เรื่อง นางพญาหลวงผู้แต่ง กฤษณา อโศกสินสำนักพิมพ์ อักษรโสภณเลขมาตรฐานหนังสือ 9749309227 เอาจริงๆ นี่ก็ไม่ใช่การรีวิวหนังสือนะ ..มันคือการเล่าเรื่องย่อเลยแหละ!!(ย่อแล้วจริงๆ นะ!) ตอนที่เราเปิดมาเจอภาษาล้านนาโบราณขนานแท้ 4 – 5 หน้าแรกนั้นแทบช็อกทีเดียวค่ะนึกว่าจะต้องเจอแบบนั้นไปทั้งเล่มเสียแล้ว(ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คงต้องเลิกอ่านไปก่อน >,<)โชคยังดีที่พอพ้นช่วงนั้นมา สำนวนก็กลับคืนสู่สภาพที่พออ่านได้บ้างคือเป็นล้านนาฉบับเบาบาง แต่ก็ยังอ่านยากอยู่ดีเพราะว่าเราจับเนื้อเรื่องไม่ติด ไม่เข้าใจชั่งใจตัวเองอยู่พอสมควร ว่าจะเลิกอ่านดีมั๊ยแต่ก็รู้ใจตัวเองอีกเช่นกันว่า ถ้าวางไปโอกาสจะกลับมาอ่านใหม่นั้นน้อยนิดจนเป็นศูนย์แน่ๆคิดได้ดังนั้น .. ก็บอกตัวเองให้ก้มหน้าก้มตาอ่านมันต่อไปเสียเถอะ! เมื่อตั้งใจว่าจะอ่านมันแน่ๆ ก็ต้องหาวิธีที่จะอ่านมันให้รอดซึ่งเราใช้วิธีเสิร์ชประวัติศาสตร์ช่วงนั้นจากกูเกิ้ลก่อนค่ะอ่านคร่าวๆ พอจับใจความได้แล้วค่อยมาอ่านประเด็นที่ผู้เขียนต้องการจะเล่าจากในหนังสือไปอย่างช้าๆ และก็เริ่มทำความเข้าใจเนื้อเรื่องไปด้วยเมื่อมีหลักให้จับ เราก็เริ่มชินกับภาษาไปเอง แล้วพบอีกด้วยว่า จริงๆ แล้วมันก็ไม่ยากเท่าที่คิดกลัวแต่แรก นางพญาหลวง เล่าประวัติศาสตร์ล้านนา (เชียงใหม่) เล่าถึงกษัตริย์องค์ท้ายๆ แห่งราชวงศ์มังรายในช่วงปี พ.ศ. 2000 นิดๆก่อนที่พระนางจิรประภามหาเทวีจะทรงครองนครเชียงใหม่ (พ.ศ. 2088 – 2089) ผู้เขียนเริ่มต้นเรื่องด้วยการยกบทบันทึกประวัติศาสตร์ภาษาโบราณซึ่งเท้าความถึงพระญาติโลก (พระญาลก) (พระเจ้าติโลกราช)(กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ 10 (บางแหล่งว่า 9) แห่งราชวงศ์มังราย)ทรงมีโอรสคือท้าวสรีบุญเรือง (ท้าวบุญเรือง) ได้ครองเมืองเชียงรายก่อนจะถูกส่งไปไว้ที่[…]

เรื่อง จำหลักไว้ในแผ่นดินผู้แต่ง กฤษณา อโศกสินสำนักพิมพ์ อักษรโสภณเลขมาตรฐานหนังสือ 9789742530372 จำหลักไว้ในแผ่นดิน รวบรวมประวัติศาสตร์ของกัมพูชานับตั้งแต่วันที่นายพลลอนนอลยึดอำนาจจากเจ้าสีหนุ เมื่อ พ.ศ. 2513และเขมรกลายเป็นเขมรแดง ในปี พ.ศ. 2518เกิดเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเองภายในประเทศประชาชนชาวเขมรอพยพหลบหนีออกนอกประเทศกันเป็นทิวแถวไม่ขาดสายเหตุการณ์ยืดเยื้อ ผู้นำเขมรแตกออกเป็นฝ่ายต่างๆ มากมายจวบจนกระทั่งทุกฝ่ายร่วมมือกันสงบศึกและจัดตั้งรัฐบาลเขมร 4 ฝ่าย สำเร็จลงในที่สุด ในปี พ.ศ. 2536   หนังสือเล่มนี้ถูกแบ่งออกเป็นสามภาคภายในเล่มเดียวภาคแรก เริ่มต้นตอนที่กัมพูชากลายเป็นคอมมิวนิสต์ ในปี พ.ศ. 2518ผู้เขียนเปิดเรื่องขึ้นด้วยฉากการอพยพออกจากประเทศกัมพูชาของครอบครัวมีอันจะกินครอบครัวหนึ่งซึ่งเป็นการลักลอบเข้าประเทศไทยมาเป็นกลุ่มคนกลุ่มแรกๆนับตั้งแต่ประเทศกัมพูชาเกิดการเปลี่ยนแปลงเธอได้เดินทางมาพบกับครอบครัวชาวไร่ ณ ชายแดนไทยครอบครัวหนึ่งซึ่งมีคนงานที่ฉลาดเฉลียว มีภูมิความรู้ผิดไปจากชนชั้นแรงงานทั่วไปนั่นคือฉากแรกพบของหญิงชายนามว่าเทีย และสู เบื้องหลังของเธอและครอบครัวถูกปิดเป็นความลับในช่วงต้นของเรื่องเบื้องหลังของเขาด้วยเช่นกันเรื่องดำเนินไปอย่างเนิบๆ เนือยๆ ผู้เขียนเล่าเรื่องเนิบช้ามากหมดไปร้อยหน้า เรื่องราวยังไปไม่ถึงไหนยังไม่รู้ว่าทั้งเทีย และทั้งสูมีจุดประสงค์อะไรต่างฝ่ายต่างมีความลับซ่อนเร้นตัวละครแซะกันไป หยอดกันมา คนอ่านได้แต่บทสนทนา เรื่องไม่ไปไหนบทสนทนามากจนเกินไป ทั้งภาคแรกมีแต่การปะทะโวหารกันระหว่างพระนางคู่นี้   แล้วเรื่องก็ดำเนินมาถึงภาคที่สอง ซึ่งเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2522ในตอนที่ทหารเวียดนาม นำโดยนายเฮง สัมริน เข้ามาแทรกแซงและสามารถล้มรัฐบาลพอลพต (เขมรแดง) ลงได้ ในระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมานี้ ชาวเขมรอพยพ[…]

เรื่อง น้ำใสใจจริง ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ดอกหญ้า เลขมาตรฐานหนังสือ 9746019023 น้ำใสใจจริง เป็นนิยายที่อ่านแล้วชวนให้คิดถึง ของขวัญวันวาน ต่างกันแต่เพียงว่า น้ำใสใจจริง ให้กลิ่นอาย ให้อารมณ์ที่เป็นไทยๆ มากกว่า มันเป็นนิยายเรื่องแรกๆ ที่เราตามอ่านในสกุลไทยทุกสัปดาห์ ได้รู้จักความทรมานของการรอคอย (ที่จะอ่านเรื่องโปรด) ก็ตอนนั้นนั่นเอง และก็ยังยินดีที่จะทรมานรอต่อมาอีกหลายต่อหลายเรื่อง นับกันไม่ไหว ได้รู้จักกิ่งฉัตร ก็จากการอ่านทีละตอนแบบนี้ .. เป็นชีวิตที่มีความสุข (บนความทุกข์) ไปอีกแบบ (ฮา) น้ำใสใจจริง เป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนที่เพิ่งจบมัธยมวัยใส กลายเป็นน้องใหม่นักศึกษารุ่นบุกเบิก ของวิทยาเขตมหาวิทยาลัยในจังหวัดแห่งหนึ่ง เล่ากันว่านวนิยายเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้น จากประสบการณ์จริงของอาจารย์วินิตา ผู้เขียน ผู้ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ (รุ่นแรก) ของคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ (ทับแก้ว) มหาวิทยาลัยที่เพิ่งสร้างใหม่ในยุคนั้น แม้จะอยู่ในจังหวัดที่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของประเทศสักเท่าไร แต่ก็กันดารเหลือใจ น้ำประปาไม่มี มีแต่น้ำบาดาล ไฟฟ้าก็พร้อมจะดับได้ทุกเมื่อ และมันก็ดับจริงๆ เกือบจะวันเว้นวัน มหาวิทยาลัยที่มีเพียงอาคารหอพักแยกชายหญิงสองอาคาร อาคารเรียนที่แทบจะไม่พอใช้ และโรงอาหารใต้ถุนตึกพร้อมอาหารสามมื้อ นอกเหนือจากนั้นแล้ว[…]

เรื่อง สุดหัวใจที่ปลายรุ้ง ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ อักษรโสภณ เลขมาตรฐานหนังสือ 9749353919 จาก ของขวัญวันวาน ซึ่งเป็นเรื่องของพระเอกมีปม มาสู่เรื่อง สุดหัวใจที่ปลายรุ้ง ก็กลายเป็นเรื่องของนางเอกมีปมบ้าง สุดหัวใจที่ปลายรุ้ง เป็นเรื่องยาวภาคต่อชีวิตของนิก .. ว่าที่ ดร.นิกษา ผู้ซึ่งกำลังทำปริญญาเอกในช่วงสุดท้ายใกล้จบเต็มที ตัวละครเก่าๆ จากของขวัญวันวานโผล่หน้ามาให้เราหายคิดถึงบ้าง (เซ็งบ้าง) ทั้งพี่มัญ มัญชรี ตัวป่วนอันดับหนึ่ง, เต้และพู่ไหมที่โผล่มาเพียงจดหมายและคำบรรยายถึง แพรมน สิระ และฐานิต ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนโผล่มา ไม่ค่อยจะทำให้เราหายคิดถึงใครเลย เพราะคนที่โผล่มานี่ไม่ค่อยคิดถึงสักเท่าไร ^^” แถมยังมาสร้างเรื่องวุ่นวายยุ่งเหยิงให้กับชีวิตช่วงใกล้จบของนิกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆ ทุกคนก็แค่ .. เป็นตัวเอง เท่านั้นเอง – -“ นิกกลายเป็นคนเกรงอกเกรงใจทุกคนรอบตัว ยกเว้นคนรัก เราอึดอัดขัดใจกับความเป็นคนดีของนึกเหลือเกิน เป็นพล็อตที่อาจารย์ใส่ความวุ่นวายต่อเนื่องไม่รู้จบ จบเรื่องน่าเบื่อที่หนึ่ง ก็มีเรื่องน่าเบื่อที่สอง ที่สามตามมาเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มีคนอย่างนายโก้ คนอย่างดาหวัน หรือแม้แต่แพรมน[…]

เรื่อง จุดดับในดวงตะวัน ผู้แต่ง ว.วินิจฉัยกุล สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 440 บาท เรื่องราวเล่าความหลังของชายหญิงนาม เสกสุธาและปัณณิกา คนสองคนที่มีช่วงชีวิตสุขและทุกข์เกี่ยวพัน พาดผ่าน ผูกพันกันยาวนาน ว.วินิจฉัยกุลเล่าเรื่องนี้แบบอดีตวัยเด็ก (ช่วงหลังสงครามโลก) สลับกับวัยชราในปัจจุบัน พระเอกนางเอกของอาจารย์วินิตา มักจะเป็นพระเอกนางเอกที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นพระเอกนางเอกตามสมัยนิยมเท่าไร มีความเป็นคนธรรมดาสามัญอยู่สูงมาก ชีวิตมนุษย์ มีความซับซ้อนมากกว่ารักกัน แต่งงานกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตอนที่เนื้อเรื่องดำเนินมาถึงการแต่งงานของพระเอกนางเอก เรื่องราวในหนังสือจึงเพิ่งดำเนินมาได้เพียงครึ่งเล่มเท่านั้น พระเอกนางเอกของว.วินิจฉัยกุล มีเกลียด มีรัก มีโลภ มีโกรธ และมีหลง ทำผิดได้ ตกอับได้ ทำร้ายคนอื่นก็ได้ เฉกเช่นมนุษย์สามัญอย่างเราๆ ที่เคยทำผิด บางคนก็เรียนรู้จากความผิดและกลับตัวได้ และบางคนก็ทำผิดแล้วผิดอีก เสกสุธา ทำให้เราคิดถึงคุณยศ จากมาลัยสามชาย (นิดเดียวค่ะ เลวน้อยกว่ากันเยอะ 555) ชีวิตวัยเด็กเป็นความทรงจำมีค่าของใครหลายๆ คน[…]

เรื่อง กลับไปสู่วันฝัน ผู้แต่ง แก้วเก้า สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 330 บาท พิมพ์ฉัตร นางเอกจากเรื่องนี้เริ่มต้นเรื่องด้วยชีวิตวัยป้า หญิงสาว (เหลือน้อย) ที่ยังโสด ผ่านชีวิตวัยเด็กในครอบครัวฐานะปานกลาง ค่อนไปทางยากจน ต้องลาออกจากโรงเรียนกลางคันเพื่อส่งเสียน้องๆ อีก 3 คนให้เล่าเรียนจนจบ และได้ดิบได้ดีกันทุกคน หลังจากนั้น เธอก็ใช้ชีวิตอย่างแห้งแล้ง ไม่เคยมี “ชีวิต” เป็นของตัวเองมาโดยตลอด จนล่วงเข้าวัย “ป้า” ในตอนนั้นเอง เธอได้รับคำแนะนำจากคุณมาลินดา เพื่อนสูงวัย (ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่สนิทใจกันดี) ว่า .. คนเราต้องกล้าเสี่ยง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิต ความเสี่ยงที่อาจจะนำพาชีวิตให้ดีขึ้น หรือแย่ลงก็ได้ แต่ชีวิตเธอจะเปลี่ยนแปลงไปจากความน่าเบื่อนี้ ขอเพียงเธอกล้าที่จะเปลี่ยนเท่านั้น คำแนะนำนี้เองที่จุดประกายความคิดให้กับชีวิตของเธอ พิมพ์ฉัตรตัดสินใจขายบ้านที่เธออยู่ และไปทำงานที่เชียงใหม่ ในหน้าที่การงานอันต่ำต้อย แต่เป็นสุข เธอมีหน้าที่ดูแลเนิร์สซิ่งโฮม[…]

เรื่อง หนุ่มทิพย์ ผู้แต่ง แก้วเก้า สำนักพิมพ์ ทรีบีส์ (สนพ. ในเครือ สนพ.อักษรโสภณ) ราคา 230 บาท หนุ่มทิพย์ เปิดฉากสุดเท่ที่งานแต่งงานของพระเอก แถมพกด้วยการให้สิบล้อชนโครมกลางงาน ปลิดชีพพระเอกลงในบทที่ 1 นั่นเอง!! เฮ้ย!! จินตนาการอะไรมันจะบรรเจิดขนาดนั้น แถมจินตนาการนี้ แก้วเก้ายังคิดและเขียนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2529 เล่นเอานักเขียนรุ่นลูกสมัยนี้ อายม้วนตกขอบไปได้เลย!! นิยายแนวลึกลับเบาสมองแนวๆ นี้ของแก้วเก้า มักวาดภาพการทำงานของสวรรค์เอาไว้คล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นวิมานมะพร้าว, ทางเทวดา เทวาวาด แอบนึกถึงสื่อสองโลกนิดนึง และที่ยังนึกไม่ออกแต่คุ้นๆ อีกหลายเรื่อง คือ วาดภาพการแบ่งตำแหน่งบนสวรรค์เอาไว้คล้ายๆ กับการทำงานของข้าราชการ มียศตามบุญกรรมที่เคยทำเอาไว้ตอนมีชีวิต โลกหลังความตายของเด่นก็คล้ายๆ กัน เมื่อแก้วเก้าเปิดเรื่องมาซะขนาดนี้ เรื่องราวนับต่อแต่นี้ เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องราวของนรกสวรรค์เป็นแน่ เรื่องคร่าวๆ ก็คือ เด่นผู้ตายในวันแต่งงานคนนี้ แท้ที่จริงแล้วได้มาเกิดเป็นมนุษย์เพราะความผิดปกติของคอมพิวเตอร์ในนรกเมื่อหลายสิบปีก่อน เกิดเป็นคนมาจนได้เป็นเจ้าบ่าว[…]