เรื่อง นิราศสองภพผู้แต่ง ฐา-นวดี : สุพลสำนักพิมพ์ ดับเบิ้ลนายน์เลขมาตรฐานหนังสือ 9746601008 แม้ นิราศสองภพ เล่มนี้จะถูกเขียนขึ้นภายหลังจากที่ละครจบลงแล้วแต่เนื้อหาภายในเล่ม ก็ไม่ได้เป็นบทละครเป๊ะๆ อย่างที่นึกกลัวภาษาสละสลวยพอใช้ แม้สำนวนจะดูละครๆ ไปบ้างตัวละครจะทำอะไรดูไม่สมเหตุสมผลไปบ้าง ตามขนบละครไทยยุคก่อนและด้วยเหตุที่ตัวละครทำอะไรที่ไม่คิดบ่อยๆ นี่แหละที่ทำให้ผู้เขียนพาตัวละครไปเจอเหตุการณ์ที่หลากหลายเสี่ยงภัย และได้ประสบการณ์ต่างๆ ให้ผู้อ่านได้สนุกโลดโผนไปด้วย นิราศสองภพ ถ่ายทอดความโหดร้ายของมนุษย์ในยุคสงครามอันที่จริงต้องบอกว่า ถ่ายทอดความโลภของมนุษย์หลากหลายประเภทโดยที่สงครามเป็นปัจจับที่บีบเค้นให้คนเราแสดงธาตุแท้ออกมามากขึ้นและความเลวร้ายทั้งปวงเหล่านี้เอง ที่ทำให้เราสูญเสียกรุงศรีอยุธยา ..เมืองอันเป็นเมืองหลวง เป็นบ้านเกิดเมืองนอนเป็นที่พักพิงอาศัย เป็นชีวิตและสถานที่สืบวงศ์พงพันธุ์   ผู้เขียนเล่าเรื่องโดยให้ บัวบุษยา นางเอกของเรื่องเป็นผู้เล่าใช้สรรพนามบุรุษที่หนึ่งคือ “ฉัน” แทนตัวบัวบุษยาเล่าเรื่องในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเธออ่านไปก็คล้ายกับการอ่านบันทึกของเธอไปด้วยไม่ได้อ่านนิยายที่ใช้วิธีเล่าแบบนนี้นานแล้วแต่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ใช้วิธีเล่าแบบเดียวไปทั้งหมดบางครั้งก็ถูกตัดสลับเล่าเรื่องในมุมอื่น ที่ไม่ได้ผ่านมุมมองของเธออยู่บ้าง บัวบุษยา เป็นบุตรสาวนายธนาคารใหญ่ในยุคฟองสบู่แตกเธอเกิดปัญหาชีวิตบางอย่างอันเป็นเหตุให้ต้องตกลงไปในแม่น้ำ แล้ววาร์ปไปยังอดีตในช่วงเวลา .. ราวห้าเดือนก่อนกรุงศรีอยุธยาแตกชีวิตในอดีตของบัวบุษยา จับพลัดจับผลูไปอาศัยอยู่กับครอบครัวคนจีนแซ่ไห่จากเมืองไห่เฟิง (เมืองเดียวกับตระกูลของพระเจ้าตากสิน)ครอบครัวของเจ้าสัวไห่ เป็นครอบครัวค้าขายมั่งคั่งหัวหน้าครอบครัวคือเจิ้งไห่ ซึ่งตายไปก่อนหน้านี้แล้วเหลือแต่เพียงจันหอมผู้เป็นแม่ เทียน บุตรชาย และส้มหอม บุตรสาวโดยที่เทียน หรือเฉินเสี่ยวเทียน มียศเป็นหมื่นเทียนเข้ารับราชการเป็นหัวหมู่สอดแนม กองอาทมาตตะวันตกอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของพระยาพลเทพ .. คนดังแห่งยุค ซึ่งในเรื่องนี้ พระยาพลเทพยังคงรับบทเป็นตัวร้ายเช่นเดียวกับหลายๆ เรื่องที่ใช้ฉากเรื่องในยุคกรุงแตก[…]