เรื่อง บุษบาเร่ฝัน ผู้แต่ง ร่มแก้ว สำนักพิมพ์ พิมพ์คำ ราคา 220 บาท ถ้าคุณสามารถแลกชีวิตกับใครสักคนได้หนึ่งวัน ลองเป็นคนที่คุณเคยอิจฉาที่สุด คนที่มีชีวิตดีแสนดี ุแต่เขาคนนั้นกลับแสนเบื่อชีวิตของตนเอง ชีวิตแสนดีแสนเพอร์เฟ็คแบบนั้นจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเราหนึ่งวันเต็มๆ .. มันจะดีแต่ไหนกันหนอ? ดร.ถ้วยทอง นักสร้างแรงบันดาลใจอันดับหนึ่งของประเทศ คือผู้ที่ทำให้ความฝันอันนั้นของซุ่ยกลายเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่เวลาวันเดียว แต่ซุ่ยได้กลายเป็นโรสสมใจฝัน โรสผู้แสนสวย แสนเก่ง และแสนดี มีชีวิตสุดเพอร์เฟ็ค แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกของซุ่ยก็เปลี่ยนแปลง เธอรู้สึกว่าเวลาในแต่ละวันมันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้า และหนักหน่วง เธอได้เรียนรู้มากขึ้นทีละน้อย .. แต่ความต้องการคือสิ่งที่ไม่สิ้นสุด เธอยังคงอยากเป็นคนอื่น .. จากโรส มาสู่แวนด้า และกอหญ้า ในช่วงเวลาที่เธอกำลังขโมยชีวิตอันแสนจะน่าอิจฉาของคนอื่นอยู่นี้เอง ซุ่ยก็เริ่มมองเห็นความดีงามของชีวิตตัวเอง เริ่มที่จะคิดถึงและโหยหามันทีละน้อย เธอมองผู้ชายที่เคยน่าเบื่อที่แสนจะน่าเบื่อคนหนึ่ง เมื่อเขาถูกมองด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป มองด้วยสายตาของซุ่ยที่กลายเป็นคนอื่น เฮียป้องปกผู้น่ารำคาญกลับปรากฏข้อดีขึ้นทีละน้อย สำหรับ บุษบาเร่ฝัน เล่มนี้ พล็อตสนุก สำนวนดี จังหวะการเล่าเรื่องราบรื่น สนุก และมีอะไรให้ลุ้นให้ติดตามตลอดค่ะ แถมมีข้อคิด[…]

อะเดย์จัดงานโอเพ่นเฮ้าส์ ลดกระหน่ำมาหลายปีติดแล้ว (ตั้งแต่ออฟฟิศยังอยู่เอกมัย) แต่เราก็ยังไม่เคยสบโอกาสเหมาะได้ไปเลยสักครั้ง จวบจนมาหนนี้แหละ เพิ่งตัดสินใจบอกกับตัวเองว่า ขอลองมาดูสักครั้งเหอะ!! ก่อนไป เลยเสิร์ชข้อมูลดูลาดเลาก่อน ผลปรากฏว่า นอกจากภาพหนังสืออันมโหราฬแล้ว เราไม่ค่อยพบข้อมูลอันเป็นประโยชน์อื่นใดเลย คิดแล้ว ก็เลยอยากเริ่มเก็บข้อมูลไว้สำหรับคนไม่เคยไป และสำหรับตัวเองในปีต่อๆ ไปด้วย ใครยังไม่เคยไป ตามมาดูด้วยกันนะคะ ^^ เส้นทางการเดินทาง เน้นการเดินทางด้วยรถสาธารณะค่ะ วิธีมา ก๊อปมาจากเพจอะเดย์เลย (แผนที่ก็อปมาใส่เว็บเราแล้วเหลือจี๊ดเดียวเลย ถ้าไงไปดูที่เพจของอะเดย์ได้นะคะ) จาก MRT เพชรบุรี หรือ MRT พระรามเก้า หรือ BTS ทองหล่อ นั่งวินมอ’ไซค์ หรือ แท็กซี่ บอกว่าไปซอยศูนย์วิจัย 4 ถ้าพี่เค้าดูงงๆ ก็บอกเพิ่มว่า ซอยพระรามเก้า 26 หรือ ซอยโรงแรม A-ONE คาเฟ่จะติดกับโรงแรม A-ONE เลย ค่าวินประมาณ[…]

เรื่อง ก้นกลม พุงป่อง ท่องดอยสูง ผู้แต่ง ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ ราคา 160 บาท หยิบหนังสือของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ มาอ่านติดต่อกันเป็นเล่มที่สามแล้วค่ะ แม้เล่มนี้จะไม่เกี่ยวกับทะเลเท่าไร แต่เจตนารมณ์ของผู้เขียนในด้านความเป็นมิตรกับธรรมชาติ ยังคงตั้งมั่นไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ เราซื้อ ก้นกลม พุงป่อง ท่องดอยสูง มาอ่านในวันเวลาที่ลูกสาวของเราเพิ่งคลอดค่ะ ช่วงนั้นซื้อหนังสือเกี่ยวกับเด็กๆ เยอะมาก ทั้งที่เป็นวิธีการเลี้ยงเด็กโดยตรงชนิดฮาวทู และวิธีเลี้ยงโดยอ้อมอย่างเล่มนี้ ลูกสาวคนแรก ประสบการณ์ตรงยังไม่มี ใช้วิธีหาความรู้จากหนังสือเอาแบบนี้ล่ะค่ะ ^^ หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นตอนๆ มีทั้งตอนหลัก และตอนย่อย ผู้เขียนให้นิยามหนังสือแนวนี้ของตนเองว่าเป็นการ ‘ท่องเที่ยวแบบทารก’ โดยในเล่มค่อนข้างแนะนำการท่องเที่ยวโดยตรง ไม่มีการแต่งนิทานชวนเชื่อเหมือนชุดใต้ทะเลมีความรัก ข้อมูลที่ให้ ก็เป็นข้อมูลเพียวๆ ผสมเหตุการณ์ขณะเที่ยว เราเลยรู้สึกว่าเสน่ห์ที่ทำให้เราหลงรักงานเขียนของเขาลดลงไปไม่เท่าเล่มก่อนๆ ก้นกลม พุงป่อง ท่องดอยสูง นำเสนอทริปท่องเที่ยว อันประกอบไปด้วยผู้เขียน (พ่อธรณ์), ภรรยา (แม่ดาว),[…]

เรื่อง หลังคลื่นอันดามัน ผู้แต่ง ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ ราคา 165 บาท เหตุการณ์สึนามิที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเมื่อปลายปี พ.ศ. 2547 ได้ปลุกกระแสความรักและความ (อยาก) รู้เกี่ยวกับทะเลไทยให้ตื่นขึ้นอย่างฉับพลัน หลังคลื่นอันดามัน คือหนึ่งในแหล่งความรู้เกี่ยวกับท้องทะเล ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในเวลาเหมาะเจาะ (ที่พวกเรากำลังคิดถึงหนังสือชุดใต้ทะเลมีความรักพอดิบพอดี) เพื่อตอบสนองความอยากรู้เหล่านั้น ด้วยสำนวนสนุกสนาน พล็อตสร้างสรรค์ อ่านสนุกเปี่ยมความรู้เฉกเช่นสองเล่มแรกที่ผ่านมา หลังคลื่นอันดามัน เปรียบเสมือนบันทึกความรู้สึกอันสดใหม่ ที่เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์สึนามิเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ความรัก ความหวงแหน ความเจ็บปวด ความเศร้าโศก ฯลฯ ประดังประเดและตกผลึกเป็นหนึ่งเล่มนี้ ใต้ทะเลมีความรักในภาคที่สาม ยังคงเปี่ยมพลัง แต่อารมณ์ขันลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด คงเป็นเพราะช่วงที่เขียนต้นฉบับ เป็นช่วงที่สึนามิเพิ่งผ่านพ้นไปได้เพียงไม่กี่เดือน เนื้อเรื่องส่วนหนึ่งในเล่มนี้ เกิดขึ้นจากความสดใหม่ในความรู้สึก เกี่ยวกับสึนามิ แต่ในอีกส่วนที่เหลือ ยังคงอยู่ในคอนเซ็ปต์ของใต้ทะเลมีความรัก ผู้เขียนได้ใช้ประสบการณ์การดำน้ำมาเกือบชั่วชีวิต ประกอบกับความรู้ที่สั่งสมมาในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ผนวกรวมสองอย่างเข้าด้วยกัน แล้วย่อยออกมาในรูปนิทาน ซึ่งแม้ขึ้นชื่อว่านิทาน แต่ก็ไม่ได้หน่อมแน้มเป็นนิทานเด็กน้อย แต่เป็นนิทานเสียดสี นิทานซาดิสก์[…]

เรื่อง ป๊ะป๋าปลาการ์ตูน ผู้แต่ง ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ สำนักพิมพ์ บ้านพระอาทิตย์ ราคา 160 บาท รู้จัก ดร.ธรณ์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ดูรายการแฟนพันธุ์แท้ ยุคแรกๆ .. ตอนทะเลไทย แฟนพันธุ์แท้ยุคนั้นดูสนุกมาก ในวันนั้นที่ดู เราก็รู้สึกถูกจริตกึ๋นของผู้เข้าแข่งขันคนนี้มาก และหลังจากวันนั้นก็ยังได้ติดตามผลงานของเขามาเป็นระยะๆ ป๊ะป๋าปลาการ์ตูน เป็นหนึ่งในผลงานของผู้เข้าแข่งขันคนนั้นค่ะ ความจริงแล้ว ป๊ะป๋าปลาการ์ตูน เป็นเล่มต่อของหนังสือที่ชื่อว่า ใต้ทะเลมีความรัก คุ้นๆ ว่าเราเองก็เคยอ่านใต้ทะเลมีความรักมาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าอ่านมาจากไหน วันนี้หยิบป๊าป๋าปลาการ์ตูนมาอ่าน ก็อดค้นหาเล่มแรกไม่ได้ แต่ดูทั้งบ้านแล้ว ก็มีเพียงเล่มนี้เล่มเดียว เลยขออนุญาตรีวิวโดยข้ามเล่มแรกไปละกันนะคะ ^^” ความรักทะเลของผู้เขียนเริ่มต้นตั้งแต่วันที่เขายังเป็นเด็กชายตัวน้อย เริ่มจากความไม่รู้ ความอยากรู้ และการค้นคว้าหาความรู้ เมื่อรู้ก็อยากเล่า อยากบอกต่อ อยากส่งต่อความรักที่มีต่อท้องทะเล และเรื่องราวของเพื่อนๆ ในทะเลของเขาให้คนอื่นได้รู้ และได้รักด้วย นั่นคือจุดเริ่มต้นของหนังสือชุดนี้ค่ะ แม้ผู้เขียนจะผ่านพ้นวัยของเด็กชายคนนั้นมานานหลายปีแล้ว แต่เขาก็ยังใช้สำนวนเล่าเรื่องที่ไม่ต่างกับเด็กชายที่เล่าถึงเพื่อนของตนให้เพื่อนๆ ผู้อ่านฟัง วิชาการ สีสัน และจินตนาการ ถูกผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัวเหมาะเจาะ ผู้เขียนสอดแทรกข้อมูลของการทำลายล้าง[…]

เรื่อง ย่ำสวนป่า ผู้แต่ง รัศมี เบื่อขุนทด สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 105 บาท เรื่องนี้ถูกเล่าโดย “ผม” ตัวตนแห่งปัจจุบัน มองย้อนกลับไปเล่าถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตของตัวเขาเอง สวนป่าในที่นี้คือบ้าน .. แห่งหนึ่งในชานเมืองกรุงเมื่อราวสามสิบปีก่อน บ้านที่ตั้งอยู่กลางสวนป่า .. ไม้ผล ก็เป็นไม้ป่า และสรรพสัตว์ ก็ล้วนแต่เป็นสัตว์ที่ไม่ได้เลี้ยง อย่างเช่นไก่ป่า นานานก กระรอก กระแต ชะมด อีเห็น นิ่ม ฯลฯ สัตว์เลี้ยงสำคัญตัวเอกของเรื่อง เห็นจะเป็นจ่าฝูงไก่งวงประจำบ้าน ที่มีชื่อว่าเจ้าแดง (เดือด) เพราะมันไล่จิกไปเสียทุกคน (และทุกตัว) ไม่เว้นแม้แต่ลูกชายเจ้าของบ้านผู้เล่าเรื่องของมันให้เราฟัง (อ่าน) อยู่นี้ เจ้าแดง (เดือด) มีบทบาทสำคัญให้เล่าถึงอยู่หลายตอน และอีกหลายตอนก็เป็นวีรกรรมของอาของผู้เขียนเอง ทุกส่วนในทุกตอนปนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและความทรงจำ ผู้เขียนเล่าด้วยสำนวนอารมณ์ดี ขำน้อยๆ แต่พองาม เป็นหนังสือที่อ่านได้เพลินๆ สนุก ขบขัน และเป็นสุข[…]

เรื่อง ลมแล้งเริงระบำ ผู้แต่ง จตุพร แพงทองดี สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 215 บาท ลมแล้งเริงระบำ เล่มนี้ เป็นเล่มต่อจาก โสกไผ่ใบข้าว สำหรับเรา เราว่าลมแล้งเริงระบำเล่มนี้ อ่านเพลินกว่าโสกไผ่ใบข้าวเล่มแรก บางทีอาจเป็นเพราะชินกับภาษา และชินกับตัวละครแล้ว จึงอ่านไปได้อย่างเพลิดเพลินขึ้น ถ้า โสกไผ่ใบข้าว คือภาพของความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินไทย ลมแล้งเริงระบำ คือก็อีกภาคหนึ่งของผืนแผ่นดินเดียวกันนั้น ผู้คนอันเป็นตัวละครดั้งเดิม ได้ผ่านฤดูอันชุ่มชื่นแห่งสายฝน ฤดูแห่งการทำนา และฤดูแห่งความอุดมสมบูรณ์มาแล้วในเล่มโสกไผ่ใบข้าว พวกเขาทั้งหมดไปล่วงผ่านเข้าสู่ฤดูแล้ง ด้วยความสุข สงบ เรียบง่ายได้ไม่แพ้กัน ปิดเทอมฤดูแล้งดำเนินไปอย่างช้าๆ เด็กๆ มีเรื่องให้เที่ยวเล่นเที่ยวซนได้ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละวัน และเรื่องเล่นซนที่ว่า ก็ไม่ได้ซนกันเปล่าๆ แต่ได้พากันเลี้ยงวัว ได้เก็บผักเก็บหญ้าและขุดหาแมลงและสัตว์ขนาดเล็กไปให้แม่ทำกับข้าวได้อีกด้วย วิถีการดำเนินชีวิต วิถีการกิน เมนูอันแปลกประหลาด ที่ดูแล้วก็ไม่ได้เกิดจากความอดอยาก แต่เป็นวิธีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันกับคนภาคกลาง ชีวิตที่ผสมกลมกลืนเข้ากันกับธรรมชาติ กินอยู่คือกับสิ่งรอบตัว ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า และมีความสุขในสิ่งที่เป็น อาหาร วิธีหาอาหาร และวิธีทำอาหารที่เคยเล่าถึงในเล่มแรก[…]

เรื่อง โสกไผ่ใบข้าว ผู้แต่ง จตุพร แพงทองดี สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 200 บาท เลือกหยิบ โสกไผ่ใบข้าว มาอ่านต่อจาก บึงหญ้าป่าใหญ่ เพราะรู้สึกว่าสองเล่มนี้มีกลิ่นอายเดียวกัน .. กลิ่นอายของชนบท และกลิ่นอายของอดีต โสกไผ่ใบข้าว เป็นหนังสือที่ถือกำเนิดขึ้นจากความโหยหาอดีตของผู้เขียน ความงดงามของท้องทุ่งข้าว ความสมบูรณ์ของป่าไผ่ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต ภาษาในเล่มนี้อ่านง่าย และดูคุ้นเคยมากกว่าบึงหญ้าป่าใหญ่  (ที่ต้องอ่านวาง อ่านวางเป็นระยะ) แต่ความขลังก็ลดลงตามกัน โสกไผ่ใบข้าว บอกเล่าความอุดมสมบูรณ์ของอาหารจากป่า เล่าผ่านสายตาของเด็กหญิงคำดั้ว ที่ซุกซนดั้นด้นไปยังที่ต่างๆ และบอกเล่าสู่เรา ด้วยภาษากลางกึ่งภาษาถิ่น (ภาคอีสาน) มีศัพท์เฉพาะภาษาถิ่น พร้อมด้วยชื่อในภาษากลางตามมาในวงเล็บครบถ้วน เหตุการณ์โดยตลอดเรื่องเกิดขึ้นในฤดูทำนา คือต้นฤดูฝนชุ่มฉ่ำ บอกเล่าประเพณีและความเชื่อต่างๆ ที่กลมกลืนอยู่ในวิถีชีวิตประจำของชาวนา วิถีการกิน การอยู่ การเก็บผักหญ้า การจับแมลง หนูนา กบเขียด ฯลฯ วิถีการทำนา การทำบุญ วิถีแห่งความสุขอันง่ายงาม รวมทั้งขั้นตอนต่างๆ เกี่ยวกับการทำนาเอาไว้เป็นลำดับ[…]

เรื่อง บึงหญ้าป่าใหญ่ ผู้แต่ง เทพศิริ สุขโสภา สำนักพิมพ์ มติชน ราคา 195 บาท ถ้า เด็กบ้านสวน ใช้สำนวนสร้างภาพ คือเล่าให้เราเห็นภาพตามแล้ว บึงหญ้าป่าใหญ่ต้องเรียกว่าใช้สำนวนสร้างฝัน คือนอกจากจะเห็นภาพแล้ว เรายังเห็นลึกลงไปถึงความฝันที่แอบซ่อนอยู่ในภาพนั้นอีกต่อหนึ่งด้วย ผู้เขียนใช้สำนวนได้เป็นเอกลักษณ์ และน่ารักเป็นที่สุด เป็นสำนวนที่มีจังหวะและสวยงามไม่ซ้ำใคร เริ่มต้นเรื่องด้วย เส้นทางไปโรงเรียนอันแสนสนุก วาดภาพความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติอันก่อนเก่า บางเรื่องที่เล่าก็ชวนฉงน บางตอนก็ให้พลังและแรงบันดาลใจ ให้อารมณ์และความรู้สึกต่างๆ โลดเต้นไปตามตัวอักษรของผู้เขียน สักพักก็แง้มถึงบึงหญ้าป่าใหญ่ .. เรื่องเล่าชวนระทึกที่เด็กๆ นักเรียนน้อยคนจะเคยไป เล่าเรื่องมิตรภาพของสีขาวกับสีดำ ความสัมพันธ์ที่มีความเฉพาะตัวระหว่างเด็กดื้อกับเด็กดี เรื่องราวอันเป็นความทรงจำผนวกกับจินตนาการ .. สวยปนเศร้า นำเสนอแง่มุมของชีวิต ที่ไม่มีถูก ไม่มีผิด ไม่มีขาว ไม่มีดำ ไม่มีดี ไม่มีแย่ ทุกอย่างผสมกลมกลืนกันไปตามธรรมชาติ ดำๆ ด่างๆ แซมๆ กันไป นำเสนอแง่มุมของคนสีเทาที่อยู่นอกกรอบและกฏเกณฑ์ คนสีเทาที่ถูกสังคมตัดสินตั้งแต่ต้น คนสีเทาๆ ที่แอบซ่อนความงดงามเอาไว้ในหัวใจ มีแต่เพียงเด็กๆ[…]

เรื่อง เด็กบ้านสวน ผู้แต่ง พ.เนตรรังษี สำนักพิมพ์ บรรณกิจ (จัดจำหน่ายโดย บริษัทต้นอ้อ แกรมมี่ จำกัด) ราคา 90 บาท เด็กบ้านสวน เป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นจากภาพฉากแห่งความทรงจำของผู้เขียน ณ ย่านฝั่งธนฯ ในบริเวณของวัดบุปผาราม หรือวัดดอกไม้ในนามที่ผู้เขียนเรียก นับย้อนปีไปครั้งที่ผู้เขียนยังวัยเยาว์ (ผู้เขียนเกิดในปี พ.ศ. 2449) ฉากที่เกิดขึ้นคงเป็นวัดดอกไม้ในยุคราวๆ หลังพ.ศ. 2449 นับต่อมาอีกราวไม่เกินสิบปี เนื้อเรื่องไม่ได้มีแต่ฉากการเล่นซนในสวนของเด็กๆ แต่ให้วาดภาพให้เราเห็นถึงบรรยากาศของครอบครัวชนชั้นกลางสมัยเก่า ในยุคปลายรัชกาลที่ 5 ที่พ่อรับราชการ และแม่เป็นแม่บ้าน ดูแลลูกหลานบริวารในบ้าน ด้วยฝีมือของแม่ศรีเรือนไทยแท้แต่โบราณ แม้จะขึ้นชื่อว่าเด็กบ้านสวน แต่บ้านของผู้เขียนเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยหนังสือ สาเหตุหนึ่งนั้นน่าจะเป็นเพราะพ่อของผู้เขียนมีตำแหน่งเป็นกรรมสัมปาทิกหอสมุดวชิรญาณ ผู้เขียนมีพ่อที่ชอบอ่านหนังสือ มีแม่ที่ชอบให้คนใกล้ตัวอ่านหนังสือให้ฟัง โดยเฉพาะผู้เขียนถูกบังคับให้อ่านหนังสือให้แม่ฟังมาตั้งแต่เล็ก ทั้งพระราชนิพนธ์, พงศาวดารไทย จีน, นิยายจักรๆ วงศ์ๆ, นิยายฝรั่งแปลไทย ฯลฯ นอกจากเรื่องราวของหนังสือ ภาพบรรยากาศความอุดมสมบูรณ์ของสวนผลไม้ไทยในสมัยก่อน ไม้ดอกสวย ไม้ดอกหอม ที่คนโบราณมักปลูกไว้ใกล้บ้าน[…]