อ่านแล้วเล่า

ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์

เรื่อง ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์
ผู้แต่ง มิจิโกะ อาโอยามะ
ผู้แปล อภิวัฒน์ พวงไธสง
สำนักพิมพ์ piccolo
(สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์)
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161850135

ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์
ดูจากชื่อเรื่องแล้ว .. เดาได้ไม่ยากเลยว่า

หนังสือเล่มนี้ต้องเกี่ยวข้องกับหนังสือเล่มก่อนหน้า ..
โกโก้อุ่นๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ อย่างแน่นอน

แม้ว่าเรื่องจะเกี่ยวข้องกัน แม้ว่าเรื่องจะต่อเนื่องกัน
แต่เราอ่านรีวิวแล้วพบว่า คนอ่านแบ่งออกเป็นสองฝ่าย
คือฝ่ายที่ชอบโกโก้ฯ มากกว่า กับฝ่ายที่ชอบชาเขียวฯ มากกว่า
ความแตกต่างระหว่างสองเล่มนี้อยู่ตรงที่
เล่มชาเขียวฯ ใกล้ตัวกว่า เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายกว่า
หากแต่ก็ไม่ซับซ้อน ไม่ท้าทาย
ในขณะที่โกโก้ฯ มีตัวละครที่ซับซ้อนมากกว่า
ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
แต่เรามักพบเจอตัวละครลับตามหลืบมุมต่างๆ ของเรื่องต่างหาก
นอกจากนี้ ประเด็นที่นำเสนอ ยังเป็นประเด็นที่เฉพาะเจาะจง
และอาจจะไกลตัวคนอ่านที่ไม่ได้มีประสบการณ์ร่วมกับตัวละคร

ถ้าถามว่าเราต้องอ่านสองเล่มนี้ต่อเนื่องกันตามลำดับไหม
สำหรับเรา เราว่าควรนะ
เพราะ ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์ เป็นเรื่องราวภายหลังจาก –
เหตุการณ์ในเล่ม โกโก้อุ่นๆ กับคุณในวันพฤหัสฯ ผ่านไปประมาณ 2 ปี
เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร
ของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครในแต่ละคู่ แต่ละตอน
แม้ว่าในเล่มนี้ จะไม่ได้หยิบตัวละครทุกคู่มาเล่าต่อ
บางคนหายไปเลย และมีตัวละครใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา
แต่สำหรับตัวละครที่ยังมีอยู่นั้น พัฒนาการของเขาก็ช่วยชุบชูจิตใจของเรา
เหมือนได้เห็นคนรู้จัก เติบโตไปในเส้นทางที่ดี มีชีวิตที่มีความสุข 🙂

นอกจากนี้ ผู้เขียนยังสลับตัวผู้เล่าเรื่องในแต่ละคู่
เราจะได้อ่านอีกมุมมองจากอีกตัวละครที่เคยเป็นเพียงบุคคลที่สามในเล่มแรก

ส่วนตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในเรื่อง
ก็ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวและปมประเด็นที่น่าสนใจ
น่ารักไม่แพ้เล่มแรกเลยทีเดียว

มาว่ากันถึงชื่อเรื่อง ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์
ทำไมต้องวันจันทร์? ..
เพราะว่าวันจันทร์ มาร์เบิ้ลคาเฟ่ปิด มันเป็นวันพักของวาตารุ
แต่มาสเตอร์ เจ้าของร้านตัวจริง ..
ใช้เวลาวันจันทร์ที่ร้านปิด จัดอีเวนท์พิเศษสลับกันไป

สำหรับจันทร์นี้ อีเวนท์พิเศษนั้นคือ
แปลงกายมาร์เบิ้ลคาเฟ่ ให้กลายเป็นมัทฉะคาเฟ่
และให้คิปเป ลูกชายคนเดียวของร้านน้ำชาเก่าแก่แห่งเกียวโต
ซึ่งกำลังจะมาเปิดสาขาในโตเกียว อันเป็นที่ตั้งของมาร์เบิ้ลคาเฟ่
ได้มาทดลองเปิดคาเฟ่ที่นี่ก่อนหนึ่งวัน
คาเฟ่ชาเขียววันเดียวร้านนี้ จึงเป็นจุดเปิดเรื่อง
และเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวในเล่มนี้

ตัวละครสำคัญ และก็เป็นตัวละครลับ
ที่ซ่อนอยู่ในเรื่องคนหนึ่ง คือคุณมาสเตอร์
เขาเป็นคุณลุงวัย 50 หน้านิ่งๆ มีไฝกลางหน้าผาก
คุณมาสเตอร์เป็นเจ้าของร้านมาร์เบิ้ลคาเฟ่
ที่วันหนึ่ง ก็ทิ้งร้านไว้กับพนักงานใหม่หมาด
(เรื่องเกิดขึ้นในตอนแรกของเล่มโกโก้ฯ ค่ะ)

ส่วนตัวเองก็หายตัวไปเลย ไปทำอย่างอื่น
นานๆ ทีจึงจะกลับมาที่ร้าน
ซึ่งก็ไม่ได้กลับมาทำอะไรมากไปกว่าการนั่งหลบมุม
อ่านหนังสือพิมพ์อยู่เงียบๆ

เหมือนเป็นลูกค้าคนหนึ่งในร้านของตัวเอง

ตลอดทั้งเล่ม คุณมาสเตอร์จะโผล่ว็อบแว็บ นานๆ ที
ตรงบทนั้นบ้าง บทนี้บ้าง
เหมือนไม่มีผลต่อเนื้อเรื่อง
แต่จริงๆ แล้วเขาน่าจะเป็นคนขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมด

เรารู้สึกว่าเขามีความ fairy tale หน่อยๆ
เหมือนมีเวทมนตร์นิดๆ แฟนตาซีนิดๆ

ไม่รู้ว่าเป็นคนจริงๆ หรือเป็นผู้วิเศษปลอมตัวมา
แต่กับเล่มนี้ คุณมาสเตอร์จับต้องได้มากขึ้น
ดูเป็นคนธรรมดามากขึ้น

จากเล่มโกโก้ฯ ที่มีธีมเล่าเรื่องตามสี สลับเปลี่ยนกันไปในแต่ละตอน
เล่มชาเขียวฯ เล่าเรื่องตามเดือนค่ะ
และเพราะว่าเล่มนี้เล่าเรื่องด้วยเดือนต่างๆ เคลื่อนคล้อยไปในปีหนึ่ง
เรื่องราวประกอบเรื่องเล่าในหลายตอน จึงเป็นเรื่องของเทศกาล
และ .. เทศกาลหนึ่งที่สะดุดใจเรามากๆ ก็คือ
เทศกาลในเรื่องเล่าของเดือนสิงหาคม
มันเป็นเทศกาลหนังสือเก่า ที่จัดอยู่ใกล้ศาลเจ้าในเกียวโต
ในช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าวแบบสุดๆ!!

นี่มันเป็นเทศกาลหนังสือเก่า
ที่เป็นฉากเดียวกันกับในหนังสือสองเล่มที่เราเพิ่งอ่านจบไปนี่นา!!
คืนพิสดาร ศาลเจ้า สาวผมดำ กับ
วันร้อนตับแลบ รีโมตแอร์ ไทม์แมชชีนบลูส์
เหมือนเดจาวูเลยค่ะ 55555

ในตอนนี้ เราชอบมากเลย
ชอบที่ผู้เขียนสร้างตัวละครที่บังเอิญไปเจอหนังสือที่ตามหาเล่มหนึ่ง
คือมันใช่เลย มันคืออารมณ์ของคนที่ตามหาหนังสือในความทรงจำวัยเด็ก

แล้วประเด็นที่แทรกมาในตอนนั้น ..
ประเด็นที่บอกว่า คนเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนกัน
ไม่ต้องพยายามฝืนใจทำในสิ่งที่เราไม่ชอบ แต่แฟนชอบ
ไม่ต้องอดทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะแฟนไม่ชอบ
คนที่มีความชอบต่างกัน เป็นแฟนกันได้นะ ..
แค่ยอมรับความชอบ และพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันก็พอ
มันยืนยันได้ด้วยตัวละครคู่สามีภรรยา ที่อยู่กันมาได้เพราะแบบนั้นจริงๆ
คุณภรรยาในตอนนี้น่ารักมากๆ เลยล่ะ

สิ่งหนึ่ง ที่เล่มโกโก้ฯ บอกกับเราก็คือ
คนเราเกี่ยวข้อง เชื่อมโยง ช่วยเหลือ และส่งต่อพลังดีๆ ให้กันอยู่
แม้จะไม่รู้ตัว แม้จะไม่ได้ตั้งใจ
แต่ทั้งหมดที่ได้รับมาจากทุกคน ก็ทำให้เราเป็นเราในทุกวันนี้
ในเล่มชาเขียวฯ ผู้เขียนก็ยังยืนยัน message เดิม
ที่เพิ่มเติมคือ มีหลายตอนที่ตัวละครบอกกับเราว่า
เราไม่ต้องพยายามเป็นอะไรหรอก
เป็นอย่างที่เราเป็นให้ดีที่สุด ให้มีความสุขที่สุด
อยู่ในที่ที่ถูกที่ควร แล้วเราก็จะเปล่งประกายออกมาเอง

ในเล่มที่แล้ว เราชอบนะ
แต่เป็นความชอบแบบที่เฉลี่ยๆ กันไป เท่ากันเกือบทุกตอน
แต่กับเล่มนี้ มีตอนที่ชอบมากๆ อยู่หลายตอนเลยค่ะ

โดยรวม เราว่าเล่ม ชาเขียวอุ่นๆ กับคุณในวันจันทร์ เป็นหนังสือที่น่ารัก
ดีงามเหมือนเล่มโกโก้ฯ ..
ดีงามกว่าด้วยซ้ำ
มันเหมือนกับว่าผู้เขียนได้เติบโตขึ้น ได้ตกผลึก
ย่อยสิ่งต่างๆ ที่แฝงเอาไว้ในเล่มโกโก้ฯ
ให้เล็กลง เข้าถึงได้ง่ายขึ้น สัมผัสใจของเราได้ง่ายขึ้น
เป็นเล่มที่ทั้งแก้คิดถึงเล่มก่อน และยังปลอบประโลมหัวใจผู้คนโดดเดี่ยว
เราทุกคนไม่ได้อยู่คนเดียวหรอกนะ
พวกเราอยู่ท่ามกลางกันและกัน ..
ทั้งผู้คน สรรพสัตว์ ต้นไม้ สิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิตรอบๆ ตัว
ที่ล้วนทะนุถนอม ดูแลกัน ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจ
มันเป็นความอบอุ่นที่โอบล้อม ปลอบโยน ..
ว่าเราไม่ได้กำลังต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ตรงหน้าอยู่เพียงลำพัง
ดีจังเลยนะ 🙂

Comments are closed.