อ่านแล้วเล่า

ชายไร้สีกับปีแสวงบุญ

เรื่อง ชายไร้สีกับปีแสวงบุญ
ผู้แต่ง ฮารูกิ มูราคามิ
ผู้แปล มุฑิตา พานิช
สำนักพิมพ์ กำมะหยี่
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786167591322

ชายไร้สีกับปีแสวงบุญ เป็นกระบวนการปลดล็อคปมในใจของชายคนหนึ่ง
เริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นก่อนการก่อกำเนิดของปมนั้น
ผ่านเวลาที่เหตุการณ์เหตุการณ์หนึ่งสร้างบาดแผลขึ้น
และอีกหลายปีต่อมา ที่สถานการณ์เดินทางมาถึงจุดที่เขาบอกกับตัวเองว่า
ไม่ควรปล่อยให้มันค้างคาอีกต่อไป

ชายไร้สีกับปีแสวงบุญ เล่าถึงกลุ่มเพื่อนวัยมัธยม 5 คน
ที่มารวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมบางอย่าง และเมื่อกิจกรรมนั้นลุล่วงไปแล้ว
มิตรภาพยังคงอยู่ และเติบโต งอกงาม
กลุ่มเพื่อนทั้ง 5 คนนี้ ประกอบไปด้วย ทสึคุรุ ทาซากิ ชายไร้สีผู้เล่าเรื่อง
นอกจากนี้ เพื่อนชายและหญิงอีกอย่างละ 2 ทุกคนล้วนแล้วแต่มีสีสันอยู่ในชื่อ
เด็กหนุ่มผู้ฉลาดปราดเปรื่อง ที่มีคำว่าแดงในชื่อ
เด็กหนุ่มผู้เป็นนักกีฬา ล่ำสัน แข็งแรง ผู้มีคำว่าน้ำเงินในชื่อ
เด็กสาวผู้อ่อนหวาน สวยงาม รักการเล่นเปียโน ที่มีคำว่าขาวอยู่ในชื่อ
และสุดท้าย เด็กสาวที่เชื่อมันในตัวเอง มีชีวิตชีวา ผู้มีคำว่าดำอยู่ในชื่อ

ทั้งห้าคน เป็นกลุ่มเพื่อนที่กลมเกลียว เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืน
เป็นกลุ่มที่สมดุล และทุกคนพยายามที่จะรักษาสมดุลนั้น
จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง ..
ที่เกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้ทสึคุรุต้องถูกขับออกจากกลุ่ม
เพื่อนๆ ไม่ยอมรับโทรศัพท์จากเขา ไม่ยอมให้เขาติดต่อมาหาอีก
โดยบอกแต่เพียงว่า เขาน่าจะรู้เหตุผลนั้นอยู่แก่ใจอยู่แล้ว!

เขามึนงง ชีวิตพังภินท์ ..
เป็นความพังเพราะถูกกลุ่มคนที่ไว้ใจที่สุดปฏิเสธ .. โดยไม่รู้สาเหตุ

เขาพาตัวเองไปยืนอยู่ที่ขอบเขตระหว่างความเป็นตาย
ในที่สุด เขาผ่านมันมาได้ แต่ตัวตนภายในของเขาเปลี่ยนไป
เขาเสียศูนย์ สูญเสียความเชื่อมั่นในตนเอง ความนับถือตนเอง
ดวงตาที่มองโลก และมองตัวเองเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เขามองเห็นคุณค่าในตัวเองลดลง

มาถึงคำอธิบาย ถึงความสงสัยที่เราเคยมีต่อชื่อเรื่อง ..
ปีแสวงบุญ เป็นชื่อเพลงคลาสสิคเพลงหนึ่งที่ทสึคุรุชอบฟัง
le mal du pays ของ Franz Liszt
มันเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยปลอบประโลม และเยียวยาเขา ในช่วงที่ชีวิตพังที่สุด
มันเป็นแผ่นเสียง ที่ได้รับจากเพื่อนปริศนาคนหนึ่ง .. ไฮดะ ฟุมิอากิ
นอกจากนี้ มันยังหมายถึงการออกเดินทางเพื่อย้อนกลับไป
ณ จุดที่บาดแผลนั้นเกิดขึ้น
เป็นการเดินทางกลับไปหาเพื่อนทีละคน
และค่อยๆ ได้รับคำตอบที่ค้างคามาเป็นสิบปี

มูราคามิเล่าเรื่องได้ดี
การกลับไปหาเพื่อนเก่าในกลุ่มทีละคน
สะสางปัญหา ถามถึงต้นเหตุ .. ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนๆ กัน
แต่บรรยากาศ และอารมณ์ในเรื่องแตกต่างกันไปตามลักษณะของตัวละคร
มูราคามิเล่าเรื่องได้ไม่ซ้ำ ไม่รู้สึกว่าอ่านเรื่องเดิม
ทุกคนมีมุมมองต่อเรื่องเดียวกันแตกต่างกันออกไป
และเราได้มองจากทุกมุม ได้เห็นภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นมุมกว้างรอบด้าน

เขาเล่าเรื่องในสไตล์ที่น่าค้นหา
เล่าไปเรื่อยๆ จากเรื่องหนึ่ง ต่อไปยังอีกเรื่องหนึ่ง
ว่าด้วยทัศนคติของมนุษย์เป็นหลัก
ปมปัญหาบางอย่างในใจ ผู้คน เรื่องราว จิตวิญญาณ

เรื่องนี้มีประเด็นที่น่าสนใจ
บรรยากาศของเรื่องไม่ได้นิ่งเกิน
มันมีการเคลื่อนไหว มีการก้าวไปข้างหน้า
มีปม วิธีแก้ปม และดำเนินการแก้ปม

มันไม่ได้เกิดขึ้นในทีเดียว แต่ปมปัญหาที่ว่านั้นค่อยๆ คลี่คลายออกช้าๆ
ลึกลับนิดๆ และน่าติดตาม

ถามถึงความรู้สึกที่มีต่อหนังสือเล่มนี้ ..
เราชอบนะ แต่เป็นความชอบที่เป็นส่วนตัว
หนังสือของมูราคามิเป็นเช่นนั้น
เราต้องมีประสบการณ์บางอย่าง หรือความรู้สึกบางอย่าง
เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในเรื่องก่อน
ดังนั้น เรื่องที่คนหนึ่งชอบ อาจไม่ใช่เรื่องที่อีกคนหนึ่งชอบ
เรื่องนี้แค่มีองค์ประกอบของเรามากหน่อย ก็เท่านั้น

คำบางคำ บางประโยค ที่ไม่มีความหมายต่อใครเลย
กลับสัมผัสใจเรา
ทีละนิด ทีละหน่อย ทีละคำ ทีละประโยค
และมันค่อยเพิ่มพูนเป็นความชอบ 

Comments are closed.