๆ เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เอาไว้น่าสนใจ

ชีวิตวัยเด็กของผู้เขียน ซึ่งเป็นคนมอญสมุทรสาคร
รวมตัวกันอยู่เป็นชุมชน ขนานไปกับคลองปากบ่อ
ลำคลองสายเล็กๆ ที่เชื่อมต่อออกไปได้ถึงแม่น้ำท่าจีน
มีวัดปากบ่อหรือวัดสามง่ามเป็นทั้งที่พบปะแลกเปลี่ยน
และเป็นศูนย์รวมยึดเหนี่ยวจิตใจ
คนมอญด้วยกันเรียกชาวมอญแถบนี้ว่าเป็น “มอญน้ำเค็ม”
หรือบางทีก็เรียกกันว่า “มอญน้ำกร่อย”

คนมอญบ้านปากบ่อนี้อพยพมารวมตัวกันตั้งแต่เมื่อราวร้อยกว่าปีก่อน
ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.3)
อพยพมาจากตำบลบางกระเจ้า และตำบลบ้านบ่อส่วนหนึ่ง
กับชุมชนมอญริมแม่น้ำท่าจีนอีกส่วนหนึ่ง

ซึ่งชาวมอญเหล่านี้ยังคงรักษาขนมธรรมเนียมประเพณี
แบบมอญดั้งเดิมเอาไว้ในวิถีชีวิตประจำวัน
มีบ้างที่เชื่อมต่อผสมผสานไปกับธรรมเนียมชนชาติอื่นๆ
ที่อยู่ร่วมด้วย
โดยเฉพาะไทยและจีน

เนื้อเรื่องที่เล่าในเล่มนี้ จึงสอดแทรกไปด้วยวิถีชีวิต
ตามความเชื่อของมอญ (ปนไทยและจีน)
นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงครอบครัว
ที่คนในครอบครัวมีฝันและหวังไปกันคนละทาง
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล อาจมีเศษเสี้ยวของสาเหตุมาจาก
ชาติพันธุ์ที่ยังไม่สามารถรวมกันขึ้นเป็นประเทศได้ ..
ปมยังคงเป็นปมอยู่ในหัวใจ
มากบ้างน้อยบ้างสุดแท้แต่จิตใจของคน

ชีวิตวัยเด็กของผู้เขียนไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก
เป็นชีวิตที่เกิดมาในบ้านที่กระเบียดกระเสียร
หากแต่ก็มานะอดออม
และคนไทยสมัยก่อน ต่อให้อดอย่างไร 
ในน้ำก็ยังมีปลา ในนาก็ยังมีข้าวเสมอ
ผู้เขียนเติบโตขึ้นมาอย่างเด็กบ้านสวน
มีบ้านของพ่อและแม่ ที่ร่วมแรงกันก่อร่างขึ้นมา
มีสวนพุทรา ที่ภายหลังกลายเป็นสวนมะพร้าว ทำน้ำตาลมะพร้าว
และยังปลูกพืชผักสวนครัว ผลไม้อื่นๆ เอาไว้อีกมาก
มีลำคลองน้ำกร่อยไหลผ่าน ปลูกพืชบางชนิดได้งาม
แต่ก็ปลูกพืชบางชนิดก็ไม่ได้เลย ..
ทั้งหมดนี้คือสังคมที่ผู้เขียนเติบโตมา

ต้นธาร วิถีมอญ เป็นหนังสือที่มีภาษาเรียบง่าย เป็นกันเอง
ไม่ได้ใช้ศัพท์แสงซับซ้อนให้ต้องแปล

แม้เนื้อเรื่องจะเรื่อยๆ สนุกบ้าง เฉยๆ บ้างมาตลอดเล่ม
แต่เมื่ออ่านมาถึงสองบทสุดท้าย เรากลับชอบมันมากๆ
ผู้เขียนจบเล่มลงด้วยความน่าประทับใจ และกินใจ
ซึ่งนอกจากจะชวนให้เราคิดถึงชีวิตวัยเยาว์ของตนเองแล้ว
ผู้เขียนยังทำให้เราเข้าใจถึงหัวใจของชนที่มีชาติ แต่ไร้ประเทศที่ตั้ง
ผู้คนร่วมเผ่าพันธุ์อยู่กันอยากกระจัดกระจาย
วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ถูกผสมผสาน
กลมกลืนไปกับเผ่าพันธุ์ร่วมถิ่นที่อยู่

เป็นหนังสือที่เล่าวิถีชีวิตตนเองธรรมดาๆ
แต่ชวนให้เราหวนคิดถึงความหลังเหลือเกินค่ะ

 

Comments are closed.