เรื่อง จิบพม่าตามหาจอร์จ ออร์เวลล์ประวัติศาสตร์ระหว่างบรรทัดในร้านน้ำชาผู้แต่ง เอ็มม่า ลาร์คินผู้แปล สุภัตรา ภูมิประภาสสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740215240 จิบพม่าตามหาจอร์จ ออร์เวลล์ เป็นทั้งบันทึกการท่องเที่ยวที่บันทึกภาพฉากของประวัติศาสตร์พม่าในยุคล่าอาณานิคมและบันทึกชีวประวัติของนักเขียนคนหนึ่งซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ที่พม่า ในช่วงเวลานั้น จอร์จ ออร์เวลล์ หรือชื่อจริงคือเอริก อาร์เธอร์ แบลร์เคยใช้ชีวิตอยู่ที่พม่าเป็นเวลา 5 ปี ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจของจักรวรรดิเขาเริ่มต้นด้วยการฝึกในโรงเรียนตำรวจของรัฐบาลอังกฤษ (ที่มัณฑะเลย์)และได้รับคำสั่งให้ย้ายไปยังเมืองต่างๆ ของพม่า ภายหลังการฝึกสิ้นสุดเริ่มต้นการเป็นตำรวจครั้งแรกที่เมืองเมียวเมียะ เมย์เมี้ยว และต่วนเต .. พื้นที่ลุ่มน้ำ ชื้นแฉะ น่าหดหู่ย้ายครั้งหนึ่งไปร่างกุ้ง .. สิเรียม และอินเส่ง ..เมืองอันเป็นแหล่งรวมอารยธรรมความสะดวกสบายย้ายอีกครั้งไปที่เมืองเมาะละแหม่ง เมืองที่เขาเคยมีความทรงจำวัยเด็กและครั้งสุดท้ายที่กะต่า .. อันเป็นฉากของ พม่ารำลึก ที่เราเพิ่งอ่านจบไป จอร์จ ออร์เวลล์ อยู่ในพม่าในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกับยุคล่าอาณานิคมของประเทศอังกฤษคือนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1922 – 1927ชีวิตในช่วงนั้น สร้างแรงบันดาลใจให้เขา (ออกจะเป็นแรงบันดาลใจในด้านลบ)แต่มันก็ทำให้เขาสร้างงานเขียนออกมามากมาย และหลายสิบปีต่อมางานเขียนของ จอร์จ ออร์เวลล์ก็กลายเป็นพลัง สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง(ในปี[…]

เรื่อง พม่ารำลึกผู้แต่ง จอร์จ ออร์เวลล์ผู้แปล บัญชา สุวรรณานนท์สำนักพิมพ์ ไต้ฝุ่นเลขมาตรฐานหนังสือ 9786167144429 อ่าน พม่ารำลึก เล่มนี้ ต้องถอดตัวเองออกจากหนังสือให้ได้ก่อนเราต้องเป็นเพียงผู้สังเกตการณ์อย่าเอาตัวเองไปผูกติดกับตัวละครใดตัวละครหนึ่งหรือความรู้สึกใดความรู้สึกหนึ่ง เรื่องของเรื่องก็คือผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยการเปิดตัวละครชาวพม่าคนหนึ่ง นามว่าอูโพจีงอูโพจีงเป็นชายวัยใกล้เกษียณที่ผ่านชีวิตข้าราชการพม่า (ภายใต้การปกครองของอังกฤษ)มาด้วยเล่ห์กระเท่ห์ คดโกง ฉ้อราษฎร์บังหลวง สับปลับ กินสินบนเรียกได้ว่าถ้าอินกับอีตานี่ตั้งแต่ต้นเล่ม เราไม่มีทางไปไหนรอด!! หลังจากที่รวบรวมสติและสมาธิ ยับยั้งความเกลียดที่มีต่ออูโพจีงได้แล้วก็มาเริ่มอ่านด้วยกันค่ะ ;P ฉากหลังของ พม่ารำลึก เล่มนี้ ช่วยบันทึกชีวิตของชาวยุโรปโดยเฉพาะชาวอังกฤษที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศพม่าในช่วงที่พม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ (ราวปี ค.ศ. 1922 – 19277) ผู้เขียนบรรยายฉากและเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างละเอียดลออรวมไปถึงความคิด ค่านิยม อันเป็นสามัญของคนสมัยนั้น ผู้เขียนเล่าถึงสังคมคนอังกฤษทั้งมิสเตอร์ฟลอรี่ พ่อค้าไม้ซุง เจ้าของเรื่องราวทั้งหมดในเล่มนี้นายแม็กเกรเกอร์ รองผู้แทนข้าหลวงแห่งเมือง เจ้าก์ตะดานายเวสต์ฟิลด์ ผู้กำกับการตำรวจนายแล็กเคอร์สตีน ผู้จัดการของบริษัทป่าไม้นายเอลลิส ผู้จัดการของบริษัทป่าไม้อีกบริษัทหนึ่งและนายแม็กซ์เวลล์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฯลฯที่พบปะสังสรรค์กันอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆทนคบกันไปอย่างแกนๆ แบ่งฝ่ายทะเลาะกันเองบ้างรวมกลุ่มกันเหยียดเจ้าถิ่นชาวพม่าบ้าง .. ก่อนที่เราจะบูชาสิทธิและเสรีภาพกันอย่างเต็มขั้นเช่นทุกวันนี้ครั้งหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลจากนี้ ย้อนหลังไปร้อยกว่าปีคนอังกฤษเคยดูถูกเหยียดหยามคนท้องถิ่น (พม่าและอินเดีย)เอาไว้ด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ถึงเพียงนี้ เมืองเจ้าก์ตะดา[…]

เรื่อง 1984 ผู้แต่ง จอร์จ ออร์เวลล์ ผู้แปล รัศมี เผ่าเหลืองทอง, อำนวยชัย ปฏิพัทธ์เผ่าพงศ์ สำนักพิมพ์ สมมติ ราคา 300 บาท ว่ากันว่า 1984 เป็นต้นกำเนิดรายการบิ๊กบราเธอร์ และว่ากันว่า เดอะเซอร์เคิล มีความคล้ายคลึงกับหนังสือเล่มนี้ .. แต่ร่วมสมัยขึ้น แต่สำหรับเรา 1984 มีความดาร์กมากกว่า การใช้คำและรูปประโยคทรงพลังมากกว่ามาก ปลุกเร้าความคิดและความรู้สึก .. ห่างชั้นกับเดอะ เซอร์เคิลหลายช่วงตัว อย่างชนิดที่ไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกัน 1984 เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ แม้ว่าจะค่อนข้างหนา แต่ขนาดเล่มก็ทำให้ราคา 300 บาทดูแพงเกินไปอยู่ดี แต่เมื่อเปิดอ่านจึงได้รู้ว่า แท้ที่จริงแล้วมันผ่านการเย็บกี่อย่างแน่นหนา ไม่ว่าจะเปิดอ่านจนเยินอย่างไร หน้ากระดาษก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหลุด เพียงแค่นี้ ยังไม่ต้องนับเนื้อหาหรือคุณค่าทางวรรณกรรมใด มันก็ทำให้เราประทับใจได้ตลอดการอ่าน คำนำย่อหน้าแรกจี๊ดใจมาก โดยเฉพาะเมื่ออ่านหลังจากที่เราเพิ่งจะอ่านเดอะเซอร์เคิลจบ เมื่อเริ่มต้นด้วยการอ่านประวัติของผู้เขียนโดยละเอียด และคิดเปรียบเทียบกับสิ่งที่เคยอ่านพบใน แอนิมอลฟาร์ม และกรั่นกรองใจความต่างๆ จากในเล่มนี้[…]

เรื่อง แอนิมอล ฟาร์ม สงครามกบฏของสรรพสัตว์ ผู้แต่ง จอร์จ ออร์เวลล์ ผู้แปล บัญชา สุวรรณานนท์ สำนักพิมพ์ ไต้ฝุ่น ราคา 135 บาท เมื่อสรรพสัตว์ในแมเนอร์ฟาร์ม ได้ตระหนักรู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว ผลิตผลใดๆ ที่พวกมันได้สรรสร้างขึ้น ได้ถูกเหล่ามนุษย์นำไปบำรุงบำเรอความสุขแห่งตนอย่างไร้ความยุติธรรมแล้วนั้น มันจึงเริ่มเห็นว่ามนุษย์คือศัตรูหมายเลขหนึ่งสำหรับพวกมัน และนั่นคือจุดเริ่มต้นของหนังสือเล่มนี้ หลังจากที่สรรพสัตว์ร่วมแรงกันขับไล่มนุษย์ออกไปจากฟาร์ม มันก็เริ่มปกครองตนเองกันอย่างยุติธรรม อย่างเสมอภาค ..? เป็นการเสียดสีที่เอาจริงเอาจัง ลงลึก ละเอียดรอบด้าน เขียนได้สมจริงจนน่ารังเกียจ .. นักการเมืองไม่ว่าจากประเทศไหนก็ล้วนเห็นแก่ตัว ทำเพื่อตนเอง .. ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองที่มากจากสรรพสัตว์! มันคือวัฏจักรแห่งระบอบการปกครองด้วยมนุษย์ ที่ไม่ว่าจะตั้งชื่อสวยหรูว่าอะไร สุดท้ายมันก็ลงเอยวนเวียน เข้าสู่สัญชาตญาณสามัญ อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ให้ต้องพบจุดจบ และค้นหาจุดเริ่มต้นเดิมๆ วนเวียนกันไปไม่รู้จบสิ้น เนื้อเรื่องเสียดสีมนุษย์นักการเมืองผู้ละโมบ และฉ้อฉล เสียดสีมนุษย์นักสร้างกรอบคุมขังตนเอง ยอมรับอำนาจบังคับบัญชาจากผู้อื่น เป็นการปกครองภายใต้ความมอมเมา การให้ข้อมูลที่จอมปลอม ชวนเชื่อ[…]