เรื่อง แม่น้ำยามศึก ผู้แต่ง อาจินต์ ปัญจพรรค์ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 200 บาท เป็นครั้งแรกที่หยิบงานเขียนของคุณอาจินต์ขึ้นมาอ่านค่ะ พออ่านจบ ก็ประทับตราเอาไว้ในหัวใจเลยว่า คงต้องหาผลงานของนักเขียนคนนี้มาอ่านอีกให้ได้ ไม่รู้ว่าเล่มอื่นเป็นยังไงนะคะ แต่แม่น้ำยามศึกเป็นหนังสือที่ดีมากๆๆๆๆๆๆ เมื่อเปิดเล่ม เราเข้าใจ (เอาเอง) ว่ามันคงเป็นนิยายสักเรื่อง มีพระเอก นางเอก ดำเนินชีวิตไปควบคู่กับวิถีชีวิตริมแม่น้ำสายหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว นิยายเรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นคล้ายกับอัตชีวประวัติของผู้เขียนค่ะ ถ้าพูดให้ถูก ก็น่าจะเป็นการเล่าภาพเหตุการณ์- อันคล้ายคลึงกับความทรงจำที่ผ่านมากของผู้เขียน เกร็ดเสี้ยวประวัติศาสตร์ที่ผู้เขียนเห็นผ่านตามาจริงๆ มันสด มันจริง กว่าเรื่องแห้งที่ถ้าผู้เขียนไม่เคยเห็น เลยต้องเอาจากหนังสือมาเล่า ตัวละครมากมายโลดแล่นอยู่ในเล่มนี้ ทุกคนต่างผลัดกันเป็นพระเอกนางเอกในนิยายชีวิตของตน เขียนได้สมจริงขนาดที่ว่า ขณะอ่าน เราคิดจะวางหนังสือแล้วเดินไปซื้อโอวัลตินที่ร้านเจ๊กไบ๊ เดินไปฟังหมดสนั่นกับครูชื่นถกกันเรื่องสงคราม บางที อาจได้ฟังตาเขียวกับตาถึกเถียงกันอยู่หน้าโรงฝิ่น ฯลฯ แม่น้ำยามศึก เป็นเรื่องเล่าของชีวิตคนในชุมชนริมแม่น้ำยามสงคราม เป็นยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 (ยุคที่แม่พลอย (สี่แผ่นดิน) แก่ไล่ๆ กับตาเขียว[…]

เรื่อง ขุนหอคำ ผู้แต่ง กฤษณา อโศกสิน สำนักพิมพ์ เพื่อนดี ราคา 360 บาท ลำดับญาติเอาไว้กันลืมนิดนึงก่อนค่ะ ไอ้ม่อน หรือเจ้าม่อนฟ้าจากเวียงแว่นฟ้า แท้จริงแล้วเป็นบุตรขุนต้นแสง ซึ่งเป็นเมียวซา (ตำแหน่งรองเจ้าเมือง) ของเมืองนาย (รัฐหนึ่งของไตใหญ่) มีปู่เป็นเจ้าฟ้าเมืองนาย ชื่อขุนจองสี เจ้าม่อนฟ้าชิงบัวบุรี ข้าหลวงจากเชียงใหม่ไปเป็นเมีย มีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ มาวฟ้ากับบัวฟ้า ในตอนท้ายเรื่องหนึ่งฟ้าดินเดียว เจ้าม่อนฟ้าและครอบครัวอพยพหนีการตามล่าของเจ้าสีป้อไปอยู่เชียงตุง ส่วนฝ่ายเมืองรามได้แต่งงานกับเจ้าหญิงระยับเนตร มีบุตร 2 คน คืออาบองค์กับเมืองสิงห์ ในตอนท้ายเรื่องหนึ่งฟ้าดินเดียว เมืองรามและครอบครัวดูแลเมืองเชียงแสนที่เพิ่งทำนุบำรุงใหม่ ขุนหอคำ เปิดเรื่อง ณ ทะเลสาบอินเล เมืองยองห้วย.. ไตใหญ่เวลานั้นแบ่งเป็นเมืองเล็กเมืองน้อย ก่อนที่พม่าและอังกฤษจะเข้ามายึดครอง เหล่าไตใหญ่นี้ก็ต่างมีเจ้าฟ้าของตนเอง ปกครองเป็นอิสระต่อกัน แม้ครานี้จะยังไม่เป็นอิสระจากอังกฤษ แต่ก็มีอิสระเสรีในการปกครองตนเอง ไตใหญ่แต่ละเมืองจึงข่มกันอยู่ในที ชิงกันเป็นใหญ่อีกครั้ง อ่านไปได้ไม่นานก็พอจะจับทางได้ ..[…]

เรื่อง ถนนสายหัวใจ ผู้แต่ง ทมยันตี สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 200 บาท หัวใจสั่นตั้งแต่อ่านคำนำ .. ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่หยิบถนนสายหัวใจมาอ่าน แต่ถ้าจะถามกันจริงๆ จังๆ แล้วล่ะก็ .. นับครั้งไม่ถ้วนทีเดียว .. ถนนสายหัวใจเป็นหนึ่งในหนังสือโปรด .. อ่านทีไรก็ร้องไห้ทุกที แต่ก็ยังรักน้ำตาทุกหยด ที่ไหลออกมาเพราะหนังสือเล่มนี้ .. ใครบางคนอาจจะเดาได้ .. เราเป็นนักอ่านนิยายสายดราม่าเข้มข้นทีเดียวค่ะ ^^ เรื่องเริ่มต้นด้วยฉากในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ไอ้มะเฟือง หญิงสาวห้าวๆ มอมแมม ผู้หมั่นกวนโอ๊ยเหล่าผองเพื่อนอยู่เสมอ แม้การแสดงออกภายนอกมันจะเป็นคนก๋ากั่น ไม่กลัวใคร แต่เนื้อในของไอ้มะเฟืองมันก็ลูกกตัญญูดีๆ นี่แหละ ทำทุกอย่างแบ่งเบาภาระของแม่สุนันท์กับไอ้มะนาวพี่ชาย แม้จะลับฝีปากกันขรม แต่ก็เป็นครอบครัวที่รักกัน .. แต่จะให้ดี .. อย่าไปถามหรือพูดให้เข้าหูมันละกัน ส่วนเพื่อนรักไอ้มะเฟือง .. ภาวัช หนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย น้ำใจงาม สุดสมบูรณ์แบบ แต่ความเป็นเพื่อนไม่วัดกันที่คุณสมบัติภายนอกพวกนี้อยู่แล้ว[…]

เรื่อง มนตราแห่งดารา ผู้แต่ง ลักษณวดี สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 440 บาท (2 เล่มจบ) คำโฆษณาของหนังสือเล่มนี้ คนขายกล่าวว่า .. มนตราแห่งดาราเป็นเล่มต่อของธุวตาราและราชินีชีบาค่ะ แต่!!! เมื่อเปิดอ่านแล้ว เนื้อหากลับเริ่มต้นที่อียิปต์ยุคปัจจุบัน .. กี๊ดซ์ นิยายข้ามภพ ระลึกชาติสินะ .. ชอบจัง >,< แอบอ่านชื่อตัวละครแต่ละตัวผ่านๆ ไม่คุ้นสักคน มันต่อกันยังไงเนี่ยะ .. คงต้องอ่านกันต่อไป ในทริปทัวร์อียิปต์ของอิลวลากับสนิตรา อิลวลาได้พบใบหน้าหนึ่งวนเวียนอยู่ตลอดทริป ใบหน้าที่คุ้นเคย แต่จำไม่ได้ว่าเคยพบกันเมื่อไร .. พร้อมกับเสียงเรียก .. อิลตาร์ .. ลอยลมอยู่แว่วๆ ไร้ที่มา ในทริปนั้น เธอได้รับเครื่องราง ‘อังค์’ มาโดยบังเอิญ สัญลักษณ์รูปคล้ายกางเขน หากด้านบนทบกันเป็นห่วง สัญลักษณ์อันหมายถึง .. การคืนชีพในโลกหน้า!![…]

เรื่อง ราชินีชีบา ผู้แต่ง ลักษณวดี สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 440 บาท (2 เล่มจบ) จากธุวตารา เรื่องราวในตอนท้ายยังคลุมเครือ ค้างคา ฟาโรห์ 2 พระองค์ .. เมมโนฟิสและฮัตเชปซัสจักครองมงกุฎร่วมกันธีบิสบน ธีบิสล่าง (อาณาจักรเมมโนฟิส) แล้วจะอยู่ที่ไหน อยู่ด้วยกันได้อย่างไร? แล้วยังมีคำมั่นสัญญาที่ฟาโรห์เมมโนฟิสให้ไว้กับทาสผิวดำชาวนูเบียน .. มาร์เมอร์ ซึ่งแท้จริงเป็นถึงกษัตริย์นูเบีย แต่ถูกพระอนุชาวางยา จับมาขายเป็นทาสอีกเล่า .. ราชินีชีบา คือเรื่องราวต่อจากนั้น .. ณ อาณาจักรเออร์ชีบา .. เจ้าหญิงบิลคิส หรือนิคัวเร่จากอียิปต์ (เป็นพระขนิษฐาต่างพระมารดากับฮัต) ถูกส่งมาอยู่ ณ ที่นี้ .. เพื่อความมั่นคงของบัลลังก์แห่งฮัตเชปซัต เจ้าหญิงน้อยนิคัวเร่เสด็จมาเออร์ชีบาในฐานะเทพีแอชตาร์ .. เทพีดาวศุกร์ เทพีผู้ทรงสิริโฉม ล้ำเลิศด้วยปัญญาญาณ ตามคำทำนายของชาวชีบัน[…]

เรื่อง ธุวตารา ผู้แต่ง ลักษณวดี สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 420 บาท (2 เล่มจบ) ฮัตเชปซัต ฟาโรห์ผู้เกิดหลังคำทำนายว่าพระองค์จะทรงเป็นฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่ หากเมื่อเธอเกิด เธอได้กลายเป็นเพียงธุวตารา .. ดาวเหนือแห่งธีบิสบน!! อำนาจแห่งฮัตจะไม่สามารถดำรงได้ ถ้าเธอไม่เข้าพิธีอภิเษกกับทุตโมส .. พระอนุชาขี้โรค แต่ฮัตหรือจะยอม เธอต้องหาทางเป็นฟาโรห์ด้วยตนเองให้ได้!! ฮัตเชปซัตเป็นดังพายุร้าย กริ้วง่าย ดื้อดึง ปึงปัง (แต่น่ารัก ^^) ในฐานะแห่งพระขนิษฐา ฮัตไม่เคยเกลียดน้อง เธอสงสารทุตโมสด้วยซ้ำ ที่ต้องถูกรมยาหลากขนานทั้งวี่วัน แต่ในฐานะอื่น .. ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมสิน่า .. แต่ใครจะรู้อนาคต .. แม้ธิดาแห่งเทพอามุน-ราก็มิอาจกำหนดอนาคตได้ ฮัตแสร้งเป็นเจ้าชายเสมอมา จนบางครั้งประชาชนเองยังสับสน หรือธีบิสบนมีเจ้าชาย 2 พระองค์? เมื่อการปกครองภายในไม่มั่นคง เมื่อบังลังก์ฟาโรห์ถูกชอนไชด้วยหนอนแผ่นดิน ภายใต้ความดื้อดึง ซุกซนของฮัตคือความเฉลียวฉลาดเท่าทันเล่ห์กระเท่ห์ของเจ้าหนอนร้าย เธอรู้ เธอต้องจัดการบางอย่าง[…]

เรื่อง พิษสวาท ผู้แต่ง ทมยันตี สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 300 บาท (2 เล่มจบ) เขารู้ว่า .. เขาเกิดมาเพื่อรอคอยใครบางคน และใครคนนั้นก็เกิดมาเพื่อเขาคนเดียว .. เพื่อการชดใช้ เพื่อทวงถามความยุติธรรม! แรกพบ .. เขาสะดุดใจ .. สโรชินี หญิงสาวลึกลับ ไร้อดีต ไร้ที่มา มีแต่ตัวตนในปัจจุบัน แต่เธอ .. คือผู้รู้อดีต และอดีตของเธอคืออดีตของเขา!! กาลครั้งหนึ่ง .. เนิ่นนานมาแล้ว ขณะที่อยุธยากำลังเป็นกองเพลิง .. ‘เขา’ มอบหมายภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง .. พิทักษ์ทรัพย์แผ่นดิน! หน้าที่ที่เธอต้องทำนับจากนั้น .. ตลอดมา .. เนิ่นนาน ทนทรมาน เฝ้าดูความละโมบของมนุษย์ และจัดการอย่างเหี้ยมโหด เธอทำตลอดมา และจะทำอีกตลอดไป[…]

เรื่อง เงา ผู้แต่ง โรสลาเรน สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 340 บาท (2 เล่มจบ) ทมยันตีเปิดเรื่องได้สนุก น่าสนใจเช่นเคย จากฐานะอันกำกวมของท่านชายวสวัตในขณะที่หญิงชรานางหนึ่งกำลังจะสิ้นใจ ท่านชายผู้นี้พูดคุยกับเธออย่างสงบที่สุดดุจเป็นหน้าที่ที่กระทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ‘ความตายเป็นของธรรมดา เป็นสิ่งเดียวที่มีอำนาจเหนือมนุษย์ ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้’ เรื่องลึกลับของวิญญาณและโลกหลังความตายเป็นพล็อตที่อ่านเมื่อไรก็สนุก ยิ่งเล่าเรื่องด้วยปลายปากกาของทมยันตีด้วยแล้ว .. อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ถูกส่วน สำนวนดีอย่างที่รู้ .. พล็อตน่าสนใจ น่าติดตาม แล้วจะเอาอะไรอีก .. หยิบมาอ่านเลยดีกว่าค่ะ ^^ ท่านชายวสวัต สุภาพบุรุษลึกลับผู้พิพากษามนุษย์หลังความตาย บุรุษผู้ยืนยง อยู่เหนือมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม หากเขามีอำนาจกำหนดชีวิตใครฤา? มนุษย์ลิขิตด้วยตนเองเท่านั้น เขามีหน้าที่เพียงรักษากฎแห่งกรรมนั้น บางคราเขาเป็นดังเทพเทวดา แต่บางคราเขาเป็นดังปีศาจจากนรก เขา .. คือใครกันแน่? อิศรา ชายผู้ก้ำกึ่งระหว่างความดีและความชั่ว แม้ว่าจะมีอะไรดีๆ ในตัวมากนัก[…]

เรื่อง เกนรี มายรี ผู้แต่ง โสภาค สุวรรณ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรรณกรรม ราคา 260 บาท (2 เล่มจบ) จากคำนำทำให้เราทราบถึงแรงบันดาลใจของผู้เขียนค่ะ ผู้เขียน เขียนเรื่องนี้ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเมืองสีป่อ แห่งรัฐฉาน เพียงการตัดสินใจจากผู้นำคนเดียวของประเทศ ทำให้เกิดความสูญเสียหลายทางต่อเนื่องกันมาเป็นทอดๆ จากส่วนเล็กๆ ไปจนถึงยอดสุดของระบอบการปกครองดั้งเดิม ครอบครัวต้องพลัดพราก แตกแยก สูญหาย และสูญสลาย .. แต่เนื่องจากโสภาค สุวรรณ ต้องการที่นำเรื่องราวเหล่านั้นมาเขียนในรูปแบบนิยาย (เราจึงเข้าใจเอาเองว่า) ผู้เขียนจึงได้ดัดแปลงเนื้อหาให้ผิดไปจากความเป็นจริงหลายส่วน เกนรี มายรี เปิดเรื่องด้วยฉากสุดท้ายในชีวิตของมหาเทวี ในเวลานั้น นางได้ฝากบุตรสาวเล็กๆ 2 คนของนางไว้กับนายแพทย์ทินทิน จิตแพทย์ผู้จงรักภักดี ผู้มีสายเลือดเดียวกันกับเจ้าผู้ครองรัฐ (ซึ่งในความเป็นจริง มหาเทวีสุจันทรีสามารถลี้ภัยออกนอกประเทศได้โดยปลอดภัย และมีชีวิตยืนยาวกว่านั้นมากนัก) อีกหนึ่งสิ่งที่ผิดไปจากประวัติศาสตร์คือ ผู้เขียนตั้งให้เกนรี ฟ้าหญิงองค์น้อยเป็นพี่ และมายรีเป็นน้อง ในขณะที่ความเป็นจริง (จากสิ้นแสงฉาน) บอกเอาไว้ว่ามายรีเป็นเจ้าพี่ และเกนรีเป็นเจ้าน้อง (แถมยังทำให้ชะตาชีวิตของเจ้าน้องบิดผันไปจากความจริงด้วย[…]

เรื่อง ทวิภพ ผู้แต่ง ทมยันตี สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ราคา 380 บาท (2 เล่มจบ) การหยิบนิยายที่อ่านมาเป็นสิบๆ รอบ อ่านจนขึ้นใจในบทสนทนาในเรื่องแล้วมาเล่านั้นเป็นเรื่องยาก จะบอกจะเล่าอะไรก็ขาดความสดใหม่ ยิ่งเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้เรื่องราวมาแล้วเป็นอย่างดี ยิ่งไม่รู้จะเล่าอะไร แต่ทวิภพ ก็ยังเป็นนิยายที่น่าพูดถึงอยู่ดี เรื่องราวบางอย่างที่เราเรียงรู้ลำดับเหตุการณ์จนเจนใจ บางทีก็ทำให้เราลืมแก่นแกนสำคัญของเรื่องที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ การหยิบมาอ่านซ้ำ และการได้รับรู้แก่นแกนนั้นอีกครั้ง ได้ซาบซึ้งอีกครั้ง ก็สร้างอรรถรสดีไม่น้อย (ถ้าเป็นนางเอกเรื่อง 50 first date ผู้ที่ความจำเสื่อมทุกครั้งที่ลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันใหม่ก็คงจะดี จะเขียนโน้ตสั่งให้ตัวเองอ่านทวิภพใหม่มันทุกวันเลย ;P) สำหรับทวิภพเล่มนี้ .. พล็อต จังหวะจะโคน การดำเนินเรื่อง อารมณ์ขัน และการสอดแทรกประวัติศาสตร์เข้ามานั้น ทำได้อย่างกลมกล่อม ลงตัว โดยเฉพาะในช่วงของประวัติศาสตร์ตอนที่เราต้องยอมสูญเสียดินแดนบางส่วน เพื่อปกป้องประเทศเอาไว้นั้น ทมยันตีเขียนได้น่าตื้นตัน และรู้สึกได้ว่าคนที่ทำดีที่สุดแล้ว แต่ยังต้องยอมเสียในเวลานั้น เสียด้วยความรู้สึกเช่นไร การตัดสินคนยุคก่อนด้วยบรรทัดฐานของคนยุคเราอย่างที่มณีจันทร์มองนั้น เป็นสิ่งที่คนยุคนี้ทำกันบ่อยๆ เห็นได้ตามเฟสบุ๊คทั่วไป ลำเลิก ทวงถามกระทั่งบรรพบุรุษในสิ่งที่ล่วงมาแล้ว ตั้งคำถามว่า[…]