เรื่อง โปรดฟังให้จบ ผู้แต่ง มินะโตะ คะนะเอะ ผู้แปล หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161833695 มาจิดะ เคสุเกะ เป็นนักกีฬากรีฑาของโรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง เขามีสถิติที่ดี และยังสามารถพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปได้อีก แม้อนาคตของเขาจะไม่ได้สดใสจนมองเห็นได้ชัด แต่ถ้าใช้ความพยายาม เขาต้องคว้ามันมาได้แน่ๆ เคสุเกะหันกลับมาตั้งใจเรียน เพื่อที่จะเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย ที่มีชื่อเสียงในด้านชมรมกรีฑา เขาอยากจะเป็นนักวิ่ง อยากจะเป็นตัวแทนของโรงเรียนไปแข่งขันระดับประเทศ เคสุเกะมีเพื่อนร่วมชมรมคนหนึ่ง ยามากิชิ เรียวตะ คือแรงบันดาลใจในการวิ่งของเขา เรียวตะเป็นคนที่มีทั้งพรสวรรค์และความมุ่งมั่นล้นเหลือ แม้แต่การเข้าเรียนโรงเรียนมัธยปลาย เซไคกักคุอิน ก็มีแรงกระตุ้นมาจากเรียวตะด้วยเช่นกัน และในวันประกาศผล ทั้งสองคนก็สามารถสอบเข้าโรงเรียนเซไคกักคุอินได้ แต่ .. เหตุการณ์มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดคิดไปทุกอย่างหรอก .. สิ่งที่พยายามมาทั้งหมด กลับหลุดมือไป ทั้งที่ความตั้งใจก็สำเร็จ และผ่านพ้นไปด้วยดี หากความฝัน ก็ยังล่มสลายลงอยู่ดี ในความเคว้างคว้างที่ไม่รู้จะจัดวางตัวเองลงตรงไหน ในโรงเรียนที่ตัวเองอยากเข้า แต่ไม่ได้ทำอย่างที่อยากทำแล้ว จู่ๆ ก็มีสิ่งใหม่ผ่านเข้ามาในชีวิต มิยาโมโตะ มาซายะ เป็นเพื่อนอีกคน ที่เดินเข้ามาหาเคสุเกะ[…]

เรื่อง หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ ผู้แต่ง เซวิน แกเบรียล ผู้แปล อภิญญา ธโนปจัย สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161834401 หลากเรื่องในชีวิตของชายที่รักหนังสือ เป็นตัวอย่างของหนังสือที่เราจะเบื่อมันในตอนต้น แต่จะรักมันมากที่สุดในตอนจบ นี่เป็นคำตอบว่า ทำไมเราจึงควรอ่านหนังสือให้จบเล่ม แทนการเลิกอ่านไปกลางคัน แล้วบอกว่าไม่ชอบมัน หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องของ เอ. เจ. ฟิกรี้ ชายไม่หนุ่มเจ้าของร้านหนังสือ ที่สูญเสียภรรยาไป (ตอนเริ่มต้นของมัน ชวนให้เราคิดถึง อูเว อยู่หน่อยๆ) ทีแรกนึกภาพไปว่านี่คือเรื่องราวใสๆ ที่เล่าเรื่องชายหนุ่มผู้หลงรักหนังสือ แต่ผิดถนัด เล่มนี้เปิดเรื่องขึ้นด้วย การเดินทางของเซลส์ขายหนังสือสาว เอมิเลีย โลแมน ที่เดินทางมาขายหนังสือให้กับร้านเล็กๆ ร้านเดียวบนเกาะอลิซ เธอมาที่ร้านนี้เป็นครั้งแรก เป็นการรับช่วงต่อจากเพื่อนร่วมงานที่จากไป เจ้าของร้านหนังสือแห่งนี้อารมณ์บูดตลอดเวลา เขามีปัญหาชีวิต และยังจัดการกับมันได้ไม่ลงตัว ใช่แล้ว .. เขานี่แหละ เอ. เจ. ฟิกรี้ เจ้าของเรื่องราวทั้งหมดในเล่มนี้ เรื่องในช่วงแรกนี้น่าเบื่อมากกกกกก ไม่มีหลักให้ยึดเกาะ ว่าทำไมเราต้องทนอ่านเรื่องของชายซึมกะทือ กับวิธีเล่าแปลกๆ[…]

เรื่อง แล้วเราจะได้พบกันอีก ณ ห้องสมุดปารีส ผู้แต่ง เจเน็ต สเกสเลียน ชาร์ลส์ ผู้แปล นรา สุภัคโรจน์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161851668 แล้วเราจะได้พบกันอีก ณ ห้องสมุดปารีส เล่าเรื่องของเหล่าผู้คนที่ทำงานในห้องสมุดอเมริกัน ในปารีส ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เนื้อเรื่องในเล่ม ถูกเล่าสลับกันไปมา ระหว่างเรื่องราวในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 คือราวๆ ปี ค.ศ. 1939 ก่อนที่สงครามจะคืบคลานเข้ามาในฝรั่งเศส จวบจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1945 ในห้วงเวลาที่สงครามจบลง เรื่องราวในส่วนนี้ถูกเล่าผ่านน้ำเสียงของโอดีล หญิงสาวผู้รักหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ อีกส่วนหนึ่ง หนังสือได้ตัดสลับมายังเรื่องราวในอีกประมาณ 40 ปีต่อมา คือปี ค.ศ. 1983 ที่เมืองฟรอยด์ รัฐมอนแทนา อเมริกา หนังสือส่วนที่สอง ถูกเล่าผ่านสายตาของเด็กหญิงวัยรุ่นอีกคนหนึ่ง ที่ชื่อว่าลิลลี่ ตอนที่เรื่องเริ่มต้น โอดีลกำลังเตรียมตัวเพื่อจะไปสมัครงานเป็นบรรณารักษ์[…]

เรื่อง เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่นผู้แต่ง คาวางุจิ โทชิคาซึผู้แปล ฉัตรขวัญ อดิศัยสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161825898 หนังสือเล่มบางๆ อ่านง่ายๆเนื้อเรื่องเบาสบาย อบอุ่น ถูกแบ่งออกเป็น 4 เรื่องย่อยๆเรื่องราวของคู่รัก สามีภรรยา พี่น้อง และแม่ลูกเชื่อมโยงสอดประสานทุกพล็อตเข้ากันกันลงตัว น่ารัก ซาบซึ้งแม้จะเดาเรื่องได้ง่าย แต่ก็ยังอ่านสนุก เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น ถ้อยคำที่เป็นดังคาถาพาให้เราย้อนเวลากลับไปสัมผัสอดีตอีกครั้งได้รู้สึกถึงห้วงอารมณ์ที่หลงลืม หรือเผลอทำผิดไปแม้จะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วแต่บางสิ่งที่ค้างคาในจิตใจ กลับได้คลี่คลาย ปลอบประโลม เพียงชั่วเวลากาแฟยังอุ่น เป็นหนังสือที่โด่งดังมาสักพักแล้วแต่เรายังรีรออยู่นานกว่าจะอ่านเพราะเคยอ่านรีวิวที่ถูกแบ่งออกเป็นสองกระแส มีทั้งชอบ ไม่ชอบแต่เมื่อได้มาลองอ่านเอง เราพบว่า มันดีกว่าที่คิดนะเป็นหนังสือที่ดีเล่มหนึ่งเลยเพระาฉะนั้น อย่าเพิ่งปิดใจนะคะ ลองหยิบมาอ่าน (อย่างไม่คาดหวัง) กันก่อน แล้วมาตัดสินกันค่ะว่า ชอบหรือไม่ชอบ 🙂 สิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากหนังสือเล่มนี้ คือข้อเตือนใจที่ว่าเราทุกคนมีเหตุผลของเราเสมอหากเพียงแต่ว่าเราจะยอมฟังเหตุผลของคนอื่นบ้างเรื่องอาจจะไม่เศร้าเท่านี้  

เรื่อง วันที่แม่ไม่อยู่ผู้แต่ง ชินกยองชุกผู้แปล วิทิยา จันทร์พันธ์สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161834425 วันที่แม่ไม่อยู่ เล่าเรื่องของครอบครัวเกาหลีซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่วัยชรา และลูกๆ วัยทำงานอีก 5 คนวันที่เรื่องเริ่มต้นขึ้น คือวันที่แม่หายตัวไปหนึ่งสัปดาห์แล้วเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นคือ ในทุกช่วงวันเกิดของพ่อ ทั้งพ่อและแม่จะเดินทางมายังโซล เพื่อเยี่ยมลูกๆ และจัดงานวันเกิดเป็นการจัดงานวันเกิดของพ่อและแม่รวมกัน ในการเข้าเมืองแต่ละครั้ง พ่อและแม่จะสลับกันไปนอนบ้านของลูกคนใดคนหนึ่งและจะมีลูกคนใดคนหนึ่งมารับที่ปลายทางเสมอ แต่เหตุการณ์ในวันนั้นต่างออกไปพ่อและแม่ตัดสินใจจะนั่งรถไฟใต้ดินไปบ้านลูกชายคนรองเองระหว่างนั้น เกิดเหตุพลัดหลงกับแม่ ทำให้แม่หลงหายไปผู้เขียนเริ่มต้นที่ตรงนั้น .. ก่อนที่เรื่องราวของแม่จะถูกถ่ายทอดออกมา ผู้เขียนเล่าเรื่องผ่านสายตาของตัวละครจากลูกคนหนึ่ง ไปยังอีกคนหนึ่ง .. ผ่านสายตาของพ่อ และคนอื่นๆทำให้เรามองเห็นตัวตนของแม่ ผ่านมุมมองรอบด้านขณะที่แม่หายตัวไป ผู้เล่าแต่ละคนจะเริ่มคิดถึงแม่ และคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เขากับแม่เคยทำด้วยกันขณะที่เรากำลังเดินเข้าไปในความทรงจำของพวกเขาเหล่านั้นความทรงจำระหว่างเรากับแม่ก็ค่อยๆ ผุดซ้อนขึ้นมา สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘แม่’ มีอะไรบางอย่างที่เหมือนกัน เมื่อแม่หายไป ..ความกระวนกระวาย พ่วงเอาความรู้สึกผิดที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าพี่น้องคนอื่นดูแลแม่ไม่ดีพอและท้ายที่สุดนั้น ความโกรธที่สุดตกอยู่กับตัวเองที่ก็เป็นหนึ่งในลูกที่ดูแลแม่ไม่ดีพอด้วยเช่นกัน วันที่แม่ไม่อยู่ เป็นหนังสือที่พล็อตดี เล่าเรื่องดี ภาษาดี แปลดีนอกจากนี้ เชิงอรรถยังมีประโยชน์อย่างโดดเด่นมันบอกเราในสิ่งที่ควรรู้ขยายความข้อมูลเฉพาะเจาะจงทางด้านสังคม วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ด้วยถ้อยคำสั้นกระชับช่วยแปลงค่าเงินและขนาดพื้นที่ให้ทุกครั้งด้วยซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับคนไม่คุ้นเคย ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งที่สะดุดใจเราก็คือ สรรพนามที่ใช้เล่าในการเล่าเรื่องผ่านตัวละครแรก และตัวละครที่สอง ยังไม่สังเกตเท่าไรมาชัดเจนตอนเล่าถึงตัวละครที่สาม คือใช้ ‘คุณ’ เป็นสรรพนามบุรุษที่หนึ่งซึ่งแปลกมาก[…]

เรื่อง หลับฝันดีนะแม่จ๋า ผู้แต่ง ซอมีแอ ผู้แปล วิทิยา จันทร์พันธ์ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161837532 ความทรงจำแรกสุดของคุณคืออะไร? ครั้งหนึ่งที่ร่วมกิจกรรม Quiet Book Club กับเพจ nananatte สมาชิกคนหนึ่งนำหนังสือเล่มนี้มาอ่าน นอกจากอ่าน เธอยังเป็นผู้แปลหนังสือเล่มนี้ด้วย .. ในวันนั้น .. คุณจ๋าถามเราด้วยคำถามข้างต้น มันเป็นคำถามที่ตัวละครหลักในเรื่องให้ความสำคัญ เขาเชื่อว่า ความทรงจำแรกที่เกิดขึ้น กำหนดชีวิตในอนาคตของคนคนนั้น มาวันนี้ .. ตอนที่เริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้ คำถามเดียวกัน ก็หวนกลับมาในห้วงความคิดอีกครั้ง ตัวละครหลักของเรื่องนี้มี 3 คน คือ ยูนฮายอง เด็กหญิงวัย 11 ขวบ ที่พ่อแม่หย่าร้าง แม่เพิ่งตายลงได้ไม่นาน และบ้านที่อยู่กับตายายไฟไหม้ ซอนกยอง เจ้าหน้าที่สาว ที่ทำงานเกี่ยวกับด้านอาชญาวิทยา และ เจซอง คุณหมอพ่อหม้ายที่เพิ่งแต่งงานใหม่ อันที่จริงยังมีฆาตกรต่อเนื่องอีกหนึ่งคน ชื่อ อีบยองโด เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญของเรื่อง[…]

เรื่อง แรงอาฆาตจากกระจกไร้เงา ผู้แต่ง ริคาโกะ อากิโยชิ ผู้แปล ฉวีวงศ์ อัศวเสนา สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161837419 เพราะว่าโดนตกจาก เด็กสาวฆาตกร เลยทำให้เราตัดสินใจซื้อเล่มนี้ จากนักเขียนคนเดียวกันมาลองอ่าน ซึ่งหลังจากอ่านเล่มที่สองแล้ว ยังไม่ผิดหวังค่ะ คุณนักเขียนเตรียมขึ้นแท่นเป็นนักเขียนเจ้าประจำของเราได้เลย 🙂 การหลงลืมไปแล้วสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วตื่นขึ้นมาพบกับความจริงว่า จากเด็กมัธยมที่ตัวเองเคยเป็น กลายเป็นคุณป้าวัยสี่สิบเพียงชั่วข้ามคืน หนำซ้ำพ่อแม่ยังตายไปแล้ว จากเหตุฆาตกรรมไม่เลือกหน้า ของคนร้ายที่มีฉายาว่า ปีศาจฆาตกร!! ที่แย่ไปกว่านั้น .. ก่อนจะมาตื่นขึ้นในโรงพยาบาลในครั้งนี้ ตัวเองเป็นคนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจเอง ว่าได้ฆ่าคนตาย .. ความรู้สึกว่าได้กำมีดเอาไว้แน่นหนา กับกองเลือดท่วมท้น ยังคงค้างคาอยู่ปลายความรู้สึก แต่นอกจากนั้นแล้ว เธอจำอะไรไม่ได้เลย!! หนังสือเล่มนี้ถ่ายทอดการสืบค้นคดีฆาตกรรมไร้พยาน และแม้แต่ตัวผู้ก่อเหตุเอง ก็จำอะไรไม่ได้ด้วย ส่วนมาก เวลาอ่านนิยายสืบสวน ผู้เขียนมักเขียนให้ตำรวจเก่งกาจ มีสัญชาตญาณพิเศษ แต่กับตำรวจในเรื่องนี้ คิริทานิ ยูกะ มีความเป็นคนธรรมดาสูงมาก เธอมีความรู้สึกโกรธเกลียดผู้ร้าย เห็นอกเห็นใจผู้ถูกทำร้าย มีความลังเล สับสนต่อข้อมูลที่ได้รับ ตัดสินใจไม่ได้แน่ว่าใครเป็นคนร้าย[…]

เรื่อง มนุษย์ตุ๊กตาผู้แต่ง ฮิงาชิโนะ เคโงะผู้แปล ธีรัตต์ ธีรพิริยะสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161822941 เรื่องนี้ ไม่มีคนตาย ..เอ๊ะ!! หรือว่ามี? ..คงขึ้นอยู่กับว่า เราวัดค่าความตายของคนกันที่ตรงไหนนั่นแหละ หนังสือเริ่มต้นบนความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยา ที่กำลังตกลงจะหย่ากันในช่วงเวลานั้นเอง ลูกสาวคนโตวัย 6 ขวบ เกิดอุบัติเหตุทางน้ำและกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราหลังจากนั้น ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป .. มนุษย์ตุ๊กตา เป็นเรื่องที่บีบหัวใจคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่ใช่น้อยผู้เขียนหยิบประเด็นของผู้ป่วยสมองตาย และการบริจาคอวัยวะมาเขียนซึ่งทำได้ดีงาม ละเอียดอ่อน และรอบด้าน กาลครั้งหนึ่ง เราเคยคิดถึงเรื่องการบริจาคอวัยวะ ทั้งของตัวเองและคนใกล้ชิดและยังคาบเกี่ยวไปยังเมื่อครั้งดูละคร หรืออ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เคยสมมติเหตุการณ์ว่า วันหนึ่ง ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเราจะบริจาคอวัยวะที่ว่านี้ไหม ..  ซึ่งคำตอบก็คือ น่าจะบริจาค .. เพราะถ้าตัวเองใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้วก็ควรจะส่งต่อให้ไปเกิดประโยชน์กับผู้อื่นแต่ มนุษย์ตุ๊กตา พาให้เราไปยืนอยู่ ณ จุดนั้นจริงๆความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นจริงๆขณะที่ยังไม่รู้สึกว่าลูกของเราได้จากไปแล้วในความรู้สึกค้างคานั้น เราจะสามารถตัดใจ มอบอวัยวะของเขาให้คนอื่นต่อได้จริงๆ หรือ?หนังสือทำให้เราเข้าใจถึงอารมณ์ของคนเป็นพ่อเป็นแม่ หรือแม้แต่ญาติสนิทที่ต้องรับบทเป็นผู้ที่ต้องตัดสินใจในสถานการณ์นี้ ในค่ำคืนที่ตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งดูแลรักษาชีวิตของลูกสาวต่อไปหรือตัดใจบริจาคอวัยวะ แล้วสูญเสียเธอไปไม่ว่าเลือกทางใดทางหนึ่งหากวันเวลาผ่านไป จะย้อนกลับมาถามตัวเองหรือไม่ว่าเส้นทางที่เลือกในครั้งนั้นถูกต้องแล้วและถ้าวันนั้นตัดสินใจเลือกอีกทาง ชีวิตตอนนี้จะเป็นเช่นไร? นอกจากถ่ายทอดความรู้สึกของฝ่ายผู้ที่สามารถบริจาคอวัยวะได้แล้วในส่วนต่อมา ผู้เขียนยังเล่าจากมุมมองของผู้ที่เป็นฝ่ายรอรับการบริจาคด้วยและเงื่อนงำในส่วนนี้ ยิ่งทำให้หนังสือลึกซึ้งมากขึ้นไปอีกคุณเคโงะไม่เคยเขียนอะไรชั้นเดียวเลย[…]

เรื่อง เด็กสาวฆาตกรผู้แต่ง ริคาโกะ อากิโยชิผู้แปล ธนพล ศักดิ์สมุทรานันท์สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161836535 เด็กสาวฆาตกร เปิดเล่มด้วยบทสนทนาของเด็กสาวมัธยมคนหนึ่งเธอมีชื่อว่าซายูริ สุมิกาวะ เป็นประธานชมรมวรรณกรรมของโรงเรียนเซนต์มารีย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วนแห่งหนึ่งบทสนทนา ซึ่งจริงๆ ควรเรียกว่าบทสาธยายเพราะเธอพูดเรื่อยมาอยู่คนเดียวตลอดทั้งบทท่ามกลางผู้ฟังราว 5 คน .. ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียนหญิงที่อยู่ในชมรมเดียวกัน การเปิดเรื่องแบบนี้ ชวนให้เรานึกถึงครั้งแรกที่อ่าน คำสารภาพ ของ มินะโตะ คะนะเอะให้อารมณ์ความรู้สึกเดียวกันเลย .. แต่เมื่อเจอเป็นครั้งที่สอง จึงลดความแปลกใจลงการดำเนินเรื่องแบบนี้จบลงเพียงแค่บทแรกบทต่อมา ผู้เขียนเปลี่ยนมาเป็นการเล่าเรื่องด้วยเรื่องสั้นหนึ่งบท คือหนึ่งเรื่อง ซึ่งยังคงวิธีเล่าโดยใช้สรรพนามบุรุษที่ 1หากแต่เปลี่ยนมุมมองผู้เขียนกันไป บทละคน สถานที่ที่ซายูริกำลังพูดอยู่นี้ คือห้องชุมนุมอันหรูหราซึ่งกำลังจัดกิจกรรมที่มีชื่อว่า หม้อไฟในความมืดอันที่จริง กิจกรรมนี้ก็ฟังดูน่าสนุกดีเพราะมีกติกาให้ทุกคนนำของที่ชอบ มาใส่ลงในหม้อไฟซึ่งตั้งตรงกลางโต๊ะห้องซึ่งถูกหรี่ไฟให้มืดไว้นี้ ทำให้ทุกคนมองไม่เห็นของที่คนอื่นนำมาดังนั้น เมื่อคีบอะไรขึ้นมาได้ ก็จะต้องกินสิ่งนั้นให้หมดก่อนจะคีบชิ้นต่อไปและทุกคนในชมรม จะต้องช่วยกันกินของที่ทุกคนนำมาให้หมด แต่จริงๆ แล้ว กิจกรรมที่ว่านี้ ถูกจัดขึ้นหลังจากที่อิทสึมิ ชิราอิชิ ประธานชมรมคนก่อนเพิ่งเสียชีวิตอย่างปริศนาไปเพียงหนึ่งสัปดาห์นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า สมาชิกชมรมคนหนึ่งเป็นคนฆ่าเธอด้วย อีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกกำหนดให้ทำควบคู่ไปกับกิจกรรมหม้อไฟในความมืดนี้คือการอ่านเรื่องสั้น ที่สมาชิกชมรมแต่ละคนเขียนขึ้นมาเองโดยกำหนดเป็นพิเศษสำหรับครั้งนี้ ให้มีหัวข้อของเรื่องสั้นเอาไว้ด้วยหัวข้อที่ว่านั้นก็คือ[…]

เรื่อง แรกรักผู้แต่ง อินุอิ คุรุมิผู้แปล ปาวัน การสมใจสำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์เลขมาตรฐานหนังสือ 9786161826192 หนังสือเล่าถึงความรักแบบหนุ่มสาวที่เริ่มต้นจากความยังเอิญ และการนัดเดทเป็นกลุ่มคู่หนึ่งในนั้นถูกใจกันตั้งแต่แรกพบ และสานต่อความสัมพันธ์กันต่อมาพวกเขาพบกัน แลกหนังสือกันอ่าน ดื่มกิน พูดคุย และมีความสัมพันธ์กันความรักเติบโตขึ้นแลัวฝ่ายชายที่เป็นชายหนุ่มจืดๆ ก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ..เรื่องราวยังคงดำเนินไป และเราก็อ่านไป ครุ่นคิดไป .. คาดว่าใครหลายคนที่รู้จักหนังสือเล่มนี้ คงได้ยินคำบรรยายสรรพคุณของมันมาบ้างไม่มากก็น้อยที่เลือกเล่มนี้มาอ่าน ก็เพราะเหตุผลเดียวเลยเราอยากรู้ว่าการหักมุมด้วยประโยคสุดท้ายเพียงประโยคเดียวนั้นมันเป็นยังไงและความรู้สึกแบบไหนที่ทำให้คนอ่านอยากย้อนกลับไปอ่านใหม่ทั้งหมด! เรื่องราวดำเนินไปเรื่อยๆ เบื่อๆ นิดๆหนังสือเล่าเรื่องราวความรักของชายหญิงแบบไม่มีอะไรแปลกมีพัฒนาการไปบ้างระหว่างที่ความรักดำเนินไปอารมณ์ขึ้นลงไปกับการกระทำของตัวละครบ้าง แต่ก็ไม่หวือหวาอะไรจนกระทั่งถึงตอนจบ .. อะไรฟระ!! อืม .. นี่สินะ ที่คนเขาพูดกัน .. แม้จะตั้งใจเกร็งรอความหักมุมอันลือเลื่องนั่นเอาไว้แล้วแต่เราก็ยังจับไม่ได้อยู่ดี งงอยู่ดีแต่อารมณ์อยากอ่านซ้ำนี่ไม่มีนะpantip เท่านั้นที่ช่วยเราได้ .. ทางลัดนี่จะว่าดีก็ดี ไม่ดีก็ไม่ดีเนอะ ผลก็คือ อืม .. เก็ทแล้ว เข้าใจแล้วแต่นอกเหนือจากความหักมุมที่ว่าแล้วเราไม่ค่อยสนุกกับมันเท่าไรเลยเราว่า ถ้าเราจับทริคคนเขียนได้เองอาจทำให้เราฟินกว่านี้ สนุกกว่านี้แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังยืนยันว่า .. เราไม่คิดจะอ่านซ้ำตามคำโปรยอ่ะ .. จบแล้วค่ะ รีวิวแบบไม่สปอยล์ ..ลึกๆ ในใจอยากรีวิวแบบสปอยล์ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกันนะเขียนเป็นไทม์ไลน์เลย[…]