เรื่อง ลูกอีสาน ผู้แต่ง คำพูน บุญทวี สำนักพิมพ์ บรรณกิจ เลขมาตรฐานหนังสือ 9742206244 จุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่ที่สำนวน แต่มันอยู่ที่เนื้อหาของเรื่องที่มันจริง มันเรียลมากกว่า ผู้เขียนหยิบความจริงในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตมาถ่ายทอด นับย้อนกลับไปเมื่อราว 50 ปีก่อน (หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 – 2519 แต่เล่าเหตุการณ์ย้อนหลังไปกว่านั้นอีก) อีสานบ้านเราเป็นเช่นดังที่ผู้เขียนบรรยายเอาไว้ในหนังสือ ร้อน แห้งแล้ง และขาดน้ำกินน้ำใช้ ชีวิตของผู้คนอยู่กันอย่างลำบาก .. จนชินชา ไม่มีน้ำ ไม่มีนา ไม่มีป่าไม้ อาหารก็เริ่มขาดแคลนไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ผู้เขียนก็ยังบอกเล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยสีสันแห่งความสุขและความสนุก ผู้เขียนสอดแทรกวัฒนธรรมความเชื่อหลายอย่างเอาไว้ในชีวิตประจำวัน ทั้งอาหาร ดนตรี และวิถีชีวิต รวมไปถึงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่เล่าสืบต่อกันมาจนกลายเป็นนิทานปรัมปรา ความเชื่อเหล่านั้นจะเป็นจริงหรือไม่นั้นก็ไปวิเคราะห์กันเอาเองอีกที แต่ที่แน่ๆ ความเชื่อเหล่านั้นมีอยู่จริง และยังคงสืบทอดบางส่วนมาจนถึงทุกวันนี้ มันคือรากเหง้าของคนภูมิภาคหนึ่งในบ้านเรา .. ให้เราได้อ่านและเรียนรู้ .. ผู้คนรอบๆ ตัวผู้เขียน ล้วนแต่เป็นคนมีน้ำใจ และแม้ไม่ได้อยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่ญาติพี่น้องก็อาศัยอยู่ไม่ไกลกันนัก[…]

เรื่อง ตลิ่งสูง ซุงหนัก ผู้แต่ง นิคม รายยวา สำนักพิมพ์ รูปรวี เลขมาตรฐานหนังสือ 9748682986 เรียบๆ แต่สะเทือน เรียบง่าย เป็นปรัชญา มันเริ่มต้นขึ้นอย่างธรรมดา แต่ยิ่งอ่านยิ่งพบว่า หนังสือธรรมดาเล่มนี้ซุกซ่อนความพิเศษเอาไว้มากมาย ตลิ่งสูง ซุงหนัก มีกลิ่นอายความเศร้าอยู่ตุ่ยๆ ตลอดการอ่าน ผู้เขียนเล่าเป็นเรื่องเดียวไปยาวๆ ไม่มีการแบ่งเป็นบท เล่าเรื่องความผูกพันระหว่างคนกับช้างคู่หนึ่ง แน่นอน มันเกิดขึ้นในชนบท .. และคงจะย้อนเวลากลับไปนานพอประมาณ เพราะตอนนั้น เรายังมีไม้ป่าให้ตัดกันไม่หวาดไม่ไหว เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง อันประกอบไปด้วย พ่อ แม่ ลูก .. คำงาย มะจัน และแอ .. และช้าง .. พลายสุดสง่า หรือพลายกุด .. ที่เคยเป็นของคำงายมาก่อน เราชอบตอนที่ผู้เขียนเล่าถึงกิริยาอาการ ความผูกพันระหว่างช้างลากซุงกับควาญ ..[…]

เรื่อง ไม่มีหญิงสาวในบทกวี ผู้แต่ง ซะการีย์ยา อมตยา สำนักพิมพ์ พันหนึ่งราตรี เลขมาตรฐานหนังสือ 9789742255244 ถ้า ใบไม้ที่หายไป คือบทกวีที่เต็มไปด้วยฉันทลักษณ์สละสลวย ไม่มีหญิงสาวในบทกวี ก็เปล่าดาย ไร้กรอบแห่งฉันทลักษณ์ใดๆ เริ่มอ่านทีแรกนี่เหวอมาก นี่เริ่มเข้าเนื้อหาหรือยัง? หรือแค่คำเกริ่นนำเฉยๆ? มีความเป็นเรื่องสั้น (ที่สั้นเป็นพิเศษ) มากกว่าบทกวี เป็นเรื่องราวที่คงต้องรู้ภูมิพื้นหลัง หลายบทอ่านแล้วไม่เข้าใจถ่องแท้ ว่าผู้เขียนตั้งใจสื่อถึงเหตุการณ์ใดเฉพาะเจาะจง แต่เดารวมๆ ได้ว่า เล่าถึงความไม่สงบทางภาคใต้ สำหรับเรา กลอน งดงามด้วยฉันทลักษณ์ พอไม่มีฉันทลักษณ์ มันเลยดูเพ้อๆ ยังไงไม่รู้ มันคือประโยคเปล่าดาย ไร้พลัง บางบทที่เศร้า ก็ดูเหมือนจงใจให้เศร้าจนขาดเสน่ห์ ทื่อทึม บีบเค้น ชักนำอย่างไม่มีพิธีรีตอง เหมือนบอกว่า ‘จงเศร้า จงร้องไห้’ อย่างไม่มีที่มาที่ไป บางบทก็แสดงการขบถ ต่อต้าน (ตามธรรมเนียม?) อาจเป็นเพราะความสั้น กระชับ และไร้ฉันทลักษณ์เหมือนกลอนเปล่า เลยไม่สามารถดึงอารมณ์ร่วมอันอ่อนไหวของเราออกมาได้ แม้หนังสือเล่มนี้จะไม่ค่อยโดนใจเราเท่าไร[…]

เรื่อง ใบไม้ที่หายไป ผู้แต่ง จิระนันท์ พิตรปรีชา สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744754257 ภาษาสวยมาก สัมผัสนอกสัมผัสในครบครันแทบจะทุกบท เป็นหนังสือที่อบอวลไปด้วยก้อนพลัง นับตั้งแต่คำนำคำนิยมจากคุณเสกสรรค์ และคุณเนาวรัตน์ คำนำของเจ้าของบทประพันธ์เอง รวมไปถึงเนื้อหากลอนกวีในเล่ม ถ้าเป็นเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เราสามารถพูดถึงกวีบทนี้ได้โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก เราๆ ต่างเข้าใจกันดีถึงความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในบทกวีเหล่านั้น ด้วยความที่คนรุ่นเราเติบโตขึ้นมาหลังยุค 6 ตุลาไม่นาน แม้จะเกิดไม่ทัน แต่ช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่ผันผ่าน บทกวีเหล่านี้ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่บ่อยๆ กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปอีกไม่กี่สิบปี เหล่าเราก็ค่อยหลงลืมบทกวีบริสุทธิ์เหล่านี้จนหมดสิ้น หลงลืมไปว่าใบไม้ที่ว่าคืออะไร หลงลืมไปว่า ใบไม้ที่ร่วงหล่นกลบทับนับไม่ถ้วนในยุคนั้น ร่วงลงไปเพื่ออะไร วัฏจักรคงวนมาอีกครั้งตามธรรมดาโลก หากไม่รู้จักเรียนรู้จากอดีต เหตุการณ์คงไม่แคล้วจะซ้ำรอย .. ใบไม้ใบใหม่คงไม่แคล้วร่วงทับถมลงซ้ำซากใบไม้ใบเดิม ความในใจจากกวีถึงกวีในท้ายบท ยิ่งก่นกดความรู้สึกให้นึกพล่าน ทั้งตื้นตัน ทั้งชื่นชม เต็มไปด้วยพลังและความรู้สึก เป็นหนึ่งในหนังสือที่อยากชวนคนไทยให้อ่านจริงๆ ค่ะ

เรื่อง ครอบครัวกลางถนน ผู้แต่ง ศิลา โคมฉาย สำนักพิมพ์ มิ่งมิตร เลขมาตรฐานหนังสือ 9748647668 รวมเรื่องสั้นเล่มบาง รางวัลซีไรต์ปี 2536 เนื้อหาในเล่ม เจาะจงไปถึงชึวิตชนชั้นกลางในเมืองกรุงเป็นส่วนมาก ส่วนมากพูดถึงปัญหาภายในบ้านครอบครัวคนเมือง เนื้อเรื่องส่วนมาก เป็นเรื่องทั่วๆ ไปของคนชนชั้นกลาง ที่มีบ้านมีรถเงินผ่อน และยังต้องทำงานหาเช้ากินค่ำ สังคมคนเมืองในวัยทำงาน ที่ประสบสุขทุกข์คล้ายๆ กัน หลายเรื่องสร้างความอึดอัด ขัดใจ คิดค้าน มีบางตอนเป็นเรื่องราวของชนชั้นกรรมาชีพที่ต้องต่อสู้ชีวิต ต่อสู้กับกิเลสในใจตน หลายเรื่องอ่านง่าย อ่านเพลิน ภาษาสวย ตัวหนังสือให้ภาพและความรู้สึก เนื้อเรื่องเรียบง่าย แต่เปี่ยมด้วยอารมณ์ในตอนจบเรื่อง บางเรื่อง ผู้เขียนก็เล่าเรื่องหลอกล่อไปให้เราเข้าใจอย่างหนึ่ง แล้วเฉลยหักจบเป็นอีกอย่าง เพียงแต่ตอนจบในแต่ละตอน มันไม่ได้สะเทือนความรู้สึกได้รุนแรงพอจะหักมุมให้เกิดความประทับใจ เจตนาของผู้เขียนตั้งใจเพียงแต่จะเสียดสีสังคม มากกว่าจะสร้างความสะเทือนอารมณ์คนอ่าน แต่บางเรื่องก็เรื่อยๆ มาเรียงๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ รสชาติไม่จัดจ้านเท่าซีไรต์เล่มอื่นๆ  

เรื่อง เจ้าหงิญ ผู้แต่ง บินหลา สันกาลาคีรี สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 973230521 เจ้าหงิญ เป็นหนังสือรางวัลซีไรต์ ในสาขารวมเรื่องสั้นที่แปลกที่สุดเท่าที่เราเคยอ่าน หนังสือรางวัล ซึ่งไม่ว่าจะเป็นรางวัลซีไรต์ หรือรางวัลใดก็ตามในความคิดของเรา คือเป็นหนังสือที่อ่านยาก ลึกซึ้ง ลึกล้ำ ซับซ้อน เข้าถึงยาก แต่เจ้าหงิญคือรวมนิทาน!! เป็นนิทานที่แทบไม่ต้องตีความอะไรเลยก็อ่านสนุก แต่ถ้าจะตีความ ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของคนอ่านเอง ว่าอยากจะแปลมันออกมาหรือเปล่า คนเขียนไม่ได้บังคับ ไม่ได้กดดันใดๆ ชายเดียวดายแห่งภูเขาภาคเหนือ น่ารัก บรรจุวิถีแห่งคนเดินช้าเอาไว้เต็มเปี่ยม คิดถึงเพลงดาบแม่น้ำร้อยสาย คิดถึงศิษย์สะดือ .. และแน่นอน .. มีบินหลาซ่อนอยู่ในนั้นด้วย แดฟโฟดิลแดนไกล ความฝัน บริสุทธิ์ และน่ารักอีกแล้ว เจ้าหญิงแสนเศร้าแห่งดาวดวงที่สี่ การเดินทางอันแสนไกลให้ดอกผลแก่เราเสมอ แม้ว่าเป้ายหมายจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด เก้าอี้ดนตรี คนเรามีหน้าที่ หน้าที่ของบางคน ถูกกำหนดเอาไว้แล้วแต่แรกเริ่ม แต่ในที่สุดแล้ว ตัวเราต่างหากที่จะค้นพบหน้าที่ที่แท้จริงของตนเอง หน้าที่ที่เราจะทำมันด้วยความสุข เต็มใจ[…]

เรื่อง แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ ผู้แต่ง จเด็จ กำจรเดช สำนักพิมพ์ ผจญภัย เลขมาตรฐานหนังสือ 9786167552149 ผ่าน อสรพิษ ไปได้เรื่องหนึ่ง เริ่มมีจิตฮึกเหิม .. หยิบแดดเช้าฯ มาอ่านต่อในบัดดลค่ะ การจิบกาแฟ เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง กาแฟร้อน ควันลอยอ้อยอิ่ง เราไม่ได้เพียงแต่ดื่มกาแฟ เราดื่มความหอมของมัน ดื่มความร้อนจัด ดื่มความขมเข้มหรือหวานมันตามใจชอบ ในเช้าช้าๆ ถ้าเพียงแต่มีบางเรื่องร้อนใจ เช้าอาจไม่เป็นเช้า แดดเช้า อาจจะร้อนเกินไปเสียแล้ว แดดเช้าฯ มีวิธีเล่าเรื่องที่ผ่านกระบวนการคิดมาเป็นอย่างดี เพราะอย่างนั้น .. คนอ่านก็ด้วยเช่นกัน คำนำในเล่มไม่ได้บอกอะไร เริ่มต้นแบบเบื่อๆ แต่จบลงอย่างมีพลัง เร้าระทึก หยิบแดดเช้าฯ ขึ้นมาเริ่มต้นอ่านที่งานมือถือฯ อันสับสนวุ่นวาย จบเรื่องแรกไปอย่างไม่รู้เรื่อง แต่สิ่งที่ได้คือจิ๊กซอว์แห่งขุมพลัง มีพลังงานบางอย่างอัดแน่นภายใน จนต้องขอย้อนกลับไปอ่าน ณ จุดเริ่มต้นอีกครั้ง สิ่งชำรุดของพระเจ้า เป็นเรื่องสั้นที่เปิดตัวตนของหนังสือเล่มนี้ด้วยความรุนแรง เต็มไปด้วยพลังอัดแน่น เสียดแทงและเชือดเฉือน[…]

เรื่อง อสรพิษ และเรื่องอื่นๆ ผู้แต่ง แดนอรัญ แสงทอง สำนักพิมพ์ สามัญชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9789749748848 อสรพิษฯ ต่อคิวรออ่านแบบจวนเจียนจะได้อ่านมานานแสนนาน ดองมาตั้งแต่ประกาศผลรางวัลซีไรต์ปีนั้น (พ.ศ. 2557) แต่พอจะหยิบมาอ่านทีไร ก็มีเหตุให้ถูกเล่มอื่นตัดหน้าทุกทีไป มาถึงคราวนี้ที่ไม่รู้จะอ่านอะไรขึ้นมา ไปเมียงมองรายชั้นแล้ว ถึงได้หยิบอสรพิษฯ มาแบบไม่มีคิว ได้อ่านกันสักที พ้นจากความรู้สึกอยากอ่าน คือความรู้สึกกลัว .. คำนำนั้นน่ากลัว ด้วยทั้งภาพลักษณ์ของนักเขียน (ซึ่งเราขอเรียกว่า ‘ความดุ’) และคำร่ำลืออันว่าด้วยอีโก้ของนักเขียน (ไม่รู้ทำไม เพียงแค่อ่านคำนำ เรารู้สึกว่าคุณแดนอรัญ มีอะไรบางอย่างคล้ายๆ คุณทมยันตี ..) ส่วนคำนิยม แม้จะเป็นคำนิยมที่ชวนฮึกเหิมมาก แต่หนังสือแนวแบบนี้ ก็เป็นแบบที่เราหวาดๆ อยู่ร่ำไป .. อยู่แล้ว อสรพิษฯ เป็นหนังสือแบบที่ใครๆ ก็ว่าดี นักอ่านชื่อดังต่างออกมาชื่นชม มีแต่รีวิวในทางบวก กลัวเหลือเกินว่าจะตัวเองจะทวนกระแส (อีกครั้ง)[…]

เรื่อง ซอยเดียวกัน ผู้แต่ง วาณิช จรุงกิจอนันต์ สำนักพิมพ์ บูรพาสาส์น ราคา 55 บาท อ่าน ซอยเดียวกัน ครั้งแรกในวัยเรียน เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา จำไม่ได้ว่าเคยหยิบมาอ่านซ้ำบ้างหรือเปล่า ครั้งนี้น่าจะเป็นหนที่ 2 โดยประมาณ เริ่มต้นอย่างจำอะไรไม่ได้เลย แต่พอเริ่มบทก็พอจะนึกเรื่องออกทุกเรื่องไป เรื่องแรก เพลงใบไม้ ผู้เขียนเล่าเรื่องเห็นภาพติดต่อกันไปยาวๆ ไม่มีหยุด ใช้ภาษานำเส้นอารมณ์ไป อ่านอยู่เพลินๆ ผู้เขียนก็กระชากอารมณ์ผู้อ่าน ตัดจบ ในตอนจบ มีเพียงห้วงความรู้สึก โหวง ลึก เรื่องสั้นที่มีพลังมันเป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นสมัยนี้ ต้องพูดอย่างเชยๆ ว่าสำนึกรักบ้านเกิด หรืออนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ทำนองนั้น แต่พลังผลักดันที่ซ่อนอยู่ในเรื่องสั้น มันรุนแรงกว่าจะใช้คำพื้นๆ พวกนี้มาสื่อ สมค่าซีไร้ต์ตั้งแต่เรื่องแรกเลยค่ะ เรื่องที่สอง เมืองหลวง ตัวหนังสือของผู้เขียนนำพาคนอ่านให้ ‘รู้สึก’ ไปกับทุกเรื่องที่เขาเล่า ผู้เขียนพาเราไปอยู่บนรถเมล์ที่แน่นเอี๊ยด หน้าต่างปิดสนิทเพราะฝนตก และรถติดไม่ขยับ เราร้อน[…]