อ่านแล้วเล่า

จากดอยยาวถึงภูผาจิ

เรื่อง จากดอยยาวถึงภูผาจิ
ผู้แต่ง จันทนา ฟองทะเล
สำนักพิมพ์ แพรว
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786163873385

จากดอยยาวถึงภูผาจิ เป็นหนังสือบันทึกเหตุการณ์
และบันทึกประสบการณ์ของผู้เขียน ภายหลังจากเหตุการณ์เดือนตุลาคม 2519
นับจากวันที่ผู้เขียนตัดสินใจเดิน ‘เข้าป่า’ ทางจังหวัดเชียงราย
ไปด้วยการตัดสินใจอย่างแน่วแน่ เพื่อต่อต้านสิ่งที่บ้านเมืองเป็นอยู่ในขณะนั้น
หาวิธีต่อสู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีขึ้น

เขาเข้าร่วมกับกองกำลังติดอาวุธในป่า อันมีสมาชิกเป็นทั้งนักศึกษา
เป็นชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา และชาวเขาเผ่าต่างๆ
รวมไปถึงกำลังสนับสนุนจากต่างชาติ ทั้งลาว เวียดนาม จีน ฯลฯ

ในตอนเริ่มต้น เราอ่านหนังสือเล่มนี้ ..
ไปด้วยหัวใจเต้นตึก ระทึกทั้งๆ ที่ไม่มีสาเหตุ
จินตนาการทำงานเต็มที่ ทั้งตามไปกับคำบรรยายของผู้เขียน
และล้ำหน้าไปด้วยหลายสิ่งที่อวลอยู่ในหัว
นั่นคืออารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนอ่าน

เราได้เห็นรายละเอียดจากเหตุการณ์หลังวันที่ 6 ตุลาคม 2519
อย่างที่เราเคยอ่านแต่ในบทความ ที่กล่าวถึงแต่ความสูญเสีย ความเจ็บปวด
เป็นเพียงบทสรุปเหตุการณ์ ที่เราได้แต่รับฟัง
แต่ จากดอยยาวถึงภูผาจิ เป็นหนังสือที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ให้แก่เรา
เราได้ซึมซับความรู้สึกของผู้คน
โดยไม่ต้องมีใครมาสรุปให้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไร

ได้ล่วงรู้กิจวัตร สิ่งต่างๆ ที่พวกเขาทำกันในป่า
ได้เห็นภูเขา ต้นหญ้า ป่าไม้ และลำน้ำ .. ไปพร้อมๆ กับพวกเขาด้วย
ได้เห็นความยากลำบาก ความร่วมมือ และความขัดแย้งในแง่มุมต่างๆ

ความว้าวุ่นใจระหว่างการรอคอยอันไม่เกิดผล
การเดินทาง การโยกย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
กิจกรรมที่ทำร่วมกัน, สถานการณ์ที่จีน ลาว เวียดนาม และกัมพูชาในขณะนั้น
ธรรมชาติ สภาพความเป็นอยู่ และสภาพแวดล้อม ฯลฯ
เราได้รับรู้ สุข เศร้า และเข้าใจ โดยที่ไม่ต้องอธิบาย
ผู้เขียนผูกโยงทั้งหมดให้กลายเป็นบันทึกประสบการณ์อันล้ำค่า
มีเพียงภาพที่ผู้เขียนวาดให้ และปล่อยให้เราเข้าไปในมัน ..

 

ในช่วงต้น ผู้เขียนถูกจัดอยู่ในหน่วยศิลป์ ได้ศึกษาดนตรีอย่างมีแบบแผน
และกลายเป็นวงดนตรีสำหรับปลุกใจ และเพื่อคลายความเครียด
อาจเป็นเพราะเหตุนี้ ในเล่มจึงมีการบันทึกเพลงต่างๆ เอาไว้ไม่น้อย

ชีวิตในป่าผูกพันกับดนตรี เพลง และบทกวีต่างๆ
ซึ่งถ่ายทอดทั้งความรักชาติ ปลุกใจ และคิดถึงบ้าน
มีทั้งเพลงที่ฮึกเหิม และอ่อนหวาน เศร้าสร้อย ฯลฯ
ทำให้เราได้เห็นความรู้สึกนึกคิดของผู้คนในกลุ่มนี้
และนอกจากบทเพลงเหล่านั้น .. 
บทกวีท้ายเล่มที่ถูกใส่มาด้วย ก็ไพเราะ และกินใจ

แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้
จะเป็นเหตุการณ์ที่ผู้อ่านมองว่าเป็นช่วงเวลาที่แย่ช่วงหนึ่งในชีวิตของผู้เล่าเรื่อง
ไม่ควรที่จะจดจำ หนำซ้ำยังอยากจะลืมมันให้หมด
แต่ผู้เขียนกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เขาเป็นนักจดจำรายละเอียดต่างๆ รอบๆ ตัว
เก็บงำมาถ่ายทอดเป็นเรื่องเล่า .. ทั้งความสุข ความเศร้า และความคิด ..

เมื่อเล่าทุกอย่างที่ประทับใจในหนังสือเล่มนี้ลงไปทั้งหมด แล้วกลับมาอ่านทบทวน
เราคิดว่า เราอาจจะทำให้คนอ่านรีวิวเข้าใจผิดนิดหน่อย
หนังสือเล่มนี้ แม้จะเล่าเรื่องที่ถูกปิดบังมานาน ดูเย้ายวน และน่าอ่าน
แต่ก็มีหลายช่วงหลายตอน ที่หนังสือเล่มนี้ดำเนินไปอย่างเนิบๆ
ไม่ได้หวือหวา บู๊ล้างผลาญ หากใครจะจินตนาการไปถึง
หนังสือเล่มนี้เล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วอย่างสุขุม
เป็นถ้อยคำที่ผ่านกระบวนการคิด ตกผลึกลงแล้วระดับหนึ่ง
ดังนั้น อย่าตั้งค่าความหวังกับหนังสือเล่มนี้เกินสิ่งที่มันมี
จากนั้น .. ค่อยเริ่มเปิดหน้าแรกค่ะ 🙂

 

 

Comments are closed.