เรื่อง แอบรักหมาชาวบ้าน รวมเรื่องสั้นแห่งห้วงอ้างว้างอันแสนพิสุทธิ์ ของผู้เขียนม้าก้านกล้วย ผู้แต่ง ไพวรินทร์ ขาวงาม สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744750969 แอบรักหมาชาวบ้าน เป็นรวมเรื่องสั้นที่เขียนขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2535 – 2550 ไม่รู้ทำไม เรารู้สึกว่ามันเป็นรวมเรื่องสั้นเพื่อมนุษย์ผู้ชายอ่านมากกว่าผู้หญิง ลงลึกเข้าไปสำรวจหัวจิตหัวใจของลูกผู้ชายอย่างเฉพาะเจาะจง ผู้หญิงอ่าน อาจจะไม่ได้รู้สึกร่วม หากแต่ก็ได้แง้มหัวใจเพศตรงข้ามออกศึกษา ในเล่มเป็นรวมเรื่องสั้นเนื้อเรื่องอ่านไม่ยาก ไม่ต้องตีความ เน้นหนักในวิถีชาวต่างจังหวัด ที่ใช้ชีวิตอยู่ในซอกหลืบของเมืองหลวง ไม่ได้เน้นที่ความยากลำบาก แต่เน้นที่ความสัมพันธ์ในครอบครัว, ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง เรื่องราวกล่าวถึงหญิงขายบริการ และการชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายตอน จนมองคล้ายเป็นเรื่องสามัญ? มีรักและเซ็กส์ที่ใช้กันจนเกร่อ คงจะเกร่อเกินไปในสังคม จนล้นหลงมาปนในหนังสือเล่มนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวของมิตรภาพและผองเพื่อน เราชอบตอน ‘ดาราขี้เหร่’ มันมีความโรแมนติกแทรกอยู่ในชีวิต และมีความขมที่ไม่ดาร์กจนเกินไป แทรกปนอยู่ในความโรแมนติกนั้นด้วย อีกเรื่องที่ชอบมาก คือเรื่องที่มีชื่อเดียวกับเชื่อเล่ม ‘แอบรักหมาชาวบ้าน’ เป็นเรื่องสั้นที่น่ารักมาก โดยเฉพาะคนชอบหมาแต่ไม่ได้เลี้ยงหมาอย่างเรา อ่านแล้ว อารมณ์ร่วมมาเต็ม ยิ้มกว้างไปกับอากัปกิริยาของไอ้เสือทั้งสองตัวในเรื่อง ที่ผู้เขียนเพียรแอบมอง แอบรัก โดยรวมถือว่าเล่มนี้เป็นรวมเรื่องสั้นที่อารมณ์กลางๆ[…]

เรื่อง นักเล่านิทาน ผู้แต่ง นิพัทธ์พร เพ็งแก้ว สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744750006 เรื่องเล่าประสบการณ์เชิงสารคดี แต่ถึงจะเป็นสารคดี ก็เป็นสารคดีแบบสนุกๆ มีเกร็ดขำๆ ให้อ่านแล้วนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว ด้วยความที่ผู้เขียน (น่าจะ) เป็นคนคุยสนุก นอกจากชอบเล่าแล้วยังช่างซัก ชักถาม ช่างจด เก็บข้อมูลจากคนเฒ่าคนแก่ในทุกที่ที่เธอไป (ไม่เว้นแต่แต่ขณะเดินทางก็ถามคนขับนี่แหละ) มันสนุกและตื่นเต้น เวลาที่ผู้เขียนได้ข้อมูลจากที่หนึ่งและอีกที่หนึ่ง มาผสมรวมกันเป็นคำตอบที่เป็นความลับของประวัติศาสตร์มานานแสนนาน ด้วยความที่ช่างถาม ช่างเก็บข้อมูล ทำให้เธอออกจะเป็นนักประวัติศาสตร์เดินได้อยู่เหมือนกันนะ มีเรื่องเล่าที่น่าฟัง (คือเธอเกริ่นๆ ไว้แต่ยังไม่เล่า) อยู่หลายเรื่องทีเดียว มีมากเสียจนอยากจะขอให้เธอไม่ต้องทำงานอะไรแล้ว นั่งเขียนหนังสืออย่างเดียวเถิด 555 เราชอบตอนที่ตรงกับชื่อเรื่องที่สุด ตอนที่เล่าเรื่องของเล่นก็สนุก จริงๆ เล่านิทานทั้งเล่มเลยก็น่าจะดี เสียดายอยู่แต่ว่า ไม่น่าไปมัวเล่าเรื่องผัวๆ เมียๆ ตอนต้นเล่มให้หลุดคอนเซ็ปต์เลย กลายเป็นหนังสือจัดเรทลำบากไปอีก เราชอบที่มันเป็นเรื่องโบราณเก่าๆ เกิดทันมั่ง เคยฟังเขาเล่ามาอีกทีบ้าง พออ่านแล้วก็มีอารมณ์ร่วมว่าเราผ่านยุคเดียวกันมา อ่านแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่าคนไทยเราทุกวันนี้รากมันหดหายไปทุกที ไม่ต้องไปดูคนอื่นคนไกล ดูที่ตัวเองนี่แหละ ย้อนนึกไปถึงเรื่องที่แม่คอยเล่า[…]

เรื่อง ชูมาน ผู้แต่ง พิบูลศักดิ์ ละครพล สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ (สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์) เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744754028 ฉากชีวิตที่เชียงใหม่ และวัยเรียน (มหาวิทยาลัย) ในยุคที่หนังสือ ภาพยนตร์ และดนตรี คือความสุขของผู้คน โดยเฉพาะวัยรุ่น ชีวิตที่วัยรุ่นจีบกันด้วยการขี่จักรยานไปเที่ยวด้วยกัน .. ธรรมดา แต่ใสสะอาด ภาษาของคุณพิบูลย์ศักดิ์ ละครพล มีรสหวาน มีอวลไอแห่งอดีตห้อมล้อมเป็นควันจางๆ ความรักของวัยเยาว์ รักครั้งแรก ความเหงา ความฝัน .. ไม่ได้ตะลุยอ่านนิยายรวดเดียวจบแบบนี้มานานแล้ว แม้จะไม่ใช่เรื่องยาวนัก และเหมือนจะไม่มีอะไรมาก แต่มันสวยงาม .. ภาษาของเขาดึงความรู้สึกร่วมของเราออกมา เป็นความเย็นใจที่เกิดขึ้นขณะอ่าน

เรื่อง ฟื้น ผู้แต่ง โจน โลเวอรี่ นิกซอน ผู้แปล จิตต์สุภา แซ่ฉิน สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744751119 เรื่องราวของเด็กหญิงที่ถูกยิง และกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา สเตซี่ในวัย 13 ปี กลับมาบ้านและพบว่ามีใครบางคนบุกเข้ามาในบ้าน ยิงแม่ของเธอ ฆาตกรเห็นเธอ และยิงเธอด้วยอีกคน ความจำเธอหยุดนิ่งอยู่ในวันนั้น ก่อนจะหลับลึกไป 4 ปี สเตซี่ฟื้นมาอีกครั้งในอายุ 17 ปี .. เธอตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่า .. ชีวิตนับจากวัย 13 ปีของเธอได้พลิกผันไปอย่างที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกเลย เธอเป็นพยานเพียงคนเดียวที่เห็นหน้าฆาตกรที่ฆ่าแม่ แต่ที่โชคร้ายคือ ความจำส่วนนั้นได้หายไปเมื่อเธอตื่นขึ้นมา ความทรงจำที่สูญหายนี้กำลังค่อยๆ กลับมา .. แต่มันต้องใช้เวลา เธอจะต้องนึกหน้ามันให้ออก ก่อนที่มันจะตามหาตัวเธอพบ!! โดยรวมแล้ว นับว่าเป็นหนังสือที่มีพล็อตที่น่าสนใจเลย แต่หนังสือเล่มนี้มีดีแค่พล็อตเท่านั้นเอง การนำเสนอ วิธีเล่าเรื่องห่วยมาก ผู้เขียนใช้บทสนทนาในการเล่าเรื่องเป็นหลัก ส่วนที่บรรยาย ก็มักเป็นการพร่ำพรรณนาถึงตัวเองของสเตซี่ การบรรยายบรรยากาศโดยรอบทำได้ไม่ดี เสียดายที่ใช้ภาษาได้ไม่คุ้ม[…]

เรื่อง ขุนทอง…เจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง ผู้แต่ง อัศศิริ ธรรมโชติ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 974991693x ขุนทอง…เจ้าจะกลับเมื่อฟ้าสาง เป็นเรื่องสั้นที่แต่ละเรื่องนั้นสั้นมาก แต่สามารถแปรเปลี่ยนอารมณ์เรากลับไปกลับมาได้เพียงไม่กี่หน้าหนังสือ ผู้เขียนเล่าถึงคนจนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบได้บีบหัวใจ เล่มบางๆ แต่ใช้เวลาอ่านนานมาก เป็นการอ่านที่เหนื่อยมาก อ่านได้แค่วันละเรื่องสองเรื่องเท่านั้นเอง รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2521 เป็นช่วงที่เหตุการณ์เดือนตุลาฯ 2519 ยังสดใหม่ หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้เริ่มต้นและจบท้ายเล่มด้วยเหตุการณ์เดือนตุลาฯ แต่ระหว่างกลางนั้นมิใช่ .. เรื่องสั้นทั้งหมดที่อยู่ระหว่างเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายนั้น ลงลึก ชัดแจ้ง ในเสี้ยวสังคม ทั้งสังคมคนเมือง และสังคมชนบท บางเรื่อง เป็นเรื่องที่หัวใจของคนเป็นแม่อ่านแล้ววิบหวิว บางเรื่อง ได้สวมใส่ความรู้สึกเอาไว้มากมาย ความรู้สึกที่มีต่อระบบระบอบ ความฝัน ความหวัง ความผิดหวัง หมดฝัน ฯลฯ บางเรื่อง เป็นเรื่องที่ตอนอ่านหัวร้อนมาก แต่พอจบก็สลดหดหู่ เรื่องชะตากรรมของคนราคาถูก เรื่องชะตากรรมของคนที่สังคมบังคับให้รับบทผู้ถูกกระทำเสมอ เหมือนอ่านข่าวหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง ที่มีชีวิตของผู้คนเบื้องหลังโลดแล่นให้เราเห็น เราชอบการเล่าเรื่องเพียงฉากเหตุการณ์สั้นๆ แต่ให้ภาพย้อนลึกไปถึงปูมหลัง และอนาคตของตัวละคร[…]

เรื่อง ใบไม้ที่หายไป ผู้แต่ง จิระนันท์ พิตรปรีชา สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ เลขมาตรฐานหนังสือ 9789744754257 ภาษาสวยมาก สัมผัสนอกสัมผัสในครบครันแทบจะทุกบท เป็นหนังสือที่อบอวลไปด้วยก้อนพลัง นับตั้งแต่คำนำคำนิยมจากคุณเสกสรรค์ และคุณเนาวรัตน์ คำนำของเจ้าของบทประพันธ์เอง รวมไปถึงเนื้อหากลอนกวีในเล่ม ถ้าเป็นเมื่อไม่กี่สิบปีก่อน เราสามารถพูดถึงกวีบทนี้ได้โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก เราๆ ต่างเข้าใจกันดีถึงความลึกซึ้งที่ซ่อนอยู่ในบทกวีเหล่านั้น ด้วยความที่คนรุ่นเราเติบโตขึ้นมาหลังยุค 6 ตุลาไม่นาน แม้จะเกิดไม่ทัน แต่ช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่ผันผ่าน บทกวีเหล่านี้ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงอยู่บ่อยๆ กาลเวลาล่วงเลยผ่านไปอีกไม่กี่สิบปี เหล่าเราก็ค่อยหลงลืมบทกวีบริสุทธิ์เหล่านี้จนหมดสิ้น หลงลืมไปว่าใบไม้ที่ว่าคืออะไร หลงลืมไปว่า ใบไม้ที่ร่วงหล่นกลบทับนับไม่ถ้วนในยุคนั้น ร่วงลงไปเพื่ออะไร วัฏจักรคงวนมาอีกครั้งตามธรรมดาโลก หากไม่รู้จักเรียนรู้จากอดีต เหตุการณ์คงไม่แคล้วจะซ้ำรอย .. ใบไม้ใบใหม่คงไม่แคล้วร่วงทับถมลงซ้ำซากใบไม้ใบเดิม ความในใจจากกวีถึงกวีในท้ายบท ยิ่งก่นกดความรู้สึกให้นึกพล่าน ทั้งตื้นตัน ทั้งชื่นชม เต็มไปด้วยพลังและความรู้สึก เป็นหนึ่งในหนังสือที่อยากชวนคนไทยให้อ่านจริงๆ ค่ะ

เรื่อง ข้าวคลุกแมว ผู้แต่ง จำลอง ฝั่งชลจิตร สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคา 150 บาท อ่านเรื่องของแมวจบไปเล่มหนึ่ง ก็หยิบเรื่องของแมวอีกเล่มมาอ่านต่อค่ะ เวลาอ่านหนังสือสนุกจัดๆ จบไปแล้ว เล่มต่อมาค่อนข้างรับเคราะห์ค่ะ เพราะมันจะถูกเปรียบเทียบกับเล่มที่เพิ่งจบไปอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว ข้าวคลุกแมว เล่าเรื่องครอบครัวเรียบง่ายเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง มีพ่อเป็นนักเขียนไส้แห้ง มีแม่เป็นแม่บ้าน ลูกสาวคนโต ลูกชายคนเล็ก และแมวที่ทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ผู้เขียนเล่าเรื่องเรียบๆ สำนวนไหลลื่นดี แต่เนื้อเรื่องไม่มีจุดหมายปลายทางให้ติดตาม อ่านได้เรื่อยๆ แต่จะวางเมื่อไหร่ก็ได้เหมือนกัน แม้เนื้อเรื่องโดยตลอดจะเรื่อยๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่เราสัมผัสได้ว่าผู้เขียนรักแมวอย่างจริงจัง เนื้อในของเรื่องที่เขาเล่า ก็สอดแทรกรายละเอียดของแมวที่บาดเจ็บ และตายจากเพราะมนุษย์อยู่หลายช่วง ทั้งที่จงใจให้มันตาย และขับรถชนอย่างไม่ได้ตั้งใจ แมวเหล่านั้นก็มีชีวิต มีลูกที่รอมัน มีคน (เจ้าของ) ที่รักมัน เหมือนๆ กับเราเหมือนกัน ถือว่าเป็นเล่มที่อ่านได้เพลินๆ มีกลิ่นอายแบบวรรณกรรมเยาวชน ผู้ใหญ่อ่านได้ เด็กอ่านดี .. โดยเฉพาะเด็กที่รักแมว หรืออยากให้รักแมวค่ะ[…]

เรื่อง ข้ามภพ ข้ามชาติ ผู้แต่ง ครู ข้างวังฯ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคา 165 บาท พล็อตของการระลึกชาติ ข้ามภพชาติ ทะลุมิติ ถูกหยิบมาเขียนแล้วเขียนอีกมานับไม่ถ้วน โดยทุกเรื่องต่างพยายามฉีกแนวหนีออกไปจากแบบเดิมๆ ที่เคยมีอยู่ แต่ ข้ามภพ ข้ามชาติ กลับหยิบเนื้อหาเรื่องนี้มาเขียนได้อย่างเป็นธรรมดาสามัญที่สุด เรียบง่ายที่สุด หากแต่ก็จริงที่สุด กินใจ และเร้าอารมณ์ไม่ด้อยไปกว่าเรื่องก่อนใดที่เคยมีมาก่อนเลย เสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่ความเรียล มันดูจริง เหมือนจริงมากจนก้ำกึ่งอยู่ในใจตลอดเวลาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง ข้ามภพ ข้ามชาติ เป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่มีความฝันซ้ำๆ ติดต่อกันมาตั้งแต่เด็ก เธอฝันถึงเพื่อนๆ ที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง ฝันถึงสถานที่ที่เธอไม่เคยไป .. จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง ที่เธอได้พบรูปซึ่งยืนยันตัวตนของเพื่อนทั้ง 9 และได้พบสถานที่ที่เดียวกับในฝัน สถานที่อันคุ้นเคย และในตอนนั้น ภาพของเพื่อนคนหนึ่งใน 9 ก็ปรากฏแก่สายตาของเธอ เพื่อน มาเพื่อเตือนถึงข้อผูกพันในอดีต สัญญาที่เธอเคยให้ไว้ และยังทำไม่สำเร็จ แม้เพื่อนๆ ทั้ง 8 คน จากล้มหายตายจากไปแล้ว[…]

เรื่อง กระเตงลูกเที่ยว ผู้แต่ง ธีรภาพ โลหิตกุล สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคา 180 บาท แรกเริ่มเดิมทีเราเองก็ไม่ได้เป็นแฟนงานเขียนของคุณธีรภาพหรอกค่ะ ซื้อหนังสือเล่มนี้ก็เพราะคำสองคำ .. คำว่า “ลูก” กับคำว่า “เที่ยว” บนปกนี่แหละ ดังนั้น การรีวิวหนังสือเล่มนี้ จึงรีวิวเฉพาะหนังสือเล่มนี้ล้วนๆ ไม่มีข้อมูลใดให้เปรียบเทียบกับหนังสือเล่มก่อนเก่าของนักเขียนท่านนี้เลยแม้แต่น้อย .. กระเตงลูกเที่ยวเล่มนี้ แตกต่างแบบไปคนละทางเลยกับ สายเดี่ยวเที่ยวธรรมชาติ ของดร.ธรณ์ เพราะเล่มนั้นเล่าเหตุการณ์ไปตามท้องเรื่อง มีตัวละครรอบตัวนำพาเหตุการณ์ไป แต่ในเล่มนี้ ผู้เขียนไม่ได้กล่าวถึง “ลูก” ในการเที่ยวเลย เพียงแต่ยกสถานที่ที่เหมาะสำหรับเด็กๆ มาผนวกกับข้อมูลในเชิงสารคดี ความรู้ทางด้านสังคมศาสตร์ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์เอาไว้อย่างน่าอ่าน สถานที่ที่ยกมาล้วนแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่ว่าจะเช้าไปเย็นกลับ หรือจัดทริปสั้นๆ ช่วงสุดสัปดาห์ เที่ยวติดต่อในละแวกใกล้เคียงกันสัก 3-4 ที่ หรือแม้แต่ในกรุงเทพฯ เอง ก็มีสถานที่น่าเที่ยวอีกไม่น้อยทีเดียว ปิดท้ายแถมพกในแต่ละบทด้วยข้อมูลการท่องเที่ยวนิดหน่อย ทำให้รสชาติของหนังสือสองเล่มนี้แตกต่างกันไปอย่างผิดคาด[…]

เรื่อง ความสุขของกะทิ ตอน ในโลกใบเล็ก ผู้แต่ง งามพรรณ เวชชาชีวะ สำนักพิมพ์ แพรวสำนักพิมพ์ ราคา 129 บาท จาก ความสุขของกะทิเล่มแรก กระโดดข้ามมายังเล่มที่สามเล่มนี้ เราว่ากะทิกลับมาเรียบง่าย ใช้คำน้อยแต่งดงามได้อีกครั้ง เราชอบการตั้งชื่อตอนในเล่มนี้มาก ที่เลือกของสองสิ่งที่คู่กันโดยมีคำว่า กับ คั่นกลางหมดทุกตอน หลายตอนเป็นชื่อนิทาน อย่างเช่น หมาป่ากับลูกแกะ ราชสีห์กับหนู เจ้าหญิงกับเมล็ดถั่ว ฯลฯ เป็นการอุปมาโดยใช้นิทานแทรกเข้ามาในเรื่องราวของกะทิ เป็นเอกลักษณ์ที่ผู้เขียนสร้างสรรค์มาโดยตลอด แต่ลงตัว กลมกลื น่ารัก เข้ากับเนื้อเรื่องได้ดี มาถึงเล่มสุดท้าย กะทิโตเป็นสาวจวนจะเข้าชั้นมัธยมปลายแล้ว กำลังเตรียมตัวสอบเข้าชั้นมัธยมปลายที่กรุงเทพฯ ในเล่มนี้ กะทิมีเรื่องสำคัญบีบคั้นหัวใจให้ต้องตัดสินใจ เป็นตอนสำคัญที่กะทิจะได้พบกับพ่อ ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของพ่อ และได้รับรู้ถึงความรักและการปกป้องที่คนรอบตัวมีให้แก่กะทิ เป็นกะทิตอนที่ดราม่ามาก มากขึ้นได้เรื่อยๆ จากตอนแรกที่ก็เศร้ามากอยู่แล้ว แต่ผู้เขียนก็ยังสามารถหาตอนจบลงได้อย่างสวยงามสำหรับทุกฝ่าย สวยงามและเพอร์เฟ็คจนเกินจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงด้วยซ้ำ สิ่งหนึ่งที่เราชอบคือ ชอบที่ผู้เขียนคงเส้นคงวาในบุคลิกลักษณะของตัวละคร คืออ่านแล้วเชื่อได้ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตัวละครตัวนี้จะต้องทำเช่นนี้แหละ ลุงตองก็ตัดสินใจแบบนึง[…]