คดีฆาตกรรมวัดปราสาทเงิน
เรื่อง คดีฆาตกรรมวัดปราสาทเงิน
ผู้แต่ง โยชิมุระ ทัตสึยะ
ผู้แปล กานตี ทาคาฮาชิ, วาสนา ปานนวม
สำนักพิมพ์ ฮัมมิงบุ๊คส์
เลขมาตรฐานหนังสือ 9786169409076
นางุโมะ เคอิจิโร นักวิจารณ์สังคม ก่อเหตุฆาตกรรมในห้องปิดตาย
ที่ไม่มีหลักฐานใดสาวถึงตัวเขา
ผู้ชายคนหนึ่งได้ตายจากไป
และหลังจากนั้นหนึ่งเดือน เขากำลังวางแผนจะแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง
อาเบะ มาเรีย อายุ 33 ปี
เธอเป็นหญิงสาวสวย หน้าอ่อนกว่าอายุจริง
เธอเป็นหมอดู ที่แท้จริงแล้วไม่ได้มีความเชื่อเรื่องนี้
มันเป็นอาชีพเพื่อยังชีพเท่านั้น
เธอรักกับนางุโมะ แต่ไม่เคยคิดจะแต่งงานจริงจัง
เธอไม่ใช่ในครอบครัว และไม่ต้องการการผูกมัด
ในขณะที่นางุโมะต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ
และต้องการแต่งงานกับเธอ
นางุโมะร่ำรวยมาก เขาแต่งงานมาแล้ว 2 ครั้ง หย่าทั้งสองครั้ง
การหย่าไม่ได้ทำให้เขาสะเทือนด้านการเงิน
มาเรียคนสเป็กของเขา เขาตกหลุมรักเธอหัวปักหัวปำ
นอกจากความรัก เขายังต้องการที่จะเอาชนะคำปฏิเสธของเธอด้วย
จริงๆ แล้ว มาเรียไม่ได้ชื่ออาเบะ แต่ชื่อ สึรุโกะ
เธอมีแม่กับพี่ชายแท้ๆ อยู่จนถึงเมื่อ 10 วันก่อนหน้านี้
เป็นแม่และพี่ชายแท้ๆ ที่ไม่เคยมีใครรู้ความจริง
เธอถูกส่งให้ไปเป็นลูกบุญธรรมบ้านอื่นตั้งแต่เด็ก
ในขณะที่ครอบครัวที่แท้จริงมีแต่ความเย็นชาให้กัน
การขาดความรัก ทำให้เธอโกรธแค้นครอบครัวเดิมของตัวเอง
ชีวิตในครอบครัวใหม่ไม่ได้สุขสบายนัก
หลังจากรับเธอไปเลี้ยงไม่นาน
ครอบครัวนั้นกลับตกต่ำ เป็นหนี้
เธอต้องย้ายบ้านไปเรื่อยๆ
เมื่อผ่านไป 7 ปี พ่อบุญธรรมก็ฆ่าตัวตาย
และแม่บุญธรรมก็ป่วยตาย
เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในตอนที่เธออายุ 18 ปี
เธอต้องอยู่ลำพังตัวคนเดียวนับแต่นั้น
บทบาทการสืบในเล่มนี้ ตกเป็นของ อาซาฮินะ โคซาคุ
เป็นนักสืบ ที่เขียนนิยายนักสืบ
เขามีบทบาทในเล่ม คดีฆาตกรรมหมู่บ้านชิราคาวะโกะ
และมีบทบาทในเล่ม คดีฆาตกรรมปราสาททอง ด้วย
ผู้เขียนเล่าเรื่องจากสามทาง
คือจากฝั่งของคู่ชีวิต นางุโมะกับมาเรีย
ที่กำลังมึนตึงเพราะเขาขอเธอแต่งงาน แต่เธอไม่ยอมตกลง
ขณะเดียวกัน เรื่องราวที่นางุโมะเคยฆ่าคนมาก่อน ก็กำลังจะถูกเปิดเผย
ในตอนนั้นเอง ที่เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นอีกครั้ง
และครั้งนี้ เกิดขึ้นในวัดปราสาทเงิน โดยที่ศพถูกทำให้หน้าเป็นสีเงิน
เรื่องอีกฝั่ง เล่ามาจากทาง นักสืบอาซาฮินะ โคซาคุ
ที่วันหนึ่งก็ได้รับโทรศัพท์ และแฟกซ์เขียนลายมือ
จากหญิงสาวที่ชื่อว่า สุงิยามะ จุนโกะ
เธอเป็นบรรณาธิการนิตยสาร ดูแลบทความของนางุโมะ (เขาเป็นนักเขียนมีชื่อ)
นอกจากนี้ เธอยังเป็นชู้รักของเขาด้วย
เธอมีความระแวงเรื่องที่เขาเป็นฆาตกร
จึงติดต่อไปหานักสืบอาซาฮินะ
เรื่องฝั่งสุดท้าย เล่ามาจากทางตำรวจ
สารวัตรชิงากิ และนักสืบวาคุอิ ที่กลายเป็นคู่หูคู่หา
รับมุกกันโบ๊ะบ๊ะ แล้วก็ตัดภาพไปฉลาดเฉลียวเฉยเลย
เล่มนี้ความสนุกไม่ได้อยู่ตรงที่การตามหาตัวฆาตกร
เพราะเรารู้ตัวฆาตกรตั้งแต่ต้นแล้ว
แถมยังรู้จักความรู้สึกนึกคิดของเขามากพอที่จะทำให้เรารู้สึกเกลียด
หมั่นไส้ และลุ้นให้เขาโดนจับเร็วๆ
ความสนุกของเล่มนี้เลยอยู่ตรงที่วิธีที่เขาใช้ฆ่า
และวิธีที่ตำรวจและนักสืบจะใช้ไขคดี
เรื่องนี้มีหักมุมนิดหน่อย กับมีตอนจบที่เราไม่เข้าใจ
จริงๆ แล้ว เขาต้องอ่าน คดีฆาตกรรมวัดปราสาททอง มาก่อน
ในขณะที่เรามโนเอาเองว่า เงินมาก่อนทอง
แต่ญี่ปุ่นเขานับทองมาก่อนเงิน
อืม .. เลยเหมือนขาดตกอะไรไปบางอย่าง
(ทั้งที่ทั้งผู้เขียนและคำนำต่างก็บอกว่าไม่ขาดหรอก อ่านเล่มไหนก่อนก็ได้)
บางทีมันอาจเป็นอุปทาน
จริงไม่จริง คงต้องลองไปอ่านเล่มปราสาททองให้จบดูก่อนค่ะ 🙂
ปล. แปลกดี ที่เนื้อหาของนิยายมรดกโลกเล่มนี้
ผู้เขียนสอดแทรกข้อความวิพากษ์วิจารณ์คนญี่ปุ่นผ่านตัวละครมาเป็นเล่มที่ 2 แล้ว
เป็นการวิพากษ์ที่รุนแรงทั้งสองครั้ง และเนื้อหาเป็นไปในทางเดียวกัน
อ่านแล้วอยากรู้เลยว่า คนญี่ปุ่นรู้สึกอย่างไรกับนิยายชุดนี้
Comments are closed.