อ่านแล้วเล่า

กาลครั้งหนึ่งกับเด็กหญิงนักประวัติศาสตร์ศิลป์

126-1 การครั้งหนึ่งกับเด็กหญิงนักประวัติศาสตร์ศิลป์ (มโนไปเองว่ามันเกี่ยวกัน)

เรื่อง กาลครั้งหนึ่งกับเด็กหญิงนักประวัติศาสตร์ศิลป์
ผู้แต่ง เหมือนฝัน คุณาวงศ์
สำนักพิมพ์ อมรินทร์
ISBN 9789747808995
ราคา 209 บาท

หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มหนึ่งในหลายเล่มของเรา .. ที่หยิบมาอ่านแล้วอ่านไม่จบ
ตอนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ ใจเราเหมาเอาเองว่ามันจะบอกเล่าเกี่ยวกันประวัติศาสตร์ศิลป์ด้วยภาษาง่ายๆ
พอเริ่มอ่าน แล้วเจอการเล่าเรื่องแบบความเรียงกึ่งบันทึกของเด็กหญิงคนหนึ่ง
ที่เดินทางไปเรียนต่อประวัติศาสตร์ศิลป์ที่อังกฤษ เราเลยช็อตไปรอบนึง เก็บหนังสือขึ้นหิ้งไปร่วมปี
ตอนนี้จูนเครื่องใหม่ก่อนอ่านแล้วค่ะ เปิดใจกว้างๆ แล้วไปตามติดชีวิตหนูน้อยคนนี้กันค่ะ

แม้จะเริ่มต้นได้ไม่ค่อยดีเท่าไร (ในความอคติของเราเอง)
แต่การเล่าด้วยภาษาเด็กๆ ไม่มีชั้นเชิง เห็นอะไรก็เล่าตรงๆ ทื่อๆ
แต่นั่นก็มีมุมดีๆ มุมใสๆ ซ่อนอยู่

บันทึกเล่มนี้ บอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่เด็กหญิงดรีมออกเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ
บันทึก เริ่มต้นด้วยความตื่นเต้น ดี๊ด๊า ตื่นตาตื่นใจต่อโลกใหม่ .. คนเล่าสดใส โลกก็สดใส
และเป็นเพราะเล่ากันตั้งแต่เริ่มต้นเลยนี่เอง
เราจึงได้เริ่มเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์ไปพร้อมๆ กับเด็กหญิงดรีมด้วย

ถ้าจะพูดให้ชัด เนื้อหาในเล่มเล่าประวัติศาสตร์ศิลป์ได้ไม่ค่อยดีเท่าไร (คือหวังตรงนี้เอาไว้เยอะไง)
ไม่มีหมวดหมู่ ไม่มีที่มาที่ไป
มีภาพประกอบบ้างบางส่วน ซึ่งค่อนข้างสำคัญ ช่วยเติมเต็มจินตนาการจากเรื่องเล่า
ในส่วนที่ไม่มีภาพประกอบเราก็จะนึกภาพตามไม่ค่อยออก

แม้จะพูดเรื่องศิลปะสลับไปมาทีละนิดทีละหน่อย
แต่บางส่วนที่น้องดรีมยกมาเล่าก็น่าสนใจมาก
รู้ไม่หมด ไม่ครอบคลุมเป็นแบบแผน แต่ก็ได้ความรู้ผสมความเพลินๆ เบาๆ

อย่างที่บอกว่าเริ่มต้นมาแบบขัดใจนิดหน่อย
แต่สุดท้าย ความน่ารัก ช่างพูด ช่างคุย สดใส มองโลกในแง่ดี และความมุ่งมั่นของน้องดรีม
ก็ทำให้เราติดตาม อมยิ้ม ลุ้นไปกับเธอ และเอาใจช่วยเธอไปจนตลอดเล่ม
เราได้เห็นว่าเด็กหญิงนักประวัติศาสตร์ศิลป์คนนี้ ‘โตขึ้น’ ระหว่างหน้ากระดาษจริงๆ
จากต้นเล่มจนถึงท้ายเล่ม เด็กหญิงดรีม ได้กลายเป็นสาวน้อยดรีมในตอนท้าย
จากที่เฉยๆ กึ่งๆ ติดลบในตอนแรก .. เผลอแผลบเดียวเราก็สุขเศร้าไปกับเธอ
และหลงรักเธอไปโดยที่เราไม่รู้ตัว

อ่านจบแล้วอยากแนะนำให้เจ้าลูกสาวของเราอ่านด้วย (ลูกสาววัยประถมปลายย่างมัธยมต้นค่ะ)
เด็กๆ วัยประมาณเจ้าลูกสาวน่าจะได้อ่านนะ
เพราะเขาจะได้เห็นภาพ ‘นักเรียนนอก’ ในแบบกิจวัตรประจำวัน
ได้เห็นความมุมานะ การต่อสู้กับตัวเอง ความมุ่งมั่นตั้งใจ (แม้จะไม่ใช่แนวฮาร์ดคอร์)
เผื่อเด็กๆ จะได้ใช้เป็นหนึ่งในข้อมูลช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตตัวเอง

อ่านจบแล้วรู้สึกว่า หนังสือเล่มนี้น่ารักกว่าที่คิด (มากๆ) ค่ะ ^^

Comments are closed.