เรื่อง ไทบ้านดูดาวผู้แต่ง นิพัทธ์พร เพ็งแก้วสำนักพิมพ์ ศยามเลขมาตรฐานหนังสือ 9747236613 อ่านเล่นได้สนุกๆเป็นความรู้ไทยแท้แต่โบราณ แบบที่คนไทยอย่างเราไม่ค่อยเคยได้ยินแต่ส่วนตัวเรารู้สึกว่าไกลตัวไปหน่อยเป็นความเชื่อโบราณเป็นส่วนมากประกอบกับก่อนอ่าน เราคาดหวังว่าจะได้อ่านนิทานปรัมปราที่เกี่ยวกับดวงดาว อะไรประมาณนี้ มันเลยออกจะปิดหวังหน่อยๆคิดว่า ถ้าได้อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงเพิ่มเติมอีกสักสองสามเล่มอาจจะอินมากกว่านี้ ภายในเล่มนี้ ผู้เขียนเล่าถึงการดูดาวในฤดูร้อน ฤดูหนาวการดูดาวในรูปแบบของแต่ละภูมิภาคประกอบพร้อมมากับคำทำนายทำนองโหราศาสตร์ไทยทั้งแบบที่ค้นคว้ามาจากตำราโบราณและแบบที่ไปสืบเสาะหาความรู้มากจากคนเฒ่าคนแก่ในแต่ละท้องถิ่น มีดวงดาวของไทยหลายดวงที่ปรากฏชื่ออยู่ในวรรณคดีต่างๆแต่ไม่รู้ว่าคือดาวอะไรผู้เขียนเสาะแสวงหาคำตอบ ทั้งจากลักษณะที่บรรยายในวรรณคดีเทียบกับคำอธิบายที่นักดาราศาสตร์ไทยท่านอื่นคาดเดารวมทั้งเพิ่มเติมข้อคิดเห็นของตนเองสันนิษฐานเทียบกับชื่อดาวสากลที่รู้จักกันในปัจจุบันซึ่งบางข้อสันนิษฐานก็ยังไม่สิ้นสุด ต้องสอบถามหาผู้รู้กันต่อไปซึ่งการวิเคราห์กลุ่มดาวเหล่านี้เราว่าถ้าเป็นคนชอบดูดาว หรือมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้างน่าจะจินตนาการตามได้สนุกดี เสียดายอย่างหนึ่งว่า บทความในแต่ละตอน –เป็นการคัดมาจากบทความที่เคยได้รับการตีพิมพ์ลงในนิตยสารฉบับต่างๆจึงมีข้อมูลซ้ำกันบ้างข้อดีสำหรับคนดูไม่เป็นอย่างเรา คือจะได้ทบทวนย้ำๆ ซ้ำๆ ให้จำกลุ่มดาวต่างๆ ได้แต่ที่น่าเสียดาบคือ ข้อมูลขาดการเชื่อมโยงระหว่างบทเมื่อพูดถึงดาวหนึ่ง ซึ่งเมื่อบทก่อนเคยเล่าถึงไปแล้ว โดยส่วนตัว เราชอบบทหลังๆ ที่เป็นการถ่ายทอดเรื่องเล่าจากผู้คนมันมีชีวิต มีความหลัง มีอารมณ์ มีความอ่อนไหวมากกว่า โดยสรุป ในฐานะที่เป็นคนดูดาวไม่เป็นเมื่อได้อ่านเล่มนี้ตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว .. ก็ยังดูไม่เป็นอยู่นั่นเองไม่เข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง จนเกือบจะพูดได้เลยว่าไม่เข้าใจอะไรเลยที่ผู้เขียนอธิบายเรื่องการหัดดูดาวด้วยตนเองแต่นับได้ว่าพออ่านสนุกๆ ได้และก็จะเก็บมันไว้จนกว่าจะมีแรงบันดาลใจมากกว่านี้จะงัดมันขึ้นมาอ่านและหัดดูดาวเองอีกสักครั้ง ..แค่ .. ขออีกสักพักก่อนเถอะนะ!!  

เรื่อง เสราดารัล ผู้แต่ง กิ่งฉัตร สำนักพิมพ์ อรุณ (สนพ. ในเครือ สนพ.อมรินทร์) ราคา 215 บาท (พิมพ์ครั้งที่ 10 เมื่อปีพ.ศ. 2548) เสราดารัล เป็นนิยายโรแมนติค (มากๆ) ที่เรารัก (มากๆ) เล่มหนึ่ง เรียกว่า สูสีคู่คี่ไปกับแสงดาวฝั่งทะเลเลย แต่ทั้งสองเรื่องนี้ อารมณ์ค่อนข้างต่างกันสุดกู่ เพราะแสงดาวฝั่งทะเลออกจะเป็นนิยายรสขม ดราม่าจัดๆ ในขณะที่เสราดารัลกลับหวานจัด หวานจนไม่น่าเชื่อว่า นิยายที่หวานจัดเรื่องนี้เป็นนิยายที่เล่าถึงปัญหาชนกลุ่มน้อยและสงครามกลางเมือง ตอนเด็กๆ ตอนที่ได้รู้จักกับเสราดารัลใหม่ๆ เรายังเป็นนักเรียนผูกคอซองอยู่เลย ยุคนั้น รักนิยายเรื่องนี้เอามากๆ ต้องหยิบมาอ่านทุกปี ปีละ 2 – 3 รอบเป็นอย่างต่ำ แต่พอเริ่มโต อายุเริ่มเยอะ (บวกกับจำเนื้อเรื่องได้ขึ้นใจ) กลับเลี่ยนเอียนเสราดารัลไปไม่น้อย ถ้านับจากตอนนั้นถึงวันนี้ ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าไม่ได้แตะเสราดารัลมากว่า 4 –[…]