เรื่อง ความทรงจำของวันพรุ่งนี้ผู้แต่ง โอกิวาระ ฮิโรชิผู้แปล หนึ่งฤทัย ปราดเปรียวสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161834647 เราเองก็อายุไม่น้อยแล้วนะที่หยิบเล่มนี้มาอ่านก็เพราะรู้สึกว่าเราเองก็มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์อยู่เหมือนกันเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวเลย แต่ด้วยวิธีเล่าที่เริ่มต้นจากการบอกเล่าชีวิตประจำวันของผู้ชายญี่ปุ่นผู้เป็นหัวหน้าครอบครัววัยกลางคนเรื่องดำเนินไปอย่างเนิบนาบและไม่สามารถตอบโจทย์ความอยากรู้อยากเห็นของเราเกี่ยวกับอาการของโรคนี้ทำให้ช่วงต้นต่อติดได้ยากหน่อยกว่าจะผ่านไปแต่ละบท มันไม่มีอะไรดึงดูดเราเอาไว้ได้เลย ต่อเมื่ออ่านไปถึงช่วงหนึ่ง วิธีเล่าแบบนี้กลับเป็นประโยชน์มากเพราะมันทำให้เรารู้และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้เข้าใจว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับตัวเขา และเข้าใจว่าเขาคิดอะไร สะเอกิ คือชายวัย 50 ที่เริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์นับตั้งแต่วันที่เขารู้ว่าตนเองป่วย คล้ายกับว่าอาการของโรคค่อยๆ พัฒนาไปทีละน้อยแต่ถ้านับจากวันป่วยจนถึงวันสุดท้ายในเล่มก็นับว่าอาการป่วยรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว สะเอกิต่อสู้เต็มที่กับความทรงจำที่กำลังจะลบเลือนเขาอ่านหนังสือเพื่อทำความรู้จักกับโรคที่ตัวเองเป็นเปลี่ยนวิถึชีวิต เปลี่ยนวิธีการดื่มกินอาหารเขาจดบันทึกข้อมูลสำคัญที่ได้รับจากการทำงานในแต่ละวันนอกจากนี้ยังจดบันทึกเหตุการณ์ประจำวันมีสมุดแพลนเนอร์ที่จดละเอียดมากพกแผนที่ติดตัวไปด้วย ฯลฯแต่ถึงอย่างนั้น ความกลัวและไม่มั่นใจ ก็มีปรากฏให้เห็น ความทรมานของโรคไม่ได้อยู่ที่การเจ็บป่วยทางกายแต่มันคือความหวาดกลัวว่าเราจะหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยรู้จักหลงลืมเพื่อน หลงลืมเพื่อนร่วมงาน หลงลืมแม้แต่คนในครอบครัวและท้ายที่สุดแล้ว คือการหลงลืมตัวเอง และสูญเสียความเป็นตัวเองไป การที่ล่วงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าปลายทางที่โหดร้ายนั้นเป็นอย่างไรนั้นทำให้ระหว่างทางที่ผ่านพ้นไปในแต่ละวัน เป็นวันที่น่าหวั่นใจไม่น้อย ในตอนใกล้จบเราลุ้น เอาใจช่วยกับการทำตามฝันอันบ้าบิ่นของชายผู้เป็นอัลไซเมอร์คนนี้มากและแม้ว่าเราจะพอเดาตอนจบของหนังสือเล่มนี้กันได้อยู่แล้วแต่ผู้เขียนก็สามารถสร้างตอนจบที่ละมุนละไม สวยงาม(ซึ่งในความสวยงามที่ว่านี้ ก็รู้แหละว่ามันคือความโหดร้ายในความเป็นจริง) ความทรงจำของวันพรุ่งนี้ เป็นหนังสือที่เริ่มต้นแบบง่วงๆ แต่กลับจบลงด้วยความดีงามเป็นอีกครั้งที่เราดีใจที่ได้อ่านมันจนจบไม่ได้เลิกอ่านไปก่อนตั้งแต่ไม่กี่หน้าแรก  

เรื่อง ลิงพาดกลอน ผู้แต่ง ปราปต์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161825904 การตายของเสือโคร่ง เพื่อนรักในวัยเยาว์ของเขา เป็นเหตุให้ไตรตรึงษ์ วิไลวุฒิ หรือกบี่ (ชื่อเก่า) หรือลิง (ชื่อที่เสือโคร่งเรียก) ต้องเดินทางกลับบ้านเกิดในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ เขาได้รับรู้ .. พัวพัน .. กับคดีฆาตกรรมสยองขวัญที่เกิดต่อเนื่องวันเว้นวัน ณ บ้านหลาว ศพของเสือโคร่งต้องกลายเป็นศพอนาถา เหตุเพราะเสือโคร่งเป็นตำรวจปลอมตัวมาสืบคดี และตัวตนที่แท้จริงของเขาจะมีผลต่อคดีที่ยังสืบไม่เสร็จ .. มันจึงเป็นการตายที่แสนเศร้า เป็นงานศพที่เงียบเหงา ไร้ญาติขาดมิตร ขาดแม้แต่รูปและชื่อจริง!! นอกจาก (ร่างไร้วิญญาณของ) เพื่อนเก่า เขายังได้พบศัตรูเก่า .. ซึ่งบัดนี้เติบโตขึ้นเป็นตำรวจเฉกเช่นกัน สุริยัน เป็นผู้ถ่ายทอดคดีแปลกประหลาด ที่เหยื่อถูกฆาตกรรมอย่างน่าสยองขวัญ (ซึ่งในเล่มก็บรรยายไว้น่ากลัวด้วย แต่อ่านข้ามๆ ได้) ตามแบบวิธีลงโทษขั้นสูงสุดแบบโบราณ มันคือโทษประหาร 21 สถาน จากกฎหมายตราสามดวง ไตรตรึงษ์เริ่มต้นสืบคดีอย่างลงลึก .. เพื่อที่่จะพบความเกี่ยวโยงบางอย่างระหว่างเหยื่อ และค้นพบจุดมุ่งหมายของฆาตกร[…]

เรื่อง แอบรักหมาชาวบ้าน รวมเรื่องสั้นแห่งห้วงอ้างว้างอันแสนพิสุทธิ์ ของผู้เขียนม้าก้านกล้วย ผู้แต่ง ไพวรินทร์ ขาวงาม สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744750969 แอบรักหมาชาวบ้าน เป็นรวมเรื่องสั้นที่เขียนขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2535 – 2550 ไม่รู้ทำไม เรารู้สึกว่ามันเป็นรวมเรื่องสั้นเพื่อมนุษย์ผู้ชายอ่านมากกว่าผู้หญิง ลงลึกเข้าไปสำรวจหัวจิตหัวใจของลูกผู้ชายอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้หญิงอ่าน อาจจะไม่ได้รู้สึกร่วม หากแต่ก็ได้แง้มหัวใจเพศตรงข้ามออกศึกษา ในเล่มเป็นรวมเรื่องสั้นเนื้อเรื่องอ่านไม่ยาก ไม่ต้องตีความ เน้นหนักในวิถีชาวต่างจังหวัด ที่ใช้ชีวิตอยู่ในซอกหลืบของเมืองหลวง ไม่ได้เน้นที่ความยากลำบาก แต่เน้นที่ความสัมพันธ์ในครอบครัว, ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เรื่องราวกล่าวถึงหญิงขายบริการ และการชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายตอน จนมองคล้ายเป็นเรื่องสามัญ? มีรักและเซ็กส์ที่ใช้กันจนเกร่อ คงจะเกร่อเกินไปในสังคม จนล้นหลงมาปนในหนังสือเล่มนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวของมิตรภาพและผองเพื่อน เราชอบตอน ‘ดาราขี้เหร่’ มันมีความโรแมนติกแทรกอยู่ในชีวิต และมีความขมที่ไม่ดาร์กจนเกินไป แทรกปนอยู่ในความโรแมนติกนั้นด้วย อีกเรื่องที่ชอบมาก คือเรื่องที่มีชื่อเดียวกับเชื่อเล่ม ‘แอบรักหมาชาวบ้าน’ เป็นเรื่องสั้นที่น่ารักมาก โดยเฉพาะคนชอบหมาแต่ไม่ได้เลี้ยงหมาอย่างเรา อ่านแล้ว อารมณ์ร่วมมาเต็ม ยิ้มกว้างไปกับอากัปกิริยาของไอ้เสือทั้งสองตัวในเรื่อง ที่ผู้เขียนเพียรแอบมอง แอบรัก โดยรวมถือว่าเล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นที่อารมณ์กลางๆ[…]

เรื่อง นักเล่านิทาน ผู้แต่ง นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744750006 เรื่องเล่าประสบการณ์เชิงสารคดี แต่ถึงจะเป็นสารคดี ก็เป็นสารคดีแบบสนุกๆ มีเกร็ดขำๆ ให้อ่านแล้วนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ด้วยความที่ผู้เขียน (น่าจะ) เป็นคนคุยสนุก นอกจากชอบเล่าแล้วยังช่างซัก ชักถาม ช่างจด เก็บข้อมูลจากคนเฒ่าคนแก่ในทุกที่ที่เธอไป (ไม่เว้นแต่แต่ขณะเดินทางก็ถามคนขับนี่แหละ) มันสนุกและตื่นเต้น เวลาที่ผู้เขียนได้ข้อมูลจากที่หนึ่งและอีกที่หนึ่ง มาผสมรวมกันเป็นคำตอบที่เป็นความลับของประวัติศาสตร์มานานแสนนาน ด้วยความที่ช่างถาม ช่างเก็บข้อมูล ทำให้เธอออกจะเป็นนักประวัติศาสตร์เดินได้อยู่เหมือนกันนะ มีเรื่องเล่าที่น่าฟัง (คือเธอเกริ่นๆ ไว้แต่ยังไม่เล่า) อยู่หลายเรื่องทีเดียว มีมากเสียจนอยากจะขอให้เธอไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว นั่งเขียนหนังสืออย่างเดียวเถิด 555 เราชอบตอนที่ตรงกับชื่อเรื่องที่สุด ตอนที่เล่าเรื่องของเล่นก็สนุก จริงๆ เล่านิทานทั้งเล่มเลยก็น่าจะดี เสียดายอยู่แต่ว่า ไม่น่าไปมัวเล่าเรื่องผัวๆ เมียๆ ตอนต้นเล่มให้หลุดคอนเซ็ปต์เลย กลายเป็นหนังสือจัดเรทลำบากไปอีก เราชอบที่มันเป็นเรื่องโบราณเก่าๆ เกิดทันมั่ง เคยฟังเขาเล่ามาอีกทีบ้าง พออ่านแล้วก็มีอารมณ์ร่วมว่าเราผ่านยุคเดียวกันมา อ่านแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่าคนไทยเราทุกวันนี้รากมันหดหายไปทุกที ไม่ต้องไปดูคนอื่นคนไกล ดูที่ตัวเองนี่แหละ ย้อนนึกไปถึงเรื่องที่แม่คอยเล่า[…]

เรื่อง ฟื้น ผู้แต่ง โจน โลเวอรี่ นิกซอน ผู้แปล จิตต์สุภา แซ่ฉิน สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744751119 เรื่องราวของเด็กหญิงที่ถูกยิง และกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา สเตซี่ในวัย 13 ปี กลับมาบ้านและพบว่ามีใครบางคนบุกเข้ามาในบ้าน ยิงแม่ของเธอ ฆาตกรเห็นเธอ และยิงเธอด้วยอีกคน ความจำเธอหยุดนิ่งอยู่ในวันนั้น ก่อนจะหลับลึกไป 4 ปี สเตซี่ฟื้นมาอีกครั้งในอายุ 17 ปี .. เธอตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่า .. ชีวิตนับจากวัย 13 ปีของเธอได้พลิกผันไปอย่างที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกเลย เธอเป็นพยานเพียงคนเดียวที่เห็นหน้าฆาตกรที่ฆ่าแม่ แต่ที่โชคร้ายคือ ความจำส่วนนั้นได้หายไปเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ความทรงจำที่สูญหายนี้กำลังค่อยๆ กลับมา .. แต่มันต้องใช้เวลา เธอจะต้องนึกหน้ามันให้ออก ก่อนที่มันจะตามหาตัวเธอพบ!! โดยรวมแล้ว นับว่าเป็นหนังสือที่มีพล็อตที่น่าสนใจเลย แต่หนังสือเล่มนี้มีดีแค่พล็อตเท่านั้นเอง การนำเสนอ วิธีเล่าเรื่องห่วยมาก ผู้เขียนใช้บทสนทนาในการเล่าเรื่องเป็นหลัก ส่วนที่บรรยาย ก็มักเป็นการพร่ำพรรณนาถึงตัวเองของสเตซี่ การบรรยายบรรยากาศโดยรอบทำได้ไม่ดี เสียดายที่ใช้ภาษาได้ไม่คุ้ม[…]

เรื่อง รากนครา ผู้แต่ง ปิยะพร ศักดิ์เกษม สำนักพิมพ์ อรุณ ราคา 425 บาท สารภาพว่า .. แม้จะได้ยินชื่อคุณปิยะพร ศักดิ์เกษม มานานแล้ว แต่หนังสือเล่มนี้ คือผลงานเล่มแรกของผู้เขียนที่เราหยิบมาอ่านค่ะ รากนครา เป็นนวนิยายที่โด่งดังมาก มาตั้งแต่เป็นละครเวอร์ชั่นแรก แต่ความอยากอ่านไม่เคยเกิดขึ้นเลย .. จวบจนกระทั่งได้เห็นรูปฟิตติ้งละครเวอร์ชั่นล่าสุด มันดีงามมากจริงๆ ค่ะ ดีงามจนทำให้เราอยากที่จะรู้ว่า หนังสือเล่มนี้มีเรื่องราวแบบไหนซ่อนอยู่ เรื่องราว .. ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ทีมงานตั้งใจทำมากขนาดนี้ พอเปิดบทแรกออกอ่าน .. มันเริ่มต้นด้วยความประทับใจค่ะ ภาษาสวยมาก .. เป็นภาษาที่ให้ภาพ ให้ความรู้สึก ผู้เขียนเปิดเรื่องได้น่าสนใจ และน่าติดตาม บทนำบอกกับเราว่า เรื่องราวเรื่องนี้ .. ส่วนหนึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยความแค้น รากนครา เป็นนิยายพีเรียด ตรงกับยุคสมัยพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ของไทย ไทม์ไลน์ตีคู่ไปกับประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ.2427 ในยุคแห่งการล่าอาณานิคม ณ ประเทศสมมติกลุ่มหนึ่ง[…]

เรื่อง ส้มสีม่วง ผู้แต่ง ดาวกระจาย สำนักพิมพ์ ในเครืออมรินทร์ ราคา 125 บาท ปรามาสหนังสือเด็กเอาไว้ในใจพอสมควร .. แม้ว่าจะเป็นหนังสือที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วก็ตาม ความคาดหวังในการเปิดหนังสือเล่มนี้ออกอ่าน จึงอยู่ในระดับ ‘เฉยๆ’ แต่ปรากฏว่า หลังจากลองอ่านไปได้ 2 – 3 บท กลับพบว่า ผู้เขียนเล่าเรื่องได้น่าติดตามมากกว่าที่เราคาดคิดค่ะ และก็เป็นเรื่องราวผสมจินตนาการมากกว่าที่เราคิดด้วย ส้มสีม่วง เป็นเรื่องราวของเด็กชายจ้อย .. เด็กชายผู้รักการอ่านคนหนึ่ง เด็กชายจ้อยเพิ่งย้ายบ้านมาใหม่ .. มาอยู่ติดกับบ้านลึกลับหลังหนึ่ง เขาได้ค้นพบว่าบ้านลึกลับหลังนั้นก็คือสำนักพิมพ์แมลงเต่าทอง สำนักพิมพ์ของนักเขียนโปรดของเขา .. ผู้มีนามว่า ‘ลุงเทิด’ นี่เอง ลุงเทิด เขียนหนังสือประเภทวรรณกรรมเยาวชนเอาไว้มากมาย เรื่องราวในนิทานของลุงเทิดล้วนสนุก น่าตื่นเต้น และเต็มไปด้วยจินตนาการ โดยที่หนังสือเล่มล่าสุดของเขาได้เล่าถึง กองทัพปราบฝัน กองทัพจากอาณาจักรลึกลับแห่งหนึ่ง ที่นำโดยนายพลขี้เกียจ ตัวเป็นขน และผู้ที่มีอำนาจรองลงมา คือนายช่าง ช่างมันเถอะ ไม่เป็นไร[…]

เรื่อง บ้านมุมพูห์ ผู้แต่ง เอ. เอ. มิลน์ ภาพ อี. เอช. เชปเพิร์ด ผู้แปล ธารพายุ สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน ราคา 120 บาท ยังคงไม่เข็ด และหยิบ บ้านมุมพูห์ มาอ่านต่อเนียนๆ และพูห์ก็ยังคงความติงต๊องประมาณเดิม ดูเหมือนว่า บ้านมุมพูห์ จะมีเนื้อหามากกว่า วินนีเดอะพูห์ ขึ้นมาหน่อยนึง แต่เราว่ามันสนุกน้อยลงกว่าเดิมไปอีก ผองเพื่อนทุกตัวยังคงติงต๊อง ทำอะไรเหมือนไม่ได้ทำอะไรไปวันๆ สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่ง (จริงๆ ต้องบอกว่าน่าทึ่งมาตั้งแต่เล่มแรกแล้ว) ก็คือ .. ผู้แปลสามารถแปลกลอนติงต๊องของเจ้าหมีพูห์ ออกมาเป็นภาษาไทยได้อย่างพอดีเป๊ะ แถมยังสัมผัสนอกสัมผัสในตามฉันทลักษณ์แบบไทยๆ แต่ภาษายังคงติงต๊องไร้สาระตามแบบฉบับของพูห์ ไม่น่าใช่เรื่องง่ายจริงๆ อ่านบ้านมุมพูห์แบบเบื่อๆ มาจนเกือบตลอดเล่ม .. จนกระทั่งถึงตอนใกล้จบ ถึงแม้คริสโตเฟอร์ โรบิน, พูห์ และผองเพื่อน จะเปิ่นๆ เอ๋อๆ[…]

เรื่อง วินนีเดอะพูห์ ผู้แต่ง เอ. เอ. มิลน์ ภาพ อี. เอช. เชปเพิร์ด ผู้แปล ธารพายุ สำนักพิมพ์ แพรวเยาวชน ราคา 115 บาท เรื่องราวของหมีพูห์ คือสิ่งที่เราเมินตลอดชีวิตวัยเด็กของเราค่ะ ด้วยความรู้สึกที่ว่ามันดูหน่อมแน้ม มุ้งมิ้ง เกินเหตุ นั่นทำให้เราไม่เคยแตะอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับหมีพูห์มาโดยตลอด จวบจนกระทั่งวัยมีลูกสาว และเมื่อครั้งที่ลูกสาวยังเล็กๆ น่ะแหละ วินนีเดอะพูห์ถึงเข้ามาในชีวิตเรา โดยโมเมเอาเองว่าผ่านทางลูกสาว แต่ที่ไหนได้ ลูกสาวเราก็ไม่ได้ชอบเรื่องราวของหมีพูห์สักเท่าไรค่ะ (ก็น่าจะด้วยเหตุผลเดียวกันกับที่เราเคยรู้สึก) แต่ตัวเราเองกลับรู้สึกว่าเจ้าหมีตัวนี้และผองเพื่อนของมันนี่ช่างอ่อนโยน และช่วยกล่อมเกลาจิตใจได้ดีจริงๆ (เป็นงั้นไป ^^”) .. แต่นั้นก็เป็นเวอร์ชั่นภาพยนตร์การ์ตูนนะ และนี่คือการหยิบ วินนีเดอะพูห์ มาอ่านเป็นหนแรกสำหรับเราค่ะ! เปิดหน้าแรก .. สำนวนมุ้งมิ้งตามคาดค่ะ -“- สำนวนเงียบง่วง เรียบเรื่อยๆ ไร้เสน่ห์ ไม่เห็นจะน่าติดตามที่ตรงไหน บอกเล่าเรื่องราวของพูห์ไปอย่างช้าๆ พูห์[…]

เรื่อง กาหลมหรทึก ผู้แต่ง ปราปต์ สำนักพิมพ์ อมรินทร์ ราคา 175 บาท อันที่จริงการอ่านนิยายเรื่องนี้แบบไม่รู้อะไรเลยน่าจะสนุกที่สนุก ถ้าจะบอก อยากจะบอกแค่ว่ากาหลมหรทึกเป็นนิยายรหัสคดีที่ดีงามสยามประเทศมาก แต่ก็นั่นแหละนะ .. ถ้าบอกแค่นี้ จะรีวิวไปทำไม? ^^” เอาเป็นว่า ถ้าอยากอ่านสนุก ไปอ่านก่อนได้เลยค่ะ สนุกสมคำร่ำลือจริงๆ ค่ะ แต่ถ้าอยากรู้ข้อมูลอีกสักหน่อย อ่านบล็อกเราต่ออีกสักแป๊บก็ได้ ;P กาหลมหรทึก เรื่องราวของรอยสักบนร่างของศพที่ถูกฆาตกรรมต่อเนื่อง รอยสักปริศนาเป็นคำไทยไม่รู้ความหมาย 5 คำบนศพ (และไม่ศพ) มันค่อยๆ ทยอยถูกพบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ละศพไม่ซ้ำกัน และไม่มีใครบอกได้ว่าคำเหล่านั้นหมายความว่าอะไร ทุกคนที่เกี่ยวข้องหรือพอจะมีเบาะแส ถ้าไม่ชิงตายก่อน ก็ค่อยๆ ทยอยตายไปทีละคนเกือบทั้งนั้น ผู้อ่านจึงต้องค่อยๆ ถอดรหัสไปกับคณะตำรวจในเรื่อง สารภาพว่าช่วงแรกมืดแปดด้านมากค่ะ แต่เมื่อข้อมูลเยอะขึ้น เยอะขึ้น ก็ทำให้เราเดาสนุกขึ้น (แม้ในตอนจบจะเดาตัวฆาตกรไม่ถูกก็ตาม 555) เหตุการณ์ในกาหลมหรทึก เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 (อีกแล้ว)[…]