บ่ายวันนี้ กลับมาถึงบ้านก็พบกล่องของขวัญรอเซอร์ไพร้ส์ค่ะ >,< เป็นอีกครั้งที่สั่งจองหนังสือพิเศษของสำนักพิมพ์ผีเสื้อ และไม่เคยผิดหวังสำหรับสำนักพิมพ์นี้ค่ะ ไม่ได้เข้า facebook ของสำนักพิมพ์มาหลายวัน ไม่ทราบข่าวเลยว่าหนังสือที่สั่งเอาไว้พิมพ์เสร็จสมบูรณ์แล้ว จู่ๆ กล่องของขวัญจากผีเสื้อก็มาวางอยู่ที่บ้าน .. ดีใจมากค่ะ >,< เปิดกล่องออกมา พบกระดาษกันกระแทกอย่างดี เกลี่ยกระดาษออก พบโปสการ์ดค่ะ โปสการ์ดภาพของน้องสกนธ์ สุวรรณคช เด็กชายนายหนังตะลุงที่อายุน้อยที่สุดค่ะ โปสการ์ดสวยมาก ทั้งหมดที่รวมอยู่ในกล่องแห่งความสุข มาเปิดห่อสำคัญกันดีกว่า โต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง ฉบับปกแข็ง ถ่ายมาแต่งภาพหน้าตรง จริงๆ อยากอวดขอบกระดาษด้วย เป็นสีชมพู สวยมาก อดไม่ได้ หยิบเล่มเก่ามาถ่ายภาพคู่ ภาพปกเหมือนโปสการ์ดที่ได้รับมาใบหนึ่ง เป๊ะเลย ปกเก่า โปสการ์ดใหม่ เลขประจำหนังสือของเราค่ะ ^^ ด้านในมีภาพประกอบสี่สีสวยงาม หนังสือเล่มนี้ ไม่มีวางขายในร้านหนังสือทั่วไปค่ะ (แต่มีฉบับปกอ่อน ปกเดียวกันนะ) สำหรับคนที่ต้องการปกแข็ง ต้องสั่งซื้อกับสำนักพิมพ์เท่านั้น และพิมพ์จำนวนจำกัด ทุกเล่ม จะมีหมายเลขประจำเล่ม[…]

เรื่อง โลกสุดขอบฟ้า ผู้แต่ง หลุยส์ เซปุล์เบดา ผู้แปล สถาพร ทิพยศักดิ์ สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 169.50 บาท เรื่องราวใน โลกสุดขอบฟ้า เกิดขึ้น ณ หมู่เกาะน้อยใหญ่ทางตอนใต้ของประเทศชิลี มันเป็นงานเขียนเชิงสารคดีมากกว่าจะเป็นนวนิยาย .. ถ้าเพียงแต่มันจะเป็นเรื่องจริง? เนื้อหาโจมตีญี่ปุ่นในด้านการทำลายสิ่งแวดล้อม .. ซึ่งถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ก็เป็นการกล่าวหาอย่างหนักหน่วง แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจไม่น้อย .. เด็กหนุ่มอายุสิบหกปลายๆ ใช้ช่วงเวลาวันหยุดฤดูร้อนของเขาออกเดินทางไปกับเรือเดินสมุทร จากซันติอาโกไปยังปุนต้า อาเรนาส โดยเขาได้รับการฝากฝังให้ทำหน้าที่ผู้ช่วยพ่อครัว ในระหว่างที่เรือกำลังจอดพักอยู่ที่ปุนต้า อาเรนาส เขาก็ออกเดินทางอีกครั้ง ไปกับเรือล่าวาฬ จากปูเอร์โต นูเอโบ้ เพื่อไปยังบ้านของฝูงวาฬ ผู้เขียนอ้างถึงนักเขียนชื่อดังหลายคน และหนังสือวรรณกรรมคลาสสิคอีกหลายเล่ม เขาอ้างอิงถึงโมบี้ดิค ว่าเป็นแรงบันดาลใจของเด็กหนุ่ม ฟังคำบรรยายแล้วโมบี้ดิคก็เริ่มเป็นแรงบันดาลใจสำหรับเราด้วย รู้สึกอย่างอ่านนวนิยายชื่อดังเรื่องนี้ขึ้นมาติดหมัด การเดินทางไปกับเรือล่าวาฬครั้งนั้น ได้สร้างความทรงจำบางอย่างแก่เขา และมันได้ดึงดูดให้เขาหวนกลับมาอีกครั้ง .. เมื่อยี่สิบปีให้หลัง เขาเติบโตขึ้นเป็นนักข่าวอิสระ[…]

เรื่อง ไหม ผู้แต่ง อเลซซานโดร บาริกโก ผู้แปล งามพรรณ เวชชาชีวะ สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 119 บาท ไหม เทียบได้กับหนังเงียบที่มีเพียงภาพเคลื่อนไหว อารมณ์และความรู้สึกถูกเก็บอยู่ภายใน เงียบงัน ถูกแสดงออกผ่านคำบรรยายเนิบนิ่ง หากกระชับ ระทึก รัญจวน ตัวอักษรบรรเลงจังหวะเนิบช้า ไม่มีถ้อยคำบรรยายอารมณ์ความรู้สึก แต่สิ่งเหล่านั้นถูกกักเก็บอยู่ภายในใจคนอ่านท่วมท้น ผู้เขียน (และผู้แปล) บรรยายด้วยถ้อยคำห้วนสั้น สุดอินดี้ ธรรมดา ไม่มีอะไร แต่ระทึก ชวนติดตาม มีวิธีการดำเนินเรื่องที่ลึกลับ ดูดดึงความอยากรู้อยากเห็น ดำเนินเรื่องเหมือนน้ำเซาะหิน หยดติ๋ง ทีละน้อย ทีละน้อย ก่อนถะถั่งถ้วมโหมอย่างรุนแรงในตอนจบ แอร์เว ฌองกูร์ ลูกชายของนายกเทศมนตรีแห่งเมืองลาวิลดิเยอ คือชายคนหนึ่งที่ประกอบอาชีพซื้อและขายหนอนไหมผู้มั่งคั่ง การเปลี่ยนแปลงเกิดในวันหนึ่งที่โรคระบาดของหนอนไหมแพร่กระจายไปทั่วโลก ดินแดนลี้ลับสุดขอบฟ้าแหงหนึ่ง นามว่าญี่ปุ่น คือเป้าหมายใหม่ สถานที่อันแอบซ่อนผ้าไหมเลอค่า คุณภาพดีที่สุด คือเป้าหมายอันยากลำบากของเขา แล้วเรื่องราว ..[…]

เรื่อง โรงงานช็อคโกแลตมหัศจรรย์ ผู้แต่ง โรอัลด์ ดาห์ล ผู้แปล สาลินี คำฉันท์ สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 179 บาท อ่านงานแปลของคุณสาลินี คำฉันท์ มาหลายเล่ม เพิ่งทราบในเล่มนี้นี่เองว่าเป็นนามปากกาของคุณผกาวดี อุตตโมทย์ นี่เองค่ะ ^^” โรงงานช็อคโกแลตมหัศจรรย์ เล่มนี้ ถูกแปลมาจากหนังสือชื่อ .. Charlie and the Chocolate Factory จากต้นฉบับภาษาอังกฤษ .. เล่าเรื่องของเด็กชายชาร์ลี และเรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์เกี่ยวกับโรงงานช็อคโกแลตของคุณวองก้า ชาร์ลีคือเด็กน้อยในครอบครัวที่แสนจะยากจนคนหนึ่ง เขาอาศัยอยู่กับพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา และยาย ด้วยความรักความอบอุ่นที่สุด หากแต่ก็เป็นครอบครัวที่ยากจนที่สุดด้วยเช่นกัน สมาชิกของครอบครัวนี้ไม่เคยได้กินอิ่มสักมื้อ ทุกคนผอมเหลือแต่กระดูก หากแต่ความรักและความกลมเกลียวของครอบครัวนี้ ก็มิได้น้อยหน้าครอบครัวใดๆ ในเมืองนี้เลย ในเมืองที่ชาร์ลีอยู่นี้ มีโรงงานช็อคโกแลตแสนประหลาดชวนพิศวงอยู่แห่งหนึ่ง เป็นโรงงานช็อคโกแลตที่ใหญ่ที่สุดในโลก[…]

เรื่อง รัฐบาลหมา ผู้แต่ง โดดี้ สมิธ ผู้แปล สาลินี คำฉันท์ สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 134 บาท รัฐบาลหมา เป็นภาคต่อของ 101 ดัลเมเชียล (ขบวนการหมาจุด) (น่าจะต่อจาก 102 ดัลเมเชียล อีกทีด้วยค่ะ) เรื่องนี้เราไม่เคยอ่านสักเล่มค่ะ เคยดูแต่เวอร์ชันภาพยนตร์ การจับหนังสือครั้งนี้คือการอ่านครั้งแรก .. ย้อนวัยกลับไปอ่านวรรณกรรมเยาวชนด้วยกันนะคะ ^^ ท่ามกลางการหลับใหลอันยาวนาน หมาคือสิ่งมีชีวิตเดียวที่ตื่นอยู่ หมากลายเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่จะต้องกอบกู้โลก!! (ที่หลับใหล?) นิยายเรื่องนี้เต็มไปด้วยเรื่องเหนือจริง มันยิ่งกว่าหมาพูดได้ แต่เป็นหมาพูดทางโทรจิตก็ได้ บินก็ได้ เปิดประตูเองได้ด้วยเพียงนึกเอา ฯลฯ ล้วนแต่เป็นแฟนตาซีเหนือจินตนาการทั้งนั้น สำหรับเล่มนี้ .. สำนวนที่เล่ามีส่วนทำให้เรื่องราวสนุกน้อยลงอยู่มาก (ไม่ได้ตำหนิสำนวนผู้แปลนะคะ ค่อนข้างเชื่อว่าเป็นผลมาจากจังหวะการเล่าเรื่องจากต้นฉบับเลย) ค้นพบอีกครั้งว่าวรรณกรรมแปล และวรรณกรรมแฟนตาซีสำหรับเด็ก (บางเล่ม) ไม่ใช่แนวเรา! ที่สำคัญ เล่มนี้มันรวมทั้งสองอย่างเอาไว้เลย!! มันดูการ์ตูนไปหน่อย แม้จะเต็มไปด้วยจินตนาการ สนุกสนาน[…]

เรื่อง หมอแมว ผู้แต่ง เจมส์ เออร์เรียต ผู้แปล ปาริฉัตร เสมอแข สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 134 บาท หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยสัตวแพทย์ชาวสกอต .. เจมส์ เฮอร์เรียต เริ่มต้นเขียนหนังสือในวัยห้าสิบปี เขาประกอบอาชีพสัตวแพทย์มาเกือบทั้งชีวิต และในระหว่างนั้น เขาเขียนบันทึกประจำวันเอาไว้ด้วย หนังสือเล่มนี้ (และอีกหลายเล่ม) จึงได้ถือกำเนิดขึ้นจากบันทึกเหล่านั้นนั่นเอง หมอแมว เป็นชุดรวมเล่มที่รวบรวมเอาไว้เฉพาะเรื่องราวของแมวล้วนๆ เป็นงานเขียนเกี่ยวกับแมวที่แจกแจงนิสัยแมวแต่ละประเภทออกมาได้ละเอียดถ่องแท้ เจมส์ เฮอร์เรียตยังเฝ้าดูแลแมวแต่ละตัวแตกต่างกันไปตามนิสัยแมวด้วย เป็นสัตวแพทย์ผู้ละเอียดอ่อน และพยายามที่จะเข้าอกเข้าใจสัตว์ โลกของแมวมีความประหลาด คาดเดาไม่ได้ และลึกลับจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีกรณีแบบนั้นเกิดขึ้นได้จริง อยู่หลายเรื่องเหมือนกัน เป็นเรื่องราวที่น่าติดตาม .. เอาใจช่วยทุกเคสการรักษาของคุณหมอ เนื้อหาอบอุ่น น่ารัก และเต็มไปด้วยหมู่แมว แฝงไปด้วยอารมณ์ขันและความสนุกสนานระหว่างสัตวแพทย์กับแมว อ่านแล้วอิ่มใจ จบแล้วทำให้หัวใจฟูๆ ค่ะ ^^

เรื่อง หนิ่งงุ้นโน่ ผู้แต่ง ปิลาร์ มาเตโอส ผู้แปล สว่างวรรณ ไตรเจริญวิวัฒน์ สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 69 บาท หนิ่งงุ้นโน่ เป็นเพียงหนังสือเล่มบางๆ เป็นแฟนตาซีสวยงาม ที่ซ่อนความนัยล้ำลึก เด็กๆ อ่านก็สุขใจ ผู้ใหญ่อ่านก็สุขใจ และสะกิดใจด้วย หนิ่งงุ้นโน่ เป็นเด็กชายตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เขาไม่ใช่เด็กชายที่ถูกรัก และไม่ใช่แม้แต่เด็กชายที่ถูกเกลียด เป็นเพียงเด็กชายที่ถูกลืม .. ที่ไร้ตัวตน .. ไม่มีความสำคัญต่อใครเลย จวบจนกระทั่งเขาได้พบกับเพื่อนคนหนึ่ง .. กามิล่า .. แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิด! อ่านจบอย่างรวดเร็ว สรุปได้ว่าเล่มนี้ไม่ดาร์กเท่าที่คิดค่ะ เด็กๆ อ่านจะพบแต่ความน่ารัก ชวนฝัน .. และผู้ใหญ่ก็คล้ายกัน

เรื่อง ผีเสื้อและดอกไม้ ผู้แต่ง นิพพานฯ สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 69 บาท ผีเสื้อและดอกไม้ เล่าเรื่องบนบรรทัดฐานของความดี ทั้งในศาสนาอิสลาม และศาสนาพุทธ ผู้คนที่ต่างศาสนา ต่างปะปนไปด้วยความดีและความเลวเสมอภาค ถ้วนทั่วกัน ฮูยัน เด็กชายที่ยึดมั่นในความดี มีความกตัญญู เขาเติบโตขึ้นมาควบคู่ไปกับความดีงาม แม้ไม่รู้คำสอนของพระเจ้าแม้สักข้อ เขารักพ่อและน้อง คอยสอนให้น้องๆ ไม่ทำบาป รักษาเกียรติยศจนไม่ยอมทำผิด ไม่อยากให้ครูละเว้นบางกฏระเบียบของโรงเรียนเพื่อเขาคนเดียว แต่ฮูยันกลับต้องมากลายเป็นคนผิด เขาเรียนรู้ที่จะทำความผิด ก่อนจะเรียนรู้ว่ามันคือความผิดเสียอีก ลักลอบขนสินค้าหนีภาษี .. ที่เรียกกันในยุคนั้นวัน ‘กองทัพมด’ กองทัพมดคือกลุ่มเด็กๆ ที่เสี่ยงชีวิตลักลอบขนสินค้าจำพวกข้าวสาร น้ำตาลขึ้นรถไฟ เพื่อนำไปขายที่ชายแดนภาคใต้ ได้กำไรครั้งละไม่มาก แต่มันก็พอเลี้ยงพ่อและน้องๆ ให้ไม่อดอยาก หากแม้จะอ้างว่าเพื่อปากท้อง แต่ความผิดก็คือความผิด และมันเป็นความผิดที่เขาเลือกจะทำเอง ความดีเลวที่เอาไม้บรรทัดจากหนังสือเรียนมาตัดสิน กับความดีเลวที่ใช้ประสบการณ์จากชีวิตจริงมาตัดสิน ให้ผลไม่เหมือนกัน และไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิดกันแน่ เขาทำความดีเพื่อพ่อ เพื่อน้อง แต่สิ่งที่เขาทำกลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายบ้านเมือง เขาไม่ทำให้ใครเดือดร้อน[…]

เรื่อง เด็กชายจากดาวอื่น ผู้แต่ง วาวแพร สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 97 บาท เมื่อวันที่หยิบ เด็กชายจากดาวอื่น มาอ่านเป็นครั้งแรกนั้น .. เราถูกหลอกเข้าเต็มเปา ด้วยหลงเชื่อชื่อเรื่องว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของเด็กชายที่มาจากดาวดวงอื่นจริงๆ หากในความจริงแล้ว ‘ดาวอื่น’ ของผู้เขียน .. ลึกซึ้งไปกว่านั้น ในครั้งที่เรายังเล็ก เคยได้ยินแม่เล่าถึงประวัติของหมอเพียรให้ฟังอยู่บ่อยๆ คุณหมอเป็นหมอที่เป็นนางฟ้าของเด็กๆ กำพร้าจำนวนมากมาย และความดีของคุณหมอก็ถูกบันทึกไว้ในหัวใจผู้คนยุคนั้นมาเนิ่นนาน เด็กชายจากดาวอื่น เป็นอีกหนึ่งเล่มที่เล่าถึงความดีในครั้งนั้น ผู้เขียนได้อุทิศ เด็กชายจากดาวอื่น ให้แด่คุณหมอเพียร เนื้อเรื่องบางส่วน มีส่วนคล้ายเรื่องจริง แต่ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องแต่งค่ะ อ่านหนังสือของวาวแพรหลายๆ เล่ม เริ่มสังเกตเห็นสิ่งหนึ่ง วาวแพรเน้นย้ำเรื่องความดีอย่างสม่ำเสมอ โดยการสอนเด็กๆ ในเรื่องการทำความดี ปลูกฝังให้เด็กๆ ที่อ่านหนังสืออยากเป็นคนดี อยากทำความดีเหมือนเด็กๆ ในเรื่อง เป็นความดีอย่างง่ายๆ ความดีในชีวิตประจำวัน ความดีที่ทำได้ทุกวัน นอกจากความดี เด็กชายจากดาวอื่น ยังพูดถึงความรักด้วย ความรักเป็นสิ่งมีค่า โดยเฉพาะความรักที่มอบให้แก่ผู้ที่ขาดความรักนั้น[…]

เรื่อง คาราวานนางฟ้า ผู้แต่ง บีทริกซ์ พ็อตเต้อร์ ผู้แปล สุทธิ โสภา สำนักพิมพ์ ผีเสื้อ ราคา 79 บาท แม้จะเคยได้ยินชื่อเสียงของบีทริกซ์ พ็อตเตอร์มาก่อน แต่ก็ยังไม่เคยอ่านหนังสือของเธอเลยสักเล่ม นั่นจึงทำให้เราเริ่มต้นอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยความรู้สึกธรรมดามากกกก ระหว่างอ่านก็รู้สึกไปตลอดว่า เรื่องมันเล่าไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดพีค ไม่มีจุดเด่นอะไรให้ติดตามเลย พยายามอ่านไปเรื่อยๆ ว่าผู้เขียนต้องการจะเล่าอะไร ก็ไม่พบจนแล้วจนรอด อ่านไปแบบเบื่อๆ เมื่อไรจะจบ เราคงเลยวัยเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจินตนาการเสียแล้ว เดาเอาเองว่า วิธีการอ่านนิทานให้สนุกก็คือการอ่านให้เด็กๆ ฟัง หรือไม่ก็อ่านไปพร้อมกับเด็กๆ เสียเลย คาราวานนางฟ้า เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่คล้ายนิทานแต่ยาวกว่า ให้รสชาติหวานหอมชวนฝันสำหรับเด็กผู้หญิง เล่าเรื่องราวการเกื้อกูลกันของเหล่าสรรพสัตว์ในกองคาราวานขนาดเล็ก มิตรภาพของเพื่อนร่วมทาง และผู้ผ่านทาง ฉากและบรรยากาศสวยงามแสนหวานชุ่มชื่นชุ่มฉ่ำ บ่มเพาะความอ่อนละมุนในหัวใจดวงน้อยๆ อ่านคำนำอีกครั้งเมื่ออ่านหนังสือจบเล่มจึงพบว่า เราช่างเป็นนักอ่านที่เก็บเกี่ยวเรื่องราวที่ซ่อนเร้นระหว่างบรรทัดได้น้อยมาก ผู้แปลมีความลึกซึ้ง ลุ่มลึกกว่าเราหลายขุมยิ่งนัก อ่านแล้วก็ได้แต่พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย และนึกแสดงความคาราวะอยู่ในใจ แต่ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับเล่มนี้ .. ไม่ชอบค่ะ ^^”