เรื่อง โลกนี้มันช่างยุสต์ ผู้แต่ง แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ ระหว่างบรรทัด เลขมาตรฐานหนังสือ 9786169002154 มันเป็นส่วนเชื่อมต่อระหว่าง โลกนี้มันช่างยีสต์ กับ mimic ผ่านทาง open และ โลกจิต ผ่านทาง aday มันช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เป็นยุคเชื่อมต่อระหว่างยุคสิ้นสุดของไดอารีออนไลน์ และการถือกำเนิดของโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ ที่ตามมาอย่างไม่ขาดสาย เป็นภาคจบของโลกนี้มันช่างยีสต์ (ที่แทนไทเคยเปรยว่าอาจจะมีโลกนี้มันช่างยัสต์ต่อ .. แต่ก็เงียบหายไป T—T) และก็เป็นทั้งภาคจบของหน้าที่อาจารย์พิเศษสุดยีสต์แห่ง รร มัธยมแห่งหนึ่งด้วยเช่นกัน เป็นตอนจบที่สุดยี สุดยีสต์ ในขณะเดียวกันก็สุดซึ้งด้วย แทนไทมีพรสวรรค์ในการเขียน เรื่องที่เขาเล่าดึงอารมณ์ร่วมของเราไปได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์โกรธหรืออารมณ์ซึ้ง เขาได้แปรความซีเรียสอย่างที่สุด ให้เบาบางลงได้ด้วยความบ้าบอ เป็นเล่มที่พอจะจัดเข้าหมวดหมู่คัมมิ่งเอจ (แบบที่หลายเว็บกำลังนิยมจัดอยู่ในช่วงนี้) ได้เหมือนกัน เพียงแต่การคัมมิ่งเอจ หรือการเติบโตขึ้นของตัวละครในเล่มนี้ (ซึ่งก็คือแทนไท) เขาได้ละทิ้งความกล้าบ้าบิ่นของวัยเยาว์ ที่จะต้องสู้กับความไม่ถูกต้อง ให้กลายเป็นความกลมกลืนกับสังคม ‘แบบนี้’ นั้น ..[…]

เรื่อง โลกนี้มันช่างยีสต์ ผู้แต่ง แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ ระหว่างบรรทัด เลขมาตรฐานหนังสือ 9786169002116 อ่าน โลกนี้มันช่างยีสต์ มาเป็นรอบที่สามแล้ว โดยที่ ไม่ว่าจะหยิบมาอ่านกี่ครั้ง มันก็ยังคงสร้างความสุขให้เราได้ทุกครั้ง หนังสือเล่มนี้ถือกำเนิดขึ้นมาจากไดอารีออนไลน์ยุคหนึ่ง โดยไดอาริสต์ผู้มีนามว่า แทนไท ประเสริฐกุล ด้วยความยีสต์ ความยี ความยวนของเจ้าของไดฯ ทำให้ไดอารีออนไลน์นี้ถูกหยิบมาตีพิมพ์เป็นเล่ม หนังสือ ถูกตีพิมพ์ออกมาในรูปแบบของไดอารีออนไลน์เลย คือยกช่องคอมเมนท์มาพอเป็นกลิ่นอาย มีพูดคุย หยอกเย้า แซวๆ ฯลฯ อ่านแล้วคิดถึงสมัยที่ยังจับกลุ่มเขียนไดฯ เลย คนไม่รู้จักกันแท้ๆ แต่อบอุ่น น่ารัก (กว่า facebook นะ เราว่า) แทนไทเป็นคนที่นำความยียวนมาผสมกับความน่ารักได้ลงตัวพอดี ภาษาของแทนไท มีความเฉพาะตัวสูงมาก เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ได้อารมณ์ยียวน คนอะไรไม่รู้เล่าเรื่องประจำวันของตัวเองได้ฮากระจาย แถมยังเต็มไปด้วยสาระ และความไร้สาระแบบสุดๆ ควบคู่กันไปแบบไม่มีใครแซงหน้าใครอีกต่างหาก แทนไทเป็นคนเล่าเรื่องสนุก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไร้สาระประจำวัน เรื่องราวของความรัก และการอกหัก[…]

เรื่อง ภัตตาคาร สุดปลายทางจักรวาล ผู้แต่ง ดักลาส อดัมส์ ผู้แปล แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ เพิร์ล พับลิชชิ่ง ราคา 275 บาท เล่มนี้เป็นเล่มต่อของ คู่มือท่องกาแล็กซี ฉบับนักโบก ค่ะ ด้วยว่าเหตุการณ์โลกแตกเมื่อเล่มที่แล้วนั้น เป็นฝีมือของเผ่าพันธุ์สมองทึบนามว่าโวกอน เมื่อโลกแตก แต่มนุษย์โลกอีกสองยังรอดชีวิต เจ้าโวกอนกลุ่มหนึ่งจึงออกติดตามสี่สหาย อาเธอร์, ฟอร์ด, ทริลเลียน, และแซพฟ็อด บนยานที่ชื่อว่า ‘หัวใจทอง’ อยู่ห่างๆ .. มันคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ และเริ่มโจมตีหัวใจทองในที่สุด ในขณะที่ยานกำลังจะแตก และคณะสี่อันประกอบไปด้วย มนุษย์โลกและต่างดาวรวมสี่ชีวิตนี้กำลังจะพ่ายแพ้ ทั้งหมดก็นึกวิธีออกวิธีอันแยบคาย คือการอัญเชิญวิญญาณปู่ทวดของแซพฟ็อดออกมาช่วย -*- ก่อนที่วิญญาณปู่ทวดท่านนี้จะตัดสินใจช่วยนี่เอง แกได้เทศนาหลานของแกเสียหมดไส้หมดพุง แถมยังบอกอีกว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งกาแล็กซี ที่แซพฟ็อดครองตำแหน่งอยู่นี้น่ะ มันเป็นเพียงหัวโขนกลวงๆ เท่านั้น ยังมีผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดอยู่อีกผู้หนึ่ง เขาผู้นั้นคือผู้กำหนดชะตาแห่งจักรวาล และคณะทั้งสี่นี้จะต้องออกติดตามหาคนผู้นั้นให้เจอ หลังจากที่ปู่ทวดสั่งภารกิจเสร็จสิ้น คณะทั้งสี่ก็ถูกส่งไปยังที่ต่างๆ ตามสมควร ฟอร์ด อาเธอร์[…]

เรื่อง คู่มือท่องกาแล็กซี ฉบับนักโบก ผู้แต่ง ดักลาส อดัมส์ ผู้แปล แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ เพิร์ล พับลิชชิ่ง ราคา 246 บาท เปิดตัวหนังจากคำนำสไตล์แทนไทด้วยความยั่วยวนชวนฮา มั่นใจไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก่อนเลยว่าหนังสือเล่มนี้สนุกแน่ พลิกไปยังหน้าต่อจากคำนำ .. สำนวนในเล่มยังคงถูกเล่าด้วยความยียวน ซึ่งผู้แปลยืนยันว่าเป็นการคงความยียวนมาจากผู้แต่งจริงๆ (นับได้ว่า สนพ. เลือกคนแปลได้ถูกต้องมากๆ) เรื่องราวเริ่มต้นบนโลกมนุษย์นี่แหละ เมื่อวันหนึ่ง นายอาเธอร์ เด็นท์ เพิ่งรู้ตัวว่าบ้านของเขาถูกเวนคืน และเขาจะต้องย้ายบ้านในวันนี้ทันทีทันใด แน่นอนล่ะ ไม่มีใครยอมง่ายๆ เขาต้องสู้สุดชีวิต .. แต่ใครจะรู้ว่า .. การต่อสู้ครั้งนั้นมันช่างไร้ค่า เพราะมันเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของทั้งสองฝ่าย เพราะหลังจากนั้นอีกไม่นาน โลกกำลังจะแตก! ในย่านที่นายอาเธอร์อาศัยอยู่นี้เอง เขามีเพื่อนคู่หูอยู่คนหนึ่งนามว่า ฟอร์ด พรีเฟ็ค นายฟอร์ดผู้นี้ แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่มนุษย์ หากแต่เป็นมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา .. แน่นอน มันเป็นความลับ และถึงบอกไปก็คงไม่มีใครเชื่อเขา เขาพลัดหลงตกสำรวจอยู่ในโลกมนุษย์มาได้นาน 15 ปีแล้ว[…]

เรื่อง แกะรอยวิวัฒนาการ ผู้แต่ง ไดแลน อีแวนส์ ภาพประกอบ โฮวาร์ด เซลินา ผู้แปล แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ มูลนิธิเด็ก ราคา 200 บาท แกะรอยวิวัฒนาการ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องชีววิทยา ยังคงเน้นเกี่ยวกับทฤษฎีวิวัฒนาการของชาลส์ ดาร์วิน มีภาพประกอบ ตัวหนังสือไม่มาก การันตีว่าอ่านง่ายกว่า ในคนมีปลา ในขามีครีบ ค่ะ เมื่อได้มาอ่านแกะรอยวิวัฒนาการ เราเพิ่งได้พบว่า สงสัยจะเรียงลำดับการอ่านผิดไปหน่อย หนังสือเล่มนี้ควรหยิบมาอ่านก่อน ในคนมีขาฯ จริงๆ ด้วยเหตุที่ว่าในเล่มนี้ ได้อธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการ .. และทฤษฎีการคัดเลือกตามธรรมชาติด้วยภาษาที่ง่ายกว่า พอเอามาอ่านต่อเล่มยาก เลยดูเปลี่ยนอารมณ์กันกระทันหันไปหน่อย แม้หนังสือเล่มก่อนที่เราอ่าน จะนำเสนอทฤษฎีวิวัฒนาการของชาลส์ ดาร์วินเหมือนๆ กัน แต่หนังสือทั้งสองเล่มก็ไม่เหมือนกัน ในแกะรอยวิวัฒนาการเล่มนี้ เป็นการนำเสนอทฤษฎีวิวัฒนาการในอีกแง่มุม เป็นการบอกเล่าที่มาที่ไปของทฤษฎีทั้งสองของดาร์วินอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เราได้เห็นเส้นทางขรุขระที่ดาร์วินเดิน มีการต่อต้าน มีผู้ไม่ยอมรับทฤษฎีนี้มากมาย เพราะทฤษฎีนี้ได้ขัดกับหลักความเชื่อของศาสนาอย่างรุนแรง[…]

เรื่อง ในคนมีปลา ในขามีครีบ ผู้แต่ง นีล ชูบิน ผู้แปล แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ WeLearn ราคา 230 บาท ในความคิดความเชื่อของเรา .. เราเชื่อว่า หนังสือทุกเล่น นักเขียนทุกคน มีสไตล์การเล่าเรื่องเป็นของตัวเอง ทุกๆ ครั้งที่เราเริ่มต้นหยิบหนังสือเล่มใหม่ขึ้นมาอ่าน สิ่งที่ยากที่สุดก็คือขั้นตอนการเริ่มต้น มันเป็นการเปิดเรื่อง โยงเราเข้าสู่เนื้อหาหลัก พร้อมๆ กับการทำความรู้จักสำนวนของนักเขียนในเล่มที่เราไม่คุ้นเคย เราต้องทำหัวว่างๆ พร้อมเปิดรับ รับรู้ทุกสิ่งอย่างที่ค่อยๆ ไหลลื่นเข้ามาในหัวเรา หลังจากที่เราชินสำนวน มีเนื้อหาพื้นฐานแล้ว .. การอ่านต่อจากนั้นคือความสนุก นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยสำหรับคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือ นั่นจึงทำให้คนบางคน ไม่ชอบอ่าน หนังสือเล่มนี้ ก็คล้ายๆ กัน การเริ่มต้นอ่าน มีข้อมูลอะไรต่ออะไรเยอะแยะเต็มไปหมด ชื่อก็ชวนจำยาก ศัพท์แปลกๆ ฯลฯ แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดในบทแรกเป็นเพียงแค่บทนำเรื่องเท่านั้น เนื้อหาในบทต่อๆ มา[…]

เรื่อง โลกจิต ผู้แต่ง แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ abook ราคา 185 บาท ติดใจสำนวนยียวนของแทนไท ขอไปขุดเอาโลกจิตมาอ่านต่อกันเลยท่าจะเข้าทีค่ะ โลกจิต เล่มนี้ เป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องของปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมองคนเราค่ะ อวัยวะที่ถึงแม้จะอยู่ภายในตัวเรา แต่ก็เป็นเรื่องลี้ลับพอๆ กับดวงดาวนอกโลก หรือมนุษย์ต่างดาวเลยทีเดียว แทนไทเปิดโลกลี้ลับแห่งนี้ ด้วยสำนวนชวนยีสต์ และได้น้ำได้เนื้อครบรสเช่นเคย ที่สำคัญ เรื่องราวต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องน่าทึ่ง อ่านแล้วอื้อหือ อ้าหาได้ทั้งเล่มเลยค่ะ แทนไทเปิดเล่มด้วยตอนที่ว่าด้วย “โลกจิต” ของคนแขนด้วน แม้คนคนนั้นจะไม่มีแขนแล้ว แต่เขายังรับความรู้สึกของแขนข้างที่ไม่มีนั้นได้! มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกด้วย!! นอกจากนี้ เรื่องอื่นๆ ก็น่ารู้ และอ่านสนุกเช่นกัน เรื่องของคนที่รีเซ็ตความจำตัวเองบ่อยๆ เหมือนนางเอกภาพยนตร์เรื่อง 50 first date เรื่องของปริมาณสารในสมองที่ทำให้คนเป็นอาชญากร ตอนที่ว่าด้วยเรื่องของคนตาบอดก็น่ารัก มันชวนคิดดีว่า คนขี้สงสัย ช่างสังเกตอย่างแทนไทเวลาไปนั่งคุยกับคนตาบอดแล้ว จะไปยวนอะไรพวกเขาบ้าง ตอนที่ว่าด้วยสมองของเกย์[…]

เรื่อง mimic เลียนแบบทำไม? ผู้แต่ง แทนไท ประเสริฐกุล สำนักพิมพ์ openbooks ราคา 185 บาท รู้จักแทนไทครั้งแรกจากโลกนี้มันช่างยีสต์ คนบ้าอะไรไม่รู้ เป็นถึงครูบาอาจารย์ แต่มีลีลาการสอนไม่ต่างจากโอนิสึกะ จาก GTO สำนวนสำเนียงการเล่าเรื่องก็มันส์เกินบรร (ระ) ยาย และไม่ใช่เรื่องแปลก ที่เราจะเสาะแสวงหาสำนวนสุดยีสต์นี้มาอ่านอีกครั้ง mimic เลียนแบบทำไม? เป็นการเอาบทหนึ่งในชีววิทยา มัธยมปลาย มาถ่างขยาย เปิดโลกทัศน์ของการก็อปปี้ในธรรมชาติแบบที่อลังการงานสร้างมากๆ ด้วยสำนวนยียวนสไตล์แทนไท แต่คงข้อมูลครบถ้วน หลากหลาย เกิดจินตนาการ แทนไทเลือกตัวอย่างที่ดีมาเปรียบเทียบ ทำให้เข้าใจง่าย นักเรียนที่เกลียดวิชาชีววิทยา งงกับทฤษฎีของชาลส์ ดาร์วิน อ่านหนังสือเล่มนี้เราจะได้ทฤษฎีครบถ้วน ในภาษาสนุกเข้าใจง่าย และหันมาหลงรักวิชานี้ในบัดดล (ถ้ากระทรวงศึกษาธิการเลือกให้แทนไทเป็นผู้เขียนหนังสือเรียนวิชาชีววิทยามัธยมปลาย เชื่อว่าจะไม่มีเด็กๆ คนไหนที่จะหลับคาหนังสือเรียนอีกเลย .. ไม่เชื่อก็ลองดูสิ!!) ในฐานะที่เกิดเป็นเด็กสมัยใหม่ เด็กๆ หลายคนคงเคยดูสารคดีเกี่ยวกับการ mimic มาบ้างแล้ว[…]