อ่านแล้วเล่า

ทางเทวดา เทวาวาด

87-1 ทางเทวดา เทวาวาด

เรื่อง ทางเทวดา เทวาวาด
ผู้แต่ง แก้วเก้า
สำนักพิมพ์ ทรีบีส์
(สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ)
ราคา 350 บาท

เป็นนิยายที่อ่านรอบแรกไม่ค่อยเท่าไร แต่ยิ่งอ่านยิ่งชอบ ยิ่งอ่านหลายรอบยิ่งรักค่ะ
ปลื้มใจกับความดี ความมุ่งมั่นในการทำดีของตัวละคร
และภูมิใจแทนตัวละครเหล่านั้น สำหรับผลที่ได้รับ

ทางเทวดา เทวาวาด เป็นนิยายขนาดสั้นสองเรื่องที่รวมอยู่ในเล่มเดียวกันค่ะ
ทั้งสองเรื่อง เป็นเรื่องราวของมนุษย์เดินดินธรรมดาผ่านสายตาของเหล่าเทวดาบนสวรรค์
โดยมีท่านเทพเลขาฯ เป็นผู้เล่าเรื่องด้วยสำนวนสนุกสนาน (ของผู้เขียน)
อ่านไปหัวเราะไปทั้งเรื่องค่ะ

เรื่องแรก .. ทางเทวดา
เป็นเรื่องของเทวดาองค์หนึ่งที่มีอดีตเป็นกวีหลวงสมัยอยุธยา
เทวดาองค์นี้ใกล้จะหมดบุญบนสวรรค์แล้ว และจะต้องเตรียมตัวลงไปจุติในโลกมนุษย์
ในยุคที่เรียกกันว่าโลกาภิวัฒน์ คำว่า ‘เลือกเกิดได้’ เกิดขึ้นได้จริงบนสวรรค์แล้ว
เพราะท่านเทวดาที่ถึงกำหนดไปเกิดใหม่เหล่านี้ มีสิทธิจัดสรรผลบุญที่สร้างสมมาของตนเอง
เพื่อเลือกรูปแบบชีวิตที่จะลงไปเกิดเองได้ค่ะ
สามารถเลือกได้ว่าจะมาเกิดในฐานะอะไร หน้าตาสวยหล่อหรือขี้เหร่
ร่ำรวยหรือยากจนแค่ไหน ฯลฯ
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลบุญที่ได้สะสมมาแต่ชาติปางก่อนด้วย

แต่เทวดาผู้เป็นเจ้าของเรื่ององค์นี้มีความคิดที่แปลกผิดเทวดาทั่วไปค่ะ
ท่านเลือกที่จะใช้ผลบุญทั้งหมดไปในส่วนของสติปัญญาความรู้
โดยลดทอนในส่วนของหน้าตาและความร่ำรวย
ด้วยการเลือกเกิดเช่นนี้ ทำให้เทวดาองค์นั้นได้ลงมาเกิดในรูปของเด็กชายสาแคน โคกกระโดน
เด็กชายตัวดำขี้ริ้วขี้เหร่ ในครอบครัวยากจนแห่งบ้านโคกกระโดน
เด็กชายสาแคนเป็นเด็กเรียนดี มีความจำเป็นเลิศ มีความอดทน และเป็นเด็กดี
เขาได้รับการสนับสนุนจากบรรดาครูให้ได้เรียนต่อในลำดับที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ แม้ไม่มีเงิน
เขาสอบชิงทุนต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนบ้านนอกที่เขาเรียนอยู่
เขาเป็นเด็กชายเพียงคนเดียวแห่งบ้านโคกกระโดน
ที่ได้ไปศึกษาต่อถึงระดับปริญญาเอกด้านศัลยแพทย์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในต่างประเทศ

87-2 ทางเทวดา เทวาวาด

แม้สาแคนจะเรียนดี แต่หน้าตาและฐานะก็เป็นอุปสรรค์ในการจีบสาวพอสมควร
รักแรกของสาแคน .. น้ำมนต์ มนต์ธาร .. จึงล้มคว่ำไม่เป็นท่า
แต่ถึงแม้ว่าจะโชคไม่ดีในด้านความรัก แต่เขาก็มีเพื่อนที่ดี
และเพื่อนดีคนนี้นี่เองที่นำพารักแท้ คู่ตุนาหงันจากสวรรค์ส่งมาให้เขา .. ได้มารู้จักกัน
.. เอ เอริกา

เพื่อนคนนี้ชื่อตุ้นค่ะ ตุ้น จลาธิป เป็นกะเทยผู้น่ารัก
สร้างความสนุกสนานให้คนอ่านเอาไว้หลายประการ
ผู้เขียนสลับกันเล่าด้วยสำนวนกระเทย สำนวนอีสาน สำนวนเทวดา สำนวนโอเวอร์ๆ ฯลฯ
หรือพูดจากมุมมองคนดี มุมมองคนเลว คนเห็นแก่ตัว มันใช่ มันอินไปหมด ซูฮกเลยค่ะ

ผู้เขียนตอกย้ำความจริงที่ว่าทำดีได้ดี ได้อย่างสนุก (มาก) อิ่มเอม ชื่นชมไปกับชีวิตของสาแคน
ที่ไม่ว่าจะมีอุปสรรค์ใดเข้ามา เขาก็ยังยึดมั่นในความดีไม่แปรเปลี่ยน
อ่านจบแล้วรู้สึกอิ่มเอม มีสิ่งดีๆ ตกค้างอยู่ในอารมณ์ให้นึกถึงมากมาย .. ชอบค่ะ ^^

ส่วนอีกเรื่องต่อมา .. เทวาวาด .. เป็นเรื่องราวของมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งบนโลกใบเดียวกันค่ะ
บนสวรรค์แห่งเดียวกันนี้เอง มักจะนิมนต์พระอรหันต์ หรือพระสงฆ์แท้ผู้ทรงศีล
ขึ้นมาเทศนาเหล่าเทวดาอยู่เสมอๆ
ในยุคสมัยนี้ พระรูปหนึ่งที่ได้รับนิมนต์ให้มาเทศน์ประจำก็คือหลวงตาคง แห่งวัดสมอเหล็ก

ที่วัดสมอเหล็กนี้มีเด็กต่างจังหวัดเข้ามาอาศัยเพื่อเล่าเรียนหนังสือในเมืองหลวงอยู่หลายคน
หนึ่งในกลุ่มเด็กๆ เหล่านี้ ยังมีเด็กชายสามคนที่หลวงตาเป็นห่วงเป็นพิเศษ
วันหนึ่ง หลวงตาคงบังเอิญได้ไปเห็นคอมพิวเตอร์บนสวรรค์
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้บันทึกชะตากรรมของมนุษย์โลกทั้งหลาย
บันทึกความดี ความชั่ว และเรื่องราวต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับมนุษย์แต่ละคนเอาไว้ตั้งแต่เกิดจนตาย
หลวงตาจึงขอเทวดาดูชะตากรรมของเด็กลูกศิษย์วัดทั้งสามคนนี้

เขต หรือเด็กชายเขตอรัญ เป็นเด็กวัดขนานแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
เพราะเด็กชายกำพร้าพ่ออยู่ก่อนแล้ว และแม่ได้สิ้นลมไปตั้งแต่เขายังเล็กๆ
ก่อนตาย แม่ได้ฝากฝังเขาไว้กับหลวงตาคง และเขาก็กลายเป็นเด็กวัดนับตั้งแต่วันนั้น
เด็กชายเขตอรัญเป็นเด็กดีเลี้ยงง่าย ขยัน อดทน แต่ดวงชะตาชีวิตกลับไม่ดีเอาเสียเลย
มันหักเหและพานให้พบอุปสรรคหลายครั้งถึงขั้นติดคุก ..
ดวงชะตาในข้อนี้เองที่ทำให้หลวงตาเป็นห่วงเขามากๆ
และเฝ้าอบรมสั่งสอนให้เขาทำดี เป็นคนดี เพื่อจะผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง

87-3 ทางเทวดา เทวาวาด

เด็กชายคนต่อมาคือโยโย่ .. เด็กชายพลัง แต้เจริญอำนวยกุล
ผู้ขยันกินและนอนจนตัวอ้วนกลม
ดวงชะตาของโยโย่ไม่มีอะไรเลวร้าย เขาเกิดในครอบครัวพ่อค้า
และก็ดำเนินรอยตามพ่อ ชีวิตปกติสุขพอประมาณ

เด็กชายคนสุดท้าย เด็กชายอุ๋ย .. สำราญ อิ่มละไม
เป็นเด็กชายอุ๋ยเป็นเด็กหน้าตาดี พูดจาอ่อนหวานช่างฉอเลาะเอาอกเอาใจ
แต่แท้จริงภายในเค็มเหมือนเกลือจนหลวงตานึกเปรียบเปรยในใจว่าเป็นเกลือเคลือบน้ำตาล
ดวงชะตาของอุ๋ยในตอนต้นนี้ค่อนข้างดี มีดวงเด่นดัง นารีอุปถัมภ์
แต่ท้ายที่สุดต้องตายตอนอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น

เมื่อหลวงตาได้รับรู้ดวงของเด็กๆ ทั้งสามคน ท่านก็ไม่ปริปากบอกใคร
เพียงแต่คอยเอาใจใส่ดูแลเด็กๆ เหล่านี้อย่างใกล้ชิด
เฝ้าอบรมสั่งสอนให้ยึดมั่นในศีลธรรม (เน้นหนักในเรื่องมงคล 38 ประการด้วย)

จวบจนหลวงตาล้มป่วย และเด็กๆ เข้าไปทำความสะอาดห้องให้หลวงตานั่นแหละ
วันหนึ่ง พวกเขาก็ได้เห็นกระดาษที่หลวงตาจดชะตาชีวิตของพวกเขาเอาไว้
ทุกคนสองจิตสองใจ ไม่รู้ว่ามันคือคำทำนายหรืออะไรกันแน่

สำหรับเขตอรัญ แม้ว่าเขาจะเลือกทางเดินชีวิตในทางที่ดี ที่ถูกที่ควร
แต่แล้ววันหนึ่ง ชีวิตของเขตก็เดินทางมาพบกับเหตุการณ์ตามคำทำนายในข้อแรกจนได้
.. วิวาท บาดเจ็บ เข้าโรงพยาบาล!

นับจากนั้น เขาเพียรเฝ้าวิ่งหนีหนทางที่เดินไปสู่ผลตามคำทำนาย
แต่ยิ่งหนี ก็ยิ่งไม่พ้น หัวใจของเขาร่ำร้องโหยหา ..

เทวาวาด เป็นตัวอย่างของคนที่ไม่ยอมแพ้โชคชะตา
แม้ในตอนต้นเขาจะวิ่งหนีมันอยู่บ้าง เพราะกลัวในผลต่อเนื่องของมัน
แต่เมื่อเขาตัดสินใจจะสู้แล้ว ความมุ่งมั่น ยึดมั่นในความดีก็เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
อ่านจบแล้วอิ่มเอมไม่แพ้เรื่องแรกเลยค่ะ
เป็นนิยายที่สร้างแรงบันดาลใจ มีกำลังใจให้ทำความดี (ที่สนุกมาก ไม่น่าเบื่อเลยค่ะ)

Comments are closed.