เรื่อง จดหมายจากฆาตกรผู้แต่ง ฮิงาชิโนะ เคโงะผู้แปล เสาวณีย์ นวรัตน์จำรูญสำนักพิมพ์ Maxx Publishingเลขมาตรฐานหนังสือ 9786163711434 บีบหัวใจ รู้สึกว่าตอนที่อ่าน หายใจได้ไม่ทั่วท้องเลยจุกตั้งแต่ต้นเรื่องเลยทีเดียว จดหมายจากฆาตกร ไม่ใช่นิยายสืบสวนเหมือนที่ผ่านมาแม้จะมีคนตาย แม้จะมีฆาตกรแต่ผู้ร้ายก็ถูกจับในเวลาอันสั้นสิ่งที่หนังสือถ่ายทอด คือเรื่องราวชีวิตของคนสองคนต่อจากนั้นต่างหาก ในตอนต้นเรื่อง .. เจตนาของฆาตกรในฉากฆาตกรรม –ถูกถ่ายทอดละเอียดลออในหน้าหนังสือทำให้ความรู้สึกหม่นเศร้าเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้วิธีเล่าของผู้เขียนทำให้เรื่องราวบีบคั้นความรู้สึกคนอ่านมันหดหู่ เสียดาย เสียใจ แม้ว่าแรงจูงใจในการฆาตกรรม จะทำขึ้นเพื่อคนอื่นเป็นความปรารถนาดี ที่เลยเถิดไปจนเป็นเรื่องใหญ่แต่ความปรารถนาดี ที่เริ่มต้นด้วยวิธีที่ผิด และจบลงด้วยความผิดก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรเห็นใจ หรือยกโทษให้ได้เลยแต่ผู้เขียนก็ชวนให้เรารู้สึกเศร้า สงสารฆาตกรและครอบครัวจนได้ ตัวละครหลักของเรื่องนี้ มีกันแค่สองคน คือซึโยชิ กับนาโอกิ .. พี่ชายกับน้องชายสองคนที่ยืนอยู่บนคนละฝั่งสังคม ไม่อาจพบเจอมีเพียงจดหมายที่ถูกส่งออกมาเดือนละหนึ่งฉบับ วันที่คนในครอบครัวกลายเป็นฆาตกรการถูกตราหน้าว่าเป็นน้องชายของฆาตกร กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเป็นจุดด่างพร้อมที่ลบไม่ออก ลืมไม่ได้มันพ่วงไปกับทุกเหตุการณ์ในชีวิตของนาโอกิ แม้เนื้อหาจะดูบีบคั้น กดดันแต่ในความจริงแล้ว มันยังมีความอบอุ่นสอดไส้อยู่จางๆทุกครั้งที่ตัวละครตกต่ำ หมดกำลังใจผู้เขียนจะโรยด้ายเส้นบางๆ ลงมาจากเบื้องบนให้ตัวละครได้ยึดเกาะ เพื่อข้ามผ่านความยากลำบากนั้นไปอีกนิดผู้เขียนจะค่อยๆ วาดความหวังลงในใจของทั้งน้องชายและคนอ่านในขณะที่ความหวังสวยงามกำลังดำเนินไปเรื่อยๆผู้เขียนก็ทลายมันลงครั้งแล้วครั้งเล่ายิ่งนาโอกิอยากจะลบตัวตนของพี่ชายออกไปมากเท่าไรจดหมายที่ถูกส่งมาหาทุกเดือนกลับยิ่งเป็นเสมือนการตอกย้ำการมีอยู่ของเขา ตัวละครเข้มแข็ง พ่ายแพ้ และกอบกู้ตัวเองให้กลับมาเข้มแข็งเริ่มต้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าละทิ้งความฝัน ละทิ้งความรัก เพียงเพื่อที่จะมีชีวิตที่เรียบง่าย ธรรมดา ที่เป็นสุขแต่เพียงแค่นั้นก็ยังยากลำบากเหลือเกิน ในขณะเล่าเรื่อง ผู้เขียนถ่ายทอดมุมมองรอบด้านทั้งฝ่ายของฆาตกร[…]

เรื่อง ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะผู้แต่ง ซูมิโนะ โยรุผู้แปล ธีราภา ธีรรัตนสถิตสำนักพิมพ์ Maxx Publishingเลขมาตรฐานหนังสือ 9786163711038 หนังสือเล่มนี้ ถูกหยิบมาอ่านตอนที่เราเข้าร่วมกิจกรรม #คืนวันศุกร์bookclubเงียบๆ ของเพจ nananatteด้วยว่าเป็นเล่มอยู่ในคิวที่กำลังจะอ่านอยู่พอดี หนังสือเรื่องนี้เข้ามาอยู่ในกองดองบ้านเรานานพอสมควรเหตุผลหลักเลยคือเพราะเป็นหนังสือที่มีผู้เขียนคนเดียวกันกับหนังสือเรื่อง ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว ซึ่งเราชอบมาก ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ เป็นเรื่องที่ถูกเล่าผ่านมุมมองของตัวละครเด็กชายวัยมัธยมเรื่องราวเป็นพล็อตง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเรื่องของเด็กชายเก็บตัว ที่บังเอิญไปรู้ความลับของเด็กหญิงผู้ร่าเริงเพื่อนร่วมห้อง .. ยามาอุจิ ซากุระ คนนี้ เป็นโรคร้ายซึ่งกำลังจะตายแต่ปิดบังไม่ยอมบอกเพื่อนๆ ในห้อง .. มีเพียงเด็กชายที่รู้ความลับนี้ เพราะเป็นเรื่องราวของเด็กมัธยม ภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษาง่ายๆแต่เรากลับไม่ค่อยชอบสำนวนเท่าไร บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไรอาจเพราะว่ามันไม่สละสลวย แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด มันเป็นภาษาง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมีบทสนทนาแทรกอยู่บ้างบางบทบรรยายทำให้นึกภาพตามไม่ออกอ่านได้เรื่อยๆ แต่ไม่ทำให้รู้สึกอิน สิ่งที่เราประทับจากหนังสือเรื่องนี้คือผู้เขียนคิดถึงเรื่องความสัมพันธ์และความเป็นมนุษย์เอาไว้อย่างละเอียดอ่อนมากเลย มีจุดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเล่มนี้ คือตอนจบที่หักมุมเบาๆ มันทำให้เรารู้สึก “เฮือก” ไปเหมือนกันเนื้อเรื่องที่เนือยๆ เอื่อยๆ มาตลอดก็มาเข้มข้นขึ้นอีกนิดในช่วงท้ายนี่เองเหมือนที่เราทนอ่านทั้งเล่มมาโดยตลอด ก็เพื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ ไม่ใช่หนังสือที่แย่แต่ถ้าถูกวัดด้วยความคาดหวังจาก ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว แล้วนับได้ว่าแตกต่างกันมากอยู่ความรู้สึกประทับใจจากเล่มก่อนหน้า แทบจะไม่ปรากฏเลยในเล่มนี้เป็นหนังสือที่ถ้ามีโอกาสอ่าน ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่ก็ไม่จำเป็นต้องดั้นด้นหามาอ่านอะไร

เรื่อง ครอบครัวที่ลักผู้แต่ง ฮิโรคาสุ โคเรเอดะผู้แปล ฐิติพงศ์ ศิริรัตน์อัสดร, สกล โสภิตอาชาศักดิ์สำนักพิมพ์ Maxx Publishingเลขมาตรฐานหนังสือ 9786163711366 ตอนที่เราได้รู้เรื่องย่อของหนังสือเล่มนี้เราหวนคิดถึงความรู้สึกตอนที่ดูภาพยนตร์เรื่อง nobody knowsและแปลกใจทั้งที่ไม่น่าแปลกใจ .. เมื่อได้รู้จากคำนำว่าผู้ที่เขียนหนังสือเรื่องนี้ ก็คือผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนั้นนั่นเอง ครอบครัวที่ลัก เล่าเรื่องของครอบครัวชิบาตะ(บางทีก็เรียกว่าบ้านอาระคาวะ?)ครอบครัวนี้มีสมาชิกอันประกอบไปด้วย ..โอซามุ ชายวัย 40 กลางๆ แต่ดูแก่กว่าอายุจริงพ่อผู้ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว ไม่มีความรับผิดชอบ และไม่รู้จักโตโนบุโยะ ภรรยาของโอซามุ และรับบทเป็นแม่ของครอบครัวฮัตสึเอะ หญิงสูงวัยผู้รับบทเป็นย่า เรียกได้ว่าเป็นเสาหลักเพราะเป็นทั้งเจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของเงินส่วนมากที่ใช้จ่ายในบ้านอากิ หญิงสาวที่น่าจะนับได้ว่าเป็นน้องสาวของโนบุโยะ เป็นน้าสาวของบ้านนี้และโชตะ เด็กชายคนสุดท้ายของบ้าน มีอายุราว 10 ขวบ ในตอนเริ่มเรื่อง ครอบครัวนี้ได้มีสมาชิกคนสุดท้องเพิ่มมาอีกหนึ่งคนเป็นเด็กหญิงตัวกระจิ๋ว ชื่อว่ายูริ .. หรือรินเด็กหญิงคนสุดท้ายที่ได้กลายมาเป็นสมาชิกของครอบครัว ครอบครัวปลอมๆ ครอบครัวนี้ เป็นครอบครัวที่ค่อนข้างยากจนเป็นชนชั้นล่างของสังคม บางคนประกอบอาชีพใช้แรงงานและบางคนก็เรียกได้ว่าเป็นมิจฉาชีพชั้นกระจอก ลักเล็กขโมยน้อยเป็นการรวมตัวกันของตัวกระจอกแต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกได้เต็มปากว่าเป็นครอบครัว ผู้เขียนค่อยๆ เปิดเผยบทบาทของแต่ละตัวละครรวมถึงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของแต่ละคนผ่านฉากและการกระทำของพวกเขาเราค่อยๆ เห็นความสัมพันธ์อันแปลกประหลาดของสมาชิกในบ้านเป็นความห่วงหาอาทรคล้ายครอบครัว ..แต่เป็นครอบครัวที่ทุกคนกำหนดบทบาท สร้าง[…]

เรื่อง โดรายากิ ขนมนี้ทำด้วยใจผู้แต่ง Durian Sukegawaผู้แปล ธีราภา ธีรรัตนสถิตสำนักพิมพ์ Maxx Publishingเลขมาตรฐานหนังสือ 9786163711168 สึจิอิ เซ็นทาโร่ เป็นผู้จัดการร้านโดรายากิที่ชื่อว่า โดราฮารุเขาเป็นทั้งผู้จัดการ และพนักงานคนเดียวในร้านมีหน้าที่ทำขนมโดรายากิ และเปิดขายในตอนสายๆ ของทุกวันร้านโดราฮารุ เป็นร้านขนมธรรมดาๆและเซ็นทาโร่ก็ทำขนมแบบขอไปที เขาใช้วัตถุสำเร็จรูป และไม่เคยใส่ใจในขนมที่ตัวเองขายจวบจนกระทั่งวันหนึ่ง ..วันที่มีคุณยายประหลาดอายุ 76 ปี มาของานในร้านขนมคุณยายโยชิอิ โทคุเอะ มาตื้อทุกวัน จนเซ็นทาโร่ต้องยอมรับเธอเข้าทำงานและนับตั้งแต่วันนั้น ร้านโดราฮารุก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จุดเหมือนกันของตัวละครที่เต็มไปด้วยความแตกต่างอย่างตัวละครชายที่ทำหน้าที่ขายขนมไปวันๆแต่มีเบื้องหลังที่ไม่อาจบอกใครได้กับคุณยายที่เคยป่วยเป็นโรคร้าย ซึ่งไม่อาจบอกได้แม้แต่ชื่อโรคการถูกจองจำอยู่ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ในระยะเวลาหนึ่งจุดร่วมเพียงเล็กน้อยนี้เอง ที่เชื่อมโยงคนทั้งสองให้เข้าหากัน หนังสือเรื่องนี้ออกจะหดหู่กว่าที่คิดเนื้อเรื่องนั้นไม่เท่าไร แต่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคร้ายที่ผู้เขียนแทรกเข้ามาในเรื่องนั้น มันชวนให้หดหู่ไม่น้อย โดรายากิ ขนมนี้ทำด้วยใจ มีพล็อตเรื่องค่อนข้างชัดเจนผู้เขียนมีข้อความที่ต้องการจะสื่อถึงผู้อ่านอยู้แล้ว ..และให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นมากจนลดทอนรายละเอียดของตัวละครออกไปในฐานะคนอ่าน เราไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครมากเท่าไรก็เลยไม่ค่อยจะเข้าถึงความรู้สึกที่ผู้เขียนต้องการจะพาเราไป ในตอนเริ่มต้นนั้น ผู้เขียนทำได้ดีทีเดียวมีชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนระหว่างเล่าเรื่องหนึ่งไปเรื่อยๆอีกหนึ่งเรื่องอันเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละครก็ค่อยๆ เปิดเผยออกมาเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ทว่าน่าสนใจ ชวนให้ติดตาม แต่หลังจากนั้น เรารู้สึกว่าตัวละครไม่ก้าวหน้าไปไหนปมที่เผยเอาไว้นิดๆ ก็มีอยู่เพียงเท่านั้นเรื่องราวย่ำซ้ำอยู่กับที่ ผู้เขียนเบี่ยงประเด็นไปยังเรื่องอื่นปล่อยปมที่เปิดทิ้งค้างไว้อย่างนั้น เราอาจจะคาดหวังกับหนังสือเล่มนี้มากไปหน่อยเพราะได้ยินคำชมมามาก ก่อนจะตัดสินใจซื้อและอ่าน โดรายากิ[…]

เรื่อง เธอและแมวตัวนั้นเรื่องต้นฉบับ Makoto Shinkaiเรื่อง Naruki Nagakawaผู้แปล ธีราภา ธีรรัตนสถิตสำนักพิมพ์ Maxx Publishingเลขมาตรฐานหนังสือ 9786163711250 เธอและแมวตัวนั้น เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น 4 เรื่องที่ถูกเขียนขึ้นมาจากอนิเมะของมาโคโตะ ชินไค(ไปแอบดูอนิเมะมาแล้ว มันไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไรนะ)เนื้อหาในเล่มนี้เป็นเรื่องราวเดียวกันกับการ์ตูนที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้าเธอและแมวของเธอ เรื่องนี้ ตอนอ่านการ์ตูน เราไม่ค่อยประทับใจเท่าไรนะพอมาได้อ่านหนังสือ ก็รู้สึกว่าดีขึ้นนิดหน่อยตัวหนังสือให้อารมณ์และความรู้สึกแบบที่การ์ตูนทำไม่ได้เลยตอนอ่านการ์ตูน เราไม่อินเลยแต่พอเป็นหนังสือ กลับชอบมันได้มากกว่าคือถ้าให้เรียงตามความชอบ คือชอบเวอร์ชั่นอนิเมะที่สุดรองลงมาคือหนังสือเล่มนี้ และก็เล่มที่เป็นการ์ตูนเป็นลำดับสุดท้าย ตอนที่เริ่มอ่านเรื่องสั้นเรื่องแรก เราชอบวิธีเล่าเรื่องนะชอบการส่งผ่านเรื่องราวผ่านตัวละครสองตัว คือเธอกับแมวผู้เขียนดำเนินเรื่องไปข้างหน้าโดยเล่าผ่านสายตาแมวและเธอสลับกัน สำหรับพล็อต เริ่มต้นคล้ายๆ จะว่างเปล่าและไม่มีอะไรเป็นชีวิตประจำวันของผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งเนื้อเรื่องราบเรียบ มีเพียงมวลความรู้สึกเบาๆ จนกระทั่งผู้เขียนเริ่มเล่าเรื่องสั้นเรื่องที่สอง ก็เริ่มมีความน่าสนใจขึ้นมานิดหน่อยเพราะมันมีส่วนเชื่อมต่อกับเรื่องแรกอยู่แมวและเธอจากทั้งสองเรื่อง อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน เมืองเดียวกันมวลอารมณ์จากเรื่องนี้จึงหนักแน่นขึ้นนิดหน่อยเมื่อผนวกรวมความรู้สึกจากเรื่องแรก ทับถมลงไปก็เริ่มเข้าใจวิถีวิธีของผู้เล่า และเริ่มชอบมันมากขึ้น ในแต่ละเรื่องสั้น .. ในระหว่างที่ชีวิตของเธอๆ ทั้งหลายดำเนินไปสังคมแมวขนาดย่อมๆ ก็ดำเนินไปด้วยเช่นกันผู้เขียนดำเนินเรื่องจากมนุษย์ส่งผ่านไปยังแมวหรือบางครั้งก็มีแมวเป็นตัวเชื่อมเหตุการณ์ระหว่างบทตอนความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ระหว่างมนุษย์กับแมวและความสัมพันธ์ระหว่างแมวกับแมว ผลักดันให้เนื้อเรื่องดำเนินไป ในตอนที่เริ่มอ่าน เรามีส่วนที่ขัดใจอยู่นิดหน่อยคือมุมมองของแมวไม่สมกับเป็นแมวความคิดคำนึงของแมวดูเป็นมนุษย์เกินไป รู้มากเกินไปไม่ชวนให้เราเชื่อได้ว่าแมวมันคิดแบบนั้นจริงๆแต่พออ่านไปเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ ชินกับตรรกะแบบนี้ของผู้เขียนก็จริงๆ[…]

เรื่อง ผม แมว และการเดินทางของเรา ผู้แต่ง ฮิโระ อาริคาวะ ผู้แปล ปิยะวรรณ ทรัพย์สำรวม สำนักพิมพ์ Maxx Publishing เลขมาตรฐานหนังสือ 9786163711328 ไม่ได้ชอบแมวขนาดนั้น แต่ทำไมหนังสือที่คนเขียนถึงแมวมักจะดีงามจังเลย รู้ตัวอีกที บ้านก็เต็มไปด้วยหนังสือแมวๆ ไปเสียแล้ว ผม แมว และการเดินทางของเรา เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องของคนกับแมว โดยมีแมวที่ชื่อนานะเป็นตัวละครหลักในการเล่าเรื่อง แต่บางทีตัวละครอื่นๆ ก็เป็นผู้เล่าเรื่องบ้างเหมือนกัน จากแมวในปัจจุบันส่งผ่านเรื่องราวของแมวที่ซาโตรุเคยเลี้ยงในอดีต จากนานะถึงฮาจิ (มีทั้งนานะ มีทั้งฮาจิ คิดถึงการ์ตูนของไอ ยาซาว่า (Ai Yazawa) เลย) ผม แมว และการเดินทางของเรา เริ่มต้นด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน เล่าถึงแต่ละช่วงวัยของซาโตรุผ่านทางตัวละครต่างๆ ที่ทั้งซาโตรุและเจ้าแมวนานะทยอยเดินทางไปเยี่ยมเยียน จริงๆ แล้วซาโตรุกำลังหาบ้านใหม่ให้นานะ และต้องเป็นบ้านใหม่ที่แน่ใจได้ว่านานะจะต้องมีความสุข แต่ละบ้านที่เขาไปเยี่ยม ล้วนแต่เป็นเพื่อนเก่าแก่ เพื่อนวัยประถม เพื่อนวัยมัธยมต้น เพื่อนวัยมัธยมปลาย ที่เคยมีความหลังด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ มีมิตรภาพที่สวยงาม ..[…]

เรื่อง ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว ผู้แต่ง เกงคิ คาวามุระ ผู้แปล ดนัย คงสุวรรณ์ สำนักพิมพ์ Maxx Publishing เลขมาตรฐานหนังสือ 9786163710499 ถ้าพรุ่งนี้เราจะต้องตาย เราจะทำอะไรบ้างในวันสุดท้ายของชีวิตนี้ และถ้าให้เราเลือกหนังสือเล่มสุดท้ายที่จะอ่านก่อนตายล่ะ? ถ้าโลกนี้ไม่มีแมว เล่าถึงเวลาช่วงสุดท้ายในชีวิตของบุรุษไปรษณีย์คนหนึ่ง เป็นการรับรู้อย่างกะทันหัน .. ว่าเขาจะต้องจากโลกใบนี้ไปในเร็ววัน หมอบอกกับเขาว่าเขาเป็นมะเร็งในระยะสุดท้าย .. ว่าเขาจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน ความรู้สึกนั้นตอกย้ำยืนยันกับเขาอีกครั้ง .. จากปากของปีศาจ วันพรุ่งนี้คือวันตายของเขา!! โชคยังดี ที่เจ้าปีศาจยังปรานีให้โอกาสเขา บุรุษไปรษณีย์ผู้นี้จะสามารถต่อชีวิตตัวเองได้อีกหนึ่งวัน โดยแลกกับบางสิ่งบางอย่างให้หายไปจากโลกใบนี้ .. หนึ่งอย่าง ต่อหนึ่งวัน สิ่งของที่ว่านี้ ไม่ใช่อะไรก็ได้ แต่เป็นสิ่งที่ปีศาจเป็นผู้เลือก และเขาจะต้องตัดสินใจว่า .. จะยอมแลกมันกับชีวิตตัวเองมั๊ย? .. แน่นอนว่าแมวต้องเป็นหนึ่งในสิ่งเหล่านั้น .. หนังสือหยิบสิ่งของต่างๆ ในโลกนี้ มาวิเคราห์ในแง่มุมที่ละเอียด มีมุมเล็กมุมน้อยที่เราไม่เคยคิดถึง เป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้เราคิดอะไรไปได้เรื่อยๆ มีความคิดมากมายเกิดขึ้นในหัว[…]

เรื่อง พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน ผู้แต่ง takafumi nanatsuki ผู้แปล กนกวรรณ เกตุชัยมาศ สำนักพิมพ์ Maxx Publishing ราคา 300 บาท หยิบหนังสือแปลญี่ปุ่นมาอ่านติดๆ กันตั้งแต่ต้นปีโดยไม่ได้จงใจ เล่มที่สามของปี .. เป็นหนังสือใหม่หมาด เล่มล่าสุดของบ้านค่ะ พรุ่งนี้ ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน .. อีกหนึ่งนิยายเหนือจริงในแบบญี่ปุ่นๆ ที่กำลังจะกลายเป็นภาพยนตร์ในระยะเวลาอันใกล้มากกกก (2 กุมภาฯ นี้แล้ว) หนังสือตั้งแต่คำนำไปจนถึงคำโปรยท้ายปก พยายามอย่างยิ่งที่จะปกปิดส่วนสำคัญของเรื่อง ที่จะทำให้คนอ่านเซอร์ไพร้ส์เมื่อพบคำเฉลยอันนั้น แต่รีวิวจากภาพยนตร์ กลับใช้ ‘มัน’ เป็นการโปรโมทภาพยนตร์ซะอย่างนั้น แต่ถึงแม้เราจะรู้ความลับนั้นตั้งแต่ก่อนจะเริ่มต้นอ่าน (และหลงคิดไปว่ามันไม่ใช่ส่วนสำคัญของเรื่อง) แต่ก็สามารถมีความสุขกับการอ่านไปเป็นอย่างดี และยังคงตื่นเต้น ลุ้นระทึกกับฉากเฉลย คงเป็นมนุษย์จำพวกที่สปอยล์ทำอะไรเราไม่ได้น่ะนะ แต่ขอเตือนว่า ถ้าไม่อยากรู้ก่อนอย่างเรา อย่าได้ไปคลิกดูรีวิวภาพยนตร์เป็นอันขาดเลยค่ะ .. >,< (จริงๆ ชื่อเรื่องก็สปอยล์ไปหน่อยนึงด้วยแล้วน่ะนะ) พรุ่งนี้ผมจะเดตกับเธอคนเมื่อวาน เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องเรื่อยๆ แม้จะไม่มีจุดพีค หรือเหตุการณ์ชวนติดตาม แต่ก็อ่านง่าย อ่านได้เรื่อยๆ[…]