เรื่อง คนจรดาบ ผู้แต่ง วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9789740217718 เหตุการณ์ในเล่มนี้เกิดขึ้นในช่วง 7 ปีก่อนอยุธยาเสียกรุง เป็นต้นแผ่นดินของพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของอยุธยา ในตอนนั้น ยังมีทหารในปกครองของพระยายมราช อันเลื่องชื่อลือนามว่าเป็น 7 ขุนเวียงนาครบาล แห่งกรุงศรีอยุทธยา ขุนเวียงทั้ง 7 ล้วนเก่งกล้าสามารถไม่มีใครเทียบ เรื่องเปิดฉากขึ้นที่เพ็ชร์บุรี อันเป็นหัวเมืองชั้นเอกในขณะนั้น ในตอนที่เปิดเรื่อง ขุนเวียงทั้ง 7 ถูกมอบหมายภาระหน้าที่ให้ไปสืบข่าวการลอบฆ่า เจ้าพระยาอคมหาเสนาบดี สมุหพระกลาโหม คนเก่า โดยมือสังหารประกอบไปด้วย อ้ายดำท่าแพร และพวก 4 ผีดาบ การสืบข่าวที่ว่านี้ กลับมาเจอต้นตออยู่ที่เมืองเพ็ชร์บุรีนี้เอง 7 ปีสุดท้ายนั้น อยุธยากำลังสุกงอมได้ที่ มันเป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองไม่สงบสุข ผู้คนอดอยากยากแค้น เหล่าพ่อค้านายบ่อนก็ยิ่งเอาเปรียบ ทั้งรีดไถ ขูดเลือด สร้างความไม่เป็นธรรมต่างๆ นานา จนแม้กระทั่งทำผิดกฎหมาย ก็ยังไม่นับเป็นความผิด เพราะประจบสอพลอขุนนางอัปรีย์ขี้ฉ้อ[…]

เรื่อง ฟายน์แมน อัจฉริยะโลกฟิสิกส์ Surely you’re joking Mr.Feynman ผู้เขียน ริชาร์ด ไฟน์แมน ผู้แปล นรา สุภัคโรจน์ สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9789740202097 หนังสือเล่มนี้ผ่านตาผ่านใจเราไปไกลมาก ไม่เคยมีความคิดที่จะซื้อ หรือแม้แต่จะหยิบมาลองเปิดดูเลย เพราะคำว่า ฟิสิกส์ แท้ๆ ถ้าไม่ได้คุณแทนไทป้ายมาในงาน books & beers ในกาลครั้งหนึ่ง เราก็คงจะไม่สะดุดหู สะดุดใจ และนั่นเป็นครั้งแรก ที่ทำให้เรากลับไปขวนขวายหาหนังสือที่ขาดตลาดไปแล้วเล่มนี้ นี่ไม่ใช่หนังสือทฤษฎีฟิสิกส์จ๋าอ่านยากเลย แล้วก็สนุกด้วย ไม่รู้สึกเหมือนกำลังอ่านอัตชีวประวัติของนักฟิสิกส์รางวัลโนเบลตรงไหนเลย เหมือนกำลังฟังผู้ชายที่น่าสนใจคนหนึ่ง กำลังเล่าเรื่องนานาวีรกรรมตลกๆ ที่ตัวเองเคยสร้างเอาไว้มากกว่า มันเจ๋งมาก เขาเป็นคนที่เจ๋งมาก ฟายน์แมนเป็นพวกชอบแก้ปัญหา เขาเป็นคนที่คิดนอกกรอบ ไม่ใช่ในเชิงของการแก้สมการยาวยาก แต่เป็นการคิดนอกกรอบกับทุกเรื่องในชีวิต แม้แต่เหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน เราชอบที่เขาทำทุกอย่างด้วยความสนุก ถ้าไม่สนุกความคิดก็จะตีบตันและกดดัน ไม่ต้องไปคิดว่าเราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร มีประโยชน์อะไร แค่สนุกที่จะทำมันเท่านั้น อย่างอื่นจะตามมาเอง เราหลงลืมไปแล้วว่าตอนที่เรายังเด็ก[…]

เรื่อง อยากชวนเธอไปอำผี ผู้เขียน ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์ สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9789740215721 เล่มนี้หยิบเรื่องราวเรื่องงมงายในอดีต ที่ปัจจุบันวิทยาศาสตร์กลับทำได้ หรือสามารถอธิบายได้ รวมไปถึงบางเรื่อง สามารถประยุกต์ไปใช้กับผู้ป่วยได้ด้วย มาเรียบเรียงเล่าเอาไว้เป็นบทตอนสั้นๆ และเพราะหนังสือแบ่งออกเป็นตอนสั้นๆ แต่ละเรื่องที่หยิบมาเล่าน่าสนใจ มันจึงเป็นเล่มที่หยิบมาอ่านได้เรื่อยๆ อ่านง่าย ผู้เขียนมีอารมณ์ขัน บางเรื่องสอดแทรกอารมณ์ประชด เสียดสี ขำขันเบาๆ อ่านสนุกดี ได้ความรู้ด้วย อยากชวนเธอไปอำผี เป็นเล่มที่เปิดโลก และช่วยเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์ให้เข้ามาในชีวิตเรา ได้อย่างแนบเนียน แนะนำค่ะ ^^

เรื่อง เล่นแร่แปลภาพ ประวัติศาสตร์สยามจากเบื้องหลังภาพถ่าย ผู้แต่ง นักรบ มูลมานัส สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9789740217794 เราอ่านเล่มนี้ไม่ค่อยต่อเนื่องเท่าไร ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ เล็มไปทีละหน้า ทีละบท จริงๆ แล้วเล่มนี้เนื้อหาไม่เยอะนะ แล้วก็อ่านสนุกดีด้วย ยิ่งถ้าเป็นคนชอบประวัติศาสตร์นี่ยิ่งอ่านเพลินเลย เราชอบที่เขาโยงข้อมูลจากเรื่องหนึ่งนำไปสู่อีกเรื่องหนึ่ง ชอบวิธีเล่าที่นำพาเราไปเรื่อยๆ แล้วก็ชอบเกร็ดประวัติศาสตร์ต่างๆ ที่เขาแทรกเข้ามา เมื่อผู้เขียนใช้ภาพถ่ายโบราณเป็นตัวตั้ง เส้นเรื่องของประวัติศาสตร์ จึงถูกบอกเล่าออกมาในรูปแบบที่ต่างไปจากเล่มอื่น ผู้เขียนไม่ได้เล่าประวัติศาสตร์ทื่อๆ อย่างซื่อตรง แต่เล่าอย่างวิเคราะห์ด้วยวิจารณญาณ เราว่าส่วนนี้ทำให้หนังสืออ่านสนุก ทำให้เราเห็นภาพบ้านเมืองในสมัยนั้น ภาพความเป็นอยู่ในรั้วในวัง รวมไปถึงภาพฉากการเมืองในราชสำนัก ทั้งในบ้านเรา รวมไปถึงต่างแดน หลากหลายฉาก หลากหลายผู้คน และหลากหลายเรื่องราว เล่มนี้ อ่านสนุกดีค่ะ ^^

เรื่อง เลือดข้น คนจาง ผู้แต่ง ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9789740216629 เลือดข้น คนจาง เป็นเรื่องราวของครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน ครอบครัวใหญ่ตระกูลหนึ่ง ครอบครัวนี้ประกอบไปด้วยลูกชาย 3 คน ลูกสาว 1 คน (และลูกสาวที่เสียชีวิตไปแล้วอีก 1 คน) ทุกคนต่างแต่งงาน มีครอบครัว มีลูกชายลูกสาวแตกต่างกันไป แต่ยังอาศัยอยู่ในเขตบริเวณใกล้เคียงกัน มองจากภายนอก นี่คือตระกูลที่กลมเกลียว และสุขสมบูรณ์ตระกูลหนึ่ง เรื่องเริ่มต้นจากการตายของอากง ประมุขใหญ่ที่สุดของบ้าน ในวันเปิดพินัยกรรม รอยร้าวเล็กๆ ของตระกูล ก็เริ่มผลิรอยให้เห็นชัดเจน ก่อนที่จะมาแตกหักอย่างรุนแรงอีกครั้ง ภายหลังการตายของประเสริฐ พี่ชายคนโตของบ้าน เงื่อนงำการตายของประเสริฐ กลายเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่ทำให้รอยร้าวลึกล้ำภายในของตระกูล ถูกตีแผ่ และถ่างขยาย อดไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องเปรียบเทียบเวอร์ชันหนังสือกับซีรีส์ และเรารู้สึกว่าอรรถรสของการลุ้นระทึก หรือบีบหัวใจนั้น หนังสือทำไม่ได้มากเท่าที่ซีรีส์เคยทำไว้ หนังสือดำเนินเรื่องด้วยบทสนทนาเป็นส่วนมาก บทบรรยายแทบจะไม่ช่วยสร้างความรู้สึกอะไร ทำให้ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องลดลงไป เพราะเราไม่เห็นภาพนักแสดง[…]

เรื่อง คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ ผู้แต่ง ฮารูกิ มูราคามิ ผู้แปล นพดล เวชสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ แม่ไก่ขยัน หนุนหลังโดย สำนักพิมพ์ มติชน เลขมาตรฐานหนังสือ 9743236333 คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ ตัดสลับเรื่องราวระหว่างสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือเด็กชายวัย 15 ที่หนีออกจากบ้าน เขาดำเนินชีวิตเรียบเรื่อย ไม่หวือหวา แต่เราได้รับความรู้สึกของการผจญภัย คาฟกา ทามูระ เป็นชื่อใหม่ที่เขาตั้งให้ตนเอง ชีวิตใหม่ไร้ผู้ปกครอง เขาสิงอยู่ในห้องสมุด ไม่อีกทีก็ใช้ชีวิตกลางป่าเขา ขับเคลื่อนชีวิตไปด้วยความรู้สึกภายใน .. เพื่อตามหาบางสิ่งบางอย่างรางเลือน ส่วนอีกฝั่ง เปิดเรื่องย้อนกลับไปในอดีต ในปี ค.ศ. 1944 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เด็กประถม 16 คน ออกทัศนศึกษาขึ้นไปเก็บเห็ดในป่าโปร่งบนภูเขา ระหว่างทาง เด็กทั้งหมดหมดสติลงเกือบพร้อมกัน ไม่ช้าไม่นาน พวกเขาค่อยฟื้นคืนสติ[…]

  เรื่อง ผุดเกิดมาลาร่ำผู้แต่ง อารยา ราษฎร์จำเริญสุขสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740216285 เรื่องนี้ทั้งรักทั้งเกลียดทีเดียวเชียวยากจะตัดสินลงไปข้างใดข้างหนึ่ง แรกอ่าน .. สำนวนชวนให้คิดถึงวีรพรแต่เรากลับไม่ชอบ รู้สึกอ่านยากกว่าเปิดหน้าแรกมา มีตัวหนังสือไม่กี่บรรทัดแต่เราอ่านวนไปวนมาบรรทัดละหลายรอบนึกว่าตัวเองอ่านตกหล่นไป .. ถ้อยคำไม่เป็นธรรมชาติมัวแต่อ่านสะดุดจนลืมรับสารที่ถูกสื่อมาเป็นแรกพบที่ไม่ประทับใจและเราต้องใช้เวลาปรับตัวต่อมาอีกสักหน้าสองหน้า เปลี่ยนวันอ่าน ในวันที่สมาธิดีๆ แล้วเริ่มใหม่สำนวนแบบนี้ก็ให้อรรถรสไปอีกแบบบังคับตัวเองให้จดจ่ออยู่กับตัวอักษรมากขึ้นถ้อยคำก็สละสลวยดีขึ้นตามกัน จบร้อยหน้าแรกเราเริ่มหลงใหลสำนวนภาษาที่ขัดหูขัดตาเมื่อคราแรกอ่านภาษาไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป ผุดเกิดมาลาร่ำ เป็นการเล่าแบบเนื้อเรื่องครึ่งหนึ่ง ผู้เขียนครึ่งหนึ่งและบางที .. อาจมีผู้อ่านอีกบางเสี้ยวส่วนเรื่องราวที่เป็นดังความหลังของผู้เขียนพาเราย้อนกลับไปยังความหลังของเราวัยเยาว์ การโยกย้าย พ่อและแม่ในทรงจำ ฯลฯความเชื่อมโยงเล็กน้อยค่อยสานต่อเรื่องราวจากอดีตเคลื่อนไปข้างหน้าจากวัยเด็ก .. ล่วงสู่วัยสาว .. สู่ร่วงโรย หลายคาบครานวนิยายถูกแทรกด้วยเรื่องราวเชิงสัญลักษณ์ซ้อนทับโลกจริงเข้ากับจินตนาการบรรเจิดคล้ายชีวประวัติที่ผู้เขียนอยากบันทึกไว้ทั้งหมดหากก็ยังอยากปกปิดบิดพลิ้วบางส่วน สำนวนโดยทั้งเรื่องสลับไปสลับมาไม่สม่ำเสมอภาษาตอนต้นประดิษฐ์เกินไปไม่เป็นธรรมชาติ ต่อเมื่อดำเนินมาถึงกลางเรื่องภาษาเหล่านั้นจึงได้ลดทอนความพิลาศพิไลลงซึ่งมันดูจริงกว่า สัมผัสได้มากกว่าในตอนแรกแต่ภาษาที่ว่านี้ ก็ไม่ได้คงที่แบบนั้นไปตลอดผู้เขียนสลับสำนวนไปมาระหว่างเล่าเรื่องซึ่งเราจับนัยยะสำคัญระหว่างความแตกต่างนี้ไม่ได้ ในแบบอย่างของการเล่าเราเกลียดช่วงเวลาของการทำแท้ง (ซึ่งไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า) ที่สุดผู้เขียนเชื่อมโยงการทำแท้งกับการทำลายล้างภาพจำฝังใจเมื่อวัยเด็กความทุกข์ ความขาดรัก ความโหยหา ความถือดี ฯลฯเหตุการณ์เลวร้ายในบ้านไร้แม่เป็นการเล่าเรื่องที่เราอยากรู้เรื่องหากเมื่อเล่าผนวกไปกับการทำแท้งเราทั้งอยากและไม่อยากอ่านไปพร้อมกัน ในช่วงท้ายของเรื่อง ผู้เขียนผูกตัวละครเอาไว้กับความตายระหว่างอ่าน เราทดลองสืบค้นทาง youtubeและพบว่าหลายชิ้นงานศิลปะที่ผู้เขียนเล่าถึงเป็นชิ้นงานที่ผู้เขียนสร้างขึ้นจริงซึ่งพอได้ดูแบบเป็นภาพเคลื่อนไหวมันสร้างความรู้สึกรุนแรงมากกว่าการอ่านเสียอีกมันปะปนไปกับความตกใจว่าหลายสิ่งไม่ได้เป็นเพียงจินตนาการ .. มันถูกสร้างขึ้นจริง ..จินตนาการจากการอ่านของเราไปไม่ถึงเอาเสียเลย เมื่ออ่านจนจบ เราพบว่าผุดเกิดมาลาร่ำ เป็นหนังสือที่ทำใจรักได้ยากมันมีหลายความรู้สึกปะปน[…]

เรื่อง ในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งผู้แต่ง ภาณุ ตรัยเวชสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740214748 สาธารณรัฐไวมาร์ คือประเทศเยอรมันนี ในช่วงเวลาระหว่างหลังสงครามโลกครั้งที่ 1และก่อนที่ฮิตเลอร์จะกลายเป็นผู้นำประเทศเป็นช่วงระยะเวลาเพียง 14 ปี ที่เยอรมันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีความสับสนอลหม่าน มีทั้งพรรคประชาธิปไตย พรรคคอมมิวนิสต์และผู้คนอันแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย กันออกไปไม่รู้จบ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เล่าถึงฮิตเลอร์เป็นหลัก(มีเพียงตอนต้นนิดหน่อย กับอีกครึ่งหลังของบทสุดท้าย)และไม่ได้เรียงตามไทม์ไลน์ไปตลอดทั้งเล่ม หนังสือถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ด้วยผู้คนที่มีบทบาทต่างๆ ในสังคมมีความเชื่อ มีแนวทางทางการเมืองที่แตกต่างกันไปทั้งนักการเมือง นักวิทยาศาสตร์ นักดนตรี นักกีฬา นักคิด นักเขียน แม้กระทั่งอาชญากร ฯลฯ ในฐานะของคนไม่มีพื้นฐานมาก่อนเราไม่สามารถเห็นภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่ออ่านจบ เราตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้ว ฮิตเลอร์ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำเยอรมันได้อย่างไรเราเห็นแต่ภาพเหตุการณ์เป็นเพียงส่วนๆ เป็นช่วงๆไม่สามารถเล่าเรื่องซ้ำตั้งแต่ต้นจนจบได้เลยในสาธารณรัฐไวมาร์ ฮิตเลอร์ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไม่ได้เป็นหนังสืออ่านง่าย อ่านสนุก สำหรับมือใหม่เราจะต้องมีพื้นฐานมาบ้าง, อ่านไปจดช็อตโน้ตไปหรืออาจจะต้องอ่านมันซ้ำใหม่อีกรอบเท่านั้น ในตอนต้น ผู้เขียนปูพื้นฐานให้กับคนอ่านด้วยเรื่องราวแต่หนหลัง ก่อนที่เยอรมันจะกลายเป็นสาธารณรัฐไวมาร์แนะนำผู้คนชื่อแปลกๆ ประหลาดๆ เป็นภาษาเยอรมันเต็มไปหมด หลังจากปูพื้นด้วยเรื่องเล่าที่วุ่นวาย ยุ่งเหยิง (ต่อการเข้าใจ)ผู้เขียนก็ค่อยๆ หยิบยกสังคมแต่ละมุม ภายใน 14 ปีของไวมาร์ขึ้นมาแสดงให้เราได้เห็น ว่าในขณะนั้น ใครกำลังทำอะไรอยู่บุคคลจากวงการต่างๆ[…]

เรื่อง ราชมรรคาผู้แต่ง อ็องเดร มาลโรซ์ผู้แปล วัลยา วิวัฒน์ศรสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789740212355 เราได้ยินที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้มาก่อนแล้วจากหนังสือเล่มที่อ่านไปก่อนหน้ามันไม่นานตามกลิ่นนางอัปสรา ตามหานครวัด นครธมที่มากกว่าเรื่องราวของหนังสือ คือประวัติส่วนตัวของผู้เขียนที่เคยลักลอบตัดภาพสลักศิลาจากปราสาทบันทายศรีเพื่อจะนำไปขาย แต่ถูกจับได้เสียก่อนแม้ว่าภายในเล่ม จะมีประวัติของเขาต่อจากช่วงนั้นอย่างละเอียดแต่เราก็ติดภาพลบให้ตัวเขาไปก่อนแล้วเราจึงขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าเราอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วยอคติส่วนตัวและรีวิวมันอย่างไม่เป็นกลางเท่าที่ควรค่ะ ราชมรรคา (อ่านว่า ราด – ชะ – มัน – คา) เป็นนิยายที่ถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์ในการลักลอบนำภาพสลักออกจากกัมพูชาของผู้เขียนผนวกกับจากหนังสือชีวิประวัติของนักสำรวจชาวฝรั่งเศสคนอื่นๆผสมกับจินตนาการของผู้เขียนเองมีตัวละครหลักเพียงสองตัว คือโกล๊ด วานเนค กับเพร์เค่นซึ่งได้รู้จักกันบนเรือเดินสมุทร และตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายออกล่าโบราณวัตถุไปตามเส้นทางสาย ราชมรรคา นี้ด้วยกัน โดย ราชมรรคา นั้นหมายถึง เส้นทางโบราณเริ่มต้นจากปราสาทนครวัด กัมพูชาเดินทางผ่านเทือกเขาพนมดงรัก ไปยังเมืองโบราณที่ชื่อพิมายปุระซึ่งก็คืออำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ของเรานั่นเอง ในช่วงต้น ผู้เขียนเน้นไปที่ความยากลำบากในการติดต่อหน่วยงานต่างๆ ของฝรั่งเศสซึ่งตั้งอยู่ในกัมพูชาเพื่อขอเดินทางเข้าไปในป่าพงอันอุดมไปด้วยปราสาทที่ยังไม่ถูกสำรวจ ระหว่างการเล่าเรื่อง ไม่ปรากฏคำบรรยายปราสาทอันสวยงามไม่ได้บ่งบอกที่ตั้งปราสาทไปมากกว่าการบ่นถึงพื้นดินอันเฉอะแฉะหนทางเป็นป่ารกชัฏ และเต็มไปด้วยแมลง หอยทาก และสัตว์เล็กสัตว์น้อยตัวละครตั้งหน้าตั้งตาค้นหาภาพสลักอันสมบูรณ์และมีขนาดพอเหมาะที่จะขุดตัดเจาะ และขนย้ายออกมาได้(ด้วยคนงานพื้นเมืองที่จ้างมา)พวกเขาเดินทางจากปราสาทหนึ่งไปยังอีกปราสาทหนึ่งโดยไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าใดไปมากกว่ามูลค่าของสิ่งที่กำลังค้นหา เรื่องราวที่เล่าในหนังสือเป็นมุมมองจากชาวตะวันตกที่มองกลับมายังคนเอเชียช่วยไม่ได้ที่เราเอาใจช่วยตัวประกอบเล็กๆ น้อยๆ อย่างชาวบ้านหรือคนท้องถิ่นที่โผล่มาตลอดทั้งเรื่องมากกว่าเราไม่เคยทุกข์กับความยากลำบากใดของตัวละครหลักเลย เราอิสระที่จะฝันหากบ่อยครั้ง ความฝันนั้นก็พันธนาการเราเสียเองโกล๊ดผูกติดตนเองอยู่กับความฝัน ..ที่จะนำภาพจำหลักงามๆ สักภาพ[…]

เรื่อง บุกภูเขา เบิกทะเลผู้แต่ง ประพันธ์ ผลเสวกสำนักพิมพ์ มติชนเลขมาตรฐานหนังสือ 9789743239830 บุกภูเขา เบิกทะเล เล่าถึงประสบการณ์การเดินทางไปยังแผ่นดินอันยังไม่เป็นที่รู้จักในยุคตั้งต้นของการถือกำเนิดขึ้นของนิตยสารเพื่อนเดินทาง เมื่อราวปี พ.ศ. 2523 ในเล่มนี้ มีทั้งประสบการณ์การเดินป่า ทั้งผู้คนที่ได้พบ .. เป็นชนเผ่าก็มากโดยผู้เขียนได้ร่วมอยู่ร่วมเป็น และได้เข้าถึงจิตใจของพวกเขาทั้งยังถ่ายทอดความจริงใจ ความมุ่งมั่น รวมไปถึงความบริสุทธิ์เหล่านั้นให้แก่คนเมืองได้อ่าน ได้รับรู้ และได้เข้าใจ .. บ้างสักเศษเสี้ยวก็ยังดี ชนเผ่าที่ว่านั้นได้แก่ ชาวมาบรี (ผีตองเหลือง) ที่ป่าขุนสถาน จังหวัดแพร่และชาวเขาในอีกหลายพื้นที่บนดอยทางเหนือของไทย เฉียดๆ ไปไกลถึงชายแดนพาเราไปรู้จักกับชาวเขาเผ่าต่างๆ เช่นกะเหรี่ยง, ม้ง, เย้า, อะข่า (อีก้อ), ลีซอ, มูเซอ (ลาหู)ได้พาเราไปร่วมพิธีแต่งงานของหนุ่มสาวชาวเย้า ฯลฯได้ไปล่องเรือเที่ยวทะเลระนอง, ภูเก็ต, สะมิลัน (สิมิลัน) ฯลฯได้เที่ยวเกาะช้าง เกาะพยาม เกาะเต่า ฯลฯทั้งยังสอดแทรกเรื่องราว ว่าด้วยคอคอดกระ ฯลฯ ผู้เขียนเป็นผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวในหลายๆ สถานที่ที่ฮิตติดลมบนไปแล้วตอนนี้เล่าเรื่องสนุกดี มีทั้งสาระและอารมณ์ขันปะปนกันไปอ่านแล้ว[…]