อ่านแล้วเล่า

คลื่นลวง

26 ดั่งไฟใต้น้ำ

เรื่อง คลื่นลวง
ผู้แต่ง กิ่งฉัตร
สำนักพิมพ์ อรุณ
(สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์)
ราคา 305 บาท
(พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2550)

เมื่ออ่าน “ดั่งไฟใต้น้ำ” จบ อดไม่ได้ที่ติดหยิบ “คลื่นลวง” ออกมาอ่านต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุ
จำได้แต่เพียงว่า เมื่อตอนที่อ่านคลื่นลวงเป็นครั้งแรกนั้น
รู้สึกว่านิยายเรื่องนี้ชวนให้คิดถึงดั่งไฟใต้น้ำยังไงไม่รู้

และเนื่องจากว่าคลื่นลวงเป็นนิยายเรื่องค่อนข้างใหม่ของกิ่งฉัตร
ซึ่งสำหรับเรานั้น จำนวนรอบที่อ่านลดน้อยลงจากนิยายเรื่องแรกๆ (ของกิ่งฉัตร) มาก
นิยายเรื่องนี้ก็เช่นกัน ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะอ่านไปแค่รอบเดียว แล้วเก็บเงียบเลย
จำอะไรเกี่ยวกับนิยายเรื่องนี้ไม่ได้สักอย่าง
มีแค่ความรู้สึกปลายๆ ติ่งเท่านั้นที่คิดว่าควรหยิบมันมาอ่านต่อจาก “ดั่งไฟใต้น้ำ” เป็นอย่างยิ่ง

มาค่ะ มาตามอ่านไปด้วยกันดูสิว่า ทำไมเราถึงตัดสินใจอย่างนั้น

จากคำนำ กิ่งฉัตรบอกเราว่า “คุณชัช” จากรอยพรหม เป็นอีกคนที่ผู้อ่านถามถึงเรื่อยๆ
555 อยากจะบอกว่า เราจำอะไรเกี่ยวกับรอยพรหมไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ
ตั้งใจว่าจบคลื่นลวงคงต้องเอารอยพรหมมาทบทวนความจำควบคู่กันไปเลยท่าจะดี ^^

คลื่นลวง เป็นนิยายที่กิ่งฉัตรเกิดแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย
กิ่งฉัตรเปิดเรื่องได้เร้าใจตามเคย ด้วยฉากบนเรือ และเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ
ชายหนุ่มคนหนึ่งเห็นภรรยาตัวเองที่กำลังตั้งครรภ์ถูกฆ่าลงไปต่อหน้าต่อตา
และเขากำลังจะเป็นรายต่อไป
ในตอนนั้นเองที่สึนามิเกิดขึ้นทำให้เรือโคลง และตัวเขาพ้นวิถีกระสุนไปอย่างเฉียดฉิว

เรื่องเปิดอีกครั้งในครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีพี่สาว – ตุลยาเป็นหัวหน้าครอบครัว
กับน้องสาวคนเล็ก- ตมิสา จอมเฮี้ยวและเอาแต่ใจ (กับพี่ชายที่อยู่เมืองนอก ถูกเอ่ยถึงแค่นิดเดียว)
ตมิสา (จันทร์เจ้า) ได้พบกับร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งนอนเกยหาดอยู่หลังเกิดสึนามิเพียงไม่กี่วัน
ตุลยา (ตะวัน) สั่งให้คนงานพาร่างนั้นกลับมาที่บ้านซึ่งเป็นรีสอร์ท (ที่พังยับเพราะสึนามิ)
ขณะนั้น ทั้งสถานีตำรวจและโรงพยาบาลในเมืองเต็มไปด้วยคนเจ็บ คนตายและความวุ่นวาย
ด้วยวุฒิพยาบาลติดตัว นายตะวันจึงรับเป็นผู้ดูแลชายหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นเอาไว้ที่รีสอร์ทนั่นเอง
“นายหลง” แม้ไม่ได้ความจำเสื่อม แต่เขาปิดปากเงียบไม่ยอมเล่าเรื่องของตัวเอง
เขายอมลงให้จันทร์เจ้า และภักดีต่อนายตะวัน ยอมเก็บตัวเงียบอยู่ในรีสอร์ทบนเกาะเล็กๆ นั้นเอง

กิ่งฉัตรเปิดตัวชัชชวาลเอาไว้เป็นผู้ร้ายนัมเบอร์วัน
ในวันหนึ่ง หลังจากนายหลงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้ครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวนี้ได้รู้
ความสัมพันธ์ของนายหลงและกับทั้งนายตะวันและจันทร์เจ้าก็เริ่มแปลกๆ
ด้วยความที่กิ่งฉัตรชอบหลอกคนอ่าน ทำให้เราชักจะลังเลใจว่า ตกลงแล้วใครเป็นนางเอกกันแน่
ระหว่างคนที่เรียบร้อย แต่เข้มแข็งเหมือนมีคณา (ฟ้ากระจ่างดาว) หรือสาระสะมา (มนต์จันทรา)
กับคนที่ปากร้ายและชอบหาเรื่องตลอดเวลาแบบอุ้ม วรันธร (ลางลิขิต)

หลังจากที่นายหลงได้กลายเป็นคุณรพี นักธุรกิจผู้ร่ำรวยแล้ว
เขาได้พาตมิสาขึ้นกรุงเทพฯ เพื่อไปเป็นกันชนให้เขากับศัตรูที่วางแผนฆ่าเขาด้วย
คนที่บุคลิกปากพล่อย แขวะเล็กแขวะน้อยน่ารำคาญแบบยายอุ้ม
พอเปลี่ยนข้างมาคอยแขวะศัตรูของพระเอกแทนที่จะแขวะพระเอกเองแล้วนั้น
ทำให้คนอ่านสะใจและออกจะชอบตัวละครที่มีนิสัยแบบนี้ขึ้นมาเยอะทีเดียว ^^

กิ่งฉัตรวางพล็อตนิยายเรื่องนี้แปลกจากเรื่องอื่นนิดหน่อย
ตรงที่บอกตัวร้ายโต้งๆ ให้คนอ่านรู้ตั้งแต่ช่วงต้นๆ เรื่อง
บอกความนึกคิดของตัวร้ายให้คนอ่านได้รู้ไปพร้อมๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย
แต่กิ่งฉัตรก็คือกิ่งฉัตร เพราะพี่ปุ้ยได้กั๊กตัวร้ายอีก (อย่างน้อย) หนึ่งตัวเอาไว้ให้คนอ่านเดาเล่น

เมื่อตมิสา ‘เข้ากรุง’ เธอก็ใช้ฝีปากระรานใครๆ ไปทั่ว สมกับที่รพีตั้งใจไว้
แต่มีคนหนึ่งที่เป็นคู่ปรับสมน้ำสมเนื้อ
นานๆ ทีกิ่งฉัตรจะให้มีคู่ต่อสู้ที่มีฝีปากสูสีกับตัวละครปากร้ายพวกนี้
คราวนี้คนอ่านเลยนั่งดู (นั่งอ่าน) การโต้คารมกันอย่างเมามันส์ เป็นอีกหนึ่งอรรถรสของนิยายเรื่องนี้

การที่กิ่งฉัตรเปิดเผยตัวคนร้ายให้เรารู้ตั้งแต่ต้นเรื่องนี้
ทำให้เราได้เห็นสิ่งหนึ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมา นั่นคือเส้นทางการทำผิดของคนคนหนึ่ง
ซึ่งเริ่มต้น อาจเป็นแค่ความผิดเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกับที่คนทั่วๆ ไปทำ
แต่ถ้าเรายอมทำความผิดนั้นโดยไม่มีหิริโอตัปปะ
ความผิดเล็กๆ น้อยๆ จะค่อยๆ กลายเป็นความเคยชิน และทำให้กล้าที่จะทำความผิดที่ร้ายแรงขึ้น
ทุกครั้งที่เราทำผิด ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็จะค่อยๆ ลดลง
กว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้ง เราอาจจะเผลอทำบาปมหันต์โดยไม่ทันยั้งคิด

มนุษย์ เป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณในการปกป้องตัวเองสูงมาก
ถ้ามนุษย์ปล่อยให้ตัวเองแวดล้อมอยู่ในสิ่งที่เลวร้าย ในที่สุดชีวิตก็จะติดกับดักตัวเอง
คนดี คนเลว ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนรอบข้าง
แต่ขึ้นกับตัวเราเองต่างหาก ที่จะเลือกสิ่งแวดล้อมเช่นไรให้ตัวเอง

อีกหนึ่งอย่างที่พิเศษสำหรับนิยายเรื่องนี้คือ …
นิยายเรื่องอื่นๆ ของกิ่งฉัตร ในฉากเลิฟซีนมักจะเป็นฉากแสดงความรักหวานๆ อบอุ่นๆ
บางทีแค่มองตา จับมืออะไรแค่นั้น แล้วใช้สถานการณ์ประกอบจนหวานละลาย
แต่ในเรื่องนี้ กิ่งฉัตรติดเรทคร่าาาา!! (ไม่รุนแรงค่ะ แค่สักเรท 15+ ละกัน)
เลิฟซีนเรื่องนี้เป็นเรื่องรักของเพลย์บอยรุ่นเดอะ กับสาวเฮี้ยวตมิสานี่เอง ^^
อ่านแล้วก็กรี๊ด กิ่งฉัตรเขียนแบบนี้ด้วยอ่า >,<
กรี๊ดกร๊าดไม่ทันจบหน้ากระดาษดี กิ่งฉัตรก็ใช้เวทมนตร์ของกิ่งฉัตร
เปลี่ยนเลิฟซีนเป็นฉากฮาๆ หน้าตาเฉย ให้มันได้อย่างนี้สิ! 555

และสำหรับพล็อตนิยายสืบสวนเรื่องนี้ของกิ่งฉัตร ต้องนับได้ว่าเนื้อเรื่องซับซ้อนมากกว่าเรื่องอื่นๆ
มีลูกล่อลูกชนให้เราสงสัยหลายคน แต่ละคนน่าสงสัยพอๆ กัน มีโอกาสเป็นผู้ร้ายทุกคน
มีการเฉลยตัวฆาตรกรชนิดเผาหลอกเผาจริง หลอกคนอ่านสองสามต่อ
(สารภาพว่าตอนอ่านแอบพลิกไปสปอยล์ตอนจบก่อนด้วย 555)

ตอนจบงานนี้ พระเอกก็ได้คู่กับนางเอกไปตามฟอร์ม
แถมด้วยนางร้าย (แบบนิดๆ หน่อยๆ) ก็คู่กับพระร้ายแบบสูสีคู่คี่พอให้ชีวิตครึกครื้น
คนอ่านก็ชื่นมื่นมีความสุข
เป็นนิยายอีกเรื่องที่อ่านสนุก ได้อรรถรสครบทั้งเปรี้ยวหวานมันเค็มค่ะ

นิยายเรื่องนี้ ผิดแบบแผนของกิ่งฉัตรจุดเล็กจุดหน่อยไปหลายจุดอยู่เหมือนกัน
โดยเฉพาะตอนจบ จบแบบนี้อดคิดไม่ได้ว่า หรือกิ่งฉัตรคิดจะมีภาคต่อ?
สำหรับตัวละครที่เหลือที่พอจะไปต่อได้นั้น มองไปมองมาไม่เห็นใคร
บางทีอาจจะเป็นพี่ชายคนโตของนายตะวันกับจันทร์เจ้านี่ล่ะ ที่พอจะเข้าเค้า
หรือไม่อีกที คนอ่านนี่แหละโรคจิตคิดมากไปเอง
ต้องรอดูกันต่อไปค่ะ

ทิ้งท้ายเอาไว้นิดนึง บทสนทนาของตัวละครในเรื่องเข้ากับสถานการณ์พอดีค่ะ ^^

26-2 ดั่งไฟใต้น้ำ

 

 

Comments are closed.