เรื่อง แก้วรัดเกล้าผู้แต่ง ดวงตะวันสำนักพิมพ์ พิมพ์คำ(ปัจจุบัน นิยายเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ในนาม สนพ. ดวงตะวัน)เลขมาตรฐานหนังสือ 9749025059 แก้วรัดเกล้า เป็นผลงานเล่มที่ 2 ของดวงตะวันถูกตีพิมพ์เป็นตอนๆ ลงในนิตยสารขวัญเรือนซึ่งแม้จะนับเป็นมือใหม่ในเวลานั้น แต่พล็อตและสำนวนก็ไม่ได้เป็นมือใหม่เลย แก้วรัดเกล้า เป็นนวนิยายที่ใช้ฉากของเรื่องที่กรุงเทพฯ ภาคอีสานตอนเหนือของไทย และชายแดนกัมพูชา (ในเรื่องไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศ)โดยผูกเรื่องซ้อนไปกับเหตุการณ์ชายแดนไทยเขมรที่เคยเกิดขึ้นจริงในช่วงเวลาภายหลังจากที่พลพต ผู้นำเขมรแดงและผู้นำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชา ตายลงแต่ถึงอย่างนั้น แก้วรัดเกล้า ก็เป็นนิยายทั่วไป ไม่ได้หนักการเมืองจนน่ากลัว และเพราะเป็นนิยายอิงเหตุการณ์จริงหลายตัวละครในเรื่อง จึงน่าจะมีตัวตนอยู่จริงด้วยแต่ผู้เขียนแปลงไปใช้ชื่อสมมติแทนอย่างเช่น พรพล ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน อดีตผู้นำเขมรแดง พลพต นั่นเองเจ้าณรงค์ฤทธิ์ อาของแก้วรัดเกล้า ก็คงเป็นเจ้านโรดม สีหนุส่วนสาริน ขอเดาว่าเป็นเฮง สัมริน? หรือเปล่าไม่รู้หรือแม้แต่ท่านอาจารย์ที่ทรงสอนโมกษธรรมมาตั้งแต่ครั้งเรียนโบราณคดีที่มหาวิทยาลับเก่าแก่แห่งหนึ่ง (ศิลปากร?)ก็น่าจะเป็นหม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล? นอกจากนี้ ผู้เขียนยังได้สร้างเมืองสมมติขึ้นมาด้วยเมืองหนึ่ง คือเวียงอมราเป็นเมืองที่ไม่ได้เป็นประเทศตามกฏหมาย(ในเรื่องบอกว่าเป็นเมืองเล็กๆ ในหุบเขาลึกลับกลางป่า ทางตอนเหนือของลาว)แต่เป็นเชื้อสายของขอมโบราณ สืบทอดต่อกันมา เรียกกันว่าแผ่นดินสูงส่วนประเทศเขมรในปัจจุบัน เรียกว่าแผ่นดินต่ำตัวละครส่วนหนึ่งของเรื่องนี้ จึงเป็นประชากรจากเวียงอมรานี้เองแต่อยู่กับอย่างปิดบัง ลึกลับ ไม่ยอมเปิดเผยเชื้อสายตนเอง .. อะไรจะขนาดนั้น แก้วรัดเกล้า เปิดเรื่องด้วยการที่โมกษธรรมบินกลับมาทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกในเรื่องเกี่ยวกับปราสาทหินต่างๆ[…]

เรื่อง รัตติกาลยาตรา ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน ราคา 340 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2552) รัตติกาลยาตรา เป็นอีกเล่มที่ขาดหายไปในชุดธิโมส์ (แบบโยงอดีต) ที่เราไม่ได้รีวิวไว้ พออ่านเรื่องราวแบบผ่านๆ ของเรเวียร์ใน รุ้งในลมหนาวแล้ว ตัวตนของชายลึกลับคนนี้ก็โดดเด้งเข้าโดนใจของเราเลยทีเดียว ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า สงสัยเราจะพลาดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับธิโมส์ไปเสียแล้ว ว่าแล้ว พองานหนังสือหนที่ผ่านมา รัตติกาลยาตราจึงได้ยาตราจากบูธของดวงตะวันมาตั้งอยู่ที่ชั้นหนังสือบ้านเราในบัดดล เรื่องราวของชายลึกลับผู้นี้ น่าสนใจสมกับที่ดั้นด้นหามาอ่านจริงๆ ซะด้วยสิคะ อัญมณีชิ้นหนึ่งซึ่งเป็นสมบัติของคนแห่งคุ้มผีเสื้อ ถูกเปลี่ยนมือเรื่อยมาก บางคราตกอยู่ในมือของคนในคุ้ม แต่บางคราก็มีเหตุให้ต้องพลัดพราก สูญหาย แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังกลับคืนมายังคุ้มผีเสื้อได้เรื่อยมา ตำนานแห่งอัญมณีอาถรรพ์นี้มีอยู่ว่า มันจักนำภัยมาสู่ผู้เป็นเจ้าของเสมอๆ นับตั้งแต่ “เรียว” ลูกชายของญีลาและคิม (ดวงตะวันทำท่าจะปูเรื่องต่ออีกยาวซะแล้วสิ) เชเชน นายบ้านคนสุดท้ายของคุ้มผีเสื้อเมื่อครั้งทำศึกกับโซรัง (ท่าทางจะมีศึกของสองกลุ่มชนนี้อีกหลายรอบแฮะ) นายแพทย์ญีลา (น่าจะเป็นชื่อซ้ำของหมอในยุคปัจจุบันอีกคน) หรือเตบีญา โจรสลัดแห่งเกาะกริด ฯลฯ[…]

เรื่อง รุ้งในลมหนาว ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน ราคา 300 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2552) ดวงตะวันเปิดเรื่องราวของญีลาด้วยฉากของธิโมส์ยุคปัจจุบัน เมื่อปันต์วัตราลีได้ติดต่อขอซื้ออาคารหลังเก่าของอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่งมาทำเป็นหอศิลป์ ในวันเปิดงาน นอกจากปันต์วัตราลีจะเดินทางมาเปิดงานด้วยแล้ว เรเวียร์ ศิลปินหนุ่มผู้ลึกลับ ทายาทที่สืบทอดฝีมือด้านศิลปะมาจากคุ้มผีเสื้อจากโมเนต ได้มาร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย เรเวียร์มอบผลงานหลายชิ้นให้ และให้ยืมมาจัดแสดง และหนึ่งในสิ่งของที่เรเวียร์ให้ขอยืมมานั้น คือรูปปั้นดินเผาโบราณรูปผู้หญิง เป็นรูปปั้น ที่เพิ่งถูกค้นพบที่ถ้ำตีนเคเชรี รูปปั้น ที่เกี่ยวโยงกับนิทานปรัมปรา เรื่องคนบ้าผู้เฝ้าถ้ำตีนเคเชรี รูปปั้น ที่มีจารึกเอาไว้ที่ใต้ฐานว่า “จงเป็นของกูตูร์ชั่วนิรันดร” และรุ้งในลมหนาว จะบอกเล่าเรื่องราวอันเป็นที่มาของรูปปั้นประหลาดนี้ และอย่างที่น่าคาใจในเอลันตรานั่นแหละ หลังจากที่ญีลารู้ความลับเรื่องเอลัน ชายาเชลยของอินทัตแล้ว ญีลาก็ไม่มีบทบาทใดๆ ในเรื่องราวอันแสนจะวุ่นวายนั้นอีก ปลีกวิเวกเดินทางไปรักษาคีราที่โมเนตา แล้วก็หายเงียบไปเลย เหมือนดวงตะวันจะลืมเล่า และก็อย่างที่เป็นบ่อยๆ ดวงตะวันกั๊กเอาไว้เพื่อการนี้นั่นเอง (บางทีก็กั๊กเกิ๊น กั๊กจนทำให้เอลันตราดูขาดๆ หายๆ และไม่สมบูรณ์ไปอย่างน่าเสียดาย) ทีนี้เราจะได้รู้ทางฝั่งญีลาบ้างว่า[…]

เรื่อง เอลันตรา ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน ราคา 300 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปีพ.ศ. 2551) อันที่จริง ก่อนจะถึงเอลันตรา นิยายเซ็ตธิโมส์ยังมี ณ ที่ดาวพราวพร่างรัก อีกเล่มหนึ่งคั่นอยู่ก่อน แต่ก็นั่นล่ะ เราไม่ได้ตั้งใจจะรีวิวให้ครบทุกเล่มตั้งแต่แรกแล้ว ทีแรก ตั้งใจจะรีวิวเฉพาะปราสาททรายในสายฝน กับผีเสื้อลายตะวันด้วยซ้ำ แต่เมื่อเนื้อเรื่องยังสนุก และมีความเชื่อมต่อกัน จึงขอยกมาแต่ธิโมส์ ภาคอดีตจะดีกว่า ดังนั้น ต่อจากบัลลังก์บุหลัน เรื่องราวของเรทัต ชายหนุ่มรุ่นลูกของกาย กานาเมซเป็นคนแรกแล้ว เล่มต่อมาที่จะรีวิว จึงขอยกมาเป็นเรื่องราวของน้องชายของเรทัต .. อินทัตผู้ฉุนเฉียวเจ้าอารมณ์คนนี้ก็แล้วกัน เอลันตรา ความลับคับอกของอินทัต กำลังจะถูกเปิดเผยนับจากนี้ .. เรื่องราวในเอลันตรา ควบทับ คาบเกี่ยวช่วงเวลากันกับบัลลังก์บุหลันในช่วงแรกๆ (อันที่จริงก็คาบเกี่ยวกับ ณ ที่ดาวพราวพร่างรักด้วย แต่เมื่อไม่ได้รีวิว ขอละเอาไว้แล้วกันค่ะ) แต่ในฐานะที่อินทัตเป็นเจ้าของเรื่อง[…]

เรื่อง บัลลังก์บุหลัน ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน ราคา 280 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 3 เมื่อปีพ.ศ. 2550) ดวงตะวันเปิดเรื่องบัลลังก์บุหลันด้วยฉากพิธีศพของกาย กานาเมซ การจบชีวิตของนักรบคนเถื่อนที่ถูกเล่าขานเรื่องราวอย่างสนุกสนานมาตลอดเรื่องผีเสื้อลายตะวัน .. กาย ตายท่ามกลางคนที่รักกาย ในยุคของกาย เป็นยุคที่เชื่อเรื่องการตื่นอีกครั้ง และการมีอยู่ของโลกหน้า คนตายโดยมาก นิยมทำเป็นมัมมี่ และฝังลงในหลุมศพที่จัดเตรียมเอาไว้พรั่งพร้อม แต่กายเลือกที่จะฝังร่างของตนในสายน้ำ นี่เอง .. ที่กายเคยบอกเสมอว่าจะไม่มีใครหาหลุมศพของเขาพบ เพื่อให้ความลับของกาย ยังคงเป็นความลับไปตลอดกาล … นับจากผีเสื้อลายตะวันมาจนถึงบังลังก์บุหลันในเล่มนี้ เด็กทั้ง 3 คน เรทัต อินทัต และญีลา ล้วนเติบโตกลายเป็นเด็กหนุ่มที่เข้มแข็ง แกร่งกล้า ไม่แพ้รุ่นพ่อแม่ เรทัต เขาเปรียบได้กับไฟ ชายหนุ่มมีพลังอำนาจบางอย่างในตัวให้คนรอบตัวเชื่อมั่น อินทัต เปรียบได้ดั่งลมพายุ ที่ห้าวหาญ หุนหัน และมีอารมณ์รุนแรง[…]

เรื่อง ผีเสื้อลายตะวัน ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ ดวงตะวัน ราคา 280 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 3 เมื่อปีพ.ศ. 2550) ฉากเมืองโอจาถูกเปิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในผีเสื้อลายตะวัน ฉากเดิม สถานที่เดิม และภูมิประเทศเดิม หากแต่ย้อนเวลากลับไปราว 3000 ปี ก่อนที่ตรีดามาส บีแบล็ค และทุกๆ คนในปราสาททรายในสายฝนจะถือกำเนิดขึ้น เจ้าของตำนานคนเถื่อน ผู้ที่เป็นต้นแบบของเหล่าคนเถื่อนทั้งมวลบนแผ่นดินโอจา กาย กานาเมซ เริ่มต้นเล่าเรื่องราวอันเป็นปริศนาของเหล่านักโบราณคดี ในปราสาททรายในสายฝน ให้พวกเราฟังโดยละเอียด .. นับจากนี้ แผ่นดินแสงดาวเมื่อ 3000 ปีก่อน ได้ถูกแบ่งเป็นชุมชนย่อยคล้ายๆ กับในปัจจุบัน (เว่อร์เนอะ 3000 ปีผ่านไป แต่โครงสร้างเมืองคล้ายเดิมเป๊ะเลย) โดยชาวคีราโมส์แห่งเนินเปดาลในอลาส เมืองที่อุดมสมบูรณ์และมีทำเลอันดีถือโอกาสตั้งตนเป็นใหญ่เหนือชนกลุ่มอื่นในแผ่นดินนี้ ชาวอลาสมีความเป็นอยู่อย่างหรูหรา รุ่ยรวย ด้วยการกดขี่ข่มเหงชุมชนอื่น เรียกเก็บบรรณาการอย่างขูดรีดและไม่เป็นธรรม และนั่นเอง ทำให้เกิดการต่อต้านที่นำโดยคนเถื่อนจากโอจา[…]

เรื่อง ปราสาททรายในสายฝน ผู้แต่ง ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ (ปัจจุบัน นิยายเรื่องนี้ถูกตีพิมพ์ในนาม สนพ. ดวงตะวัน) ราคา 300 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 2 เมื่อปีพ.ศ. 2550) ปราสาททรายอันโอฬาริก งามดุจดวงดารา จักเป็นของนางผู้เป็นที่รักแห่งข้า ตราบชั่วนิรันดร์ ดวงตะวันเป็นนักเขียน (ค่อนข้าง) ใหม่ ที่มีสำนวนการเขียนที่ดี เล่าเรื่อง (อย่างน้อยก็ปราสาททรายในสายฝนเล่มนี้) ได้สนุก มีมุมมองและพล็อตที่น่าสนใจ ทำให้การอ่านนิยายเล่มนี้ค่อนข้างไหลลื่น (ถ้ามองข้ามตรรกะบางอย่างออกไป และเชื่ออย่างที่นักเขียนอยากให้เชื่อ) ปราสาททรายในสายฝน เป็นเล่มแรก .. ที่แม้จะไม่ได้เป็นปฐมบทแห่งประเทศธิโมส์ (นิยายของประเทศสมมติประเทศนี้มีหลายเรื่องมาก ปัจจุบันเขียนถึงเล่มที่ 14 แล้ว และยังมีออกมาเรื่อยๆ แบบไม่มีอาการมุกตัน สุดๆ จริงๆ ^^”) แต่ก็เป็นเล่มแรกที่เปิดโลกของแผ่นดินแสงดาวให้เรารู้จัก (และโชคดีจริงๆ ที่เปิดด้วยเล่มนี้ เพราะมันทำให้นิยายชุดธิโมส์ดูน่าติดตามมากในสายตาของเราตอนนั้น) ปราสาททรายในสายฝน[…]