เรื่อง จอมโจรหนังสือผู้เขียน มาร์กัส ซูซัคผู้แปล บีจาสำนักพิมพ์ เพิร์ล พับลิชชิ่งเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740561873 จะมีเหตุการณ์ใดที่มีคนตายมากพอและเย้ายวนชวนให้ยมทูตปรากฏตัวได้มากไปกว่าสงครามโลกครั้งที่ 2และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวในเยอรมันเล่า .. นั่นล่ะ .. เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นที่ตรงนั้น ในช่วงเวลานั้น ..ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ แอนน์ แฟร้งค์ กำลังหลบซ่อนตัวอยู่บนอาคารสำนักงานของพ่อที่ฮอลแลนด์ ช่วงเวลาเดียวกันกับที่บทสนทนาแห่งมิตรภาพระหว่างบรูโน กับชมูเอล กำลังลอยข้ามรั้วลวดหนามไปมา ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ชายคนหนึ่งซุกซ่อนตัวอยู่ภายใต้ห้องใต้ดินเจ็บป่วย เหน็บหนาว และไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ช่วงเวลาเดียวกันกับที่ชาวยิวอีกมากมายนับแสนนับล้านกำลังเรียงแถวเข้าสู่ค่ายกักกันและไปสิ้นสุดที่ห้องรมแก๊สอันแสนโหดร้าย มันคือช่วงเวลาเดียวกันกับที่เด็กเยอรมันคนหนึ่งกำลังนั่งรถไฟพร้อมแม่และน้องชาย เพื่อไปยังบ้านที่ไม่ใช่บ้านตัวเองไปอยู่กับครอบครัวที่ไม่ใช่ครอบครัวของตัวเอง ..และสุดท้ายแล้ว เหลือตัวเธอเพียงคนเดียวกับพ่อที่ไม่ใช่พ่อ แม่ที่ไม่ใช่แม่และครอบครัวที่ไม่ใช่ครอบครัว ..แต่กลายมาเป็นครอบครัว จอมโจรหนังสือ เล่าเรื่องผ่านสายตาของผู้ที่มองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกซึ่งผู้นั้นก็คือยมทูต ผู้ที่พรากวิญญาณของมนุษย์ทุกคนออกจากร่างเมื่อวาระสุดท้ายในชีวิตของพวกเขามาถึง แน่นอนว่ายมทูตไม่ได้เล่าเรื่องของตัวเองเขากำลังเล่าเรื่องของเด็กหญิงคนหนึ่ง .. ลีเซล เมมิงเกอร์สมาชิกใหม่แห่งถนนฮิมเมล เมืองโมลช์คิงสมาชิกใหม่ของครอบครัวฮูเบอร์มานซึ่งมีโรซ่าเป็นมามา และฮานส์เป็นปาปา ลีเซล เมมิงเกอร์ เป็นเด็กหญิงที่ไม่รู้หนังสือเธอหัดอ่านจากหนังสือคู่มือการทำศพ ..หนังสือเล่มแรกที่เธอขโมยมาเพื่อเป็นที่ระลึกถึงการเสียชีวิตของน้องชายมันเป็นทั้งหนังสือเล่มแรกที่เธอหัดอ่าน ..และหนังสือเล่มแรกที่เธอหัดขโมย ในตอนเปิดเรื่องนั้น ผู้เขียนเล่าเรื่องได้น่าสนใจมีจังหวะการจัดหน้าที่แปลกดีทำให้จังหวะการอ่านแปลกไปด้วยไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่าแต่คล้ายการดูภาพเคลื่อนไหว ที่มีการซูมเข้าซูมออกเพื่อกำหนดจุดสนใจหรือเป็นภาพนำสายตาไปสู่เรื่องที่ต้องการจะเล่า ผู้คนมากมายรอบตัว คนเยอรมัน คนยิวรูดี้ สไตเนอร์, แมกซ์ แวนเดนเบิร์ก,นายทหาร[…]

เรื่อง ในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งผู้แต่ง ภาณุ ตรัยเวชสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740214748 สาธารณรัฐไวมาร์ คือประเทศเยอรมันนี ในช่วงเวลาระหว่างหลังสงครามโลกครั้งที่ 1และก่อนที่ฮิตเลอร์จะกลายเป็นผู้นำประเทศเป็นช่วงระยะเวลาเพียง 14 ปี ที่เยอรมันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีความสับสนอลหม่าน มีทั้งพรรคประชาธิปไตย พรรคคอมมิวนิสต์และผู้คนอันแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย กันออกไปไม่รู้จบ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เล่าถึงฮิตเลอร์เป็นหลัก(มีเพียงตอนต้นนิดหน่อย กับอีกครึ่งหลังของบทสุดท้าย)และไม่ได้เรียงตามไทม์ไลน์ไปตลอดทั้งเล่ม หนังสือถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ด้วยผู้คนที่มีบทบาทต่างๆ ในสังคมมีความเชื่อ มีแนวทางทางการเมืองที่แตกต่างกันไปทั้งนักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี นักกีฬา นักคิด นักเขียน แม้กระทั่งอาชญากร ฯลฯ ในฐานะของคนไม่มีพื้นฐานมาก่อนเราไม่สามารถเห็นภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่ออ่านจบ เราตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้ว ฮิตเลอร์ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำเยอรมันได้อย่างไรเราเห็นแต่ภาพเหตุการณ์เป็นเพียงส่วนๆ เป็นช่วงๆไม่สามารถเล่าเรื่องซ้ำตั้งแต่ต้นจนจบได้เลยในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่ได้เป็นหนังสืออ่านง่าย อ่านสนุก สำหรับมือใหม่เราจะต้องมีพื้นฐานมาบ้าง, อ่านไปจดช็อตโน้ตไปหรืออาจจะต้องอ่านมันซ้ำใหม่อีกรอบเท่านั้น ในตอนต้น ผู้เขียนปูพื้นฐานให้กับคนอ่านด้วยเรื่องราวแต่หนหลัง ก่อนที่เยอรมันจะกลายเป็นสาธารณรัฐไวมาร์แนะนำผู้คนชื่อแปลกๆ ประหลาดๆ เป็นภาษาเยอรมันเต็มไปหมด หลังจากปูพื้นด้วยเรื่องเล่าที่วุ่นวาย ยุ่งเหยิง (ต่อการเข้าใจ)ผู้เขียนก็ค่อยๆ หยิบยกสังคมแต่ละมุม ภายใน 14 ปีของไวมาร์ขึ้นมาแสดงให้เราได้เห็น ว่าในขณะนั้น ใครกำลังทำอะไรอยู่บุคคลจากวงการต่างๆ[…]

เรื่อง ประวัติศาสตร์โลกฉบับไม่ง่วงThe Mental Floss History of the Worldนั่งรถไฟเหาะเลาะสายประวัติศาสตร์กว่า 10,000 ปีแห่งอารยธรรมมนุษย์ผู้แต่ง อีริค แสส, สตีฟ ไวแกนด์, วิล เพียร์สัน และแมนเกช ฮัตติคูเดอร์ผู้แปล สุวิชชา จันทรสำนักพิมพ์ abookเลขมาตรฐานหนังสือ 9786163272003 ประวัติศาสตร์โลกฉบับไม่ง่วง นั้น .. ง่วงอยู่นะ โดยเฉพาะตอนเริ่มอ่าน ยังจับใจความอะไรไม่ได้แถมพื้นฐานประวัติศาสตร์โลกที่เรามีอยู่ ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ผู้เขียนสรุปเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ทั้งโลกมาสรุปย่อลงให้เหลือเพียง 500 กว่าหน้า .. เนื้อหาจัดหนักจัดเต็มมากด้วยภาษากระชับไม่เวิ่นเว้อ เล่าเร็วๆ แต่ละเอียดครอบคลุมสำนวนภาษาเข้าใจง่าย อ่านง่ายพอสมควร (แต่เนื้อหาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง!) หนังสือเริ่มต้นด้วยการ สรุปย่นย่อโดยใช้ชื่อคนที่เราไม่รู้จักชื่อสถานที่ที่เราไม่รู้จัก ฯลฯ รวบรวมมาเรียงต่อกันอย่างกระชับผลที่ได้คือ ชื่ออะไรไม่รู้เต็มไปหมด อัดแน่นอยู่ตรงหน้าต้องตั้งสติอ่านดีๆ ไม่งั้นมันจะมึนๆ เบลอๆเป็นการเปิดเล่มที่ค้านกับชื่อเรื่องเป็นอันมาก สำนวนกระชับกระฉับกระเฉง อ่านมันส์ในช่วงคำนำสำนักพิมพ์มาถูกเบรกกึกก็ตอนเริ่มอ่านบทแรกๆ นี่เอง แม้ว่าแรกอ่าน เราอาจจะตกใจกับชื่อประหลาดๆ เต็มไปหมดแต่เมื่ออ่านไปเรื่อยๆ (สักร้อยหน้า)[…]

เรื่อง นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ A Man Called Intrepid ผู้แต่ง วิลเลียม สตีเวนสัน พระราชนิพนธ์แปล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สำนักพิมพ์ อมรินทร์ฯ ราคา 300 บาท นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เราตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นปี ว่าจะต้องอ่านให้จบภายในปีนี้ให้ได้ และคิวที่จะหยิบมาอ่าน ก็ใกล้จะถึงเต็มที ไม่นานเลย สุดท้าย .. เราก็ไม่ได้อ่านหนังสือพระราชนิพนธ์แปลของท่าน .. ในรัชกาลของท่าน เป็นหนึ่งสิ่งที่เสียใจที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น คำสอนของท่าน ที่ท่านตั้งพระทัยจะพระราชทานให้แก่คนไทยทั้งปวง ก็จะยังคงอยู่ในหนังสือเล่มนี้ พร้อมให้ผู้คนได้หยิบมาอ่าน ได้ตระหนักรู้ถึงคำสอนนั้น .. ตลอดกาล ครั้งแรกที่ตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือนี้ ยอมรับว่าเกร็งอยู่หน่อยๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหนังสือหนามาก แถมยังเป็นพระราชนิพนธ์แปลด้วย เรากลัวว่าเนื้อหา และภาษาจะต้องยากแน่ๆ เลยแอบไปลองเสิร์ชหาเค้าโครงเรื่องคร่าวๆ ก่อน พบว่า เนื้อหาของเรื่องมีความน่าสนใจมาก ดูแล้วมีกำลังใจที่จะอ่านมากขึ้น และความกลัวค่อยๆ ลดลง นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นจากเหตุการณ์จริงที่ถูกปกปิดมานาน เป็นเรื่องราวในช่วงก่อนจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ล่วงเลยมาจนสิ้นสุดสงคราม[…]